http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2554-12-31

ปรารถนา: Aung San Suu kyi.., ทราย: สอนใจ, เช็กสต๊อกหนังสือ โดย หนุงหนิง

.


Aung San Suu kyi : ready to be the president :: (ใคร?) ส่งสัญญาณบวก!!!
โดย ปรารถนา รัตนะ คอลัมน์ Se[XO]ver
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1635 หน้า 82


Flashback : ไม่นานมานี้...กลางตลาดสด

ดิฉันดั้นด้นหอบสัมภาระเข้าไปกินสุกี้ทะเลน้ำกลางตลาดที่อร่อย และบรรยากาศเดิมๆ กินจนเหมือนญาติ บางทีที่ชอบคงไม่ใช่รสชาติอาหาร (แต่เป็นบรรยากาศ) ที่เราต้องการ นั่น...คว้าหนังสือพิมพ์ (มารองจาน) อ่านไป กินไป

มีการพูดถึงบทสัมภาษณ์ของ ซูจี กับ เอเอฟพี มันเป็นการพูดที่มีนัยยะว่าพร้อมเป็นประธานาธิบดีจริงเหรอ หรือนี่คือการฟอร์เวิร์ดภาพไปข้างหน้า ก่อนที่มันจะเกิดหรืออย่างไร มึนและอึมครึม

แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ (ดิฉันบอกตัวเอง) จึงควักสมุดจดชื่อคนสัมภาษณ์ ชื่อสำนักข่าว เพื่อหาต้นฉบับภาษาอังกฤษอ่าน

พลางกินไป คิดไป เรฟโวลูชั่น มันเทกไทม์ มันอาจจะใช้เวลาเกินกว่าช่วงชีวิตเราด้วยซ้ำไป จนถึงวันนี้ที่ม่านฟ้าพม่าเปิด เมื่อโอบามาแจ้นมาอาเซียน เพื่อประกบ สยบมังกร แถมส่งฮิลลารี่ ไปดูลาดเลา อืมม์ อย่างที่รู้ ทุนในพม่าเป็นทุนจีนซะมาก เพราะจีนรุกด้วยการเข้าสร้าง infrastructure เป็นสงครามเย็นทางเศรษฐกิจร้อนๆ

อะไรกัน ละครของโลกจะสนุกสนานปานฉะนี้หนอ!!!


เพราะโลกนี้คือโรงละคร (จริงๆ)

ชีวิตอองซาน ผู้พ่อ น่าสนใจมาก เขาคือฮีโร่ที่มีความสำคัญในพิพิธภัณฑ์และประวัติศาสตร์ของพม่า

แต่ภาพในอดีตของชีวิตของ อองซาน ผู้ลูก เหมือนดูหวานแหวว เมื่อเด็กอ๊อกซ์ฟอร์ด พบรักกับติวเตอร์หนุ่ม ที่เป็นติวเตอร์ให้กับราชวงศ์กษัตริย์ภูฏาน ซูจี จึงมีโอกาสไปไต่เขามาตั้งแต่สาวๆ

ภาพที่เราคุ้นเคยคือภาพเธอยืนเหนือรั้วอ้อมล้อมด้วยผู้คน ด้วยบทบาทลูกสาว เธอคือทายาทคนสำคัญ ภาพส่วนตัวในคอลเล็กชั่นสะสม ช่างแตกต่างจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นชีวิตเดียวกัน


เมื่อครั้งสาวนักศึกษาอ๊อกซ์ฟอร์ดแต่งงานกับหนุ่มอังกฤษ มีบุตรชายสองคน ชีวิตที่ดูเหมือนจะปักหลักที่อังกฤษก็เริ่มเปลี่ยนไป จากการที่ อองซาน ผู้พ่อถูกสังหาร

และเธอคงไม่คิดว่าการเดินทางกลับแผ่นดิน จะเป็นการปิดฉากตำนานรักที่อังกฤษ เมื่อเธอไม่ได้รับอนุญาต แม้จะออกจากพม่าไปเพื่อเยี่ยมสามีที่เป็นมะเร็งที่เสียชีวิตไปแล้ว




สัญญาณบวก

การส่งสัญญาณบวกทางสัญลักษณ์เริ่มจากการที่ลูกชายคนเล็กเพิ่งได้รับวีซ่าเข้าพม่าพบแม่หลังจากไม่ได้เจอกันมานาน

เรียกว่า พม่าเป็นโมเดลระดับโลกไปแล้ว โดยมี ซูจี เป็นนางเอก นางเอกที่รอเวลานานที่สุดในจักรวาล เป็นนางเอกที่การเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ ที่ซูจีเองบอกว่าเธอไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบในประเทศลิเบีย หรือไม่ต้องการปฏิวัติดอกมะลินองเลือด

ตอนนี้มีแต่สัญญาณบวกๆๆ แม้ทุกคนต่างรู้สึกไม่ชอบมาพากล และมันน่าสงสัยว่า เอ มันเป็นการจัดฉากหรือเปล่า



บทลา (รอคอย) the new light of Myanmar

ตอนนี้นักคาดการณ์ต่างนั่งมองพม่าด้วยความงุนงงสงสัย ซูจีเองก็เช่นกัน

"I don"t think of my political role in terms of becoming president as such, but I believe that things like this have to be decided by the people and not by individual politicians or even by their parties,"

ดิฉันได้ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา ด้วยความขี้เกียจถือ จึงได้หนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการผ่าขุมทรัพย์พม่า อ่านแล้ว (ยังไม่จบ) ถือว่า พม่าน่าสนใจจริงๆ ไม่ว่าจะมองในแง่ของโรแมนติก หรือหนังพีเรียด

นี่คือเพื่อนบ้าน (มนุษย์ทองคำ) ที่เราหลงลืมและละเลย (ในการสานมิตรภาพ) อย่างแท้จริง

(ไม่อยากจะคิดว่า เป็นการปรับตำแหน่งของพม่าเพื่อรับประชาคมอาเซียนที่สังคมไทยยังขาดการตระหนักรู้ (ความเสียเปรียบ) อย่างรุนแรงที่สุด!!)



++

สอนใจ
โดย ทราย เจริญปุระ charoenpura@yahoo.com คอลัมน์ รักคนอ่าน
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1637 หน้า 80


ฉันเป็นคนไม่ค่อยมองย้อนไปในอดีตที่ผ่านมา ไม่ค่อยนั่งนึกว่าถ้าวันนั้นเราทำอย่างนี้แล้วเหตุการณ์มันจะเปลี่ยนไปหรือไม่
ไม่ได้หมายถึงว่าไม่ให้ความสำคัญกับอดีต แต่ฉันเคารพมันเกินกว่าจะคิดขัดแย้ง
ไม่ใช่ไม่เคยผิด ไม่ใช่ไม่เคยพลาด ไม่ใช่ไม่เสียใจ
แต่ความเป็นจริงก็คือ, สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะคงอยู่ไปตลอดกาล


มีบางช่วงบางจังหวะที่เรารู้สึกว่าชะตากรรมโบยตีเราหนักหน่วง
เหมือนคอยคิดแต่จะหาวิธีใดก็ได้มาทำร้ายเราให้แสนสาหัส
เราอดเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่นไม่ได้ เฝ้ามองอย่างสงสัยว่าทำไมใครต่อใครถึงไม่เป็นอย่างเรา
แต่ความเป็นจริงก็คือ, ชะตากรรมนั้นเสมอภาคและเท่าเทียม
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะบอกให้คนอื่นรู้หรือไม่เท่านั้นเอง



อีกปีหนึ่งกำลังจะผ่านไป

อายุมากขึ้นทำให้คนมักเข้าใจว่าเราจะรู้อะไรมากขึ้น

ทั้งที่จริงแล้ว วัยเป็นเพียงตัวสร้างความเข้าใจผิด

อายุมากขึ้นนั้นจะรับความเปลี่ยนแปลงได้น้อยลง บาดแผลใหม่ๆ จะหายช้า และไม่มั่นใจมากขึ้น

เมื่อเรายังเด็กนั้นเราจะยืดหยุ่นมากกว่า แต่คนก็จะตั้งข้อสงสัยในเส้นทางของเราเสมอ

แต่พอโตขึ้นนั้นคนจะเชื่อในการตัดสินใจของเรามากขึ้น

มีแต่เพียงตัวเราเท่านั้น ที่ไม่มั่นใจในการตัดสินใจของตัวเอง

ด้วยว่าถูกประสบการณ์ขัดขวางความบ้าบิ่นของวัยเยาว์ที่กำลังจะจากไปเสียแล้ว


แล้วจะอย่างไรกัน
ไม่คิดถึงอดีตเสียแล้ว แต่ถ้าหากถามว่าฉันนั้นมุ่งหวังหมายมาดคาดล่วงหน้าไปถึงวันในอนาคตหรือไม่
ฉันก็ตอบได้เลยว่า ไม่อีกนั่นแหละ
ใครจะล่วงรู้ว่าอนาคตนั้นจะพาอะไรเข้ามาสู่ชีวิตเราหรือเราจะเดินไปหาอะไรในเบื้องหน้า
ความคาดหวังนั้นรังแต่จะทำร้ายจิตใจ
เพราะขึ้นชื่อว่าความคาดหวังเสียแล้วนั้น มันก็มักจะออกไปในข้างที่เป็นไปไม่ได้เสียมากกว่า
ถ้าไม่หวังเสียแต่แรก ก็ไม่ต้องมาหมดหวังกันทีหลัง



สรุปง่ายๆ ก็คือปีเก่าที่ร่ำๆ จะผ่านไป และปีใหม่ที่เฉียดๆ จะมาถึงนี่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเปลี่ยนแปลง

ไม่เคยตั้งจิตปณิธานที่หาญมุ่ง ไม่เคยคิดแก้ไขอะไร ไม่สร้างอะไรใหม่ๆ ไม่แม้แต่จะดูดวงชะตาสำหรับปีหน้า

ดูจะเป็นคนรกโลกอย่างไรก็ไม่ทราบ

แต่ฉันก็เป็นเช่นนี้ และฉันก็ยังสบายใจดี

ดังนั้น, ปีใหม่นี้ ฉันขออวยพรให้ทุกคนจงมีความสุขกับอะไรก็ตามที่มีเข้ามาในชีวิตแล้วกัน

ไม่ขอลาภยศ เงินทองหรือสุขภาพอะไรให้หรอก เพราะล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายต้องทำขึ้นด้วยตัวเอง

จงดูแลชีวิตและจิตใจของตนให้ได้อยู่ยืนยาวถึงซึ่งวันที่สิ่งอันตั้งใจไว้จะมาถึง

และขอฝากภาษิตโบราณสอนใจในการประคองชีวิตของทุกท่านให้อยู่อย่างมีความสุขไปจนถึง

วันนั้น, ดังนี้


ใครจะไว้ใจอะไรตามใจเถิด
แต่อย่าเกิดไว้ใจในสิ่งห้า
หนึ่ง อย่าไว้ใจทะเลทุกเวลา
สอง สัตว์เขี้ยวเล็บงาอย่าวางใจ

สาม ผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย
สี่ ผู้หญิงทั้งหลายอย่ากรายใกล้
ห้า มหากษัตริย์ทรงฉัตรชัย
ถ้าแม้นใครประมาทอาจตายเอย ฯ *

โปรดปรับใช้ให้เหมาะกับวิถีทางและสถานการณ์

สวัสดีปีใหม่

* * * * * * *
* จาก นิทานเวตาล



++

คอลัมน์ เช็กสต๊อกหนังสือ โดย หนุงหนิง nu_ning_inlove@hotmail
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1637 หน้า 81


นักวิทยาศาสตร์ของฮิตเลอร์ : วิทยาศาสตร์ สงคราม และสัญญากับปีศาจ (สำนักพิมพ์มติชน, จำนวน 632 หน้า, ราคา 420 บาท) นพดล เวชสวัสดิ์ แปลจากเรื่อง Hitler"s Scientists : Science,War and the Devik"s Pact ผลงานของ John Cornwell

"เมื่อฮิตเลอร์เถลิงอำนาจในปี 1933 วิทยาศาสตร์ การแพทย์ และเทคโนโลยี หลอมรวมเข้าไปรับใช้ระบอบการปกครองใหม่ อาณาจักรไรซ์ที่ 3 เรียกร้องจิตวิญญาณ "ไกลซ์ชาลทุง" (การตบเท้าเดินพร้อมเพรียงกัน) ทรัพยากรทั้งมวลของระบอบการปกครองจักต้องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน

การศึกษา สื่อสารมวลชน จิตวิทยา และการสื่อสาร จะปรับให้ไปรับใช้อุดมการณ์นาซี เพื่อปรับพื้นฐานและหล่อหลอมความคิดสาธารณะให้ชูธง* "การปฏิวัตินาซี"* เหล่านักวิทยาศาสตร์ยินยอมค้อมรับแรงกดดันนั้น (จะมีข้อยกเว้นเพียงบางคน)

นักประวัติศาสตร์, โยเซฟ ฮาเบอเรอร์ กล่าวไว้ว่า "ภาวะผู้นำในวงการวิทยาศาสตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความมักได้และการค้อมหัวศิโรราบ จะสุมหัวกันเล่นเกมใต้ดิน สรรหาแพะรับบาปจากสมาชิกในชุมชน"

แต่คนบางกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นนายแพทย์และนักมานุษยวิทยา ไม่เพียงแค่ยอมตัวเป็นข้ารับใช้ แต่เลยไกลไปถึงขั้นริเริ่มรุกคืบ สนับสนุนนโยบายกีดกันแบ่งแยกเชื้อชาติ"

...หนังสือเล่มนี้เผยให้เห็นชื่อโฉมของนักวิทยาศาสตร์เยอรมันภายใต้ระบอบนาซี ซึ่งมีทั้งฝ่ายธรรมที่พยายามรักษาแก่นคุณธรรมของความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ว่า วิทยาศาสตร์มีไว้เพื่อช่วยเหลือและสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพื่อทำลายล้างหรือรับใช้การเมือง

กับฝ่ายอธรรมที่ทุ่มกายใจรับใช้ฮิตเลอร์อย่างเต็มกำลังเพราะเห็นแก่ตำแหน่ง...

เราจะเห็นนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 ด้าน ทั้งที่ยอมสยบอยู่ *ใต้ฝ่าเท้าฮิตเลอร์* และด้านที่ยืนหยัดต่อสู้กับกับแรงกดดันเพื่อรักษาไว้ซึ่งแก่นแท้ของวิทยาศาสตร์

และที่สำคัญไม่ว่าวิทยาศาสตร์จะถูกใช้ไปในด้านใด วิทยาศาสตร์ก็พัฒนาเติบโตขึ้นทั้งสิ้น



นิทานล้านบรรทัด (สำนักพิมพ์ a book, จำนวน 160 หน้า, ราคา 220 บาท) โดย ประภาส ชลศรานนท์

"นิทานทุกเรื่องในโลกนี้ไม่มีเรื่องใดสมเหตุสมผลเลย เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในนิทาน

ลิงพูดได้ ใบไม้มีขา ม้าล่องหน แต่นี่แหละคือเสน่ห์แห่งนิทาน

ปรัชญาอันยิ่งใหญ่ที่ติดตัวมากับมนุษย์ตั้งแต่เกิด "ความคิดที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมด"

และว่ากันว่าปรัชญาง่ายๆ ข้อนี้ มันจะค่อยๆ เสื่อมสลายไปเมื่อใช้ชีวิตเรื่อยๆ บนโลก" จากบท ราชินีแห่งดินแดนมหัศจรรย์

ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ ในโลกของนิทาน ดังนั้น เรื่องราวของนิทานทั้ง 16 เรื่องภายในเล่ม จึงทั้งสนุก ถ้าคิดอ่านแค่เอาสนุก อย่างรักสามเส้าที่กลายเป็น *รักสี่เส้าของ ดิน น้ำ ลม แดด*

และถ้าอยากได้มากไปกว่านั้นก็มีให้เหลือเฟือ เรื่องที่แฝงปรัชญาอย่างเรื่อง พระอาทิตย์ เมื่อเด็กชายตาบอดที่เที่ยวถามใครต่อใคร อยากรู้ว่าพระอาทิตย์เป็นอย่างไร สุดท้ายพระอาทิตย์ก็อยู่ในดวงตาของเรานั่นเอง

เรื่อง *เจ้าหญิงแสนโหล* ที่ไม่อยากโหล แต่ว่า คนเรายิ่งอยากพิเศษมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่พิเศษมากขึ้นเท่านั้น

สรุปง่ายๆ ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ชอบ



ไต+หัวใจ อวัยวะสำคัญที่ต้องดูแล ถ้าไม่อยากแก่ง่ายและตายเร็ว (สำนักพิมพ์ เก็ท ไอเดีย, จำนวน 256 หน้า, ราคา 179 บาท) โดย พิมลพรรณ อนันต์กิจไพศาล

ลองสำรวจตัวเองดูซิว่า ปวดศีรษะบ่อยครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุมั้ย มีก้อนนูนแข็งบริเวณไตรึป่าว ปัสสาวะขุ่นเป็นฟอง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง มีอาการบวมตามใบหน้า ขา เท้า และลำตัว

ถ้าเข้าข่ายละก็คุณอาจกำลังเสี่ยงที่จะเป็น *โรคไต* อยู่ก็ได้นะ

แลถ้ามีอาการแน่นหรือเจ็บบริเวณหน้าอก มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เหนื่อยง่าย วิงเวียน หน้ามืด หรือเป็นลมบ่อยๆ ตัวเย็น เหงื่อออกมาก

นี่ก็อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเป็น *โรคหัวใจ* นะจ๊ะ

ไตและหัวใจ สองอวัยวะสำคัญที่เมื่อเสื่อมหรือเกิดโรคขึ้นมาแล้ว ก็ยากที่จะเยียวยาให้กลับมาใช้การได้ดีเหมือนเดิม

หนังสือเล่มนี้จะแนะนำการดูแลไตและหัวใจอย่างถูกวิธี รวมทั้งสาเหตุ อาการ การป้องกัน และวิธีการรักษา เพื่อให้คุณห่างไกลจากโรคร้าย ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนไทยเสียชีวิตในอันดับต้นๆ

ปีใหม่แล้วมีหลายๆ อย่างที่คุณอาจตั้งใจทำ สิ่งหนึ่งที่อย่าลืมก็คือการเช็กสุขภาพนะคะ



และใครที่กำลังคิดจะจัดปาร์ตี้ฉลองปีใหม่ และกำลังมึนตื้บไม่รู้ว่าจะเอาเมนูอะไรดี หนังสือ 2 เล่มนี้น่าจะช่วยคุณได้

เล่มแรก *foodstylist* (ฉบับเดือนธันวาคม 2554, ราคา 95 บาท)

เสนอเมนูฉลองปีใหม่แบบไม่ตกกระป๋อง มีให้ครบทั้งอาหารคาว หวาน

พร้อมทั้งแนะนำร้าน "สุดชิค" รอบกรุงให้ไปเคาต์ดาวน์กันหลากสไตล์

อีกเล่ม *HEALTH&CUISINE* (ฉบับเดือนธันวาคม 2554, ราคา 90 บาท)

เล่มนี้มีสำรับอาหารสุขภาพสำหรับใครที่กำลังคิดจะทำบุญขึ้นปีใหม่ เดี๋ยวนี้ทำบุญทั้งทีอร่อยไม่พอ ต้องสุขภาพดีด้วย

หรือใครกำลังคิดจะอบขนมแจกเป็นของขวัญปีใหม่ ก็อย่าพลาดเชียว มีสูตรคุกกี้อร่อยๆ มาฝากด้วยล่ะ



มาลองคิดกันเล่นๆ ขำๆ ว่าถ้าสโลแกนของสินค้ายี่ห้อดังๆ เหล่านี้มาเป็นสโลแกนของ condom จะเป็นอย่างไร

มิสทิน -- ถุงยางมาแล้วค่ะ

คอลเกต -- ถุงยางไม่ผุอยู่แล้ว

เบียร์ไท -- รสดี ดีกรีหนัก

carson -- ทนดี ไม่มี ย้วยยยย

ปตท. -- พลังไทยเพื่อไทย

ชิกเกล็ต -- มันจนหยุดไม่ด้ายยยยยยยย

คลีนิค เคลียร์ -- จุดจบของอสุจิ

Olay -- ให้คุณรักถุงยางยิ่งกว่าเคยรัก

ใกล้ชิด -- รักแท้แพ้ถุงยาง

พริงเกิลล์ -- ลองเมื่อไหร่มันไม่เลิก

เลย์ -- ชิ้นเดียวไม่เคยพอ

ลอรีอัล -- ถุงยางที่คุณคู่ควร



.