http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2557-02-22

เกรงใจ ปชช.บ้าง, ความต่าง2 รบ., คนดี-สร้างได้, สมุนขี้ข้า-พอกัน, มือที่กดปุ่มสั่งทั้งพรรค โดย วงค์ ตาวัน

.

เกรงใจประชาชนบ้าง
โดย วงค์ ตาวัน

ใน www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qazVOVGswTnc9PQ
. . วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.



เพราะการศึกครั้งนี้มันยืดเยื้อยาวนาน ยิ่งรบยิ่งลากยาวไม่สำเร็จเสร็จสิ้นเสียที เลยต้องปรับเปลี่ยนแผนกันเป็นระยะๆ เป็นเหตุให้ต้องเปิดตัวเปิดหน้ากันออกมาสู้มากมายหลากหลายขึ้น
แผนนี้ทำอะไรไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ เปลี่ยนกระบวนใหม่ เปลี่ยนเรื่องใหม่ เปลี่ยนผู้คนและองค์กรใหม่ๆ มาจัดการ

นับวันชาวบ้านจึงได้เห็นชัดเจนขึ้นว่า รัฐบาลกำลังโดนรุมสกรัมจากสารพัดคณะสารพัดองค์กรเช่นไร!?
คนละไม้คนละมือ ปิดโน่น ขัดขวางนี่ ล็อกนั่น สกัดนี่ เงื้อดาบเตรียมเชือดในวันนั้นวันนี้ 
ตั้งแต่การเลือกตั้ง ไปยันการปฏิบัติหน้าที่ และกรณีการจ่ายเงินจำนำข้าว จนถึงคดีจำนำข้าว

พูดง่ายๆ ว่า กำลังทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อกำจัดรัฐบาลอย่างเดียว

เอาเรื่องปฏิรูปไม่เอาเลือกตั้งก็แล้ว ขัดขวางกลไกราชการก็แล้ว

หันซ้ายหันขวา เอาเรื่องความทุกข์ร้อนของชาวนานี่แหละมาจัดการก็ได้ 
จะใช้เงินจากแหล่งนี้ก็มีมือดีโผล่ขวาง หาเงินจากส่วนนี้โอนเข้าธนาคารนั้นก็โดนบีบจนติดขัด
เล่นกันอย่างประเจิดประเจ้อ ไม่ต้องแอบข้างหลังกันอีกแล้ว

ทั้งหลายทั้งปวง ชาวบ้านเลยเข้าใจแล้วว่า ขบวนการเดิมๆ ไม่เคยเลิกรา


ปัญหาก็คือ จะขัดแย้งแก่งแย่งอำนาจ จะหักโค่นกันเช่นไรก็ตาม ไม่เคยเกรงใจประชาชนบ้างเลย!!

รบกันอีนุงตุงนังท่ามกลางความย่อยยับที่เกิดกับชีวิตและเศรษฐกิจของชาวบ้าน แล้วลงเอยจะเอานายกฯคนกลางมาใหญ่ในบ้านเมือง

โดยไม่คิดเลยว่า แล้วระบอบประชาธิปไตย กติการัฐธรรมนูญ ที่ให้ประชาชนเลือกส.ส.เลือกพรรคที่นิยมเป็นเสียงข้างมากเพื่อมาเป็นนายกฯเล่า

จะละเมิดอำนาจของประชาชนอย่างง่ายๆ ได้หรือ!?!


วันนี้สนุกกันใหญ่ ทำนอกวิถีทางประชาธิปไตย นอกกฎหมายทุกอย่าง เพื่อจะเอาชนะกันให้ได้

นึกไหมว่า ถึงวันหนึ่งประชาชนส่วนอื่นเขาเกิดไม่ยินยอม แล้วลุกฮือขึ้นมาบ้างจะเหนื่อยกันทั้งประเทศอีกแค่ไหน

เพราะถ้าเอาวิธีนอกระบบมาโค่นล้มฝ่ายหนึ่งเสร็จ สถาปนาอำนาจของพวกตัวเอง โดยข้ามหัวประชาชนเจ้าของอำนาจไป

จะกลายเป็นแรงกดดันให้ประชาชนที่ทนนิ่งเฉยในวันนี้ จะถึงจุดทนไม่ไหวบ้าง

อย่านึกว่าเก่งคนเดียวพวกเดียว

เตือนกันมาเยอะแล้วว่า เอาชนะกันด้วยวิธีนอกกติกาเมื่อไร จะสร้างวิกฤตใหม่ไม่รู้จบ!



++

ความต่างของ 2 รัฐบาล
โดย วงค์ ตาวัน

ใน www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qZ3lORE16TVE9PQ   
. . วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.



ผลพวงจากความรุนแรง มีการใช้ปืน ระเบิด ไปจนถึงเอ็ม 79 ขณะเกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับผู้ชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า นำมาซึ่งความสูญเสียรุนแรง ตายทั้งตำรวจและชาวบ้าน

แน่นอน ไม่มีใครยอมรับว่า ตนเองเป็นฝ่ายผิด ตนเองต้องรับผิดชอบ

ผู้สูญเสียคือ ตำรวจที่ต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมือง และประชาชนที่มาร่วมการชุมนุม ไปจนถึงที่มามุงดูเหตุการณ์

ผู้อยู่เบื้องหลังศึกแย่งชิงอำนาจ ไม่เคยต้องเสียเลือดเนื้ออะไรกับเขาหรอก


ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ควรจะได้ตระหนักเอาไว้ก็คือ
การปฏิบัติของรัฐบาลชุดนี้ กับการปฏิบัติของรัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพ เมื่อปี 2553
ต่างกันอย่างสิ้นเชิง!!

ทั้งๆ ที่มีเหตุการณ์ที่น่าจะเข้าข่าย
มีการใช้อาวุธอย่างโจ๋งครึ่มในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ก่อนวันเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่บริเวณหลักสี่ โดยกลุ่มมือปืนที่เรียกกันว่าป๊อปคอร์น ซึ่งแฝงตัวมากับม็อบไหนเห็นได้ชัดเจน
ใช้อาวุธสงคราม จนทำให้ประชาชนฝ่ายเรียกร้องเลือกตั้งถูกยิงร่วงไปหลายราย และบาดเจ็บสาหัส

แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เคยนำมาเป็นข้ออ้าง ขยายความใส่สีตีไข่ เพื่อสั่งการให้ปราบผู้ชุมนุมด้วยกระสุนจริง
ด้วยข้ออ้างว่ามีการใช้อาวุธ มีผู้ก่อการร้าย แล้วใช้ทหารพร้อมกระสุนจริงจัดการได้
รัฐบาลนี้ ยังไม่เคยขยายเรื่องเพื่ออ้างเหตุใช้หน่วยรบเข้าสลายม็อบ!
ถึงวันนี้ยังใช้หน่วยปราบจลาจล โล่ กระบอง แก๊สน้ำตา ปืนยิงแห ปืนกระสุนยาง

ปฏิบัติการทุกครั้ง จะแจ้งสื่อมวลชนให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย



ในเหตุการณ์ที่ผ่านฟ้า ภาพที่เห็นได้อย่างเปิดเผยทั่วไป เป็นหน่วยปราบจลาจลตามหลักสากลทุกประการ
แต่ในระหว่างที่เข้าประชิดกับฝ่ายผู้ชุมนุมและเกิดเหตุชุลมุน เกิดเสียงปืน เสียงระเบิดขึ้น
ภาพที่สื่อถ่ายเห็นชัดเจนคือ แนวตำรวจโดนเข้าเต็มๆ ล้มกลิ้งเลือดสาดแดง

แต่ขณะเดียวกันก็น่าเศร้าสลด เมื่อผู้ชุมนุมก็ล้มตายไปด้วย

นี่เป็นอีกเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนให้กับทุกฝ่าย

ใครที่เชื่อในหลักสงบสันติจริงๆ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นอีก

รวมทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติบนหลักสากลอย่างเคร่งครัดต่อไป!



++

คนดี-สร้างได้
โดย วงค์ ตาวัน

ใน www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qY3pPRGc0TkE9PQ
. . วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.

( ภาพจากเวบบอร์ด ไม่เกี่ยวกับผู้เขียนและข่าวสด )


ความจริงไม่ได้อยากจะรื้อฟื้นเพื่อจะตอกย้ำให้เป็นปมชีวิต แต่จำเป็นต้องพูดถึง "แท็กซี่สมพงษ์" ซึ่งเป็นผลงานข่าวเจาะอีกชิ้นของข่าวสดเมื่อหลายปีก่อน เป็นข่าวที่เปิดโปงเบื้องหลัง การสร้างเรื่องเพื่อให้เป็นคนดี การทำความดีที่ผ่านการวางแผนจัดการ
แล้วสังคมไทยก็แห่กันยกย่อง เชื่อกันทันทีโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ

การสร้างเรื่องให้ตัวเองเป็นแท็กซี่ฮีโร่เก็บเงินคืนฝรั่งผู้โดยสารนับสิบล้าน
นำไปสู่การรับโล่รางวัลยกย่องเชิดชูจากหลายองค์กร กลายเป็นคนดังทางรายการทีวี

ส่วนจะนำตราประทับคนดีนำไปสู่อะไรอื่นใดอีกหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ เพราะถูกจับได้ไล่ทันเสียก่อน
กรณีแท็กซี่สมพงษ์ได้ผ่านไปแล้ว ต้องติดคุกชดใช้กรรมไปแล้ว

หยิบยกมาพูดถึง ด้วยเชื่อว่าเป็นเรื่องที่คนไทยจดจำได้ดี!
เอามาเน้นย้ำว่า อย่าไปโหยหาหรือยึดติดกับคำว่า คนดี เสียจนมองข้ามระบบระบอบที่ต้องมี


ไม่ต่างจากกรณีวงการแพทย์ สาธารณสุข ที่สังคมนับถือยกย่อง ออกมาบอกว่าต้องการนายกฯจากคนกลาง ปฏิเสธนายกฯปัจจุบันเพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ไม่ดี
เพียงเท่านี้ คนจำนวนหนึ่งก็เฮตาม
ด้วยเชื่อในความเป็นหมอทันที ว่าคนระดับนี้ล้วนเป็นคนดีดูแลรักษาชีวิตมนุษย์ ถ้ามาบอกว่านายกฯนี้ไม่ดี ดังนั้น รัฐบาลนี้ต้องเลวแน่ๆ

แต่ในทางกลับกัน มีคนอีกจำนวนไม่น้อย ฟังแล้วเกิดคำถามสวนกลับ!
ถามว่า ความรู้มีมากมาย สติปัญญาน่าจะบอกให้ยึดกฎระเบียบประชาธิปไตย

ทำไมไม่เคารพประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกนายกฯและรัฐบาลนี้เข้ามา

จะว่าไปแล้ว ใครจะเป็นคนดีหรือเป็นคนเลว ไม่ใช่จะสรุปกันได้ง่ายๆ หรือหลงเชื่อกันได้ง่ายๆ


ดังนั้น การยึดในระบบและกฎหมาย จะเป็นบรรทัดฐานที่ไว้วางใจได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ความดีและคนดีนั้น ต้องสัมผัสหรือเรียนรู้กันในระยะเวลาพอสมควร
ไม่อาจสรุปได้ด้วยคำพูดคำจาหรือแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่

นักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ เป็นสัญลักษณ์คนดี ซื่อสัตย์ สมถะ แต่เบื้องหลังมีคนบริหารจัดการจนเกิดภาพนั้นขึ้นมาหรือไม่

วันนี้ความจริงยิ่งกระจ่างชัด

เมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังนั้น กดปุ่มสั่งให้กระทำ ตรงกันข้ามกับความเป็นนักประชาธิปไตยที่เชื่อในระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง

ก็ทำตามแต่โดยดี!



++

สมุนขี้ข้า-พอกัน
โดย วงค์ ตาวัน

ใน www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qWTFNVE01TXc9PQ
. . วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.



คนในพรรคเพื่อไทย ถูกอีกพรรคป่าวประณามหยามเหยียดโดยตลอด ทั้งผ่านการให้สัมภาษณ์ และผ่านเวทีปราศรัย ทำนองว่าคนของเพื่อไทยก็แค่ลูกน้องทักษิณ พร้อมรับคำสั่งตลอดเวลาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
หรือเหยียดหยามรุนแรงกว่านั้น ว่าเป็นสมุนบ้าง เป็นขี้ข้าบ้าง

แต่มองย้อนกลับไปยังพรรคตรงข้ามพรรคเพื่อไทยดังกล่าว มองกันให้ดี
วันนี้มีคนคนหนึ่งกดปุ่มสั่ง ให้ขัดขวาง คัดค้านการเลือกตั้ง

แม้คนคนนี้ แยกตัวออกไปเดินบนท้องถนนแล้ว แต่เมื่อกดปุ่มปุ๊บก็ยอมกันหมด ระดับอาวุโส ระดับหัวหน้า ยันสมาชิกแทบทั้งหมด


จะมีก็แต่สมาชิกที่ยืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยต้องพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งในพรรค ที่กล้าออกมาประกาศความเป็นอิสระ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ขัดกับความเป็นนักการเมืองอาชีพ

เพราะถ้าพึ่งพา วันหนึ่งเขาทวงบุญคุณ วันหนึ่งเขาถือว่ากุมความลับได้แทบทั้งหมด เขาก็สั่งได้ดุจซ้ายหันขวาหัน!



ไปกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทย ถูกทักษิณสั่งได้ทั้งหมด
แล้วถามพรรคอีกพรรคว่า สิ่งที่กระทำกันอยู่ในวันนี้ คือ ต่อต้านระบบรัฐสภา ต่อต้านการเลือกตั้ง
ก็ไม่ต่างอะไรกันกระมัง

คือถูกคนคนเดียว สั่งได้ทั้งหมด
พรรคนี้ก็มีคนกดปุ่มสั่ง เหมือนกับที่ไปกล่าวหาเพื่อไทยนั่นแหละ!!

ที่น่าตลกคือ ผู้อาวุโสที่เป็นเสมือนเครื่องหมายของพรรค
วันนี้ได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เพราะวางตัวซื่อสัตย์สมถะนั่นเอง จึงต้องมีเบื้องหลัง มีคนช่วยบริหารจัดการครอบครัว


สุดท้ายคนที่เข้ามาช่วยจัดการบริหารครอบครัว เพื่อให้ผู้อาวุโสวางตัวเป็นคนสะอาดสะอ้านต่อไปได้นั้น
เขาเป็นคนที่กุมชะตากรรมของผู้อาวุโสเอาไว้ในกำมือ!
ถึงเวลาเขาก็สั่งให้ผู้อาวุโส ทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับจิตวิญญาณผู้แทนฯ แห่งระบบรัฐสภาได้อย่างว่าง่ายใช้ฟัง
ไม่ลงสมัครก็ไม่ลง ให้ไปเดินถนนก็เดิน


แล้วไหนล่ะที่เรียกร้องการปฏิรูประบบพรรค การเมือง ต้องไม่ขึ้นกับนายทุนคนใดคนหนึ่ง
ประกาศจะเป็นพรรคที่มีอิสระ ใครคนใดคนหนึ่งมาสั่งไม่ได้!?

วันนี้ชัดเจนว่า มีพรรคการเมืองนี้ ถูกคนคนเดียวสั่งการกดปุ่มแน่ๆ
เป็นสมุน เป็นขี้ข้า พอกันกระมัง!



++

มือที่กดปุ่มสั่งทั้งพรรค
โดย วงค์ ตาวัน

ใน www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qVTJORGM1TkE9PQ
. . วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.



หากมองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ทักษิณสามารถกดปุ่มสั่งการได้เพียงผู้เดียวและโดยตลอดเวลา 

ครั้นมองไปยังอีกพรรคซึ่งอยู่ตรงกันข้าม

วันนี้ก็ชัดเจนว่า เป็นพรรคที่สามารถกดปุ่มได้ด้วยคน คนเดียวเหมือนกัน เดินอยู่นอกพรรคด้วยเช่นกัน

คนกดปุ่มพรรคเก่าแก่ วันนี้เดินอยู่บนท้องถนน


ระดับอาวุโสสุด เป็นสัญลักษณ์ของพรรค ซึ่งมีจิตวิญญาณนักการเมืองอาชีพเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในระบบรัฐสภาอย่างสูงยิ่ง
ยังต้องเชื่อฟังคนกดปุ่ม
เพราะอะไร

หรือว่า ภายใต้ความซื่อสัตย์สมถะนั้น มีผู้ที่คอยบริหารจัดการให้มายาวนาน!?!
นานเสียจนสามารถควบคุมสั่งการผู้อาวุโสสุดได้

การไม่ลงสนามผู้แทนฯ ซึ่งน่าจะฝืนจิตใจและ ตัวตนผู้อาวุโสอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องก้มหน้ายอมรับ
หรือว่า...ทั้งชีวิตเขาดูแลมาตลอด เป็นเสมือนกำทุกสิ่งทุกอย่างไว้หมดสิ้น!

ระดับหัวหน้าปัจจุบันก็ไม่ต่างกันหรอก
ถูกเขากุมชะตากรรมไว้หมด



สิ่งหนึ่งซึ่งพิสูจน์ได้ว่า สมาชิกพรรคเก่าแก่โดยส่วนใหญ่มีคำว่าระบบสภา มีการเลือกตั้ง อยู่ในทุกลมหายใจ แต่วันนี้แทบทั้งหมดต้องฝืนความรู้สึกของชีวิตนักการเมือง
เห็นได้จาก ยังมีบางคนไม่ยอมทำตามคนกดปุ่ม

จะมีเฉพาะคนที่มีความพร้อมในทางเศรษฐกิจ ดูแลตัวเองได้

ไม่เคยต้องให้คนคน หนึ่งคอยมาจัดการดูแล แล้วถูกเขากำชีวิตทางการเมืองเอาไว้


เฉพาะคนแบบนี้เท่านั้น ที่ประกาศความเป็นนักการเมืองอาชีพ ประกาศเสรีภาพทางความคิดและจุดยืนออกมาต่อสังคมได้

คนกดปุ่ม กุมไม่ได้ บังคับไม่ได้

สิ่งที่สมาชิกของพรรคเก่าแก่บางคน แสดงออกว่าไม่ยอมรับแนวทางขัดขวางเลือกตั้ง
สะท้อนว่า ยังมีบางคนไม่ถูกควบคุม

แต่ส่วนใหญ่ถูกกดปุ่มได้โดยคนคน เดียว

อนิจจา...พรรคเก่าแก่!



.