http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2557-02-04

จุดเด่น จุดพลาด ในทาง‘ยุทธศาสตร์’ สุเทพ ณ กปปส.

.
บทความ2 - เลือกตั้ง 2 กุมภา ชัยชนะของ ‘ผู้แพ้’รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

จุดเด่น จุดพลาด ในทาง‘ยุทธศาสตร์’ สุเทพ ณ กปปส.
ใน www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391501436
. . วันอังคารที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15:16:29 น.

( ที่มา: นสพ.มติชนรายวัน 4 กุมภาพันธ์ 2557 )


การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม "เหมาเข่ง" ถือเป็นความยอดเยี่ยมของพรรคประชาธิปัตย์ และของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

รูปธรรมแห่งความยอดเยี่ยมเห็นได้จาก

1 มีผู้เข้าร่วม หนุนช่วย และเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก อันถือได้ว่าเป็นรากฐานแห่งที่มาของ "มวลมหาประชาชน" ได้อย่างแท้จริง
ตรงนี้เป็น "เชื้อ" อย่างดีให้ "ขับเคลื่อน" เดินหน้าต่อไปได้

1 พรรคประชาธิปัตย์และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สามารถขยายผลความสำเร็จนี้กระทั่งก่อรูปขึ้นเป็น "กปปส." ได้อย่างอึกทึกครึกโครม เป้าหมายคือ โค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้มระบอบทักษิณ

ด้วยการ "ขวาง" และให้ "เลื่อน" การ "เลือกตั้ง" ออกไปด้วยกระบวนการ "ปฏิวัติประชาชน" จัดตั้ง "สภาปฏิรูป" โดยประชาชนขึ้นก่อน


การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 22 ธันวาคม ก็ยังคึกคักและอบอุ่น

การประกาศ "ชัตดาวน์" กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างสภาวะ "เป็ดง่อย" ให้กับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังเป็นเรื่องที่ดูดีและยอมรับได้โดยคนกรุงเทพมหานครและผู้สนับสนุน

จนถึง 26 ธันวาคม "ลางร้าย" เริ่ม "สำแดง" ตัว


อากัปกิริยาการแสดงออกโดยการ "ขวาง" และ "ต้าน" การรับสมัครเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เป็นจุดตัดอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง

ทาง 1 มีลักษณะ "กัมมันต์" จาก กปปส.
ขณะเดียวกัน ทาง 1 เริ่มปรากฏ "ปฏิกิริยา" ในลักษณะอันไม่สามารถ "ยอมรับได้" จากสังคม แม้จะยังไม่รุนแรงมากและใหญ่โตนัก แต่ก็ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น "หวอด" ความคิด

ยิ่ง กปปส. ใช้ความแข็งกร้าว ยิ่งปรากฏอาวุธและความรุนแรง

กระนั้น รูปธรรมในขอบเขตทั่วประเทศกลับ "ย้อนแย้ง" กับวาทกรรม "มวลมหาประชาชน" อย่างชนิดเป็น "ตลกร้าย"
เพราะมีเพียงบางส่วนใน กทม.และบางจังหวัดในภาคใต้  
ขณะที่ส่วนมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมากในภาคเหนือ ส่วนมากในภาคกลางและบางส่วนในภาคใต้โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนต้องการ "การเลือกตั้ง"

ปรากฏการณ์ในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มกราคมจึงเป็น "คำตอบ" สุดท้าย

เพราะลักษณะ "แข็งกร้าว" ของ กปปส.สวนทางกับคำประกาศสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่จะใช้วาจาดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ออกมาใช้สิทธิ หากแต่ยังบังคับด้วยการบีบคอ เอาโซ่ล่ามประตู กระทั่งมีการปะทะด้วยอาวุธ

ยิ่ง "ภาพ" ที่แยกหลักสี่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ยิ่ง "ล่อนจ้อน"



จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม มายังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคม กระทั่งสถานการณ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์

จึงเท่ากับเป็นการตอกและการย้ำอย่างเห็นเป็น "รูปธรรม"

รูปธรรม 1 คือเป็นการทำลายปฏิมาอันเคยป่าวร้องว่าเป็นม็อบ "ผู้ดี" ของเหล่า "คนดี" มีชาติตระกูล มีความรู้ให้แหลกละเอียด
เพราะการ "บีบคอ" คน มิใช่กิริยาในแบบ "ผู้ดี" แน่นอน

ยิ่งการใช้วาจาหยามหมิ่นคนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในทำนองว่า "เลือกตั้งเสร็จแล้วก็ไปกินหญ้าซะ" อันเผยแพร่ผ่านคลิป เสียงดังฟังชัด ยิ่งเป็นเรื่องละเมิดศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์

รูปธรรม 1 คือ เป็นการเดินสวนทางกับลักษณะสันติ ประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง
การคุกคามการใช้สิทธิเลือกตั้งของบุคคลอื่นในทางปัจเจกเป็นเรื่องร้ายแรงอยู่แล้ว การไปใช้กำลังปิดกั้นบัตรและหีบเลือกตั้งยิ่งเป็นเรื่องน่าอัปยศ ทั้งยังมีการถืออาวุธสงคราม สาดกระสุนเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่ต้องการจะใช้สิทธิเลือกตั้งอีก

นี่คือภาพแห่งความชั่วร้าย ภาพแห่งการเผด็จอำนาจอย่างน่าเกลียด น่าประณาม

ทั้งหมดจึงสะท้อนตัวตนอันแท้จริงของ กปปส. ตัวตนอันแท้จริงของเหล่าผู้ดี คนชั้นสูงซึ่งเคยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวอย่างล่อนจ้อน เปล่าเปลือย

เป็นความผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์ อันมีผลล้ำลึกและยาวไกลในทางการเมือง


ความผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์เข้าทำนองเดินหมากตาเดียวอาจนำไปสู่การแพ้ทั้งกระดาน

ผลก็คือ กองเชียร์ที่จะอาศัยกระบวนการทางกฎหมายมาช่วยก็ทำได้ยากลำบากขึ้น กองเชียร์ที่รอคอยเวลาเพื่อจะเดินหน้าทำการยึดอำนาจโดยกระบวนการการรัฐประหารก็อึดอัด คับข้อง

ที่แน่นอน ที่เคยมีคนหนุนก็เริ่มถอยห่าง ที่มากด้วยปริมาณก็อ่อนด้อย น้อยลง

...............



++

เลือกตั้ง 2 กุมภา ชัยชนะของ ‘ผู้แพ้’รัฐบาล ยิ่งลักษณ์
ใน www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391414969
. . วันจันทร์ที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15:15:10 น.

( ที่มา: นสพ.มติชนรายวัน 2 กุมภาพันธ์ 2557 )


ผ่านวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ มาได้ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปอีกเปลาะอีกปล้อง 1

มิได้หมายความว่า เป็น "ชัยชนะ"
เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการ "ยืด" และ "ยื้อ" เวลาออกไปอย่างน้อยก็อีกระยะเวลาหนึ่ง

เป็นการ "ยื้อ" และ "ยืด" วาระแห่งความพ่ายแพ้ให้ยาวนานออกไป

หากนับจากการเผชิญกับ "มหาอุทกภัย" อันเหมือนกับเป็นการต้อนรับน้องใหม่ในเดือนตุลาคม 2554

ก็ "นาน" อย่างยิ่ง

หากนับจากคำประกาศ "แช่แข็ง" ประเทศอันเป็นปฏิบัติการของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555

ก็ต้องใจหายใจคว่ำเป็นอย่างสูง

หากนับจากการเริ่มอุ่นเครื่องที่ท้องสนามหลวงในเดือนเมษายน 2556 เรื่อยมาจนกระทั่ง "ชัตดาวน์" กรุงเทพมหานครในเดือนมกราคม 2557

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ควรได้รางวัลประเภท "อดทน" ยอดเยี่ยม



ภาพอันปรากฏนับแต่ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ณ บริเวณโดยรอบๆ สำนักงานเขตหลักสี่จนถึงเย็นย่ำสนธยา

ส่งผลให้สถานการณ์ ณ ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น เมื่อ 26 ธันวาคม เป็นเรื่องเด๊ะ-เด๊ะ
ยิ่งสถานการณ์การขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าใน กทม.และภาคใต้เมื่อวันที่ 26 มกราคม ยิ่งเป็นเรื่องชวนหัว
เพราะสถานการณ์ที่แยกหลักสี่ ครบเครื่อง

แม้ไม่มีคนตายเหมือนศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และเหมือนวัดศรีเอี่ยม เขตบางนา แต่ที่แยกหลักสี่ได้เผยให้เห็นว่าขบวนการเคลื่อนไหวของ กปปส.ที่ประกาศสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธทั้งยังมี "พระนำ" นั้น
จริงแท้ มากน้อยเพียงใด

ใครที่เป็นแฟนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เพียงเห็นภาพและการบรรยายภาพหน้า 1 ซึ่งจัดเต็มให้ดูรวมแล้ว 5 ภาพขนาดใหญ่

ก็จะต้องร้องฮ้ออย่างพร้อมเพรียงกัน

เป็นการปรากฏขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า "ชายชุดดำ" พร้อมอาวุธสงคราม สวมไอ้โม่งปิดหน้า เพียงแต่มิได้สาดกระสุนเข้าใส่ กปปส.หากแต่เป็นเป้าหมายอื่น

สะท้อนว่า "เส้น" กปปส. "ใหญ่" เบ้อเริ่มเทิ่ม


สินค้าตัวอย่างจากแยกหลักสี่เท่ากับตอกย้ำยืนยันว่า คนที่อยู่ "เบื้องหลัง" กปปส. ไม่ปล่อยให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลอยนวลอยู่ได้อย่างแน่นอน 

แม้จะผ่าน "การเลือกตั้ง" มาได้ แต่ก็ยังไม่ราบรื่น

เป็นการผ่านอย่างทุลักทุเล อย่างที่สื่อ "กปปส." เน้นย้ำในเรื่องเลือกตั้ง "เลือด" เน้นย้ำในภาพของ "ความวุ่นวาย"

ประสานกับการประโคมโหมร้องในเรื่อง "โมฆะ"

ทั้งๆ ที่มีความแจ่มชัดตั้งแต่ยุบสภาเมื่อเดือนธันวาคม 2556 มาแล้วว่า มีฝ่ายที่ไม่ต้องการเห็นการเลือกตั้งปรากฏขึ้นและแสดงตัวมากมาย

นั่นเท่ากับเป็นการยืนยันในการ "ขวาง" การเลือกตั้ง

เป็นการขวางโดยตรงในแบบของ กปปส. ในแบบของพรรคประชาธิปัตย์ และขวางโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ของแนวร่วมอันเป็นองค์กรอิสระ ไม่ว่า กกต. ไม่ว่า ป.ป.ช. ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ

เป้าหมาย "ร่วม" คือโค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

สร้างภาวะ "สุญญากาศ" ทางการเมืองให้จงได้ ทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในภาวะ "เป็ดง่อย" ให้จงได้

ไม่ได้ด้วย "ตุลาการภิวัฒน์" ก็ให้ได้ด้วย "การยึดอำนาจ"



การผ่าน "วันเลือกตั้ง" มาได้จึงมิใช่ชัยชนะ หากแต่เสมอเพียงการ "ยืด" วันตายให้ยาวออกไปอีก

จากนี้ ขบวนการโค่นล้มก็จะยิ่งโหมกระแสทั้งทางการเมือง ทั้งการทหารให้รุนแรงและมากด้วยความแหลมคมเป็นลำดับ

ต้องขับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องโค่นระบอบทักษิณ

. . . . . . . . .


___________________________________
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline



.