http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-10-27

เจ้ามือหวย..อำมาตย์..พ่อค้า..อาจารย์ รวมกำลังต้านพายุปฏิรูป โดย มุกดา สุวรรณชาติ

.

เจ้ามือหวย...อำมาตย์...พ่อค้า...อาจารย์ รวมกำลังต้าน พายุปฏิรูป
โดย มุกดา สุวรรณชาติ คอลัมน์ หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1680 หน้า 20


กำเนิดพายุปฏิรูป

ในความเห็นของทีมวิเคราะห์มองการทำงานที่ผ่านมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นแนวทางปฏิรูปมาโดยตลอด เป้าหมายคือยกระดับชีวิตคนชั้นล่างและชั้นกลาง  
ผลที่ได้ ทำให้เกิดการเพิ่มสวัสดิการและเพิ่มพลังการผลิต แต่ก็เพิ่มความขัดแย้งซึ่งมีผลให้มีการเพิ่มพลังทางการเมือง


พลังการผลิตน่าจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเกษตรกร กลุ่มธุรกิจบริการและกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต
แต่พลังทางการเมืองพรรคเพื่อไทยน่าจะได้มากที่สุดในปัจจุบัน
แต่ในอนาคตจะมีทั้งผลบวกและลบต่อทุกกลุ่ม

พรรคไทยรักไทยเกิดช้าไปเล็กน้อย แต่ก็ออกตัวเร็ว ทักษิณไม่ให้เวลากลุ่มอื่นในการปรับตัว และไม่จัดกระบวนทัพก่อนเคลื่อนกำลังการปฏิรูปแบบรวดเร็ว เหมือนพายุ 
เขาอยากพาประเทศไทยไล่ตามโลกสมัยใหม่ให้ทัน 
ผลก็คือเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มที่เคยได้ประโยชน์ดั้งเดิม กลุ่มอำนาจเก่าและกลุ่มทุนเก่า กลุ่มหัวโบราณซึ่งไม่เข้าใจว่าโลกที่เปลี่ยนเร็วขนาดนี้ต้องใช้คนอย่างทักษิณมานำการปฏิรูปจึงจะได้ประโยชน์และอยู่รอด

ด้วยความเสียดายผลประโยชน์ที่เคยได้ซึ่งจะต้องกระจายไปให้คนกลุ่มอื่นและคนชั้นล่าง จึงเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง ถึงขนาดใช้กำลังทหารรัฐประหารรัฐบาลทักษิณในปี 2549 และตุลาการภิวัฒน์ ในปี 2551... 
นั่นคือการไล่ทักษิณไปอยู่กับคนชั้นล่างอย่างเต็มตัว 

ความขัดแย้งยังยืดเยื้อและรุนแรงขึ้นจนต้องปราบประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาล...เทพประทาน...ด้วยกำลังอาวุธในปี 2553 จนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก... 
นั่นคือการประกาศเป็นศัตรูกับคนชั้นล่างเกินครึ่งประเทศ ถ้ามองย้อนไปจนถึงการเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 และยุคเรือปืนฝรั่งในสมัย ร.4 ต้องนับว่าชนชั้นนำในยุคนั้นฉลาดกว่า จึงประคองตัวอยู่ในอำนาจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงได้อีกเกือบ 80 ปี 
แม้ฝ่ายเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งในปี 2554 ดูเหมือนว่ากลุ่มอำนาจเก่าก็จะยังพยายามที่จะชิงอำนาจด้วยวิธีใช้กำลังและด้วยกฎหมายที่ร่างมาหลังรัฐประหาร

ดังนั้น นโยบายปฏิรูปจึงต้องเพิ่มทั้งขนาด และเร่งความเร็วให้คนส่วนใหญ่เห็นผลและยอมรับ


พรรคไทยรักไทย...
พลังประชาชน...
เพื่อไทยและทักษิณ คือนักปฏิรูปทั้งสิ้น


ทักษิณซึ่งควรจะเป็นแกนนำการปฏิรูปที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคสังคมประชาธิปไตยราบรื่นกลับถูกกลุ่มอำนาจเก่าถีบออกนอกวงจรแห่งอำนาจ แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ทำไม่สำเร็จ 
ยุทธวิธีเนรเทศแบบเก่าๆ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง 
ในโลกของการสื่อสารยุคใหม่ การต่อสู้จึงขยายวงออกไปสู่คนทุกกลุ่มทุกชั้น ไม่มีรูปแบบที่จำกัด สู้ตั้งแต่ในถนน ในสภา ในศาล แม้ยังไม่พัฒนาไปสู่การปฏิวัติแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าต่างฝ่ายยังโหมแรงปะทะเข้าใส่กัน

ตัวชี้ขาดที่ทำให้การปฏิวัติยังไม่เกิดขึ้นขณะนี้คือ
1. ตัวทักษิณเองและกลุ่มนำในพรรค ต้องการปฏิรูปแบบสันติ โครงสร้างพรรคและอุดมการณ์ก็ยังเป็นแบบปฏิรูป 
2. กำลังของมวลชนก้าวหน้าที่แม้มีปริมาณมากขึ้นแต่การจัดตั้งในรูปขบวนการหรือองค์กรยังไม่เข้มแข็ง และมีความคิดแตกต่างกันหลายระดับ ยังไม่มีกลุ่มใดจัดตั้งเป็นพรรคปฏิวัติ แม้มีข่าวว่ามีการฟื้นฟูพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมาแต่ก็อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของฝ่ายขวาคงทำได้แค่รับจ้างแต่งชุดดาวแดง และเป็น พคท. รอ. คือรอรับเงินอย่างเดียว 
3. แรงบีบคั้นจากอำนาจเก่ายังไม่ทำให้สถานการณ์ถึงจุดเดือด หลังรัฐประหาร 2549 ยังไม่มีใครกล้าใช้กำลังทำรัฐประหาร แต่จะบีบคั้นและก่อกวนด้วยอำนาจทางกฎหมายไปเรื่อยๆ
4. แรงกดดันจากนานาชาติที่บีบให้ทั้งสองฝ่าย ต้องเดินเกมสันติ ต่อสู้ยันกันไปมาแบบปัจจุบันนี้



ต้านกระแสปฏิรูป...
อำนาจเก่าแทบจะหมดตัวเล่นแล้ว


กระแสการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่องทั่วทั้งโลก แม้พม่าก็ยังต้องตามกระแส แต่ในไทยยังมีคนบางกลุ่มต้านกระแสการเปลี่ยนแปลง ยืนยันว่าจะสนับสนุนการล้มรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งของประชาชน โดยวิธีรัฐประหารหรือใช้ตุลาการเป็นตัวช่วย
บ้างก็แฝงตัวเตะตัดขารัฐบาลในประเด็นและรูปแบบต่างๆ

ที่ผ่านมากลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านกระแสปฏิรูป จะอ้างว่าต่อต้านทักษิณ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่านโยบายปฏิรูปถูกต่อต้านทุกข้อ

คนเหล่านี้ มีทั้งส่วนที่มีจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างและส่วนที่ผลประโยชน์ถูกกระทบ 
พวกเขาคิดว่าตนเองเคยยิ่งใหญ่ เป็นคนดี เก่ง ฉลาด แต่ในกระแสการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ พวกเขาเป็นแค่นกกระจิบในพายุเท่านั้น

ถ้าจำกันได้ กลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลืองเป็นตัวยืนที่ทำหน้าที่ต้านกระแสปฏิรูปตั้งแต่ต้น พอเสื่อมลงก็เปลี่ยนหน้าเป็นกลุ่มหลากสีจากนั้นมาก็ใช้นักวิชาการ ซึ่งในวันรัฐประหารก็แอบไปร่วมประชุมที่โรงแรมกับเขาด้วย นักวิชาการใหญ่ก็ระดมลูกน้องออกมาค้านหลายเรื่อง 
ส่วนทางสภา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทำหน้าที่ค้านตามปกติ แต่อาจเพิ่มแรงแบบไร้สาระ สำหรับองค์กร (ไม่) อิสระ ก็ต้องผลัดกันออกมาต้าน
สุดท้ายผู้ตรวจการแผ่นดินมารับงานก็ถูกตรวจกลับเข้าไปถึงหลังบ้านเลยเงียบไป

ส่วนศาลดูแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะรับงานหนักที่สุด เนื่องจากท่านบอกว่าใครๆ ก็สามารถ มาฟ้องร้องกับท่านได้โดยตรง ดังนั้น อีกไม่นานจะต้องมีคนยื่นเรื่อง อ้อย-น้ำตาล ลำไย การบาเตอร์เทรดสินค้าต่างๆ ให้ตัดสินทั้งเช้าและบ่าย  

สำหรับนักธุรกิจที่ถูกกระทบมีตั้งแต่ธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ จนถึงธุรกิจผิดกฎหมาย มีการระดมผู้ต่อต้านรัฐบาลขึ้นมาเล่นสลับไปมา แต่ 2 ปีหลังนี้ตัวเล่นชักจะหมดแล้ว เพราะยิ่งเล่นยิ่งสร้างความเสื่อมให้กับองค์กรและสถาบันต่างๆ มากมาย 
ประเด็นล่าสุด นโยบายจำนำข้าวที่พ่อค้าข้าวเดือดร้อน แต่ผู้ออกหน้าคัดค้านกลายเป็นอาจารย์นิด้ากับธรรมศาสตร์บางส่วน โดยหวังจะให้ศาลช่วย งานนี้ได้ข่าวว่ามีคนรับงานมา พวกแห่ตามก็ทำงานฟรีไป แต่ดูแล้วชาวนาจะเสียงดังกว่า จึงต้องใช้ ส.ว. ลากตั้ง มาช่วย

ที่จริงแล้วพวกต่อต้านการปฏิรูปไม่ใช่พวกกระจอก หลายคนนับเป็นยอดฝีมือ เพียงแต่กระแสของการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่มาก จึงไม่ใช่เรื่องที่บุคคลจะมาต่อต้านได้ง่ายๆ


สถานการณ์ปัจจุบัน 
ระวัง! นักประท้วงเงา

ล่าสุด พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตกบฏ 26 มีนาคม 2520 ออกมาฟันธงว่าจะมีคนทำรัฐประหาร และวันที่ 28 ตุลาคม ในฐานะประธานองค์การพิทักษ์สยาม เขาได้นัดเครือข่ายภาคประชาชน 30 กว่าองค์กรมาชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง
ฟังดูแล้วก็ไม่ชัดว่าจะประท้วงหรือขับไล่รัฐบาล แต่ข่าวออกมาทำนองว่า อยากตักเตือนรัฐบาล
แต่มีคนเตือนว่าการกบฏครั้งก่อนท่านได้ใช้สิทธิไปแล้ว ตำแหน่งนายกสมาคมมวยก็เหนื่อยจนทำไม่ไหว อย่าไปรับงานหนักมาทำ ขนาดพันธมิตรเสื้อเหลืองยังเหนื่อย เสธ.อ้าย จะเก่งกว่า...สนธิได้ยังไง ถ้าระดมทรัพยากรเยอะๆ อาจพอมีคน แต่ถ้าไม่มีน้ำมันก็ต้องเข็นรถ ทุกคนอยากนั่งรถไม่มีใครอยากเข็นรถ โดยเฉพาะให้เข็นขึ้นเนิน

แต่ เสธ.อ้ายคิดว่ามีน้ำมันพอ มองไปทางไหนก็เห็นเงาคนพลุกพล่าน แลดูคึกคัก 
แต่อย่าคิดว่านั่นเป็น ปชป. อภิสิทธิ์บอกแล้วว่า ปชป. ไม่เกี่ยว พวกเขารุ่นใหญ่ระดับรัฐบาลเงา ผู้ชุมนุมตัวยืนน่าจะเป็นฝ่ายต่อต้านหน้าเก่า แบบหลากสี แต่งานนี้จะมี...ผู้ชุมนุมเงา...เป็นแนวร่วมหน้าใหม่ซึ่งปกติอยู่ใต้ดินมาโดยตลอด

ครั้งนี้ถือเป็นขาใหญ่ของถิ่นนี้เข้ามาร่วมด้วย นั่นคือกลุ่มหวยใต้ดินเพราะตอนนี้ถูกกระทบผลประโยชน์อย่างหนัก รัฐบาลเล่นทุบหม้อข้าว 
สมาคมหวยใต้ดินแห่งประเทศไทยแบบซึ่งหน้า เพราะรัฐจะออกหวยออนไลน์บนดินขาย เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวมาถล่ม ถ้าเป็นแบบนี้เจ้ามือหวยถูกฝังดินแน่ จึงต้องมีการลงขัน ประท้วงกันแบบให้รู้ล่าง รู้บน กันไปเลย 
แต่เรื่องนี้ไม่สามารถประท้วงอย่างเปิดเผยได้ เพราะตนเองทำผิดกฎหมาย จำเป็นต้องอ้างเรื่องอื่นๆ อาศัยคนอื่น ทำตัวเป็นนักประท้วงเงา

แต่ก็อย่าประมาท อิทธิพลของหวยใต้ดินแรงมาก หลังการรัฐประหาร 2549 ก็หาข้ออ้างทางกฎหมายผลักดันให้ล้มหวยบนดิน รัฐบาลถูกฟ้องกันเป็นแถว และหวยใต้ดินก็กลับมาผงาด (อยู่ใต้ดิน) จนถึงทุกวันนี้ แต่ละเดือนมีวงเงินหมุนหลายพันล้าน มีคนเกี่ยวข้องได้ประโยชน์หลายระดับ



สนับสนุนแนวคิดเปลี่ยนสนามม้า
เป็นสวนสาธารณะและที่ชุมนุม


แนวคิดเรื่องการใช้สนามม้านางเลิ้งเป็นที่ชุมนุม ของ เสธ. อ้าย เข้าท่ามาก เพราะ กทม. ไม่ยอมให้ใช้สนามหลวงเป็นที่จัดชุมนุมอีกแล้ว 
โครงการย้ายสนามม้าซึ่งเป็นแหล่งอบายมุขออกนอกเมือง น่าจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ที่ดินผืนนี้เช่าจากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และเมื่อ 10 ปีก่อน มีแนวคิดย้ายสนามม้าออกแล้วสร้างเป็นสวนสาธารณะ หรือแม้แต่เป็นรัฐสภา แต่ก็ไม่สามารถสู้กับอิทธิพลสนามม้าได้

การชุมนุมครั้งนี้จะทดสอบว่าเป็นอย่างไร 
แต่ดูแล้วน่าจะสะดวก เพราะมีทั้งห้องน้ำ ที่จอดรถ ถ้าออกมาดี รัฐบาลควรขอเช่ามาทำเป็นสวนอเนกประสงค์ เป็นที่ชุมนุมก็อยู่ใกล้ทำเนียบ นายกฯ หรือ รมต. ลงมารับเรื่องง่าย ทำสวนสาธารณะ เพิ่มต้นไม้ก็จะกลายเป็นปอดกลางเมือง จัดพื้นที่บางส่วนเป็นสนามกีฬา ช่วงปกติใช้บางส่วนเป็นที่จอดรถ ส่วนใครที่อยากเล่นม้าก็ขับรถออกไปนอกเมือง   

การชุมนุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่แนวร่วมอบายมุขทั้งหลายที่เดือดร้อนจากการปราบปรามของรัฐ ทั้งบ่อน หวย มวย ม้า คงระดมคนมาต่อต้านอย่างเต็มที่ 
ส่วนพวกยาเสพติด ของเถื่อน คงเข้ามาผสมโรงตามสายสัมพันธ์  
งานชุมนุมครั้งนี้จัดในถิ่นที่พวกเขาคุ้นเคย... เมื่อฝนตก ขี้หมูก็ต้องไหลมารวมกัน... แนะนำให้สายตำรวจเข้าไปถ่ายรูปผู้ปฏิบัติงานของกลุ่มอบายมุขซึ่งคาดว่าจะถูกระดมมาร่วมชุมนุมในงานนี้ ต่อไปเวลาจับจะได้ไม่ผิดตัว

ส่วนผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งเป็นพวกที่เข้ามาเพราะความขัดแย้งทางการเมือง บางกลุ่มไม่นิยมอบายมุขถึงขนาดถือศีล 8 อย่างเคร่งครัด 
คนเหล่านี้เหมือนดอกลีลาวดีเหี่ยวที่หล่นลงมาจากต้น เมื่อฝนตก น้ำก็จะชะดอกลีลาวดีให้ไหลลงไปรวมกับขี้หมู กลิ่นดอกลีลาวดีไม่อาจกลบกลิ่นขี้หมูได้ 
สำหรับรัฐบาล ควรสนใจ แต่อย่าให้ราคามากเกินไปและควรใช้อำนาจรัฐที่ตนเองมีอยู่จัดการกับคนเหล่านี้อย่างถูกกฎหมาย อำนาจเงินนอกระบบ ถ้าปล่อยให้ขยายใหญ่ขึ้นอาจถูกใช้ย้อนกลับมาสั่นคลอนอำนาจรัฐได้


ผู้วิเคราะห์ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงวันนี้ยังเป็นกระแสของการปฏิรูปไม่ใช่กระแสปฏิวัติ ขอแสดงความเสียใจต่อนักปฏิวัติด้วย ที่ต้องรอ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงรอบของตัวเอง แต่ดูเหมือนทุกคนมีงานทำและฉลาดพอที่จะไม่ไปร่วมกับ...ลิเกคณะดาวแดง...

เมื่อไม่ใช่การปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพ ความแตกต่างของฐานะของคนกลุ่มต่างๆ ก็ยังมีอยู่ การปฏิรูปครั้งนี้เพียงหวังจะทำให้คนชั้นล่างๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น และมีโอกาสอยู่รอดได้ในแบบที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่ คงคุณค่าของคนไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด


(ส่วนวิธีการและเส้นทางการปฏิรูปจะได้กล่าวถึงในโอกาสต่อไป)



.