.
อุดหูขโมยกระดิ่ง
โดย ฐากูร บุนปาน คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
ใน www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1392212921
วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 21:00:21 น.
( ที่มา: นสพ.มติชนรายวัน 12 กุมภาพันธ์ 2557 )
ถ้าสังคมไทยเป็นคนป่วย วันนี้หมอที่รักษาอาจจะขอให้ไปตรวจสายตาและการรับฟังเพิ่มขึ้นอีกสองอย่างจากโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่เป็นอยู่แล้ว
เพราะมีข้อสงสัยว่า ทำไมคนจำนวนมากถึงมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินสิ่งที่เพื่อนร่วมสังคมส่วนใหญ่ทำให้เห็นอยู่ตำตา หรือว่าพูดออกมากึกก้องเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์
คนกว่า 20 ล้านที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกใคร พรรคไหน หรือไม่เลือกใครเลย มีเจตนาขั้นพื้นฐานตรงกันประการหนึ่งว่า
มาเพื่อแสดงตัวให้เห็นว่าสนับสนุนระบบและระบอบการปกครองที่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ที่ใช้กระบวนการที่เป็นอารยะที่สันติเข้าแก้ปัญหาหรือความขัดแย้ง
ระบบระบอบที่ว่านั้นชื่อประชาธิปไตย
แต่คล้อยหลังไปไม่กี่วัน มีท่านผู้รู้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นคนดีหลายท่าน
ออกมากระทุ้งให้นายกฯลาออกบ้าง ให้รัฐบาลพักร้อนบ้าง ให้รักประชาธิปไตยแต่อย่าไปรักรัฐธรรมนูญ (ที่ตัวเองก็มีส่วนร่างมาด้วย) บ้าง ฯลฯ
ฟังเหมือนเจตนาดี
แต่มีคำถามอยู่ว่า ถ้าลาออกก็ดี พักร้อนก็ดี ล้วนมีผลให้คะแนนเสียงของคนกว่า 20 ล้านไร้ความหมายไปในทันที
จะไปชี้แจงทำความเข้าใจกับคนเหล่านั้นว่าอย่างไร
จะให้เหตุผลแบบไหนว่าเสียงของเขารวมกันแล้ว 20 กว่าล้านเสียง ดังหรือมีน้ำหนักสู้เสียงของคนไม่กี่คนไม่ได้
ไม่ว่าจะเอาเหตุผลเลิศหรูอะไรมาอธิบาย ขอให้ตอบคำถามซื่อๆ ง่ายๆ ที่เป็นพื้นฐานนี้ก่อน
ว่าสิทธิในความเป็นคนของเราไม่เท่ากันได้อย่างไร
นี่ไม่ใช่การแข่งขันทางการค้า ที่ใครมีเงินหรือเส้นสายมากกว่าได้เปรียบ ไม่ใช่การยกพวกตีกันแบบชนเผ่า ใครกำปั้นใหญ่กว่าหรือมากกว่าได้เปรียบ
ใครที่จะไม่เคารพสิทธิเสียงของคนอื่นช่วยเตรียมคำตอบไว้ให้ดี
แน่นอนว่ารัฐบาลที่กำลังรักษาการอยู่นี้มีข้อผิดพลาดบกพร่อง หรือแม้กระทั่งวี่แววของการทุจริต
แต่การแก้ไขความผิดพลาด หรือการจะให้รัฐบาล (ที่คนบางคนหรือบางกลุ่มปักใจเชื่อเสียแล้วว่าผิดเลว ให้อภัยไม่ได้) แสดงความรับผิดชอบ
รวมไปถึงการลงโทษ ทั้งทางกฎหมาย ทางการเมือง ทางสังคม
ต้องเดินไปตามระบบและระบอบประชาธิปไตย
ที่ผ่านมาท่านคนดี คนชั้นสูงทั้งหลายใช้กำปั้นที่ใหญ่กว่าทุบชาวบ้านธรรมดาจนหมอบราบคาบแก้วมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง
แต่หนนี้คงไม่ง่าย-และเชื่อว่าท่านทั้งหลายที่ออกมาแสดงเจตนาดีกันอยู่นี้ก็รู้ดี
ถึงอย่างนั้นก็ยังเรียงหน้าออกมากันจนได้
เหมือนไม่เชื่อว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว หรือเชื่อว่าสามารถหมุนกลับได้
ทำไมถึงอยากลากสังคมไทยกลับเข้ารูเข้าถ้ำกันหนักหนา
หรือว่าเวลาอยู่ที่มืดแล้วทำอะไรสะดวก?
++
สัญญาณ
โดย ฐากูร บุนปาน คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
ใน www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391595361
. . วันพฤหัสบดีที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 06:40:03 น.
( ที่มา: นสพ.มติชนรายวัน 5 กุมภาพันธ์ 2557 )
( ภาพของเซีย จาก นสพ.ไทยรัฐ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้เขียนและมติชน )
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นที่ กกต. แถลงให้คนทั่วไปได้รับรู้ (เอาเป็นตัวเลขกลมๆ) ก็คือ
ใน 68 จังหวัดที่มี 59 จังหวัดเลือกได้ทั้งหมด และ 9 จังหวัดเลือกได้บางส่วน ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียง 44.65 ล้านคน มาลงคะแนน 20.47 ล้านคน
หรือร้อยละ 45.84
ซึ่งต้องถือว่าไม่เลวเลย หรือถ้ามองโลกสวยก็ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์แวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งของคนกลุ่มหนึ่ง ความไม่กระตือรือร้นของผู้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง
ไปจนกระทั่งถึงการขาดหายไปของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมากจะน้อยก็ส่งผลให้แฟนคลับไม่ไปลงคะแนนเสียงในครั้งนี้
เทียบกับการเลือกตั้ง 2554 ที่มีผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งหมด 46.9 ล้าน และมาลงคะแนน 35.2 โดยเป็นผู้ลงคะแนนให้ประชาธิปัตย์ 11.4 ล้านคน
บวกลบคูณหารแล้วออกมาเลือกพรรคอื่นประมาณ 23.8 ล้านคน
เลือกตั้งหนนี้นอกจากเขตที่ยังไม่ได้ลงคะแนน ยังมีเลือกล่วงหน้ากว่า 2 ล้านเสียง ซึ่งยังไม่ได้นับ ที่เกือบร้อยทั้งร้อยต้องการจะลงคะแนนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะต้องดิ้นรนมาลงทะเบียนทำไม
รวมๆ แล้วก็คงขาดเหลือจากเดิมไม่เท่าไหร่
ไม่เรียกว่าเยี่ยมแล้วจะเป็นอะไรได้
ถ้าหัวหน้ามวลมหาประชาชนหรือผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการยังสงสัยข้องใจ หรือจะเยาะเย้ยว่าที่ออกมาลงคะแนนนี้ยังไม่ถึงครึ่ง ไม่ใช่คนส่วนใหญ่
มีเลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่ก็ไสช้างเข้ามาประชัน ให้หญ้าแพรกทั้งหลายได้ชมเป็นขวัญตาเถิด
แต่วันนี้คือช่วงเวลาของคนส่วนใหญ่ที่ออกมาพูดด้วยการกระทำว่า ต้องการแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง ความคับข้องใจ ความเหลื่อมล้ำ หรือความบกพร่องพิกลพิการทั้งหลาย
ด้วยวิธีการตามกติกา ด้วยความสงบ สันติ อหิงสาที่แท้จริง
ไม่ต้องพึ่งรถถัง ไม่ต้องเสกคนกลางคนดีมาจากไหน เอาคนธรรมดาที่ตรวจสอบกันได้ ติชมกันได้ ไม่พอใจก็ถอดถอนหรือปลดกันได้ตามกติกานี่แหละ
ชาวบ้านอุตส่าห์ส่งสัญญาณขนาดนี้แล้ว ถ้าหัวหน้าม็อบหรือผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการยังไม่รู้ตัวอีกก็ประหลาด
เช่นกัน รัฐบาลหรือผู้ชนะการเลือกตั้งก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะที่แท้จริงของเกมนี้
แต่มีฐานะเป็นแค่ตัวแทนของคนส่วนใหญ่ที่ปรารถนาจะเห็นการแก้ไขปัญหาสารพัดที่สุมกองอยู่
แก้คนเดียวก็เห็นอยู่ว่าไม่ไหว จะแสดงท่าทีอย่างไรก็ต้องรีบๆ ทำ
มือหนึ่งต้องถือกฎหมายจัดระเบียบให้สังคมก็ทำไป แต่อีกมือต้องยื่นออกไปจับกับมืออื่นๆ
แม้กระทั่งมือที่ไม่อยากจับด้วยก็ตามที
เพราะมือของตัวแทนผู้ชนะที่ยื่นออกไปด้วยไมตรีนั้นมีค่ายิ่ง ไม่แต่เฉพาะกับฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
ยังรวมถึงฝ่ายของตนเองและคนส่วนใหญ่อีกด้วย
..........
_________________________________
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย