http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-03-10

ศิลา: แล้ว 8 มีนาฯก็ผ่านเลย../ ทราย: ดอน, สวนมะกอก

.
คอลัมน์ การ์ตูนที่รัก - ไอส์ ถ้ามีอารมณ์ทางเพศให้ทำอย่างไร โดย นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แล้ว 8 มีนาฯก็ผ่านเลย...
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1647 หน้า 67


วันสตรีสากลผ่านไปอย่างเงียบเชียบเรียบง่ายดังเคย

ตั้งแต่ปลายกุมภาฯ ถึงช่วงต้นมีนาฯ ผมพยายามสดับตรับฟังข่าวคราวกิจกรรม การเคลื่อนไหวเพื่อต้อนรับวันที่โลกยกย่องเชิดชูพลังหญิง ในฐานะผู้สร้างสรรค์โลกครึ่งหนึ่ง ทุกอย่างดำเนินไปตามวิถีปกติ

แม้จะเป็นยุคสมัยที่ผู้หญิงเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดทางการเมือง

เพลงยอดนิยมของฝ่ายหญิงที่ได้ยินบ่อยๆ จนคุ้นหู ยังคงเป็นประเภท ไม่ยินดีที่จะใช้แฟนร่วมกับใคร หรือต้องต่อสู้ควบคุมความรู้สึกของตัวเอง ให้พึงระลึกว่า คนที่เธออาจเผลอใจ เขาเป็นแฟนของเพื่อน...

ขณะฝ่ายชายพยายามบอกว่า อย่าจ่อมจมอมทุกข์ เพราะต้องอยู่ในฐานะเมียน้อย ผู้ชายไม่ได้มีเพียงคนเดียวในโลก ทิ้งเขาไปจะได้หัวใจคืนมา...

เหมือนการสำนึก หรือการคลี่คลายปม ที่ก่อนหน้านั้นเพลงในกระแสหลากไหล หนักไปทางฉันพลาดไปรักแฟนเขา ต้องนอนกอดความเหงาในวันที่เขาไม่มา...

กับฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าแนวเพื่อชีวิต พร่ำแต่ก่นว่าถึง ผู้หญิงสารพัดพิษ ที่ใช้เล่ห์ล่อหลอกกระทั่งชายต้องกลายเป็นมือที่สาม

เป็นชู้แบบไม่รู้ตัว

ในพื้นที่ข่าวชนิดพาดหัวตัวโต ก็อลวนไปด้วยเรื่องการทำแท้งของนางแบบสาวสวย ที่เปิดฉากว่าแฟนซึ่งเป็นดาราดังไปคนพาไปจัดการ แต่แล้วข่าวค่อยๆ บานไปเป็นอื่นล้วนกลับตาลปัตรไปจากจุดเริ่มต้น

เมื่อรู้ว่ากำลังจะกลายเป็นคดีความ

วันสตรีสากลประจำปี ดูเหมือนจะมีกิจกรรมอยู่บ้าง ยังอยู่กับการคัดเลือกประกาศรางวัลสตรีดีเด่นในแต่ละสายงาน หรือเสนอโครงการรณรงค์โดยใช้พลังสตรีขับเคลื่อน

ผมคาดหวังจะเห็นความเคลื่อนไหวในหมู่สตรีเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีหญิงเผชิญข้อกล่าวหาในการเดินทางไปพบกลุ่มนักธุรกิจชาย พร้อมๆ กับเกิดข้อครหาเชิงหมิ่นเหม่ศีลธรรม กระทั่งเกิดการเรียกร้องให้ปกป้องสิทธิสตรี และศักดิ์ศรีของความเป็นเพศแม่

แต่ 8 มีนาฯ วันสตรีสากลก็ผ่านไปอย่างที่เคยเป็น...


อันที่จริงผมไม่ได้คาดหวังว่า จะได้ฟังเพลงประเภทฮึกห้าว อย่างครั้งยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ประเภท...เปลี่ยนมือที่อ่อนนิ่มเป็นลิ่มเหล็ก...

หรืออ่อนหวาน แต่เข้มข้นด้วยสาระ อย่าง...หญิงเอย...หญิงไทยใช่เป็นดอกไม้ไร้สิ้นราคา ไม่ยอมให้ใครหยามเหยียดบีฑา...

แต่ผมว่าอย่างน้อยต้องเป็นช่วงเวลาที่ต้องปลุกสร้างกระแส ให้ผู้คนในสังคมโดยเฉพาะผู้หญิงได้รับรู้เข้าถึงเนื้อแท้ของวันสำคัญเช่นนี้

วันที่โลกกำหนดนัดหมายให้ต้องยกย่องและเชิดชู

ผู้หญิงไทยต้องรู้ว่า วันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1857 สตรีอเมริกันในโรงงานทอผ้า นิวยอร์ก ซึ่งทำงานหนักถูกกดขี่ทารุณเยี่ยงทาส รวมตัวกันลุกขึ้นก่อการประท้วง เหตุการณ์นี้จุดชนวนให้เกิดการเคลื่อนไหวจริงจัง ผลักดันให้โลกตระหนักถึงสิทธิสตรี

คลาร่า แซทคิน สตรีชาวเยอรมันเป็นตัวจักรสำคัญ ในปี 1907 เธอเดินทางออกจากบ้านเกิดไปเป็นแกนนำสตรีของโรงานทอผ้าเมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ต่อสู้เรียกร้องกระทั่งเดินขบวนให้นายจ้างปรับลดเวลาทำงานลง ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง พร้อมกับเงื่อนไขอื่นๆ

เธอเป็นตัวตั้งตัวตีให้มีการจัดประชุมองค์กรสตรี และกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสตรีสากล

ปี ค.ศ.1910 ถือเป็นปีประเดิมของวันสำคัญนี้

คลาร่า แซทคิน ถูกยกย่องเป็นมารดาแห่งการเคลื่อนไหวสตรีสากล ยังเป็นนักต่อต้านสงครามตัวยง คัดค้านการเหลิงอำนาจของฮิตเลอร์ จนตกเป็นเป้าหมายการคุกคาม ต้องลี้ภัยไปอาศัยในรัสเซีย ปี ค.ศ.1933 กระทั่งเสียชีวิต ในวัย 76 ปี

เนื้อในแห่งการต่อสู้แข็งขันของผู้หญิง กว่าจะได้เงยหน้าอ้าปาก มีสิทธิในความเป็นคน ควรได้รับการเผยแพร่ ศึกษา และจัดการปลุกเร้าเน้นย้ำให้ทุกคนประจักษ์

เพื่อแสดงเนื้อแท้คุณค่าแห่งความเป็นหญิง



ผมจำได้ว่าช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย มีการจัด สัมมนา อภิปราย ปาฐกถาอยู่หลายรายการ แสดงการสนับสนุนผู้หญิงให้มีบทบาทแบกรับภาระหน้าที่ทางการเมือง

อย่างหัวข้อ ความขัดแย้งในสังคมไทย ยุติได้ด้วยสตรีจริงหรือ?

หรือ สตรีกับสังคม และการเมืองแบบใหม่

เพราะมองว่า การเมืองของประเทศไทยตลอด 70 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างประชาธิปไตยถูกกำหนดขึ้นมาโดยนักการเมืองชาย มักเกิดปัญหาตลอดจนเหตุการณ์รุนแรง

เพราะการเมืองในแบบของผู้ชาย มุ่งแต่เรื่องอำนาจหน้าที่ การจัดสรรผลประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าการดูแลทุกข์สุขของประชาชน


ธรรมชาติในตัวผู้หญิง จะมีความเป็นแม่สูง แม่ทุกคนมีอุปนิสัยในการแบ่งปัน หากมีหญิงเป็นผู้นำ เชื่อว่าจะต้องให้โอกาสกับคนที่ด้อยโอกาสในสังคมมากกว่า สามารถแก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้

อุปนิสัยสำคัญของสตรีที่มีมากกว่าชาย คือความซื่อสัตย์ ทำงานหนักด้วยความอดทน มุ่งมั่น ที่สำคัญคือมีความเมตตา ฯลฯ

แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ได้เห็นพลังหญิงอันควรจะเป็น แม้ในวันสตรีสากล



++

ดอน, สวนมะกอก
โดย ทราย เจริญปุระ charoenpura@yahoo.com คอลัมน์ รักคนอ่าน
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1647 หน้า 80


กลับมาแล้วอย่างอิ่มใจ
สำหรับการไปพูดคุยกับน้าชาติมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เรื่องที่จะใช้ออกอากาศนั้นเราว่ากันถึงที่มาที่ไปในการเขียนของน้า
เหตุผลในการย้ายมาอยู่ไกลถึงปากช่อง วิธีทำงาน โรงเรียนนักเขียน

และปัจจุบันขณะของ ชาติ กอบจิตติ
ใครอยากรู้ว่าน้าตอบอะไรให้ไปดูได้ในรายการบุ๊ค ไกด์ของช่องวอยซ์ ทีวี
(นี่คือพื้นที่โฆษณา)


แต่ท่ามกลางเสียงหัวเราะเฮฮาขณะที่กล้องกำลังบันทึกภาพนั้น
น้าก็เก็บเอาบางเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากการถามคำถามหน้ากล้องมาตอบนอกรอบ
นั่งคุยกันท่ามกลางลมโชยชื่น ในฉากหลังที่น้าใช้เขียนและคิดลงในหนังสือรวมบทความของน้าที่ฉันเคยอ่าน

ต่อหน้าแก้วเบียร์ ใกล้ต้นไม้บ่อน้ำและเปลญวน ในแดดอ่อนๆ ปลายเดือนกุมภาพันธ์
ครั้งนี้ฉันไม่ได้แค่อ่าน แต่มาคุยกันตรงๆ แบบสบตา
เราพูดกันเรื่องชีวิต


แน่นอนว่าชีวิตทั้งที่ผ่านมาแล้วและกำลังจะเดินหน้าไปต่อนั้นไม่อาจจบลงได้ในบทสนทนากลางวงเหล้าเพียงครั้งเดียว
แต่มันก็มีเรื่องราวหลายหลาก
ทั้งการเมือง ศิลปะ สังคมและวัฒนธรรม
บางครั้งคำถามที่ถามเล่นๆ น้าก็ตอบมาเล่นแต่ลึกจนคนถามเขิน

บางคำถามที่ฉันตั้งใจประจงปั้นมาอย่างดีน้าก็ตอบให้หงายหลังเล่นเสียอย่างนั้น

น้าบอกว่าศิลปะเป็นเครื่องกำบังชนิดหนึ่งของผู้ที่สร้างมันออกมา

ได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

บางทีเราทำอะไรเล่นๆ แต่คนตีความออกมาเสียเลิศลอย นั่นก็เป็นเพราะศิลปะ

และในบางครั้งที่เราทำอะไรจริงๆ ออกมาให้คนก่นด่า เราก็ตอบด้วยคำว่าศิลปะได้เช่นกัน

ดังนั้น, โปรดให้ความเคารพและใช้ศิลปะในทุกทางอย่างระมัดระวัง



ในเรื่องการเมืองก็--
โปรดให้ความเคารพ คิดถึง และปฏิบัติต่อมันอย่างระมัดระวังเช่นกัน
ไม่มีประโยชน์ที่จะระบุว่าคนอย่าง ชาติ กอบจิตติ ชอบหรือเชื่อ และยืนอยู่ในฟากฝั่งไหน

ในเมื่อเขาท่องโลกมาแทบรอบด้าน

กับเรื่องเพียงแค่นี้เราไม่มีวันจะนำสิ่งใดมาผูกน้าได้

ไม่ว่าขาของเขา

หรือความเชื่อของเขาก็ตาม

ถามถึงวันนี้ของ ชาติ กอบจิตติ

น้าตอบว่าน้ากำลังเป็นดอน

ไม่ใช่ดอนอย่างพื้นที่สูงที่ทำตัวพ้นน้ำ

แต่เป็นดอนอย่างในภาพยนตร์ Godfather เพราะน้ากำลังปลูกมะกอก

น้าบอกว่าคนเป็นดอนต้องมีกิจการบังหน้าเป็นสวนมะกอก

แต่กิจการจริงของน้านั้นคือการเขียนหนังสือและเฝ้ามองชีวิตเพื่อนบ้าน

ฉันฟังแล้วขำในทีแรก จนได้มาคุยกันนอกรอบ

ถึงรู้ว่าเรื่องของเพื่อนบ้านที่น้าพูดถึงนั้นคือเพื่อนบ้านเกษตรกรที่กำลังติดหนี้ธนาคารและไม่มีวันจะใช้คืนได้แม้จะมีเงิน

นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา

และน้ากำลังคิดถึงมัน


เร็วๆ นี้น้าจะมีหนังสือออกมาอีกเล่ม

แกบอกว่าแกใช้วิธีที่แปลกใหม่ออกไป

ถ้าเทียบกับหนังสือเล่มที่ผ่านๆ มาก็คือเตรียมของ เตรียมเครื่องให้เรียบร้อยมาแล้วและพร้อมจะเทลงกระทะ ปรุงออกมาเป็นเล่ม

แต่สำหรับเล่มนี้ แกว่าเหมือนมีพร้าขัดหลังออกป่าไปหาของมาปรุงเอาข้างหน้า

เหนื่อยยาก แต่ก็สนุกผจญภัย

ใครที่เป็นแฟนเรื่องของแกก็รออ่านกันได้

สำหรับฉันนั้นการได้ไปเจอนักเขียนในดวงใจและเห็นว่าแกเป็นนักเขียนในดวงใจเราจริงๆ

ทั้งในหน้ากระดาษและในชีวิต ก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว



+++

ไอส์ ถ้ามีอารมณ์ทางเพศให้ทำอย่างไร
โดย นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ คอลัมน์ การ์ตูนที่รัก
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1647 หน้า 75


การศึกษาควรทำให้เด็กๆ เชื่อมั่นในตนเอง อยากเรียนรู้และพัฒนาตนเอง แต่การศึกษาไทยโดยข้อสอบโอเน็ตทำลายความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของเด็กๆ ทุกปี ทำให้เด็กไม่อยากเรียนรู้อะไร

ถ้ามีอารมณ์ทางเพศให้ทำอย่างไร ว่ากันว่าข้อสอบโอเน็ตให้ไปเตะฟุตบอล เด็กไทยจำนวนมากเรียนรู้เรื่องนี้จากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ไอส์ (I""s) นานแล้ว นี่คือการ์ตูนนักเรียนมัธยมที่ว่าด้วยเรื่องเพศ โป๊ หื่น และการใช้ชีวิตที่มีแรงผลักดันทางเพศที่โด่งดังที่สุด ติดอันดับหนังสือขายดีตลอดกาล ขึ้นชั้นคลาสสิคพิมพ์แล้วพิมพ์อีก ครั้งล่าสุดเป็นฉบับลิขสิทธิ์พร้อมภาพสวยงามของสยามอินเตอร์คอมิกส์

เป็นการ์ตูนโป๊ทางใจที่ขึ้นชั้นคลาสสิคได้ด้วยความอ่อนหวานของอารมณ์ทางเพศ


ไอส์ ผลงานของ มาซาคาซึ คัตสึระ เปิดเล่มหนึ่งด้วยภาพถ่ายวาบหวิวในชุดว่ายน้ำลงนิตยสารของนางเอก โยชิซึกิ อิโอริ นักเรียนมัธยม อายุ 16 ปี

"อิโอริจัง" ตึก ตึก ตึก หัวใจสั่น "เป็นความรู้สึกที่ประหลาดที่เพื่อนร่วมชั้นได้ลงนิตยสารภาพถ่ายรวมเล่ม" พระเอก เซโตะ อิจิตากะ อายุ 16 ปี ปิดอัลบั้มรวมเล่มถอนใจ "เฮ้อ"

เทระทานิ ยาสุมาสะ เพื่อนซี้ของเซโตะ เข้ามาข้างหลังแย่งอัลบั้มไปดูบ้าง "มีอ้าขาด้วย ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ เห็นทำเป็นเขินอาย ใช่เล่นแฮะ" ดวงตาและริมฝีปากออกอาการหื่น เข้าใจว่ามีอารมณ์ทางเพศแล้ว

ไม่มีใครไปเตะฟุตบอลแล้วก็ไม่มีใครไปปรึกษาครอบครัว

เทระทานิเล่าให้เซโตะฟังว่าที่แท้แล้วโยชิซึกิไม่อยากถ่ายแต่ถูกประธานชมรมการแสดงขอร้องแกมบังคับนัยว่าเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ชมรม โยชิซึกิมาระบายให้เทระทานิฟังก่อนแล้วและกำชับว่าห้ามบอกเพื่อนๆ แต่เทระทานิตอบว่าได้บอกเซโตะไปแล้ว เทระทานิเล่าต่อไปว่าตอนที่เอ่ยชื่อเซโตะดูคล้าย "หน้าเธอตอนนั้นอาจจะมีแกอยู่ในใจก็ได้"

เพื่อนซี้ให้ความหวังมั่วๆ ว่าเธอมีใจ เซโตะก็ประหวัดถึงรูปของอิโอริจังในท่านอนตะแคงเย้ายวน ทอดสายตามาให้เขา วิ้ง วิ้ง วิ้ง สีหน้าของเขายามนี้ออกอาการมีอารมณ์ คืนนั้นเขานอนจินตนาการถึงโยชิซึกิเสียกระเจิดกระเจิง

"ดูรูปแล้วมานั่งจินตนาการลามก พรุ่งนี้ตอนเจออิโอริจังจะทำหน้าแบบไหนดีนะ" เซโตะกลุ้มใจ


เซโตะยังมีเพื่อนสาว อาคิบะ อิซึกิ อีกคน อิซึกิเพิ่งกลับมาจากแดนไกล เธอคนนี้เป็นเพื่อนมากกว่าเป็นอื่นแต่นั่นคือเหตุการณ์วัยเด็ก พอสองคนเจริญเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น อิซึกิก็ดูคล้ายจะมีใจให้ ส่วนเซโตะไม่รู้ว่าใจตนเองเป็นอย่างไร หนังสือจะเล่าความสัมพันธ์ระหว่าง เซโตะ โยชิซึกิ และอิซึกิที่ต่างฝ่ายต่างเดาใจและอารมณ์ (ทางเพศ) ของกันและกันอย่างสนุกสนานอีกทั้งน่าเรียนรู้ ไม่เห็นมีตรงไหนเลยที่พยายามบอกว่าการมีอารมณ์ทางเพศเป็นความผิด

ผิดมากจนต้องไปเตะฟุตบอลทดแทน

หนังสือลงรายละเอียดของการเริ่มต้นพบปะกันของเด็กวัยรุ่น เซโตะจับคู่กับโยชิซึกิให้ช่วยกันคิดงานรับน้องใหม่ สองคนนัดพบกันที่ห้องสมุดแต่นั่งห่างกันเป็นโยชน์

"ตาประสานตา" เซโตะตื่นตระหนก "ความแตกแล้ว เธอต้องรู้แน่ว่าเรามีใจให้"

ขณะที่เพื่อนๆ ทั้งโรงเรียนเซ็งแซ่เรื่องโยชิซึกิถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ เซโตะกลับทำเป็นเมินไม่สนใจ จนกระทั่งเทระทานิพูดว่า "เห็นแล้ว อาการปากไม่ตรงกะใจของแกน่ะ" เพราะสายตาของเซโตะจับจ้องที่ขาอ่อนและแก้มก้นของเพื่อนสาวโดยไม่รู้ตัว

ปัญหาของเซโตะในการเข้าหาสาวคือเรื่องปากไม่ตรงกับใจ

"ขอดู กกน หน่อยสิจ๊ะ อิโอริจัง" หนุ่มๆ มากกว่าสิบคนมาด้อมมองส่งเสียงแซวที่ชมรมการละคร

"พวกแกน่ะ ทำตัวให้มันดีๆ หน่อยโว้ย" เซโตะคว้าไม้ได้ พุ่งเข้าใส่

"ที่พวกผู้หญิงถ่ายรูปลงนิตยสารรวมเล่มน่ะ นั่นเพื่อให้ผู้ชายไปทำอะไรในห้องน้ำไม่ใช่เหรอ" พวกหนุ่มหื่นเตรียมปะทะแต่ไหวตัวทันสลายไปอย่างเร็ว ทิ้งให้เซโตะเผชิญหน้าโยชิซึกิที่หน้าต่างตามลำพัง

"เจ้าคนนี้แหละที่คอยมองมาทางนี้จากอาคารฝั่งตรงข้ามเสมอ" เพื่อนๆ โยชิซึกิฟ้อง

จบบทที่หนึ่งดูเหมือนอาการปากไม่ตรงกับใจของเซโตะจะทำพิษเสียแล้ว



ขึ้นบทที่เจ็ด โยชิซึกิมาที่ห้องของเซโตะ "ตะกี้รีบร้อนเก็บห้องไปหน่อยหวังว่าคงไม่มีอะไรตกหล่นนะ" เซโตะใจเต้นตึกตึก "หนังสือโป๊ก็ซ่อนใต้เตียงในสุดแล้ว" ตึกตึก "นิตยสารที่อิโอริจังถ่ายภาพลง ฉันเอาไปเก็บไว้ไหนนะ" ตึกตึก "ที่โรงเรียนฉันทำเป็นไม่สนใจหนังสือนั่นนี่นา ขืนเธอรู้ว่าฉันมีหนังสือนั่นด้วยล่ะก็ต้องถูกคิดไปในทางไม่ดีแน่ๆ" ตึกตึก "แต่ให้ตายสิ เวลาอย่างนี้ทำอะไรดีน้า" ตึกตึก เหล่ตามอง "บั้นท้ายอันอวบอั๋น เฮ้ย ไม่ได้นะ ไม่ได้นะ ห้ามคิดลามก" ตึกตึก

ตกอยู่ในภวังค์ "เสียงหวานๆ ที่ผ่านจมูกน้อยๆ นั้น กลิ่นอันอ่อนโยนที่โชยมาทุกครั้งที่เคลื่อนไหว มันทำให้ผมเศร้า เจ็บปวด ทุกข์ทรมานในหัวอก" ชั่วครู่หนึ่งที่รักคล้ายจะเป็นสีขาว "คิดสกปรกด้วยใช้สายตาลามกจ้องอิโอริจังที่ใสบริสุทธิ์จะต้องบาปนับแสนล้านเท่าทีเดียว" สายตาเหลือบไปเห็นอีกแล้ว "ขอบกางเกงในที่เห็นเป็นรอยจากกระโปรงที่ฟิตติดบั้นท้ายอันแสนอึ๋ม" จนได้ "มันได้จุดไฟตัณหาของผมให้ลุกโชนขึ้น! อยากเห็น อยากเห็นแพนดี้ของอิโอริจัง!"

ก่อนเหตุการณ์จะเลยเถิด อิซึกิในชุดชั้นในเดินออกมาจากห้องนอนพอดี

เรื่องราวใสๆ วัยเซ็กซ์ของเด็กสามคนที่ชื่อขึ้นต้นด้วยตัวไอจะดำเนินต่อไปด้วยความชุลมุน



ถึงปลายเล่มสาม เหตุการณ์บังคับให้เซโตะต้องซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเดียวกันกับโยชิซึกิ

"ซวยล่ะสิ ไอ้ความคิดลามกเริ่มก่อปฏิวัติอีกแล้ว ถ้าเธอรู้เรื่องอิตจังน้อยตื่นตัวแบบสุดๆ ล่ะก็..." ตึกตึก "กลิ่นสบู่อันหอมอบอวลโชยออกมาอ่อนๆ จากเนินอกอันขาวนวลของอิโอริจัง"

อันที่จริงการ์ตูนเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของนักเรียนด้วย แต่แก่นเรื่องคือความรู้สึกของเด็กทั้งสามทั้งเรื่องความรัก ความเอื้ออาทรและอารมณ์ทางเพศ

เป็นวันเวลาที่พายุฮอร์โมนพัดกระหน่ำเด็กทั้งสามอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กผู้ชายอย่างเซโตะ

แม้ใจจะห้ามอย่างไรแต่ปฏิกิริยาอันว่องไวของร่างกายมักไปก่อนเสมอ จนดูเหมือนว่าอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องอยู่นอกอำนาจของจิตใจ

พวกเขามีวิธีจัดการตนเองหลากหลายวิธี ขึ้นกับบริบทที่แวดล้อมและเกี่ยวพันกับมิติอื่นของการดำรงชีวิตด้วย การจัดการอารมณ์ทางเพศมิใช่การควบคุมเพียงอย่างเดียว อารมณ์ทางเพศก็มิใช่ค่าเอ๊กซ์ในสมการคณิตศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับตัวแปรอื่นเป็นเส้นตรง เช่น เกิดอารมณ์ก็ต้องปล้ำ วิธีแก้หื่นคือเตะฟุตบอล

แต่ที่แท้แล้วอารมณ์ทางเพศเป็นตัวแปรที่เกิดขึ้นในระบบที่ซับซ้อนและต้องการการจัดการที่หลากหลาย

กระบวนการที่เด็กๆ ค้นหาคำตอบของกรณีถ้าเกิดอารมณ์ทางเพศให้ทำอย่างไรจึงมีความสำคัญมากกว่าตัวคำตอบเอง

หากการศึกษาของเราไม่เอื้อหรือไม่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้กระบวนการหาคำตอบที่มีหลากหลายแต่กลับไปใส่ใจคำตอบตายตัวคำตอบเดียวเช่นนี้เด็กไทยก็อับจนปัญญาด้วยฝีมือการศึกษาแน่นอน

ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ให้เด็กๆ อ่านการ์ตูนไอส์ชุดนี้แล้วมาคุยกันยังได้ประโยชน์กว่ามาก



.