.
“ธีม”งานแต่ง
โดย ทราย เจริญปุระ charoenpura@yahoo.com คอลัมน์ รักคนอ่าน
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1685 หน้า 80
ทําไมกันนะ
ทำไมเดี๋ยวนี้คนจะแต่งงานต้องมีรูปแบบ ธีมงาน คอนเซ็ปต์อะไรบ้าๆ บอๆ ด้วย
ทำไมต้องบังคับให้เราใส่อะไรที่เราไม่มีในตู้
ทำไมต้องให้เราใส่อะไรที่มีแต่บ่าว-สาวเท่านั้นที่ใส่แล้วจะดูดี
ทำไมเราต้องเสียเงินไปกับชุดที่เราจะได้ใส่แค่ครั้งเดียวแล้วยังต้องเสียเงินใส่ซองช่วยงานอีก
เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยก็แย่อยู่แล้ว
เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เป็นผู้หญิงก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เป็นผู้หญิงและไม่สวยจึงนับว่าแย่ที่สุด
และนั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น
ไหนจะเรื่องที่วันๆ ต้องร่างเอกสาร ส่งเอกสาร คอยรดน้ำต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะหัวหน้า
แบ่งรับแบ่งสู้เรื่องคำชวนไปเป็นสมาชิกขายตรง
และหาเงินไปใส่ซองช่วยทำบุญที่คนรอบๆ ตัวขยันเอามาแจก
ปล้นเงินกันโดยใช้ความดีเป็นข้ออ้างดื้อๆ ก็ทำให้ฉันวุ่นวายมากมายอยู่แล้ว
ยังจะมีเรื่องงานแต่งงานบ้าๆ นี่เข้ามาอีก
บ่นให้ใครฟังก็ไม่ได้ ไม่ไปยิ่งไม่ได้ใหญ่เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าฉันโดยตรงลำพัง ไปงานก็ไม่หนักหนาหรอก แม้ฉันจะรู้ตัวล่วงหน้าทันทีที่ได้ยินข่าวมงคลนี้ ว่าสิ่งที่ฉันต้องโดนแน่ๆ คือการโดนเกณฑ์ไปช่วยงานและสารพัดคำถากถางจิกกัด ที่มาในรูปประโยคที่จะปิดท้ายด้วยคำว่า "แซวเล่นนะ ขำๆ" ที่ว่าด้วยเรื่องการเป็นโสด การไม่แต่งงานซักที การไม่มีคู่ในวัยสามสิบของฉันแน่ๆ
แล้วฉันก็โดนจริงๆ
ซ้ำๆ ซากๆ ตั้งแต่เริ่มรู้ข่าวงานมาจนถึงวันงานนี่แหละ
ถ้าความโสดมันเป็นโรคร้ายเหมือนที่เขาพยายามทำให้ฉันรู้สึกนักล่ะก็
ฉันอยากจะสาปให้ทุกคนติดโรคนี้กันให้หมด
แล้วรูปแบบของงานแต่งงานคราวนี้ก็คือ "โคบาล"
มันบ้าไหมล่ะ
ฉันคิดมาตลอดว่าไอ้เสื้อลายตารางหมากรุกสไตล์โคบาลฝรั่งนี่ถ้าไม่สวยเก๋ สูงโปร่งจริง
ใส่แล้วก็กลายเป็นเหมือนเอาผ้าขาวม้ามาตัดเสื้อกันทั้งหมด
แล้วตัวขนาดฉันนี่ก็ไม่มีใครเขาตัดเสื้อขายให้หาได้ง่ายๆ หรอก
ไปแอบปรึกษาคนในที่ทำงาน (ซึ่งฉันเคยคิดว่าเป็นเพื่อน แต่ไม่อยากจะเรียกว่าเพื่อนอีกต่อไป)
เธอก็แนะนำมาว่า
"แต่งเป็นวัวสิเธอ น่ารักดี" แล้วปิดท้ายประโยคว่า "แซวเล่นนะ ขำๆ" ตามฟอร์ม
ขำบ้านหล่อนสิ
ฉันก็เลยเฝ้าค้นหาอะไรที่ดูเป็นโคบาลแบบที่ฉันพอจะใส่ได้ และยังเข้ากับคนอื่นได้
และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ทำร้ายกระเป๋าสตางค์อันยอบแยบแบบบางของฉันมากเกินไป
สุดท้ายก็มาจบลงที่ชุดนี้
ไม่ใช่เสื้อลายสก๊อตกับกางเกงยีนส์ (ซึ่งเป็นกางเกงที่แสนจะไม่ปรานีต่อรูปร่างของผู้ใส่) หรอก แต่เป็นชุดกระโปรงคอเชิ้ตสีน้ำตาลที่ฉันได้มาจากร้านมือสองในตลาดนัดแถวที่ทำงาน
ฉันจำได้ว่าพร่ำขอบคุณในใจ ถึงผู้หญิงร่างใหญ่ (ฉันเกลียดคำว่าอ้วน) คนที่ใส่ชุดนี้มาก่อน แม้ฉันจะไม่ได้แน่ใจจริงๆ หรอกว่ามันเป็นเสื้อผ้ามือสอง
ก็แค่เดรสแบบเรียบๆ แพตเทิร์นเบี้ยวๆ คัตติ้งห่วยๆ
ผ้าโทรมๆ ตัวนึงที่มองยังไงก็ไม่มีวันจะเป็นของดีไปได้
เอามาขายแล้วบอกว่าเป็นมือสองตามสมัยนิยมก็คงจะเป็นทางออกที่ดี
บวกกับรองเท้าบู๊ตจากร้านเดียวกันซึ่งมันก็ไม่สวยนักหรอก
เหมาะมากที่จะใส่ครั้งเดียวเพื่องานนี้แล้วทิ้งมันไปตลอดกาล
ฉันแอบเอาเสื้อไปปักด้ายสีๆ และหมุดเงินวาวๆ เพิ่ม
ปักผิดปักถูกด้วยตัวเอง จะเอาไปให้ใครช่วยดูก็ไม่ได้
อายเขา
ปักๆ แก้ๆ อยู่อย่างนั้นจนเกือบอ่อนใจ สุดท้ายมันก็เสร็จ
ฉันใส่ชุดนี้กับเสื้อคลุมและรองเท้าหุ้มส้นแบบเรียบๆ ไปช่วยงานตอนเช้าก่อน แล้วเอาบู๊ตใส่ถุงพลาสติกติดตัวไปด้วย
เพราะคาดว่าน่าจะโดนใช้งานเสียจนไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนชุด
ซึ่งก็จริงดังคาด
หยิบ โน่น จัดนี่ ไปหาท่านคนนั้นสิ เอาน้ำไปเสิร์ฟคุณคนนั้นหน่อย ทำไมแอร์มันหนาวแบบนี้ ผู้ใหญ่ท่านทนไม่ไหวกันนะ ทำไมใส่สีนี้มาล่ะ นี่งานแต่งงานนะ
เรื่องแบบที่ไม่ใช่เรื่องของฉันแต่ก็หนีไม่พ้น
ก็เอาล่ะ
สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้
จนมาถึงงานกลางคืน
ต่อให้เป็นผู้หญิงที่ไม่สวยไม่งามขนาดไหน ก็ยังต้องแต่งหน้าแต่งตัวกันบ้างล่ะน่าเวลาออกงาน
แต่ไอ้การแต่งหน้าแต่งตัวไปโดนถากถางเอาเจ็บๆ ด้วยสิ่งที่คนอื่นคิดว่าตลกไปด้วยนี่มันก็ชวนให้หงุดหงิดเสียจริง
ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน
อะไรอะไรมันก็ราบรื่นมาตลอด
จนมาถึงตอนรับดอกไม้ที่เจ้าสาวจะโยนลงมาพร้อมความเชื่อว่าใครได้ไปจะกลายเป็นเจ้าสาวของงานถัดไป
ฉันไม่เชื่อหรอก
ก็งานแต่งของหัวหน้ากรมกองและเพื่อนฝูงมันถี่เสียจนฉันไม่มีทางจะหาคู่ได้ทันแซงใครเขาแน่ๆ
แต่หัวหน้าเขาบอกมาว่าไม่อยากให้ลูกสะใภ้เขาเก้อเวลาโยนดอกไม้แล้วไม่มีคนมารอรับ
พวกสาวๆ (หรือพวกลูกน้องที่เขาบังคับได้) จงมารอให้อื้ออึงเชียวนะ-นี่เป็นคำขอร้องแกมสั่งจากเขา-
ซึ่งเราทุกคนก็ฉลาดพอจะเข้าใจความหมายของวัฒนธรรมสำนักงานข้าราชการที่แฝงมาในนั้น
และพร้อมใจกันไปยืนหน้าสลอนหน้าเวที
แต่มันช่วยไม่ได้เลยที่ดอกไม้นั่นจะตกลงมาตรงฉัน
ช่วยไม่ได้เลยที่ฉันต้องเอื้อมมือไปรับตามสัญชาตญาณ
ช่วยไม่ได้เลยที่ชุดนั่นมันไม่ได้ดีพอจะรับแรงที่เกิดจากปฏิกิริยาปุบปับเช่นนั้นได้
ช่วยไม่ได้เลยที่ตะเข็บข้างมันจะเริ่มปริ
ช่วยไม่ได้เลยที่สาวๆ คนอื่นจะเริ่มมากลุ้มรุมแย่งดอกไม้จากฉัน
ช่วยไม่ได้เลยที่ตะเข็บนั่นจะขาดโหว่เป็นทางยาวพร้อมเสียงแควกจนทุกคนได้ยิน
ช่วยไม่ได้เลยที่ไฟต้องมาจับตรงกลุ่มสาวรับดอกไม้ตามคิว
และ
ไม่มีใครช่วยฉันเลย
ตอนที่ฉันยืนงงอยู่คนเดียวพร้อมช่อดอกไม้ในมือและสีข้างที่เปิดโล่งเป็นทางยาวในชุดขาดๆ นั้น
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย