http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2556-08-22

ใจ: ความคิดบางประการเกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดในอียิปต์

.

ใจ อึ๊งภากรณ์: ความคิดบางประการเกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดในอียิปต์
ใน www.prachatai3.info/journal/2013/08/48275   
. . Sun, 2013-08-18 23:27


ใจ อึ๊งภากรณ์

เวลาเห็นมวลชนพรรคมุสลิมโดนฆ่าเหมือนผักปลาหลายร้อยคน ตอนแรกมันยากที่จะพูดอะไรออกมาด้วยสติปัญญา นอกจากจะหลุดปากออกมาว่า “ทหารระยำชาติหมา” แต่สักพักเราต้องตั้งสติเพื่อวิเคราะห์และเรียนบทเรียน อย่างน้อยเพื่อคนที่ตายไป ในอียิปต์และไทย และเพื่อเราเองที่รอดมาด้วย

ภาพอาชญากรรมรัฐ ที่ทหารก่อต่อประชาชนอียิปต์ เป็นภาพการใช้ความรุนแรงป่าเถื่อนเพื่อระงับกระบวนการปฏิวัติอียิปต์ และทำลายพรรคมุสลิม มันเป็นวิธีการที่ชนชั้นปกครองเดิมจากสมัยเผด็จการมูบารักหวังจะได้อำนาจกลับคืนมา
และถ้าเขาทำกับมวลชนพรรคมุสลิมได้ เขาก็จะเดินหน้าทำกับนักสหภาพแรงงาน นักสังคมนิยม และคนหนุ่มสาว ที่เป็นแกนหลักของการปลุกกระแสการปฏิวัติเมื่อสองปีก่อน แต่เรื่องยังไม่จบ

ในการปฏิวัติทุกครั้ง ทุกยุค ทุกที่ เราจะเห็นการเดินหน้าและถอยหลัง และที่เราเห็นวันนี้คือการถอยหลัง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นจุดจบ


พรรคมุสลิมเป็นฝ่ายค้านในสมัยเผด็จการมูบารักมานาน แต่เป็นฝ่ายค้านที่พยายามหาทางประนีประนอมตลอด ตอนแรกที่มวลชนออกมาประท้วงมูบารัก พรรคมุสลิมไม่เอาด้วย ต้องให้สมาชิกหนุ่มสาวลากไปจนยอมร่วมต้านมูบารักในจตุรัสทาห์เรีย พอมูบารักถูกล้ม ทหารอ้างว่าเป็นมิตรประชาชน แต่มวลชนที่ออกมาล้มมูบารักเริ่มตาสว่างและเบื่อทหารภายในไม่กี่เดือน เพราะทหารอยากแช่แข็งความเหลื่อมล้ำและปกป้องอำนาจเก่า
   
หลังจากที่มีการเลือกตั้งที่พรรคมุสลิมชนะ ประธานาธิบดีมูรซี่ของพรรคมุสลิม รีบประนีประนอมกับกองทัพและสหรัฐอเมริกา และเริ่มมีท่าทีเผด็จการมากขึ้น มีการใช้นโยบายกลไกตลาดเสรี ซึ่งเผด็จการยุคก่อนเคยใช้ และคนจนจำนวนมากเดือดร้อนต่อไป มีการปราบการนัดหยุดงานและคนที่เห็นต่าง ในที่สุดมวลชนอียิปต์ออกมาประท้วงเป็นล้านๆ คน และในนั้นรวมถึงคนที่เคยลงคะแนนเสียงให้พรรคมุสลิมของมูรซี่ด้วย แต่แล้วกองทัพอียิปต์ก็ชิงการนำโดยล้มมูรซี่และนำเผด็จการทหารมาปกครองแทน การกระทำนี้เพื่อยับยั้งการเดินหน้าของการปฏิวัติ และเพื่อปกป้องอำนาจเก่า แต่ทหารโกหกว่าทำเพื่อประชาชน

ล่าสุด หลังจากที่มวลชนหลายส่วนที่ต้านพรรคมุสลิม ไปแสดงท่าทีสนับสนุนทหาร เพราะหลงเชื่อว่าทหาร “อยู่ข้างประชาชน” ทหารได้ความมั่นใจมากขึ้น จึงลงมือปราบพรรคมุสลิมด้วยความป่าเถื่อนอย่างที่เราเห็น


คำถามแรกที่บางคนอาจถามคือ “การออกมาประท้วงประธานาธิบดีมูรซี่ซึ่งเคยชนะการเลือกตั้ง ผิดหรือไม่? เพราะดูเหมือนเปิดโอกาสให้ทหารยึดอำนาจ???”
คำตอบคือไม่ผิด เพราะถ้ากระบวนการปฏิวัติอียิปต์จะเดินหน้าไปสร้างประชาธิปไตยแท้ ความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ และระบบที่ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน การปฏิวัติต้องจัดการกับมูรซี่ด้วย เนื่องจากมูรซี่ก็ต้องการหยุดกระบวนการปฏิวัติ และแช่แข็งความเหลื่อมล้ำ แต่ทำผ่านรัฐสภา

คนที่ประท้วงมูรซี่ไม่ได้ชวนให้ทหารทำรัฐประหาร ไม่เหมือนเสื้อเหลืองในไทย

ไทยอาจไม่ตื่นเต้นน่ากลัวเท่าอียิปต์ แต่เราก็เห็นว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดงที่จบลงกับแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทย นำไปสู่การแช่แข็งความเหลื่อมล้ำต่างๆ นาๆ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง และการหักหลังอุดมการณ์ของการต่อสู้ที่เคยถูกทหารปราบ


ปัญหาที่อียิปต์คือ มวลชนส่วนสำคัญที่ออกมาประท้วงล้มมูรซี่ หลงเชื่อว่าทหารคือมิตรของประชาชนหลังจากทหารยึดอำนาจ
องค์กรสังคมนิยมปฏิวัติอียิปต์พูดมาตลอด ตั้งแต่สมัยล้มมูบารัก ว่าทหารคือศัตรูของประชาชนและกระบวนการปฏิวัติ แต่องค์กรนี้เล็กเกินไปที่จะเปลี่ยนใจมวลชนเป็นล้านๆ ส่วนพวก “เสรีนิยม” เป็นพวกที่วิ่งเข้าไปจับมือกับทหารมือเปื้อนเลือด
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมื่อคนอียิปต์จำนวนมากเห็นความป่าเถื่อนของทหาร และเมื่อรัฐบาลทหารไม่ยอมแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่จุดประกายการปฏิวัติแต่แรก เขาสามารถจะตาสว่างเปลี่ยนใจได้ และออกมาต้านทหารเพื่อให้กระบวนการปฏิวัติเดินหน้าต่อไป
นักสหภาพแรงงานที่จะต้องเผชิญหน้ากับทหาร เมื่อเรียกร้องเรื่องปากท้อง จะตาสว่างเร็วและมีพลังทางเศรษฐกิจ


แต่ไม่มีอะไรอัตโนมัติหรือหลักประกันว่าฝ่ายประชาชนจะชนะ ความก้าวหน้ามาจากการต่อสู้เท่านั้น

บทเรียนสำคัญสำหรับคนทั่วโลกคือ อย่าหลงเชื่อว่ากองทัพที่ไหนเป็นมิตร อย่ารอให้คนข้างบนมาแก้ปัญหาให้ เพราะพวกที่อยู่เบื้องบนเรา เขาอยู่ตรงนั้นเพื่อกดขี่ขูดรีดเราเท่านั้น

มวลชนรากหญ้าต้องจัดตั้งตนเองทางการเมือง ต้องจับมือกับกรรมาชีพในสหภาพแรงงานและคนหนุ่มสาว และต้องมั่นใจว่า ถ้าเรารวมพลังเราเปลี่ยนโลกได้



.