http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-12-12

“ข้ามเส้นแบ่ง” โดย ทราย เจริญปุระ

.

“ข้ามเส้นแบ่ง”
โดย ทราย เจริญปุระ charoenpura@yahoo.com  คอลัมน์ รักคนอ่าน
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 07 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1686 หน้า 80


คนเราพอเริ่มทำงานไปนานนานเข้าก็จะเริ่มเบื่อ
ต่อให้เป็นงานที่ชอบแค่ไหนก็ตาม
มันไม่ใช่เบื่อแบบ "เบื่อ" จนถึงขั้นต้องเลิกทำงานหรอก 
มันคือความซ้ำ การทำไปตามหน้าที่ ความรู้สึกว่ามันไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป
ยิ่งนานไป ก็เหมือนมันจะยิ่งยากขึ้น
ไม่ใช่ง่ายลง


แล้วพอถึงในจุดหนึ่ง จุดที่เราเริ่มจะเชี่ยวชาญงานมากขึ้นจนสามารถทำมันไปได้แบบอัตโนมัติ 
เราก็จะทำมันโดยที่ใจล่องลอยไปหาอะไรอย่างอื่น 
สิ่งที่เราสนใจ เรื่องที่เราชอบ คนที่เราคิดถึง อะไรที่อยู่ในใจ 
แล้วมันก็จะปรากฏกายออกมาในงาน



กรณีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่กำลังโด่งดังในเรื่องการเอาชื่อผู้โดยสารท่านหนึ่งมาเปิดเผยจนในที่สุดทางสายการบินต้องเชิญให้ออกนั้น ก็เป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าเข้ากับประเด็นนี้ 
ไล่มาตั้งแต่ประเด็นว่าโลกเรากว้างขวางขึ้นขนาดไหนตั้งแต่เรามีระบบโซเชียล เน็ตเวิร์ก 
เราสามารถเป็นใครคนหนึ่งได้ง่ายๆ จากการกดไลก์และกดแชร์ 
ประเด็นที่ว่าเราเลยจุดของความรักในอาชีพไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้  
ประเด็นที่เราลืมความถูกต้องเหมาะสมในสายงานไปสู่สิ่งที่เราอยากทำมากกว่า ไปสู่สิ่งที่อยู่ในใจ 
ไปสู่ความเป็นตัวตนของเราที่อยากจะฉายออกมาในทุกๆ การตัดสินใจ



"เนื้อร้อง ท่วงทำนอง 
ชิ้นส่วนของบทเพลงในผลงานที่ยังไม่ได้ลงมือเขียนคอยผ่านแวบเข้ามาในความคิด
ขณะอยู่ต่อหน้านักศึกษาในชั้นวิชาสื่อสาร
เขาไม่ใช่ครูที่ดีนัก
แต่สถานภาพที่เปลี่ยนไปและบทเรียนที่เขาคิดว่าไร้ประโยชน์นี้ ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่เหมาะแก่เขายิ่งกว่าครั้งใด"


เดวิด ลูรี เป็นอาจารย์ ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่น่านับถือในฐานะผู้ถ่ายทอดความรู้
แต่เดวิดก็เป็นคนด้วย
เขาจึงเบื่อหน่าย

เดวิดพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง สิ่งที่น่าสนใจในงานของเค้า 
กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขารู้สึกว่าน่าสนใจในงานไม่ใช่เรื่องการสอน 
แต่เป็นที่ตัวนักศึกษา 
แล้วเขาก็เลือกที่จะทำมากกว่าแค่สนใจ



บางวันฉันก็เป็น ซึ่งก็คงไม่ต่างจากทุกคน 
เบื่อสิ่งที่ทำ รู้สึกว่ามันซ้ำซาก 
การได้เล่นเป็นคนนั้นคนนี้ 
บางทีก็ไม่มีความหมายอะไรมากกว่าได้เป็นตัวเองแบบไม่ต้องไปวุ่นวายกับใคร 
เบื่อการกินข้าวกองที่แทบจะหลับตาทายเมนูได้ 
เบื่อการตื่นขึ้น ขับรถ แต่งหน้า รอคอย ทำงานไปหยุดพักไปท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่บางทีก็ไม่เอื้ออำนวย 
เบื่อการพูด เบื่อการที่แม้ผู้กำกับฯ จะสั่งคัตแล้วชีวิตแห่งการแสดงก็ยังดำเนินตามเราต่อไปเหมือนเงาตามตัว 
แต่ฉันเป็นคน และคนก็ย่อมเบื่อ 
ฉันยอมให้ตัวเองเบื่อได้ เพื่อที่จะไม่ต้องทำอะไรที่ตัวเองจะต้องมาเสียใจในภายหลัง


ฉันไปไม่ถึงขั้นเอาความเป็นดารา เป็นผู้ที่คนอื่นเฝ้ามองมาทำอะไรที่ถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่น 
ฉันยังไม่ถึงขั้นเอาความชื่นชมของคนมาหากิน 
ไม่ข้ามขั้นไปไกลขนาดเอาเรื่องลึกลับซับซ้อนที่ควรรู้กันเฉพาะในกองถ่ายออกมาสู่โลกภายนอกอย่างเปิดเผย 

ฉันจะไปไกลถึงขั้นนั้นไหมฉันก็ไม่รู้
แต่ก็ต้องคอยบอกตัวเองไว้ ว่าไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด  
การข้ามเส้นแบ่งแห่งความเหมาะสมนั้นไปตามที่เดวิดและกรณีตัวอย่างที่ฉันยกขึ้นมาได้ทำลงไปนั้น

ชื่อหนังสือนี้จะเป็นตัวที่บอกได้ดีที่สุด 
นั่นก็คือ

"ไร้เกียรติยศ"



.