http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-07-06

แก้ได้-ไม่ล้มล้าง, ภายใต้คำพูด, ดราม่า, ปลาไหลยังอาย ในคอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

.
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม - ปูอยู่ยาว 8 ปี  โดย สมิงสามผลัด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

แก้ได้-ไม่ล้มล้าง
โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันศุกร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


จับตาด้วยใจระทึก การไต่ สวนของศาลรธน.กรณีมี ผู้ร้องว่าการแก้ไขรธน. มาตรา 291 เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 
เพราะหากมีคำวินิจฉัยว่าไม่เป็นไปตามที่ผู้ร้องกล่าวหา
ก็เท่ากับว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขมาตรา 291 วาระ 3 ได้ทันที

แต่ถ้าวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครองจริงๆ 
ก็ต้องระงับการแก้ไขรธน. ไปโดยปริยาย 
โดยมีการวิเคราะห์กันด้วยว่าในกรณีนี้อาจเกิดการฟ้องยุบพรรคเพื่อไทย 
อาจหนักหน่วงถึงขั้นให้ตัดสิทธิทางการเมืองส.ส.ที่ยกมือสนับสนุนการแก้ไขรธน.ด้วย


ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ !? 
ส.ส.ค่อนสภาถูกตัดสิทธิทางการเมือง 
แต่นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ 
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของ 9 ตุลาการศาลรธน. ซึ่งมิอาจก้าวล่วงได้

แต่หากย้อนกลับไปดูในอดีต มี 2 เหตุการณ์เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 
อันแรกเป็นคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สรุปออกมาแล้วว่าการแก้ไขรธน.ไม่ขัดมาตรา 68

"เห็นว่าการเสนอขอแก้ไข รธน.ของผู้ถูกร้องมิได้มีเจตนาหรือต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะเมื่อร่างรธน.ฉบับใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีผลเป็นการยกเลิกรธน.ฉบับเดิม สภาร่างรธน.ก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติดังกล่าว คือต้องยกร่างรธน.ฉบับใหม่ให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" 
อันที่สองเป็นคำปราศรัยของนายจรัญ ภักดีธนากุล เมื่อครั้งเป็นส.ส.ร.ยกร่างรธน.ปี50 ที่เคยระบุว่า
"ร่างรธน.ฉบับนี้ (ปี50) เรายอมรับว่าไม่ใช่ฉบับที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด...ผมอยากให้ทำแบบปี 40 เราเสนอแบบให้แค่ 5 หมื่นคนเท่านั้นครับ แล้วก็ส.ส.ในสภา 1 ใน 4 เท่านั้นครับ เสนอแก้ไขมาตราเดียวแบบที่เราเริ่มทำในพ.ศ.2540 แล้วให้กระบวนการนั้นจัดทำกระบวนการร่าง รธน.ขึ้นใหม่"


ทั้งความเห็นของนายจรัญและคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 
คือแก้ไขรธน.ได้-ไม่ล้มล้างการปกครอง 
น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้พอสมควร



++

ภายใต้คำพูด 
โดย มันฯ มือเสือ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันพฤหัสบดีที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


การเมืองเข้าสู่ช่วงไฮไลต์ประจำเดือนก.ค.บบบบบศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคู่กรณีเพื่อวินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 จะเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประ ชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
ตามที่มีผู้ยื่นคำร้องหรือไม่ 

การศึกครั้งนี้ฝ่ายผู้ร้องยื่นรายชื่อพยานทั้งสิ้น 20 ปาก ขณะที่พรรคเพื่อไทยยื่นแค่ 6 ปาก
ดูจากชื่อและจำนวนที่ขี่กัน 3 เท่าตัว ต้องบอกว่าฝ่ายผู้ร้องจัดเต็ม-จัดหนักมากกว่า 
นั่นเป็นเพราะฝ่ายผู้ถูกร้องรู้ว่าต่อให้เสนอพยานไป 6 ปากหรือ 60 ปาก ก็ไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี 

ไม่เช่นนั้นศาลรัฐธรรมนูญคงไม่กล้าเอาชื่อเสียงเกียรติภูมิตนเองเข้ามาเสี่ยงรับคำร้องไว้โดยไม่ผ่านความเห็นอัยการสูงสุด
ท่ามกลางเสียงทักท้วงมากมายจากนักกฎหมายและนักนิติศาสตร์หลายสถาบัน ไม่สามารถเปลี่ยน แปลงแนวคิดหรือจุดยืนของคณะศาลรัฐธรรมนูญได้แม้แต่น้อย


แต่สิ่งที่ชวนให้ฉงนใจคือ เมื่อเร็วๆ นี้ที่มีการรื้อฟื้นคำพูดของนายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาเผยแพร่ 
เป็นคำพูดก่อนการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญเดือนส.ค.2550 
ตอนหนึ่งนายจรัญพูดไว้ว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 มีข้อบกพร่องแต่สามารถแก้ไขได้
"อยากจะให้เราทำแบบเมื่อปี 2540 เรา เสนอให้ 5 หมื่นคนเท่านั้น แล้วก็ส.ส.ในสภา 1 ใน 4 เท่านั้น เสนอแก้ไขมาตราเดียวแบบที่เราเริ่มทำในปี 2540 แล้วให้กระบวนการนั้นจัดทำร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนขึ้นใหม่"

สงสัยทำไมพรรคเพื่อไทยไม่เสนอชื่อนายจรัญอยู่ในบัญชีพยานฝ่ายตนเอง
นายจรัญเป็นอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นผู้ใหญ่ในแวดวงตุลาการ ทั้งยังเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเองอีกด้วย 
คำพูดย่อมศักดิ์สิทธิ์น่าเชื่อถือ

แต่ก็อีกนั่นแหละ
ปัญหาคือแล้วนายจรัญ เชื่อถือในคำพูดของตัวเองเพียงใด 



++

ดราม่า
โดย สับไก กระสุนธรรม 
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันอังคารที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. 


ชื่อสนามบินอู่ตะเภา โด่งดังในหมู่ชาวอเมริกันมาก่อนที่จะเกิดกรณีนาซ่า-อู่ตะเภา ซึ่งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐเพิ่งพับเก็บโครงการตั้งฐานปฏิบัติการสำรวจสภาพอากาศที่อู่ตะเภา หลังการเมืองไทยพ่นพิษ 
อู่ตะเภาเป็นที่รู้จักเพราะเคยเป็นฐานทัพหลักสำหรับปฏิบัติการทิ้งระเบิดของทัพสหรัฐในสงครามเวียดนาม ช่วงปี 2509-2518 
สงครามที่มหาอำนาจสหรัฐพ่ายแพ้และคงลืมได้ยาก

สำหรับเด็กอเมริกันรุ่นใหม่ที่ไม่สนใจสงครามเวียดนาม อาจคุ้นชื่ออู่ตะเภา หรือที่ออกเสียงว่า ยูทาเพา ในภาพยนตร์สตาร์วอร์ส โดยเป็นชื่อดาวยุทธศาสตร์สำคัญในสงคราม 
เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลของหนังเรื่องนี้ระบุว่า ในเรื่องจริง ยูทาเพาคืออู่ตะเภาในประเทศไทยนั่นเอง 
อู่ตะเภาในยามนี้จึงเป็นที่รู้จักทั้งในด้านประวัติ ศาสตร์และความบันเทิง 
ทั้งอาจเพิ่มดราม่าเข้าไปได้อีก หากรวมเอาข้อกังขาของฝ่ายค้านโครงการของนาซ่าในไทยเข้าไปด้วย


สำนักข่าวเอพี สหรัฐรายงานว่า มี "ข้อกล่าวหาอันไร้หลักฐาน" ว่าโครงการของนาซ่าอาจปกปิดการสอดแนมและภารกิจของกองทัพสหรัฐ
จึงระแวงกันว่า อู่ตะเภาอาจถูกใช้ในลักษณะละเมิดอธิปไตย ทั้งอาจทำให้จีนโกรธ เพราะปล่อยให้สหรัฐเข้ามาขยายอิทธิพลในภูมิภาค 
ทั้งที่อู่ตะเภาเดียวกันนี้ กองทัพสหรัฐเคยใช้เป็นฐานเติมน้ำมันของเรือที่เข้ามาช่วยกู้ภัยในมหาภัยพิบัติสึนามิ เมื่อปี 2547 และไซโคลนนาร์กิส เมื่อปี 2551 โดยไม่มีใครโกรธ


อย่างไรก็ตาม สตีฟ โคล โฆษกของนาซ่าในวอชิงตัน ให้ข่าวหลังการล้มแผนตั้งศูนย์สำรวจสภาพอากาศ ว่ายัง "เปิดประตู" ที่จะฟื้นแผนดังกล่าวขึ้นมาอีก 
โดยมีทางเลือกอื่นนอกจากที่อู่ตะเภา ทั้งในและนอกประเทศไทย เพียงแต่ว่ายังไม่อาจจะเปิดเผยได้ในตอนนี้ 
หากเป้าหมายต่อไปอยู่ไทย อาจจะมีดราม่าเรื่องใหม่ผุดขึ้นมาอีก 
เพราะฝ่ายคัดค้านเขาเก่ง



++

ปลาไหลยังอาย
โดย สมิงสามผลัด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ก็แฟร์ๆ ดีที่มีการถ่วงดุล กันบ้าง 
เพราะตลอดเกือบ 1 ปีมานี้ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจับผิดนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เว้นแต่ละวัน 
จับจ้องแทบทุกย่างก้าว
อย่าว่าแต่เสื้อผ้าหน้าผม แค่ขยับตัวก็ผิดแล้ว
กดปิดมือถือระหว่างรอขบวนพระราชพิธีก็ยังโดนหาว่าไม่ เหมาะสม

ล่าสุดนายกฯยิ่งลักษณ์ใส่บาตรวันเกิดก็ยังโดนจับผิดว่าเอาปิ่นโตใส่ลงไปในบาตรพระได้ยังไง 
จนสุดท้ายก็มีคนโพสต์รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยเอาชะลอมใส่บาตร

ยิ่งกว่าปิ่นโตเสียอีก
ที่ผ่านมา นายกฯยิ่งลักษณ์โดนอยู่ฝ่ายเดียว แต่ไม่เคยออกมาตอบโต้
ซึ่งมีคนวิเคราะห์ว่าเป็นจุดเด่นของนายกฯหญิงที่มีความอดทนสูง



แต่การที่โดนใส่ร้ายป้ายสีอยู่ฝ่ายเดียว ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ 
กระทั่ง "โอ๊ค"พานทองแท้ ชินวัตร ประกาศตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์อาปู 
นอกจากตอบโต้ข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยแล้ว ยังรุกคืบไปถึงตัวผู้นำฝ่ายค้านด้วย 
แต่เล่นอย่างเหนือชั้น ไม่ใช่การ "จับผิด" แบบไร้สาระ

เพราะนำข้อมูลหลักฐานในอดีตมาหักล้างกับการกระทำในปัจจุบัน 
มีทั้งคลิปทั้งหลักฐานครบครัน

ก่อนหน้านี้เพิ่งโพสต์ "คลิปมาร์ค รับๆ รัฐธรรมนูญปี 50 ไปก่อน" 
ระบุชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์เคยสัญญาประชาคมว่าจะแก้ไขรธน.ฉบับปี 50 
"ผมบอกไว้เลยครับว่าถ้ามีการเลือกตั้ง แล้วผมได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทน ผมจะยกมือแก้ไขรธน.ฉบับนี้"

พอพรรคเพื่อไทยเสนอให้แก้รธน. กลับขัดขวางจนสภาปั่นป่วนไปหมด
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ระบุว่าการที่รัฐบาลส่งกรณีนาซ่าให้อภิปรายในสภา เป็นเกมการเมือง

โอ๊คก็ไม่รอช้า โพสต์ทันควันด้วยพาดหัวข่าว 
"ฝ่ายค้านท้าโปร่งใสเอาไปถกในสภา"
แต่พอรัฐบาลส่งเข้าสภาก็หาว่าดิสเครดิต 
ฝ่ายค้านอีก

จะเอาคืนพรรคนี้ ทำแบบเลื่อนลอยไม่ได้ 
ต้องขุดหลักฐานมายืนยันกันจะจะ 
แบบว่าต้อง"จับให้มั่นคั้นให้ตาย"



+++

ปูอยู่ยาว 8 ปี 
โดย สมิงสามผลัด 
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันจันทร์ที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:33 น.


การส่งสัญญาณถอยของรัฐบาล 
ทั้งเรื่องนาซ่าที่ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่อนุมัติให้ใช้อู่ตะเภาแล้วส่งเรื่องให้อภิปรายกันในสภาแทน 
ทั้งเรื่องพ.ร.บ.ปรองดองที่มีแนวโน้มว่าอาจมีการถอนทั้ง 4 ร่าง เปิดทางให้มีการทำสานเสวนา ทำความเข้าใจกับประชาชนเสียก่อน 
ก็ชัดเจนว่ารัฐบาลวิเคราะห์แล้วว่า ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแลกหมัดขบวนการจ้องล้มรัฐบาล

ทางที่ดีที่สุดปล่อยให้ประชาชนตัดสินใจเอาเองว่า 
ใครคือคนก่อปัญหา!?

เพราะตอนนี้ฝ่ายตรงข้าม ก็เปิดเผยตัวตนออกมาชัดเจนแล้ว 
ไม่ต้องเป็นอีแอบ เล่นเกมใต้ดินกันแบบสมัยก่อน 
โดยเฉพาะบางพรรค ก็เปลือยตัวตนล่อนจ้อน 
มีจุดประสงค์จะล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ โดยไม่เลือกวิธีเสียด้วย

ทำให้สภาปั่นป่วน ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 
เผื่อฟลุก จะได้ตั้งรัฐบาลใหม่ในค่ายทหารกันอีกรอบ!?


องค์กรอิสระต่างๆ ก็ต่อต้านรัฐบาลชัดเจนขึ้น 
ยกตัวอย่างกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีมติว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรฯ 
ขัดต่อจริยธรรม เพราะเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย 
แต่กรณีรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมต.ต่างประเทศ 
ไม่ขัดต่อจริยธรรม ทั้งที่มีคดีก่อการร้ายเหมือนกัน

 ยืนอยู่ข้างไหน มีอคติกับใคร 
 ประชาชนที่รับรู้ข่าวสารก็ตัดสินใจได้เอง 
 ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเปิดหน้าสู้แบบนี้ แล้วมีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลต้องไปแลกให้เปลืองตัว 
 อะไรถอยได้ก็ถอย

ทำแค่เรื่องหลักๆ  
เดินหน้าบริหารราชการ สกัดกั้นการทุจริต ดูแลเรื่องปากท้องของประชาชนให้กินดีอยู่ดี ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำอีกในปีนี้

ที่สำคัญคนที่อยู่แดนไกลถ้าเลือกที่จะไม่รีบร้อนกลับบ้าน
ไม่ทำอะไรที่กดดันน้องสาว

 รับรองได้เลยว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ยาวถึง 8 ปีแน่นอน



.