http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-07-10

Conspiracy กับ นาซ่า โดย จอห์น วิญญู

.

Conspiracy กับ นาซ่า 
โดย จอห์น วิญญู spokedark.tv www.facebook.com/spokedarktv
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1664 หน้า 79


อันเนื่องมาจากเจาะข่าวตื้นเทปที่ผ่านมา (62 : เจาะแหนมนาซ่า) ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ สโป๊กดาร์กอย่างอุ่นหนาฝาคั่งตามเคย กระผมและทีมงานต้องขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ชมที่รักที่อุปถัมภ์รายการของเราอย่างต่อเนื่องเสมอมานะครับ

---

อย่างไรก็ตามครับ
เจาะข่าวตื้นเทปนี้ก็ยังได้รับความสนใจอย่างยิ่งยวดจากเหล่านักทฤษฎีสมคบคิดทั้งหลายที่ยังคงปักใจเชื่อว่าการเก็บข้อมูลสภาพอากาศเป็นแค่ภารกิจ "บังหน้า" ของนาซ่าเท่านั้น 
จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการนำเอาอาวุธมหาประลัยร้ายแรงที่สามารถ "สร้างพิบัติภัยธรรมชาติได้" มาเก็บไว้ที่ประเทศสารขัณฑ์ของเราต่างหาก!

อีกกลุ่มก็เชื่อว่างานนี้อันที่จริงเป็นภารกิจการมาค้นหาน้ำมันให้บริษัทเชฟรอนต่างหาก แค่นั้นยังไม่พอ ยังโยงไปถึง Usual suspect คนเดิมได้อีกว่า คนใกล้ชิดไปเปิดบริษัทพลังงานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ 
ก็แล้วแต่พี่สบายใจเถอะครับ

แต่สิ่งที่กระชากต่อมงึดของผมให้มันชูชันแข็งโด่ขึ้นมาก็คือเรื่องของ ทฤษฎีสมคบคิด หรือ Conspiracy Theory นี่แหละ ว่ามันคืออะไรกันแน่ และเราควรจะให้ราคามันมากน้อยแค่ไหน 
และผมจะหาหนังเรื่อง Conspiracy Theory ที่นำแสดงโดย เมล กิ๊บสัน และ จูเลีย โรเบิร์ตส์ มาดูได้อย่างไร--


เรื่องของ Conspiracy Theory นั้น 
หาข้อมูลที่เป็นเรื่องเป็นราวนอกเหนือไปจากที่รวบรวมไว้ในวิกิพีเดียค่อนข้างยาก เมื่อพิมพ์คำนี้ลงไปในกูเกิ้ล ข้อมูลโดยมากที่โผล่ขึ้นมามักจะมาจากเหล่านักทฤษฎีสมคบคิดกันเองซะมากกว่า 
ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็ทำให้ผมต้องเสียเวลาไปมากทีเดียวเพราะแต่ละเรื่องเล่าหรือแต่ละวิดีโอก็ล้วนแต่สร้างความหรรษาเอ็นเตอร์เทนเหลือเกิน

ผมได้พบว่าโอบามากับโอซามาเป็นคนคนเดียวกัน
ธนบัตรทุกราคาของสหรัฐอเมริกาล้วนมีคำทำนายเรื่องวันที่ 11 กันยายน 2001 ซ่อนอยู่ 
และ Tupac ถูกฆาตกรรมโดยองค์กรลับ Illuminati  
สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางของจักรวาลแห่งทฤษฎีสมคบคิดจริงๆ


ทฤษฎีสมคบคิด ตามความหมายของวิกิพีเดีย 

(ซึ่งออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นข้อมูลที่หนักไปในทางของสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา) จำกัดความเอาไว้ว่า คือการอธิบายปรากฏการณ์บางอย่างว่าเกิดขึ้นโดยการวางแผนขององค์กรลับ หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมือง สังคม หรือเศรษฐกิจวางแผนและปฏิบัติตามแผนการอย่างลับๆ เพื่อก่อให้เกิดปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นโดยปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้มหาชนได้รับรู้ 
ทฤษฎีสมคบคิดเฟื่องฟูขึ้นมาได้เมื่อสถาบันหลักในสังคมไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ดีพอ สหรัฐอเมริกาในช่วงหนึ่งก็ดูเป็นสังคมที่ออกจะขมุกขมัวอยู่มาก ความตายของประธานาธิบดีเคนเนดี้   

ความตายของ โรเบิร์ต เคนเนดี้ ความตายของ จอห์น เลนนอน ความจำเป็นของสงครามเวียดนาม ฯลฯ 
เมื่อการโยนทุกอย่างให้ "คนบ้า" หรือ "ผู้ก่อการร้าย" ไม่เพียงพอต่อความอยากรู้อยากเห็นของสาธารณชน 
เมื่อนั้นทฤษฎีสมคบคิดจะฟูเฟื่อง

นักรัฐศาสตร์ Michael Barkun ให้ความเห็นว่า ทฤษฎีสมคบคิดมีเสน่ห์มากด้วยเหตุผลสามประการ 
หนึ่ง คือสิ่งที่บอกไปแล้วนั่นคือ ทฤษฎีสมคบคิดสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่สถาบันหลักไม่สามารถให้คำอธิบายที่ดีพอต่อสังคมได้ 
ทฤษฎีสมคบคิดสามารถทำให้โลกที่ดูสับสนวุ่นวายดูมีเหตุมีผลสามารถอธิบายได้ 
สิ่งนี้ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยขึ้นอย่างประหลาด

สอง การอธิบายดังกล่าว อธิบายความอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีความซับซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น มีฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรม ฝ่ายดีฝ่ายชั่ว ฝ่ายขาวกับฝ่ายดำ ฝ่ายมืดฝ่ายสว่าง ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหลายสามารถถูกไล่เรียงกลับไปสู่ต้นตอเดียว 

และสุดท้ายทฤษฎีสมคบคิดจะเกิดขึ้นได้มันต้องมีพระเอกครับ พระเอกที่ว่าคือ "ข้อมูล" นั่นเอง ข้อมูลที่นักทฤษฎีสมคบคิดรู้ แต่สาธารณชนคนทั่วไปไม่รู้! หรืออาจจะรู้ แต่ไม่เข้าใจความหมาย อาจจะเห็นอยู่ทุกวี่วันแต่ไม่ตระหนักถึงเบื้องหลัง อะไรเงี้ย!

สำหรับนักทฤษฎีสมคบคิด คนส่วนใหญ่ในสังคมเป็นซอมบี้ที่ถูกล้างสมอง คิดเองไม่เป็น เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ของผู้มีอำนาจเท่านั้น
แต่สำหรับนักทฤษฎีสมคบคิด พวกเขา "รู้" ในสิ่งที่คนทั่วๆ ไปในสังคมไม่รู้ และสามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ได้แบบเห็นภาพเป็นฉากๆ เลยทีเดียว
สนุกครับ



บอกตามตรงนะครับว่าผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าตัวเองเชื่อหรือไม่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด แต่หลายๆ ครั้งเรื่องราวหรือความเป็นไปหลายๆ อย่างก็ช่างชวนให้อยากเชื่อจริงๆ ว่ามันเป็นเรื่องของการ "สมคบคิด" 
เช่น ความสงสัยในระบบการศึกษาไทยว่าแท้จริงแล้วถูกออกแบบมาให้คนเรียนคิดไม่เป็น 
หรือระบบอีกหลายอย่างในประเทศนี้ที่ดูจะถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการคอร์รัปชั่นโดยเฉพาะ

การสรุปว่ามีคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งนั่งกำหนดทุกอย่างอยู่หลังฉากเพื่อผลประโยชน์ของพวกตัวเองไม่กี่คนมันช่างเย้ายวน น่าคล้อยตามเสียนี่กระไร ยิ่งในประเทศที่มีคนอยู่แค่ไม่กี่คนอยู่แล้วด้วยสิ 
แต่พอทฤษฎีสมคบคิดถูกเอาไปรวมอยู่กับความเชื่อจำพวกโอบามาคือ โอซามา เอลวิส ยังไม่ตาย หรือมนุษย์ต่างดาวใช้พลังจิตบังคับประชาชนอาหรับหลายๆ ประเทศให้ออกมาล้มล้างรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา---ความรู้สึกอยากเข้าไปอยู่ในหมู่พวก Conspiracy Theorist มันก็แฟบลงไปในทันที

เรื่องน่าเศร้าที่สุดที่ผมรู้สึกได้จากการพยายามทำความเข้าใจทฤษฎีสมคบคิดก็คือ สังคมที่ต้องมีการพยายามอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย conspiracy theory ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าสังคมนั้นยังคงเป็นสังคมที่ "ขมุกขมัว" มากเท่านั้น 
เหมือนความกลัวผีนั่นแหละครับ 
ถ้าที่มันสว่างโร่ ไม่มีซอกหลืบหลุมมืดๆ มากนักก็คงไม่มีใครโดนผีหลอก 

สังคมที่ฝ่ายปกครองชอบทำตัวลับๆ ล่อๆ ผู้มีอำนาจใช้อำนาจของตัวเองในทางที่ผิดอยู่เรื่อยๆ ประชาชนไม่สามารถจะเชื่อใจรัฐได้ (ในระดับที่สมเหตุสมผล) ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมาและสุดความสามารถ 
การจินตนาการความหวาดระแวงหรือการใช้ความหวาดระแวงตรงนี้เป็นเครื่องมือห้ำหั่นกันทางการเมืองจึงสามารถทำได้ง่ายและดูจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ

รู้ไหมครับ?
ในความมืด
เครื่องมือที่ทำงานได้ดีที่สุด ที่ทำให้คนเราเกิดความรู้สึกนึกคิดจนกลายเป็นความเชื่อคืออะไร?


...

"จินตนาการ" ไงครับ :



.