http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-11-03

พลังที่สำคัญ โดย คำ ผกา

.

พลังที่สำคัญ 
โดย คำ ผกา http://th-th.facebook.com/kidlenhentang 
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1681 หน้า 89


ฉันอาจจะอ่านสัญญาณผิดก็ได้ 
แต่สัญญาณหลายๆ ประการที่เกิดขึ้นในสังคมไทยบอกฉันว่า ชนชั้นนำทางอำนาจกลุ่มเดิมไม่สามารถผูกขาดการ manipulate สังคมได้แบบเดิมอีกต่อไปแล้ว 
การ manipulate ในที่นี้คือการปลุกปั้นปั่นหัวให้สังคมเป็นไปในทางที่ตนเองอยากให้เป็น 
เช่น ยอมปล่อยให้มีการปฏิรูปการเมืองเพื่อรักษาอำนาจและบารมีของตนเองเอาไว้ แต่ครั้นฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเข้มแข็งเกินไปจากการปฏิรูปนั้น ก็ส่งคนของตนออกเดินสายพูดเรื่องนักการเมืองเลว ความโสมมของการเมืองแบบใช้เงินเป็นตัวตั้ง ความชั่วร้ายของการคอร์รัปชั่น ปั่นกระแสโหยหาคนดี ต่างๆ นาๆ เพื่อปูพรมแดงให้ทหารออกมาทำการรัฐประหาร


ส่วนบรรดาคนชั้นกลางที่มักถูกปั่นหัวมาตั้งแต่ฟังเพลงโมสาร์ตตอนอยู่ในท้องแม่ก็รอมอบดอกไม้ให้ทหารที่ออกมา "กู้ชาติ" ออกจากกวิกฤติของนักการเมืองเลว 
ล่าสุดมีความพยายามจะ "ปั่นหัว" แบบนี้กันอีกครั้ง เริ่มจากการการปั่นกระแส "จำนำข้าว" โดยเริ่มจากการบอกว่า รัฐเข้าแทรกแซงกลไกของตลาดเสรี 
แต่ข้อโต้แย้งนี้ก็ต้องตกไป เพราะ "ข้าว" ไม่เคยเป็นสินค้าที่อิสระจากอำนาจรัฐมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นรัฐอยุธยา รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม มาจนถึงรัฐไทยสมัยใหม่
เมื่อข้อโต้แย้งนี้ปั่นหัวไม่ได้ผลก็หันไปหาข้อโต้แย้งใหม่คือ รัฐแทรกแซงการค้าข้าวก็ได้ แต่ต้องไม่ทำโง่ๆ แบบที่รัฐบาลนี้ทำ นั่นคือซื้อจากชาวนาแพงแต่ขายให้ตลาดโลกถูก ทำไปเรื่อยๆ จะนำพาประเทศชาติไปสู่การล้มละลายขายตัว (ทุกวันนี้เศรษฐกิจเรายิ่งต้องพึ่งพิงเงินจากการขายตัวอยู่)
ข้อโต้แย้งนี้ก็ยังไม่สามารถ "ปั่น" หัวชนชั้นกลางในเมืองให้หันกลับมาฟังได้ (ในขณะที่ชาวนาในภาคการเกษตรชื่นมื่นอยู่แล้วตราบเท่าที่รัฐบาลไม่ล้มเหลวในการจ่ายเงินให้ถึงมือชาวนาตรงตามกำหนดที่สัญญาระบุไว้)

เหตุที่ชนชั้นกลางที่ "เกลียด" และอยากล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ออกมารับลูกประเด็นที่ค่อนข้าง "ยาก" นี้ตามที่ TDRI พยายามชงออกมาอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับการโจมตีรัฐบาลด้วยรหัสทางวัฒนธรรมจารีตนิยม
(ความรู้เชิงเศรษฐศาสตร์แบบ TDRI เลยขายไม่ออกกับคนกลุ่มนี้ แต่คนที่ติดตามอ่านงานของ TDRI ตลอด กลับเป็นคนที่สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็ต้องการการตรวจสอบรัฐบาลอย่างมีคุณภาพ และต้องการการตรวจสอบการทำงานของ TDRI อย่างมีคุณภาพด้วย)


คนที่เกลียดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้าไส้ คือคนที่ลุ่มหลงในวรรณกรรมสกุลของ สี่แผ่นดิน, ร่มฉัตร, สองฝั่งคลอง และอะไรที่เป็น "ลิเก" ของไพร่ชั้นกลางที่หลงใหลในวัฒนธรรม (ที่ตนเข้าใจว่าเป็น) "วัฒนธรรมชั้นสูง" 
คนเหล่านี้ไม่สนใจตัวเลขการจำนำข้าวเท่ากับ "นายกฯ ใส่เสื้อผ้าสีอะไรไปงานศพ", "นายกฯ กราบแบมือหรือไม่แบมือ", "นายกฯ ถือกระเป๋าขณะจับมือทักทายผู้นำประเทศอื่น", "นายกฯ จับมือทักทายด้วยมือซ้ายหรือมือขวา?"
และถ้าหากนายกฯ ทำอะไรที่ไม่ตรงกับมารยาทที่ตนเคยอ่านมาจาก นิยาย "ลิเก" โดยมิได้สำเหนียกว่าลิเกไทยมิได้มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ ทว่า ก็ประดิษฐ์แต่งมารับมือกับ "ฝรั่ง" ยุคล่าอาณานิคม มันจึงไม่ได้มีแบบแผนศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่อะไรนัก เผลอๆ ยังไม่ได้ลงตัวเป็น "มาตรฐาน" และมีอะไรที่ปรับไปเรื่อยๆ ตามความเหมาะสมอยู่หลายอย่าง (แต่มักสมอ้างว่าตามประเพณีโบราณ)

ถ้าฉันเป็น TDRI คงอยากจะอาเจียนเป็นเลือด ทั้งเขียนทั้งพูดเรื่องจำนำข้าว "อย่างเป็นวิชาการ" แทบตาย กลุ่มเป้าหมายของตนกลับไปนู่นนนน-ไปดูว่ายิ่งลักษณ์กราบศพที่เขมรแบมือหรือไม่แบมือ 
พรรคฝ่ายค้านก็กระไรเลย แทนที่จะรับลูกจาก TDRI ทำเรื่อง "ข้าว" ให้เป็นประเด็น (เพราะยิ่งมีข้อมูลมาก ประชาชนยิ่งได้ประโยชน์จากการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลมากเท่านั้น และยิ่งข้อมูลจากฝ่ายต่อต้านมาคุณภาพก็ยิ่งกระตุ้นให้รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงกับประชาชนอย่างมีคุณภาพเช่นกัน อันจะยังผลให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด อันเป็นอุดมคติของประชาธิปไตย) กลับไปแห่รถหาชายชุดดำเล่น "ลิเก" ซ้ำให้คนระอา 
ปั่นเรื่องจำนำข้าวมาไม่ได้ผลเพราะชาวนาท้าดีเบตกับนักวิชาการ แล้วดีเบตออกมาเป็นราว ศักดิ์ศรีเสมอกัน พูดจามีเหตุผล

ฉันนั่งฟังในรายการ "คม ชัด ลึก" ก็ทึ่งกับชาวนาเพราะไม่ได้มาดีเบตแบบถูกรัฐบาลล้างสมอง อย่างที่ใครชอบตั้งสมมุติฐานเอาไว้ ชาวนามาพร้อมข้อมูล ผลดี ผลเสีย พร้อมทั้งวิจารณ์นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่ามีข้ออ่อน ข้อบกพร่องอย่างไรบ้าง 
จะให้ดีกว่านี้ (จากจุดผลประโยชน์ของชาวนา) ควรทำอย่างไร จะแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นอย่างไร 
บรรดาชนชั้นกลางที่นั่งจ้องกราบแบมือไม่แบมือแล้วดูถูกชาวนา คนบ้านนอก ฟังแล้วจะสำเหนียกอะไรได้บ้างมิทราบ



จํานำข้าวปั่นไม่ขึ้น หันมาปั่นเรื่องประมูล 3G ดีกว่า

ล่าสุดตัวละครเดิมคือ 40 ส.ว. ออกมายื่นหนังสือให้สำนักผู้ตรวจการตรวจสอบการประมูล 3G โดยอ้างว่า กสทช. เป็นผู้จัดฮั้วประมูล และเริ่มต้นใช้วาทกรรม "เอาสมบัติของชาติไปขายในราคาที่ต่ำกว่าทุน" และ "สกัดกั้นผู้ประมูลรายใหม่" เหตุที่บอกว่า "สกัดกั้นผู้ประมูลรายใหม่" เพราะไม่เปิดกว้างเรื่องคุณสมบัติของผู้ประมูล ขณะเดียวกันก็กล่าวว่า "มาตรฐานการประมูลต่ำ"

คนไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีแต่อยากใช้เทคโนโลยีอย่างฉันที่อึดอัดกับ 3G เจ หรือ 3G ปลอมๆ ที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้ ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ว่า อยู่ๆ จะมาหวง "คลื่นความถี่" ในฐานะที่เป็น "สมบัติของชาติ" อะไรกันตอนนี้ 
ถามต่อไปว่า "ชาติ" ที่เป็น "เจ้าของคลื่นความถี่เนียะ เป็นใคร?" ไอ้ "ชาติ" เนี่ย มันเป็นใคร???? 
คำตอบคือถ้าไอ้เจ้า "ชาติ" ที่ว่ามันหมายถึงประชาชน แล้วประชาชนเขาบอกว่า เขาอยากใช้ 3G จนจะลงแดงอยู่แล้ว และตราบเท่าที่มีมันมีการ "ประมูล" ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าวิธี "คัดเลือกบริษัทที่เหมาะสมในราคาที่รัฐกำหนด" ตั้งเยอะ (ก็ไม่เชื่อน้ำหน้ารัฐบาลกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?)-จะประมูลได้ถูกหรือแพง ก็เขาประมูลกันได้เท่านั้น

ถามแบบแม่ค้าบ้านๆ ก็ต้องถามต่อว่า จะให้ กชทช. ไปบีบคอ เอไอเอส ดีแทค ทรู ว่า "ประมูลให้แพงกว่านี้หน่อยสิ คุณ "ชาติ" เขาเสียผลประโยชน์"-อย่างนั้นหรือ? 
แล้วถามต่อไปว่า การที่ประชาชนจะได้ใช้เทคโนโลยี 3G เสียทีเนี่ย มันเรียกว่า "ผลประโยชน์ของชาติหรือไม่?" และไอ้ "คลื่นความถี่" ที่บอกว่ามันเป็น "สมบัติของชาติ" ถ้ามันเป็น "คลื่น" อยู่อย่างนั้น ไม่ถูกนำมาใช้ มันจะมี "ประโยชน์" หรือไม่?

ต่อข้ออ้างที่ว่า มีแต่บริษัทต่างด้าวท้าวต่างเมืองมาประมูลเอา "สมบัติของชาติไป" เอิ่ม ในยุคโลกาภิวัตน์ขนาดนี้ยังกลัว "ทุนต่างชาติ" กันอีกหรือ? 
แล้วอย่างนั้นรัฐบาลจะสนับสนุนให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยไปทำไม? 
งงไหม?

แล้วคนที่พูดคาถาแบบนี้มาอยู่เรื่อย-คือถ้าเป็นสันติอโศกพูดจะไม่แปลกใจ แต่ถ้าเป็นนักเศรษฐศาสตร์ระดับเทคโนแครตของชาติพูดที่ตกใจนะ-เอาอะไรมาวัดว่า "ทุนไทย" ต้องมี "คุณธรรม" มากกว่า ทุนต่างชาติ?????????  
อะไรที่แปะป้าย "ไทย" มันจะต้องรักคนไทยมากกว่าคนต่างชาติเสมอหรือ? พ่อค้าสมัยนี้เอาผลประโยชน์ที่ติดมากับ "สัญชาติ" ของตนเองเหนือประโยชน์ทางธุรกิจหรือ?

จากนั้นคนที่พูดประโยคนี้ออกมาช่วยทำลิสต์รายชื่อ "ทุนไทย" ที่มีระดับคุณธรรมเหนือกว่า "ทุนต่างชาติ" มาให้ดูหน่อย และช่วยพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่า "ทุนไทย" นั้นขูดรีดน้อยกว่า ผูกขาดน้อยกว่า เอารัดเอาเปรียบคนไทยด้วยกันเองน้อยกว่า!!!!  
TDRI น่ะ ช่วยลิสต์มานักเขียนบ้านๆ โง่ๆ อย่างฉันดูให้เป็นบุญตาหน่อย

แล้วคลั่งชาติกันมากๆ เนี่ย ในเวลาที่นักลงทุนเขาย้ายตูดหนีไปลงทุนประเทศอื่นก็มานั่งคร่ำครวญว่า "ดูสิ รัฐบาลบริหารประเทศห่วยแตก นักลงทุนต่างชาติหนีไปลงทุนที่อื่นกันหมดแล้ว" 
ถึงเวลานั้น ฉันไม่เห็นใครอยากจะไปนั่งตำข้าว หมักผักเน่า ทำปุ๋ยจากอึ แล้วไปอยู่แบบพอเพียงกับสันติอโศกกันสักคน



คงต้องขอบคุณข่าว ตั๊ก บงกช ที่จะหมั้นกับเจ้าสัว และละครแรงเงา ที่ทำให้การปั่นหัวชนชั้นกลางไทยด้วยเรื่อง 3G แป้กตามประเด็นจำนำข้าวไปอีกติดๆ ทั้งนี้ เพราะคนชั้นกลางผู้สนใจเรื่องกราบแบมือกับไม่แบมือก็อยากใช้ 3G จนตัวสั่นแล้วเหมือนกัน

ฉันถึงบอกว่า นี่เป็นสัญญาณที่ดีว่า มุข "ขายชาติ" เริ่มใช้ไม่ได้ผล 
มุขความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ก็ขายไม่ออก เพราะยากเกินไปไม่มีดราม่าลิเกหลงโรงถูกจริตชนชั้นกลาง 
จะปั่นเรื่อง "ล้มเจ้า" ก็ปั่นไม่ขึ้น เพราะป่านนี้ก็รู้กันแล้วว่าไม่มีใคร "ล้มเจ้า" อย่างที่ถูกกล่าวหา มีแพะถูกจับขังไปก็เป็นแค่คนแก่ ผอมๆ จนๆ เป็นมะเร็ง เอาตัวเองยังไม่รอดแล้วจะไป "ล้มเจ้า" ได้อย่างไร สุดท้าย คนแก่คนนั้นก็ตายในคุกไปแล้ว

จะปั่นมุขภูฏาน ดินแดนในฝันก็ปั่นไม่ขึ้น เพราะตอนนี้ชาวโลกก็รับรู้เรื่องภูฏานอย่าง realistic มากขึ้น ว่ายังเป็นประเทศด้อยพัฒนา อัตราการรู้หนังสือต่ำ อัตราการตายของทารกแรกเกิดสูง อายุขัยเฉลี่ยของประชากรต่ำ มีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน การผลักดันผู้ลี้ภัยทางการเมือง ฯลฯ 
สัญญาณที่ดีเหล่านี้เป็นโจทย์ที่ยากมากของกลุ่ม "องค์การพิทักษ์สยาม" ที่แม้จะมีญาติธรรมของสันติอโศกมาร่วมด้วยอย่างเนืองแน่น แต่มวลชนของสันติอโศกนั้นมีจำกัดและด้วยบรรยากาศของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คนไทยเริ่มถูกกดดันจากความก้าวหน้าของประเทศเพื่อนบ้าน

และต้องหันกลับมาถามตนเองว่า เราจะนั่งดูประเทศลาวมี 4G โดยที่ประเทศไทยจะเดินกลับไปนับหนึ่งใหม่ที่ภูฏานหรือ?


การล้มรัฐบาลด้วยการ "ปั่นหัว" ด้วยพล็อตคอร์รัปชั่นและสำนึกชาตินิยมนั้นคงจะขายไม่ออกเสียแล้ว และนับว่าเป็น "โชค" ของรัฐบาลนี้ แต่สิ่งย้อนแย้งกันอย่างมากคือ ฝ่ายค้านตัวจริงและเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพของรัฐบาลคือ มวลชนคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยที่เป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลต่างหากที่สามารถ "ล้ม" รัฐบาลได้ หากรัฐบาลนี้หันเหตัวเองออกจากแนวทางของประชาธิปไตย และผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ

พลังที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญไม่ใช่พลังที่สนามม้า แต่คือ พลังประชาชนที่ให้คุณค่าสูงสุดแก่ความเป็นประชาธิปไตยและตาสว่าง


______________________________________________________________________________________________________

โพสต์แถม

ด้อยพัฒนา กับ ไม่ด้อยพัฒนา
www.youtube.com/watch?v=4jcwhEjVsEc



รถไฟความเร็วสูงลาว-Presentation
www.youtube.com/watch?v=u_OSvNKhucM




.