http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2557-02-07

Respect the Crook? Yes, We Should. โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์

.

นิธิ เอียวศรีวงศ์: Respect the Crook? Yes, We Should.
ใน http://prachatai3.info/journal/2014/02/51675
. . Fri, 2014-02-07 16:32

( เผยแพร่ครั้งแรกใน: มติชนสุดสัปดาห์ 7-13 ก.พ. 2557 ปี34 ฉ.1747หน้า 30 
ที่มา: sujitwongthes.com/outlineofthaihistory )


ผมได้เห็น ศาสตราจารย์ธีรยุทธ บุญมี ตั้งคำถามในข่าวทีวีว่า respect my vote หมายถึง respect คนโกงด้วยหรือไม่

นับเป็นคำถามที่ประหลาดมาก เพราะดูเหมือนท่านอาจารย์ธีรยุทธรู้อยู่แล้วว่า ผู้ที่ต้องการเลือกตั้งต่างตั้งใจจะเลือกใคร และไม่ว่าใครที่พวกเขาอยากเลือกล้วนเป็นคนโกงทั้งสิ้น {เพราะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บอยคอตการเลือกตั้งหรืออย่างไร}

แต่ผมคาดเดาไม่ถูก ว่าผู้ที่รณรงค์ให้เคารพสิทธิลงคะแนนเสียงของเขา (ในหลายรูปแบบ) ตั้งใจจะเลือกใคร อีกทั้งผมไม่เชื่อด้วยว่าจะมีใครรู้ได้
เพราะคนกลุ่มนี้ประกอบด้วยคนหลากหลายความเห็นทางการเมืองมาก เสียจนยากจะคาดเดาได้ ยกเว้นแต่มีทัศนะเชิงดูหมิ่นพวกเขามาแต่ต้นแล้วว่า ผู้เลือกตั้งส่วนใหญ่คือคนโง่ ที่มักถูกผู้สมัครรับเลือกตั้งหลอกลวงเสมอมา

และนี่คือความชอบธรรมที่จะขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีรุนแรงป่าเถื่อนใช่หรือไม่?

แม้แต่สมมติว่า ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่ตัดสินใจผิด เพราะเห็นแก่ตัว เพราะได้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ เพราะคิดสั้นเกินไป หรือเพราะเหตุใดก็ตามที่เป็นความบกพร่องอ่อนแอของมนุษย์ หากมีความเคารพสิทธิและความเป็นมนุษย์ของผู้เลือกตั้ง เราควรเลิกเคารพสิทธิเลือกตั้งของเขากระนั้นหรือ



ผมแน่ใจว่า ท่านอาจารย์ธีรยุทธคงไม่เห็นด้วยกับผมว่า ในฐานะนักวิชาการ สิ่งที่ควรทำก็คือสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พวกเขา ด้วยข้อมูลที่เขาอาจจะยังไม่ทราบ ด้วยมุมมองต่อกรณีต่างๆ ที่พวกเขาไม่เคยถูกชวนให้มองมาก่อน ด้วยการทำให้เขาเห็นพ้องกับเราว่าถึงที่สุดแล้ว ประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวมนั้นแยกออกจากกันไม่ได้

ท่านอาจารย์ธีรยุทธซึ่งมีความสามารถเหนือนักวิชาการทั่วไป ในการทำให้ความเห็นของตนเป็นที่รับรู้ในสังคม ย่อมสามารถทำสิ่งที่ผมกล่าวข้างต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว หากท่านอาจารย์ประสงค์จะสร้างคุณูปการด้านสติปัญญาแก่สังคมจริง

อย่างไรก็ตาม การจะทำดังที่กล่าวนี้ได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการมองคนอื่นซึ่งแม้มีความเห็นทางการเมืองต่างจากเรา ก็มีความเป็นมนุษย์และความเป็นพลเมืองที่เสมอภาคกับเราและบริวาร หากปฏิเสธข้อนี้ ก็คงไม่เห็นประโยชน์ที่จะไปแลกเปลี่ยนความคิดความเข้าใจของตนกับคนอื่น และอาจมองเห็นว่าพวกเขาควรถูกลิดรอนหรือแม้แต่เพิกถอนสิทธิพื้นฐานอันเป็นสมบัติพื้นฐานของทุกคน


อันที่จริง การกล่าวหาผู้ที่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งของตนว่าคือผู้ที่พร้อมจะเลือกคนโกงนั้น ก็เป็นการกล่าวหาโดยไม่ต้องพิสูจน์ด้วยกระบวนการที่ชอบธรรม อันเป็นการกล่าวหาซึ่งกระทำอย่างสืบเนื่องในสังคมไทยมานาน สิทธิความเป็นมนุษย์และความเป็นพลเมืองของผู้ถูกกล่าวหาด้วยวิธีเช่นนี้ ไม่ได้รับความเคารพอีกต่อไป และผู้กุมอำนาจ (ไม่ว่าจะมาจากอำนาจเผด็จการ, การเลือกตั้ง, ประเพณีหรือการปลุกม็อบ) สามารถลงทัณฑ์เขาอย่างไรก็ได้ ทั้งโดยเปิดเผยและอย่างซับซ้อนซ่อนเงื่อน

ความป่าเถื่อนอนารยะอย่างสุดประมาณซึ่งเกิดในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ก็เกิดขึ้นจากการกล่าวหาที่ไม่ต้องพิสูจน์ด้วยกระบวนการที่ชอบธรรมนี่แหละ และท่านอาจารย์ธีรยุทธคงจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้


นักศึกษาปัญญาชนจำนวนหนึ่งถูกกล่าวหาโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่า เขาคือเอเย่นต์ของคอมมิวนิสต์ต่างชาติ และด้วยเหตุดังนั้นเขาจึงไม่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เขาคือคนหนักแผ่นดิน และสูญเสียคุณค่าของความเป็นมนุษย์ไปโดยสิ้นเชิง ใครๆ (ซึ่งที่จริงไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นกองกำลังของรัฐ หรือที่รัฐจัดตั้งขึ้น) ก็สามารถประหัตประหารเขาอย่างทารุณโหดร้ายอย่างใดก็ได้


อย่างที่ท่านอาจารย์ธีรยุทธน่าจะทราบดีอยู่แล้ว กระบวนการทำลายความเป็นมนุษย์ของพวกเขา เริ่มขึ้นก่อน 6 ตุลามานานเป็นปี โดยได้รับความร่วมมือจากสื่อ, ปัญญาชน, กองทัพ, สถาบันตามประเพณีทั้งหมด เช่น ภิกษุในองค์กรคณะสงฆ์ และบางส่วนในสถาบันตุลาการ, นักธุรกิจและนายทุนธนาคาร, พรรคการเมือง ซึ่งมุ่งจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางการเมืองจากกระบวนการนี้ ฯลฯ

กระบวนการทำลายความเป็นมนุษย์ของปรปักษ์ทางการเมือง ให้ความชอบธรรมแก่การใช้ความรุนแรงป่าเถื่อน กระทำซ้ำแล้วซ้ำอีกในสังคมไทยสืบมา ทหารที่ยิงประชาชนอย่างโหดร้ายในเหตุการณ์พฤษภามหาโหดปี 2535 ถูกบอกว่า ต้องปราบปรามคอมมิวนิสต์ผู้ไม่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผมไม่ทราบว่า ทหารที่ซุ่มยิงประชาชนอย่างเลือดเย็นในปี 2553 ถูกบอกว่าอะไร แต่คงมีกระบวนการทำลายความเป็นมนุษย์ของเสื้อแดงมากเสียจน ทหารยิง “คน” (ซึ่งไม่ใช่ข้าศึก) ได้อย่างไม่ลังเลเช่นนั้น


ในฐานะบุคคลที่ต้องเผชิญประสบการณ์อันเลวร้าย เนื่องจากการถูกทำลายความเป็นมนุษย์ ในเหตุการณ์ 6 ตุลา จนต้องหนีตายไปไกล ผมก็ได้แต่หวังว่าท่านอาจารย์ธีรยุทธคงเห็นด้วยกับผมว่า เราต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อยุติการกล่าวหากันโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่ชอบธรรม มิฉะนั้น ลูกหลานของเราก็ต้องวิ่งหนีตายจากความอยุติธรรมไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนบรรพบุรุษของเขา


อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจว่าท่านอาจารย์ธีรยุทธคงไม่เห็นด้วยกับผม ท่านจึงกล่าวว่า หากท่านได้พบ คุณทักษิณ ชินวัตร ต่อหน้าอีกครั้ง ท่านพร้อมจะทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ คำกล่าวของท่านได้รับการตอบรับด้วยเสียงเฮใหญ่ที่ดังเข้ามาในข่าวทีวี และผมเชื่อว่าเป็นเสียงเฮเดียวกับที่ผู้คนจำนวนไม่น้อย ตอบรับวิทยุยานเกราะในวันที่ 4-6 ตุลาคม 2519

ผมไม่ทราบหรอกว่า ท่านอาจารย์ธีรยุทธจะละเมิดกฎหมายถึงขั้นไหน หากได้พบคุณทักษิณต่อหน้า แต่เสียงเฮของผู้คนที่ตอบรับคำกล่าวของท่าน ทำให้รู้ว่าไม่มีกฎหมายใดๆ ให้ความคุ้มครองต่อชีวิตและร่างกายของคุณทักษิณในประเทศนี้อีกแล้ว เหลือแต่การถูกตอกอก, จับแขวนคอ, ฟาดด้วยเก้าอี้เหล็ก, และเผานั่งยางเท่านั้น

โดยท่านอาจารย์ธีรยุทธไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ อย่างเดียวกับที่วิทยุยานเกราะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ สืบมาจนทุกวันนี้


และนี่ย่อมสัมพันธ์กับคำถามว่าเราควรเคารพคนโกงหรือไม่ ซึ่งผมได้ตอบอย่างหนักแน่นไปในชื่อบทความว่า เราควรเคารพคนโกง

ในสังคมที่มีวุฒิภาวะเพียงพอ เราควรเคารพคนโกง อันเป็นคนละเรื่องกับการเคารพการโกง
อย่างไรเสียการโกงก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ควรได้รับความเห็นชอบจากใครทั้งสิ้น


คนที่มีประวัติการโกงมาอย่างโชกโชน แต่อ้างว่าเขาคือโจรกลับใจ ยังได้รับความเคารพอย่างกว้างขวางในทุกวันนี้ ก็เห็นๆ กันอยู่ไม่ใช่หรือครับ แม้กระนั้น เราก็ไม่ควรเคารพการกระทำ เช่น การเอาที่ดิน ส.ป.ก. ไปกระจายให้บริวารของตนเอง, การเอาเปรียบในการค้าน้ำมันพืช, การบุกรุกที่ดินสาธารณะเพื่อครอบครองเป็นของตนเอง ฯลฯ

แม้เราไม่สามารถเคารพการโกงได้ แต่เราก็ยังควรเคารพคนโกงอยู่นั่นเอง นั่นคือเคารพในความเป็นคนหรือความเป็นมนุษย์ของเขา ไม่ว่าเขาจะชั่วร้ายคดโกงมาอย่างไร สิ่งที่ไม่มีวันหายไปจากเขาก็คือ ความเป็นมนุษย์ซึ่งเราควรให้ความเคารพ

สังคมมนุษย์ได้พัฒนาการลงโทษคนเกเร ที่ไม่ยอมอยู่ในกรอบกติกาของสังคมมานาน เป็นวิธีที่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่เราก็เฝ้าแก้ไขวิธีเหล่านั้นสืบมาจนปัจจุบัน ทั้งเพื่อให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการป้องกันการกระทำผิด แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการแก้ไขปรับปรุงวิธีลงโทษคือการให้ความเคารพความเป็นมนุษย์ของคนโทษ

ในประเทศไทย แม้ยังไม่ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิต (ซึ่งจากการศึกษาในหลายสังคม ไม่มีส่วนในการยับยั้งการทำผิดอย่างมีประสิทธิภาพเลย) แต่ก็ได้เปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตจากการยิงเป้าเป็นการใช้ยาพิษที่ไม่สร้างความน่าสะพึงกลัวและเจ็บปวดแก่ผู้ต้องโทษ นั่นคือการแสดงความเคารพต่อความเป็นมนุษย์ของเขาอย่างหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน ก็มีคนอีกหลายกลุ่มที่กำลังรณรงค์ให้กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติต่อผู้ต้องโทษอย่างที่เคารพต่อความเป็นมนุษย์ของเขา เช่น เลิกการตีตรวน, ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำ, ปรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คุมและผู้ต้องขังให้สะท้อนความเคารพต่อความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขังมากขึ้น และยกเลิกโทษประหารชีวิตและทำร้ายร่างกายโดยสิ้นเชิง

ทั้งหมดนี้คือการเคารพคนโกง เคารพความเป็นมนุษย์ของคนโกง ซึ่งเราทุกคนควรให้ความเคารพ ไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่อยู่ในทัณฑสถานเท่านั้น แต่แก่ทุกคนที่ถูกกล่าวหา ทั้งที่พิสูจน์ด้วยกระบวนการอันชอบธรรมแล้วหรือยัง




ยิ่งคิดถึงการกล่าวหาในสังคมไทย ซึ่งบ่อยครั้งบ่อยหน ไม่ได้มีการพิสูจน์ด้วยกระบวนการอันชอบธรรมอยู่เสมอ ยิ่งต้องคิดให้หนักขึ้นว่า การจะละเมิดเขาด้วยการทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง หรือพูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้น คือเอากฎหมายมาอยู่ในมือของตนตามอำเภอใจ ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำขึ้นไปใหญ่

หากเรามีกระบวนการยุติธรรมที่เยิ่นเย้อยืดยาดและอาจขาดความเที่ยงธรรม (เช่น กรณี เชอรีแอนน์ ดันแคน) หากเรามีอำนาจรัฐที่ใช้กระบวนการกล่าวหาที่ไร้ความชอบธรรม หากเรามีองค์กรที่มีอำนาจเหนือรัฐซึ่งใช้การกล่าวหาที่ไร้ความชอบธรรม เป็นเครื่องมือในการเถลิงอำนาจหรือรักษาอำนาจแบบไม่ยอมปล่อย เราควรร่วมกันต่อสู้กับความอยุติธรรมเหล่านั้น หรือเราควรร่วมมือไปกับกระบวนการฉ้อฉลเช่นนั้น

ฉ้อฉลแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ คือโกง แม้ไม่เกี่ยวกับเงินโดยตรง (แต่ก็เกี่ยวจนได้ และเกี่ยวทุกที นับตั้งแต่การยึดทรัพย์ของเผด็จการทหารมาจนถึงซีทีสแกน และบัลลูนที่ไม่ยอมลอย)

ผมมีคำตอบของผม และท่านอาจารย์ธีรยุทธก็คงมีคำตอบของท่าน



.