http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-11-19

มองหลากมุม: ประชาชนถูกเสมอไปหรือ? โดย เกษียร เตชะพีระ

.
อีกบทความ - Hate Speech, Free Speech & Frivolous Speech โดย เกษียร เตชะพีระ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

มองหลากมุม: ประชาชนถูกเสมอไปหรือ?
โดย เกษียร เตชะพีระ บล็อกของ kasian ( ที่มาภาพประกอบ theloftatlizs.com )
ใน http://blogazine.in.th/blogs/kasian/post/3766 . . 14 พฤศจิกายน, 2012 - 19:36


[a comment...] Bus Tewarit
    "คิดไม่ตกว่า ขณะที่เราปกป้องเสียงและดุลยพินิจของประชาชนว่าดีกว่าผู้ทรงศีลหรือนักสิทธิจากการแต่งตั้ง แล้วเราจะปฏิเสธเฮชสปีชได้ไง เราจะบอกได้ไงว่าการพูดแบบนั้นแบบนี้มันจะทำให้คนทำร้ายกันโดย "การพูด" ในเมื่อคุณบอกว่าประชาชนมีดุลยพินิจของตนเอง? มันขัดกันมั้ย"



๑) ประชาชน ผม คุณ ไม่ใช่เทวดา เรามีทั้งด้านสว่าง ด้านมืด ประชาชนโง่ ผิด หลงใหลได้พอ ๆ กับนักสิทธิจากการแต่งตั้งและนักวิชาการ ปัญญาชนทุกคน รวมทั้งผมด้วย ไม่มีใครเกิดมาดวงตาเห็นธรรมแต่เกิด และดวงตาเห็นธรรมตลอดไป

๒) ดังนั้น สังคมหนึ่ง ๆ จึงสร้างกฎในการอยู่ร่วมกันของผมกับคุณและคนที่ต่ำกว่าเทวดาทุกคนไว้เสมอ ไม่ว่าประชาชนทั่วไปหรือคนกลุ่มใดจึงมีการวางระเบียบกฎเกณฑ์บางอย่างเพื่อขีดเส้นกำกับการพูดการเขียนเอาไว้ ไม่ให้ไปรังแกทำร้ายล่วงเกินผู้อื่น เช่น คำบรรยายของผมในชั้นเรียน ไม่มีเสรีภาพจะยุให้นักศึกษาไปฆ่าอาจารย์ท่านอื่น เพราะเขาเลวผิดมนุษย์ รับใช้เผด็จการ ฆ่ามันเลย หรือไม่มีสิทธิ์จะพูดลวนลามรังควานทางเพศต่อนักศึกษาในชั้น แล้วอ้าง free speech, เพราะเราอยากได้เสรีภาพทางการพูดการเขียนการแสดงออก แต่เราไม่บ้าพอจะเอาแต่เสรีภาพอย่างเดียว แล้วทำลายคุณค่าอื่น ๆ ทั้งหมด เช่น สิทธิในร่างกายชีวิตทรัพย์สิน การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่นและตัวเอง
เราอยากได้อันหลังนั้นด้วย อย่าบอด อย่าบ้าจนเอาแต่เสรีภาพแล้วไม่คำนึงอย่างอื่นเลย มันเท่ากับบอดและบ้าจนเอาแต่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่น จนทำลายเสรีภาพหมดเลย มันบอดและบ้าพอ ๆ กัน อย่าเป็นเอง อย่าชวนโลกเป็น

๓) ปัญหาอยู่ตรงกฎเกณฑ์นี้วางอย่างไร กำหนดจากไหน ทุกคนมีสิทธิ์เข้าร่วมและเห็นต่างอย่างเสมอภาคกันไหม? และเมื่อวางกฎเกณฑ์แบบมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาคแล้ว จะมีขั้นตอนกระบวนการเปิดให้คนเห็นต่างแสดงความเห็นต่างและนำไปสู่การแก้ไขโดยเสียงข้างมากตามกฎกติกาอย่างไร?

๔) สิ่งที่ควรเกลียดชังไม่ใช่การมีกฎเกณฑ์ แต่คือกระบวนการสร้างกฎเกณฑ์ที่ไม่เปิดให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมกำหนดเองและทำตามสิ่งที่ตัวเองกำหนดอย่างเสมอภาค และมีเนื้อหาที่ปิดกั้นเกินไปจนทำลายการสื่อสารและสร้างสรรค์ที่พึงมี

๕) เรื่องนี้ในทุกสังคมไม่มีคำตอบสำเร็จรูปตายตัว hate speech หรือ speeches อื่น ๆ ที่ก่อปัญหาหมายถึงอะไรบ้าง? เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ต้องขีดเส้นกั้นคืออะไร? ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปแกะกล่องใช้ได้ถาวรทุกสังคม ไม่มี มันเป็นเรื่องเราต้องลงมานั่งคุยกัน ร่วมกันคิด ร่วมกันเถียง และวางว่ามันอยู่ตรงไหน เท่าที่เราคิดออกตอนนี้ ใช้ไป ถ้าผิด ก็มีกระบวนการมาคิดกันใหม่ แก้ใหม่อีก ไม่มีหรอกกฎภาววิสัยสากลจากเทวดาที่เหมือนกันทุกสังคมและทุกคนต้องเห็นด้วย และไม่ควรมีกฎอัตวิสัยของผู้มีอำนาจ

กฎเดียวที่ควรมีคือกฎที่ intersubjective ไม่ใช่ objective ล้วน ๆ หรือ subjective ล้วน ๆ


Kasian Tejapira(14/11/55)



+++

Hate Speech, Free Speech & Frivolous Speech
โดย เกษียร เตชะพีระ บล็อกของ kasian
ใน http://blogazine.in.th/blogs/kasian/post/3780 . . 18 พฤศจิกายน, 2012 - 23:23


คุณ Bus Tewarit ตั้งกระทู้ว่า:
    "การกล่าวว่า "นายทุน" เป็นคนส่วนน้อย เอาเปรียบ ช่วงชิงเอาทรัพยากร ขูดรีดเอามูลค่าส่วนเกินจากคนงาน จากคนส่วนใหญ่ของสังคมไป ถือเป็น Hate Speech ไหมครับ ?"



ผมคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่น จึงทดลองเสนอตอบว่า:

ผมคิดว่าไม่นะครับ วิธีคิดที่เหมารวมการวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่างว่าเป็น hate speech นั้นไม่ต่างจากวิธีคิดของคนจำนวนมากในสังคมไทยต่อกฎหมาย ม. ๑๑๒ คือไม่สามารถแยกแยะระหว่าง วิพากษ์วิจารณ์ กับ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย เลย ถ้าเราเริ่มคิดแบบนั้น เราก็กำลังเดินตรรกะเดียวกับผู้จงรักภักดีที่ไม่อาจแยกแยะแบบนั้นได้ น่าแปลกใจไหมครับ?

จะว่าไป การวิเคราะห์แบบเศรษฐศาสตร์การเมืองเช่นนั้น ผมก็ทำในชั้น เพื่ออธิบายวิธีคิดแบบลัทธิมาร์กซเทียบกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองสำนักอื่น ๆ ให้นักศึกษาเข้าใจ ส่วนเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง
แต่ถ้านอกจากอธิบายแล้ว ผมแถมว่า "ชนชั้นนายทุนก็เหมือนเชื้อโรคไวรัสในร่างกาย เราต้องฆ่าไวรัสเพื่อสุขภาพฉันใด เราก็ต้องฆ่านายทุนให้หมด ไม่เว้นแม้แต่ลูกเมียมัน เพราะมันไม่ใช่คน มันเป็นสัตว์นรก ฉันนั้น"
แบบนี้ ผมคิดว่าใช่ hate speech นะครับ



หรือในทางกลับกัน ถ้าผมอธิบายลัทธิมาร์กซแล้ว ผมแถมว่า "ลัทธิอุบาทว์นี้เป็นอันตรายต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์อย่างยิ่ง ดังนั้น ถ้าเจอพบคนที่คิดแบบนี้ จัดการศึกษาแบบนี้ เอาหนังสือมาอ่านแล้วนั่งคุยกันแบบนี้เป็นกลุ่มก้อนที่ไหน ฆ่ามันเลยพี่น้อง เพราะฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาปนะพี่น้อง"
แบบนี้ ผมก็คิดว่ามีเหตุผลที่น่าจะสันนิษฐานได้ว่าเป็น hate speech หรือพูดในความเข้าใจผมคือ speech that kills อ่ะครับ


ความเข้าใจและพยายามแยกแยะเรื่องนี้สำคัญ เพราะถ้าทำเป็นเล่น เหมารวมเข้าด้วยกันโดยไม่แยกแยะแล้ว ผมนึกเป็นห่วงเท่านั้นเองว่า สักวันอาจเห็นคุณ Bus สนับสนุนให้ "ยำ" ผู้ไม่ยอมให้แก้ ม.๑๑๒ เพราะมันไม่ใช่คน ฯลฯลฯลฯ โดยถือว่านั่นเป็น free speech นะครับ เอื๊อกกกก

.....

Kasian Tejapira(18/11/55)



.