โดย จอห์น วิญญู spokedark.tv www.facebook.com/spokedarktv
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1683 หน้า 79
" Listen, smile, agree, and then do whatever the f_ck you were gonna do anyway. Robert Downey Jr."
ผมไม่แน่ใจว่านี่คือคำพูดของ โรเบิร์ต ดาวนี จูเนียร์ จริงๆ หรือเปล่า
แต่ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของประโยคนี้ ความจริงของมันก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
ผมขอมอบประโยคนี้จากเฮีย โรเบิร์ต ดาวนี จูเนียร์ ให้กับเยาวชนไทย ทั้งตอนต้น ตอนกลางและตอนปลายเพื่อถือปฏิบัติต่อไปอย่างเคร่งครัด
อ้อ ผมลืมแปลสินะ
"จงฟัง, ยิ้ม, ตกปากรับคำเขา เสร็จแล้วก็จงไปทำ -่าทำเหวอะไรตามที่ตัวเองจะทำตั้งแต่แรกนั่นแหละ"
เปล่าครับ ผมไม่ได้กำลังยุส่งเยาวชนให้กระด้างกระเดื่องไม่เคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ตามแบบฉบับวัฒนธรรมไทยที่ชอบกอดก่ายกกกันเอาไว้อย่างแน่นเหนียวนักหนา เคารพเถอะครับ ผู้ใหญ่น่ะ ยังไงเค้าก็เกิดมาก่อนเรา การมีมารยาทต่อผู้อาวุโสกว่าเป็นสิ่งดี ไม่สิ
การมีมารยาทเป็นสิ่งดี เราควรมีมารยาทต่อทุกคนโดยเสมอหน้ากัน
เพียงแต่ การที่เรามีมารยาทที่ดีไม่ได้หมายความว่าเราต้องอยู่ในอาณัติของพวกเขาไปด้วย จริงอยู่ บางครั้งเราก็ไม่มีทางเลือก
แต่หลายๆ ครั้ง เราก็มีทางเลือกนี่นะ
ฟังน้องๆ บ่น (รวมถึงด่า) กันฮึมๆ เรื่องความยาก หรือความ "เป็นไปไม่ได้" ของข้อสอบ GAT/PAT ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความฉงนว่า มันอะไรกันนักกันหนา มันยากมากอย่างที่น้องๆ ว่า
หรือมันแค่ยากเกินไปสำหรับคนที่เตรียมตัวมาไม่ดีพอ หรือมันงี่เง่าเหมือนข้อสอบโอเน็ตในยุคแรก หรือยังไงฟระ
ยังไม่ทันได้เปิดดูตัวอย่างข้อสอบเลยครับ
แค่จุดประสงค์ที่ข้อสอบต้องการจะวัดก็ไม่ต้องไปดูอย่างอื่นต่อไปซะให้ปวดกบาล เค้าบอกว่า เป็นข้อสอบ "ให้คิด วิเคราะห์ และเชื่อมโยง"
เขียนขึ้นมาได้ ไม่อายฟ้าดิน ครุคริๆ
คิด? วิเคราะห์? เชื่อมโยง?
ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่พยายามทำให้เด็กเป็นเหมือนกันหมด ตั้งแต่การแต่งตัว ทรงผม การพูด การเขียน การปฏิบัติตัว และความคิดมาตั้งแต่เริ่มเข้าชั้นประถม สร้างวัฒนธรรม "คำตอบถูกมีเพียงข้อเดียว" และการยึดติดหนึบของ "ฟอร์ม" ที่มีความสำคัญกว่า "ฟังก์ชั่น" เสมอ
แล้วพอมาถึง ม.ปลาย ชะเอิงเอย ดันผ่าไปออกข้อสอบที่พวกมันจะต้อง "คิด วิเคราะห์ และ เชื่อมโยง" ด้วยตัวเองขึ้นมาซะหยั่งงั้น!
ถ้าเรียนกันแบบคิด วิเคราะห์ เชื่อมโยง กันมาตั้งแต่เด็ก ผมว่านักเรียนก็ต้องทำได้ซี้
แต่พอแบบนี้มันทำไม่ได้ ตกระเนระนาดก็ออกมาประณามเด็กว่ามันโง่ มันห่วย มันชั่ว มันแรด มันติดเกม
และสารพัดที่จะหยิบยกมาด่ามัน
เรียนไปปวดหัว มีผัวดีกว่า ของจริงว่ะเฮ้ย
ส่วนพวกอัศจรรย์ขั้นเทวดาที่ผ่านข้อสอบ "คิด วิเคราะห์ เชื่อมโยง" พุ่งเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐไปได้ ก็กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบเดิม จดเล็กเชอร์ แล้วท่อง ท่องได้มาก ตอบข้อสอบด้วยคำพูดของอาจารย์กลับไปให้อาจารย์ได้มากเท่าไหร่ ก็รับจำนวนเกรดเอกันไปมากเท่านั้น
เกียรตินิยมเหอะ!
โทษนะฮัฟ คิด วิเคราะห์ เชื่อมโยง มาให้ทำเอาตอนสอบกันแบบนี้ ด๋อยมากก! ช่วยสอนก่อนตั้งแต่ละอ่อนเลยได้ไหมคร้าบบบ!!! อิอิ
...
อภิปรายไม่ไว้วางใจกำลังจะมา ผู้นำฝ่ายค้านเลยจะโดนถอดยศและเรียกคืนเงินเดือนและเบี้ยหวัดต่างๆ เพราะใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้องยื่นสมัครเข้ารับราชการทหาร
เรื่องนี้เคยผ่าน ป.ป.ช. มาแล้วในสมัยที่ผู้นำฝ่ายค้านจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ป.ป.ช. ได้ออกหนังสือมายืนยันความบริสุทธิ์ว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนดังกล่าวไม่มีความผิด ให้เลิกขุดคุ้ยเรื่องนี้กันได้แล้ว
แม้ว่านายทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสารดังกล่าวจะถูกสอบสวนและบางคนก็โดนไล่ออกจากราชการด้วยซ้ำ แต่หน่วยราชการที่ทำหน้าที่สอบทุจริตก็ยังยืนยันว่าคนที่เอาเอกสารเหล่านั้นไปใช้ ไม่มีความผิด
จากนั้นเรื่องก็เงียบ แต่พอเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนรัฐมนตรีกลาโหม การเมืองร้อนแรง ประเด็นดังกล่าวก็ถูกขุดขึ้นมาอีก
และ ณ จุดนี้ก็ประกาศกันโป๊งชื่งโฉ่งฉ่างว่า he มีความผิดจริง ต้องถอดยศเรียกคืนเงินเดือน และเริ่มจะแบไต๋หาเรื่องทำให้หลุดพ้นจากสถานภาพ ส.ส. ไม่รู้จะเล่นงานกันไปถึงระดับไหน จนประชาชนอย่างผมเริ่มมีเสียงก้องในลำหูเป็นประโยคที่ให้คำจำกัดความการเมืองไทยได้ชัดเจนในใจผมจริงๆ "ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย โอย โอย โอยยย"
ลิ่วล้อของ He ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ออกมาปกป้องโวยวายโยนขี้กันใหญ่ว่านี่คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง
มันก็คงจริง
แต่เรื่องที่บัดสะโรยโต๋ยที่สุดก็คือ เชื่อคำพูดใครไม่ได้เลย ตั้งแต่กองทัพ ป.ป.ช.กลาโหม และแน่นอน เหล่ามนุษย์ "ผู้ใหญ่" ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องโดยตรง
คือ คนมันผิดหรือมันไม่ผิด นี่ไม่ใช่ปัญหาทางจริยธรรมเลยนะตัวเธอว์
นี่มันเรื่องทางเทคนิคแล้วขอรับ เอกสารที่ยื่นมันเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ แค่เนี้ยะ
แล้ว ป.ป.ช. ออกหนังสือมาให้ได้ยังไง? ประโถ!
...
และในข่าวที่เกี่ยวข้อง สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยจะเรียกประชุมสมาชิกเกี่ยวกับท่าทีและมาตรการต่อบริษัทไร่ส้ม ในกรณีที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบกรณีถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่าทุจริตเวลาโฆษณาขณะผลิตรายการให้ช่อง 9
เหล่าบริษัทโฆษณาจะรวมตัวกันลงโทษเพื่อสั่งสอนคนทำสื่อในข้อหาทุจริต
เรียกได้ว่า ฮาซึมลึก
คนทำสื่อฟรีทีวีที่มีอยู่ไม่กี่ช่อง ที่คนประมูลช่องได้มายังไงก็สุดจะเดา (เพราะเดาไปก็ถูก ก๊ากๆ) แล้วคนที่ได้เวลาของช่องมาผลิตรายการอย่างไรบ้างก็สุดจะเดาเช่นเดียวกัน (เพราะเดาอีกก็ถูกอีก กร๊ากกกซ์) แต่ธุรกิจนี่มันก็ช่างให้ผลตอบแทนที่หอมหวานซะจริงเพราะใครได้เวลาช่องฟรีทีวีก็จะสามารถสร้างรายได้จากเม็ดเงินโฆษณามหาศาลที่เอเยนซี่สมาชิกสมาคมเนี่ย แย่งกันซื้อเวลาให้ลูกค้าตัวเองแบบลืมตาย
นี่ยังไม่นับบทสวดมาตรฐาน "ความจริงครึ่งเดียว" หรือ "บอก...แต่บอกไม่หมด" ของบุคลากรในวงการที่ว่า
นั่นล่ะครับน้องๆ จะทำอะไรก็ทำเถอะ มีมารยาทต่อเค้า เพราะเราเป็นคนมีมารยาท เค้าจะพูดจะสั่งจะสอนอะไรก็เออๆ ค่ะๆ ไป เสร็จแล้วน้องจะ ทำ-่าทำเหวอะไรก็ทำไปอย่างที่ตั้งใจจะทำแต่แรกนั่นแหละ ยังไงซะก็ยังดีกว่า ที่เราได้ทำอะไรที่เราอยากทำ ไม่ว่าจะผิดหรือถูก เพราะสิ่งที่ "เค้าบอก" ให้เราทำนั้น มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เค้าทำอยู่ดีนั่นแหละ
โตไปไม่โกง
โกงไปไม่โต
โตไปต้องโกง
ไม่โกงไม่โต
ไม่โตต้องโกง
ไม่โกงก็โต
จะเลือกใช้สโลแกนไหนสไลด์ชีวิตไปข้างหน้า
ก็คิด วิเคราะห์ เชื่อมโยงกันเอาเองนะฮ้าร์ฟฟฟฟฟ คริคริ
.
