http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-07-11

Extremely Loud & Incredibly Close โดย พรพิมล ลิ่มเจริญ

.

Extremely Loud & Incredibly Close
โดย พรพิมล ลิ่มเจริญ  คอลัมน์ “ใส่บ่าแบกหาม”
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1664


เธอจ๊ะ

ทำไม Extremely Loud & Incredibly Close เป็นหนังเงียบๆ แฮะ ! ไม่ได้แปลว่าเป็นหนังเงียบแบบ ชาร์ลี แชปปลิ้น แต่อุตส่าห์มี ทอม แฮงก์ และ แซนดร้า บูลล็อก แล้วหนังก็เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีล่าสุด แต่กลับเป็นหนังที่คนดูน้อยจนขาดทุน ลงทุนไป 40 ล้านเหรียญ ได้เงินมา 33 ล้านเหรียญเอง 
น่าเห็นใจในเหตุการณ์ไม่ปกตินี้ เพราะปกติ แค่มีชื่อเข้าชิง คนก็จะแห่ไปดูกันแล้ว
แต่นี่นักแสดงก็เลิศ ทอม แฮงก์ และ แซนดร้า บูลล็อก เชียวนะ มี Viola Davis อีกต่างหาก มีรางวัลการันตีทุกคน

บทก็ล้ำ เขียนโดย Eric Roth คนที่เขียน Forrest Gump มาก่อน
ผู้กำกับ Stephen Daldry ก็เก่งเก๋ กำกับ The Hours, Billy Elliot, และ The Reader ที่ฉันชอบมากที่สุด 
แถม Jonathan Safran Foer ผู้เขียนนิยายเจ้าของเรื่องก็มาร่วมเขียนด้วย ให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ประสบปัญหานิยายกับหนังไปกันคนละทางกัน


สถานที่ถ่ายทำก็ปักหลักที่มหานครนิวยอร์ก มีเซ็นทรัลปาร์ก มีถนนหาทางรถราและผู้คนขวักไขว่ ยุ่งเหยิงวุ่นวายแต่ดูสวยงามตามมุมกล้องที่ออกแบบมาดี
ไหงมารวมตัวกันแล้วไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้?
เหตุผลเดียวเลย เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ยืนยันว่าการสร้างหนังมันเป็นงานศิลปะทำด้วยมือ ต่างงาน ต่างเวลา ต่างผลลัพธ์ การทำหนังมันท้าทายโชคชะตาชัดๆ


Extremely Loud & Incredibly Close เป็นเรื่องของเด็กชายออสการ์ วัย 11 ปี ที่มีพ่อแสนดีและแสนสนุก แต่ต้องมาจากไปตอนเหตุการณ์ 11 กันยายน 
ทอม แฮงก์ แสดงเป็นพ่อ อยู่บนตึกเวิลด์เทรดในวันและเวลานั้นพอดี 
I’m on the 106th floor
There"s about 50 of us up here.
ผมอยู่ชั้น 106
บนนี้เรามีกัน 50 คน

ชาวเอเชียนับลำดับที่กันไม่ค่อยถูกเพราะมันออกเสียงยากฉันว่า
ถ้าเป็น 1st, 2nd, 3rd ก็ง่าย แต่พอมา 4th, 10th, 20th, 100th ต้องมีเสียง th ที่ต้องใช้ปลายลิ้นมาแทรกระหว่างฟันหน้าล่างกับบน ปล่อยลมเสียดสีออกมา มันยากพิลึก แต่พอเราออกเสียงผิด เราก็มักจะเขียนผิด

และถึงแม้จะเห็นชื่อบริษัท 20th Century Fox มาชั่วชีวิต เราก็มักจะเขียนผิด
ตัวอย่างเช่น (เอาที่ฉันเห็นบ่อยๆ ในโฆษณาตอนนี้นะ) คอนเสิร์ตเจ-เจตริน ‘20 Anniversary’
‘20 Anniversary’ นี้ฝรั่งไม่มี 
ฝรั่งมี ‘20 anniversaries’ แปลว่า การครบรอบ 20 ครั้ง 
และมี ‘20th anniversary’ แปลว่า การครบรอบปีที่ 20 หรือ ครบรอบ 20 ปี 
อย่างคอนเสิร์ตคุณเจ ก็ควรต้องเป็น Jay’s 20th Anniversary ฉันก็จะสบายใจ
แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาคงอยากได้ชื่อสั้นๆ เรียกง่ายๆ แต่มันไม่ถูกไง ทำไงดี?


เอาล่ะ กลับมาที่หนังของเรา หนังเรื่องไหนเรื่องนั้นพอเกี่ยวกับเหตุการณ์ตึกถล่มฉันพร้อมร้องไห้ทุกเรื่อง เหตุการณ์มันสะเทือนใจฉัน คนตายพร้อมกันจำนวนมากแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่

เด็กชายออสการ์ไปร่วมงานศพพ่อ
It’s like a pretend funeral.
อย่างกับงานศพปลอมๆ
เด็กชายออสการ์ไม่ลงจากรถไปร่วมงาน

Doesn’t anybody know
there isn’t anybody in the coffin?
เขารู้กันบ้างไหม
ว่านั่นมันโลงศพเปล่าๆ?

เด็กชายออสการ์ปรารภกับแม่ หน้าตาจริงจังแกมไม่พอใจ
We should’ve filled it
with his shoes or something.
เราน่าจะหาอะไรใส่
รองเท้าก็ยังดี

สงสารจับใจ เด็กชายตัวเล็กๆ ต้องมามีเหตุให้ต้องไปงานศพพ่อเสียแล้ว 
แล้วจากนั้นในหนังก็พาย้อนเหตุการณ์ไป ให้ดูความสุขของพ่อกับลูก 
พ่อเปิดร้านค้าของเก่า ชอบพาลูกเล่นเกมหาสมบัติ ลูกก็ชอบ ว่างๆ ลูกก็มีของมาอวด

I found something from every decade
in the 20th Century.
ผมเจอของที่ผ่านมาทุกทศวรรษ 
ในศตวรรษนี้

แท้ที่จริงมันเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง ง่ายๆ แค่นี้เอง แต่ใช้เทคนิคการเกริ่นน่าสนใจดี
You rock! 
ลูกเจ๋งมาก!
rock เป็นคำกริยาได้ แบบ You rock! แปลว่า เธอเจ๋งว่ะ แบบเดียวกับที่ Cool! ไม่ได้แปลว่าเย็น แต่แปลว่า เจ๋ง เก่งมากๆ ดีมากๆ ยอดมากๆ เหมือนกัน

ก่อนพ่อตายโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน พ่อก็พาลูกเล่นเกม ตามหาเขตปกครองที่ 6 ของนิวยอร์ก ซึ่งแปลกไงใครๆ ก็รู้ว่านิวยอร์คมี 5 เขต
ได้แก่ แมนฮัตตัน บรุ๊กลิน ควีนส์ เดอะ บร็องซ์ และสเตเท่นไอแลนด์ เหตุไฉนมี 6 ได้? 
ยากไหม? ยากสิ ภรรยาพ่อหรือแม่ก็ท้วงติงว่ามันยากหนา แต่พ่อก็ว่า
If it was easy,
this wouldn’t be worth finding.
ถ้าง่าย ก็ไม่คุ้มค่าที่จะหาสิ

และมันยิ่งยากมากขึ้น เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว



คนเราจัดการกับความเศร้าและสูญเสียแตกต่างกันไป ยิ่งกับเด็กชายออสการ์ซึ่งเป็นเด็กๆ อยู่แท้ๆ หันมาโทษแม่เต็มๆ

I wish it were you in the building
instead of him. 
ผมอยากให้แม่อยู่ในตึกนั้น
แทนที่จะเป็นพ่อ

พูดไปก็ร้าวรานใจทั้งสองฝ่าย ในเมื่อความจริงมันเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ รอให้เด็กชายได้ตระหนักรู้

วันหนึ่ง เด็กชายออสการ์พบลูกกุญแจในซองเล็กๆ มุมซองเขียนว่า "Black" ในกล่องของพ่อ
เด็กชายคิดสะระตะ สรุปกับตัวเองว่าเป็นชื่อคน เอาสมุดโทรศัพท์มาเปิดดู พบว่ามีคนนามสกุล "แบล็ก" 472 คน! 
ว่าแล้วก็กางแผนที่ วางระบบระเบียบแบบแผนการออกเดินทางพบคนทั้ง 472 คนที่นามสกุลแบล็ก!! 
แล้วเด็กชายออสการ์ก็พบว่าลูกกุญแจมีเจ้าของ เพียงแต่ไม่ใช่ตัวเขา แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น

It’s never gonna make sense
because it doesn"t!
มันไม่มีวันจะเข้าใจได้
เพราะมันไม่มีเหตุไม่มีผล

แม่กับลูกพูดเรื่องนี้กันทีไรก็ไม่เข้าใจกัน คนหนึ่งก็ว่าทำไมพ่อต้องตาย ข้างฝ่ายแม่ก็ว่าทำไมสามีต้องตาย ทำไมต้องใครก็ไม่รู้ขับเครื่องบินมาบินชนตึกจนคนตายนับร้อยพัน ปัญหามันหนักหนาเอาการอยู่ จะให้ลืมก็ไม่ได้ จะให้จดจำก็ปวดร้าวใจ จะมีชีวิตต่อไปยังไงยิ่งเป็นเรื่องใหญ่และยาก แต่ครอบครัวไหนๆ ก็ต้องได้คำตอบตามวิถีของตนเอง

ฉันว่าหนังเรื่องนี้มันผิดตรงเขาอั้นคำตอบไว้นานเกินไป มาเฉลยใน 15 นาทีสุดท้าย 100 นาทีก่อนหน้านั้นมันนานเกิน ฉันเลยขอพูดบ้าง "It doesn’t make sense." ไง

ฉันเอง



.