http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-12-05

การกลับมาของ“หวงอี้” จอมอักษราแห่งบูรพาทิศ โดย สิรนันท์ ห่อหุ้ม

.

การกลับมาของ“หวงอี้” จอมอักษราแห่งบูรพาทิศ 
โดย สิรนันท์ ห่อหุ้ม คอลัมน์ บันเทิง-วรรณกรรม
ในมติชน ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:59:54 น.


คงไม่มีคอนวนิยายกำลังภายในจีนคนไหนที่จะไม่รู้จัก "หวงอี้" นักเขียนชาวฮ่องกงวัย 58 ผู้เบิกฟ้าฝ่าพิภพสร้างเส้นทางสายใหม่ให้ยุทธจักรกำลังภายในได้รุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ร่วงโรยมาระยะหนึ่งเมื่อมังกรโบราณเจ้าของผลงานอมตะ "โกวเล้ง" ได้ลาลับสู่สวรรค์ และ "กิมย้ง" ผู้ร้อยเรียงนิยายกำลังภายในจีนให้ผสานกับประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว ได้ตัดสินใจยุติชีวิตในบรรณพิภพหลังจากขึ้นสู่จุดสูงสุดของงานเขียน

หวงอี้เป็นหนอนหนังสือตัวยงและชอบศึกษาศาสตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ดาราศาสตร์ยันเทคโนโลยีล้ำสมัย และหลังจากที่นิยายกำลังภายในขนาดสั้นได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร "บู๊เฮี้ยบสี่ก่าย" เพียงครั้งแรก เขาก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานฮ่องกงอาร์ต ดีเวลอปเมนต์ เคาน์ซิล เพื่อก้าวสู่อาณาจักรนิยายกำลังภายในอย่างเต็มตัว


ผลงานของหวงอี้มีจุดเด่นสำคัญคือการหลุดพ้นกรอบของรุ่นก่อน โดยสามารถนำประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มาหลอมรวมกับกำลังภายในได้อย่างลงตัว มีพล็อตเรื่องที่สลับซับซ้อนสามารถสะท้อนให้เห็นถึงมนุษย์ยุคศตวรรษที่ 21 ในทุกรูปแบบ เมื่อประกอบกับฝีมือในการถักทอเรื่องราวที่ทำขึ้นอย่างประณีตละเมียดละไมและสนุกสนานน่าติดตามไม่แพ้ปรมาจารย์ในอดีต จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำให้ผลงานที่เขาสร้างสรรค์มากว่า 20 ปี อาทิ "เจาะเวลาหาจิ๋นซี", "มังกรคู่สู้สิบทิศ", "เทพมารสะท้านภพ", "จอมคนแผ่นดินเดือด" ฯลฯ จะได้รับการจารไว้ในรอยจำของคอนิยายอย่างมั่นคงและยาวนาน และแฟนๆ ก็ล้วนแต่รอคอยผลงานเรื่องใหม่จากเขาอยู่เสมอ


แม้เขาจะหายไปถึง 5 ปี หลังจากมังกรคู่สู้สิบทิศประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พร้อมกับมีข่าวแว่วมาจากเกาะฮ่องกงว่า "หวงอี้" กำลังจะวางปากกาแล้วก็ตาม
หากในที่สุด หวงอี้ก็กลับมาพร้อมกับกับผลงานล่าสุด "ย่อเยี่ยตังคง" " หรือ "สุริยันจันทราประดับนภา" แต่ฉบับภาษาไทยใช้ชื่อ "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" ..(The Only Woman Emperor of China)..

หวงอี้ให้สัมภาษณ์ในวันที่มาเยือนเมืองไทยว่าจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้คิดว่าจะวางมือตั้งจะพักเท่านั้น เพียงแต่คงพักนานไปหน่อย
"ทุกวันผมจะตื่นแต่เช้า จูงหมา 5 ตัวไปเดินเล่น บางทีก็ไปขี่จักรยานออกกำลัง ดูหนังฟังเพลง ที่ชอบที่สุดคือนอน นอกจากนี้ คือไปเที่ยว เล่นเกม เดินทางต่างประเทศ หาแรงบันดาลใจที่จะเขียนหนังสือ การเขียนสำหรับผมเป็นโรคติดต่ออย่างหนึ่ง คือเวลาป่วยหนักแล้วจะต้องทำอะไรบางอย่าง พอเริ่มแล้วหยุดยาก ผมก็หวังว่าครั้งนี้จะป่วยนานๆ ตอนเขียนมังกรคู่สู้สิบทิศ ผมป่วยมา 5 ปี และหวังว่าเรื่องใหม่นี้จะนานกว่านั้น" หวงอี้กล่าว

"น. นพรัตน์" นักแปลคู่บุญของหวงอี้เผยว่า สาเหตุที่หวงอี้กลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ไม่ใช่เพราะต้องการพิสูจน์ความเป็นเจ้ายุทธจักรของนวนิยายกำลังภายในตามที่หลายคนวิเคราะห์แต่อย่างไร แต่เป็นเพราะหมาตัวโปรด 
"หวงอี้เล่าให้ผมฟังว่าหมาตัวโปรดของเขาตายไปเมื่อต้นปี เพราะฉะนั้น จุดศูนย์กลางของชีวิตของเขาเลยเปลี่ยนไป ประกอบกับเขาตกผลึกความคิดในชิ้นงานได้หลายอย่าง และรู้ว่าการทำงานเท่านั้นที่จะทำให้เขาคลายความคิดถึงหมาตัวโปรดได้ เขาเลยตัดสินใจกลับมาเขียน"


"เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ในช่วงต้นราชวงศ์ถัง ตั้งแต่ปี ค.ศ.684 ถึง ค.ศ.704 เล่าเรื่องราวอีกหกสิบปีหลังจาก "มังกรคู่สู้สิบทิศ" เมื่อ "พระนางบูเช็กเทียน" ผู้ล้มล้างราชวงศ์ถัง สถาปนาราชวงศ์โจวขึ้นแทน โดยตัวละครเอกในเรื่องนี้คือ "หลงอิง" บุรุษหนุ่มผู้ถือกำเนิดจากพรรคมารและได้ฝึกปรือวิชาจิตแห่งธรรมปลูกฝังมาร ซึ่งจะมาต่อสู้ช่วงชิงในเหตุการณ์ต่างๆกับจักรพรรดินีอย่างน่าตื่นเต้น นี่เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งในงานของหวงอี้ที่สามารถรังสรรค์ตัวละครใหม่ๆ ให้เข้าไปมีชีวิตในประวัติศาสตร์ได้อย่างมีมิติ

หวงอี้กล่าวว่าเขาชื่นชมในตัวของพระนางบูเช็กเทียน และคิดไว้ว่าสักวันหนึ่งจะเขียนถึงพระนางให้ได้ และชื่อเรื่อง "ย่อเยี่ยตังคง" ก็ต้องการสื่อความหมายถึงตัวหนังสือที่พระนางบูเช็กเทียนทรงคิดค้นขึ้นมาใหม่สำหรับพระนามของพระองค์ ซึ่งประกอบด้วยคำว่า "ย่อ" (สุริยัน) "เยี่ย" (จันทรา) และ "คง" (เวหาหาว) 
"เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" วางจำหน่ายพร้อมกัน 3 ประเทศ คือ ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย ส่วนที่จีนนั้นหวงอี้ได้เซ็นสัญญากับ "บริษัท ฉีเตี่ยนจงเหวินหว่าง เซิ้งต้าเหวินเซว" เจ้าของเว็บไซต์หนังสือที่มีผู้คนเข้าไปโหลดมากที่สุดในจีนเพื่อจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊ก ฉบับภาษาจีน ซึ่งล่าสุดมีการอ่านไปแล้วกว่า 500,000 ครั้ง ก่อนหนังสือเล่มจะเปิดตัวปลายเดือนนี้



"ผมพยายามคิดค้นหาความเป็นไปได้จากงานสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ามองข้ามหรือเก็บกดอย่างไร การค้นหาและการก้าวข้ามเป็นความฝันที่มนุษย์เสาะแสวงหาตลอดเวลา ผมเจอคำถามบ่อยมากว่าสามารถผสานเรื่องของประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และกำลังภายในให้เป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างไร ซึ่งผมตอบไม่ได้จริงๆ เพราะทุกอย่างคือการลื่นไหลของอารมณ์" หวงอี้กล่าว

"การดำรงชีวิตของคนเราควรทำให้เรียบง่าย ก่อนนอนไม่ต้องคิดอะไรมาก วันพรุ่งนี้ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล ในงานเสวนาครั้งหนึ่งมีคนถามผมว่าคุณเขียนเกี่ยวกับการเข้าสู่วิถีแห่งฟ้า คุณเข้าใจชีวิตดีแค่ไหน ผมก็ตอบไปว่า ชีวิตมนุษย์เหมือนกระดานหมากรุก ทุกคนคือตัวหมาก ส่วนกระดานคือความเป็นความตาย เราเกิดมาเราก็เป็นตัวหมากบนกระดานแล้ว จะออกจากกระดานได้ก็เมื่อวันตายมาถึง การจะเข้าถึงวิถีแห่งฟ้า คือต้องหลุดพ้นจากความเป็นความตาย เข้าใจและรู้อย่างถ่องแท้ว่า ตัวเราเป็นแค่ตัวหมากบนกระดานเท่านั้น เมื่อเราไม่ยึดติดกับผลแพ้ชนะของหมากกระดานนั้น ตัวหมากก็จะหลุดจากกระดานได้ เราก็จะเข้าสู่วิถีแห่งฟ้า เข้าสู่สัจธรรมแห่งชีวิต"

หวงอี้วางไว้ว่านิยายเรื่องนี้จะยาวประมาณ 20 เล่ม กว่าจะจบคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน

"ทั้งเชื่อมั่นว่านี่เป็นผลงานที่ทุกคนจะไม่ผิดหวัง"



.