http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-03-03

"แดง"โบนันซ่า..ลุยแก้ รธน./ ปชป.จับมือ"พธม?"ต้านการแก้ไขฯ

.
บทความ - ถนัดใช้กำลัง โดย วงค์ ตาวัน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

"แดง" จัดเต็ม-โบนันซ่า "ทักษิณ" เดี่ยววิดีโอลิงค์ สั่งลุยแก้ รธน.-ปั่นผลงาน "ปู" นายกฯ 3 ปี 11 เดือน
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1646 หน้า 11


การจัดงานคอนเสิร์ต "หยุดรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ" ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เป็นการระดมพลชุมนุมใหญ่ครั้งแรกหลังจาก นางธิดา ถาวรเศรษฐ ได้รับเลือกเป็นประธาน นปช. เต็มตัว

ดังนั้น ถ้าจะถือเอาการ "จัดใหญ่" ครั้งนี้เป็นการเปิดตัวประธาน นปช. คนใหม่ ก็นับว่าเป็นการเปิดตัวได้ยิ่งใหญ่อลังการ นอกจากนี้ ยังเป็นการยืนยันถึง "เอกภาพ" ของคนเสื้อแดง

เพราะจำนวนคนเรือนแสนจากทั่วทุกสารทิศ

โดยเฉพาะเสื้อแดงภาคอีสานที่ นายขวัญชัย ไพรพนา ขนขึ้นรถบัสมา 21 คัน ยังช่วยกลบข่าวที่ว่าแกนนำจำนวนหนึ่งไม่พอใจ ไม่ยอมรับนางธิดา และขอถอนตัวจากการชุมนุมครั้งนี้ ให้จมหายไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เป็นไฮไลต์ของงานจริงๆ คือการวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นที่รอคอยด้วยใจจดจ่อของคนเสื้อแดงจำนวนเฉียดแสน

ที่มาชุมนุมอยู่หน้าเวทีขนาด 30 เมตร และหน้าจอโปรเจ็กเตอร์พร้อมลำโพงขนาดใหญ่ที่ตั้งกระจัดกระจายมากกว่า 10 จุด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ไร่ ให้ได้ยินได้ฟังกันอย่างทั่วถึง

ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ทำให้คนเสื้อแดงผิดหวัง ตลอดเวลาการวิดีโอลิงค์ ผ่านโปรแกรมสไกป์นานครึ่งชั่วโมง พ.ต.ท.ทักษิณ สื่อสารกับคนเสื้อแดงโดยตรงหลายเรื่อง

นอกจากนี้ ยังได้ร้องเพลงออดอ้อนถึง 2 เพลงด้วยกัน เรียกเสียงโห่ร้องโดนใจจากผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงอย่างกึกก้องสนั่นหวั่นไหว

แต่กับฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มคน "เกลียดทักษิณ" แล้ว ย่อมไม่พลาดโอกาสในการพยายามบอกต่อสังคมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังทำตัวเสมือนเป็นนายกรัฐมนตรี

เป็นผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวมาตลอด



เนื้อหาในวิดีโอลิงค์ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่ามีความเหมาะสมเป็นรัฐมนตรี

"ผมขอบอกกับพี่น้องเสื้อแดง ณ ที่นี้ว่า คนเสื้อแดงที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีมากที่สุด ชื่อจตุพร ผมมีวิธีที่จะตอบแทนและใช้หนี้จตุพร ผมขอเวลาในการใช้หนี้จตุพร จตุพรเป็นคนดี มีอนาคตไกล"

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสั่งรัฐบาลและแกนนำ นปช. เร่งรัดการจ่ายเงินเยียวยาให้คนเสื้อแดงที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการชุมนุมเมื่อปี 2553 ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน และช่วยเหลือคนเสื้อแดงซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำให้ได้รับประกันตัวออกมาสู้คดี

ทั้งยังเปิดฉาก "ดวลมีดโกน"" กับ นายชวน หลีกภัย

"เรื่องเงินเยียวยา คุณชวนบอกว่าให้ผมจ่ายเองสิ ให้ผมจ่ายเจ็ดล้านกว่า ผมคงไม่ขัดข้องที่จะจ่าย ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับว่าเป็นคนสั่งฆ่า 91 ศพ"

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวออกตัวแทนน้องสาว ที่เข้ามาเป็นนายกฯ ไม่กี่วันก็ต้องเจอกับวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ส่งผลทำให้งบประมาณประเทศมีปัญหาล่าช้าออกไป

แต่จากนี้นโยบายแจกแท็บเล็ตพีซี 8 แสนเครื่องให้เด็กนักเรียน ป.1 และเตรียมอีก 8 แสนเครื่องสำหรับนักเรียน ม.1 นโยบายพักหนี้คนจน การริเริ่มกองทุนพัฒนาสตรี การสานต่อกองทุนหมู่บ้าน โครงการเอสเอ็มแอล จะเริ่มขับเคลื่อนไปข้างหน้า

"วันนี้ใช้งบประมาณของรัฐบาลที่แล้วตั้งไว้อยู่ งบประมาณที่ตั้งตามนโยบายรัฐบาลชุดนี้จะออกมาวันที่ 1 มีนาคม อีกไม่นานหลังจากเดือนมีนาคม บ้านเมืองจะเริ่มดีขึ้น การขับเคลื่อนนโยบาย การแก้ปัญหาทั้งหลายจะเป็นจริงเป็นจังขึ้นเรื่อยๆ"

อดีตนายกฯ จอมโปรเจ็กต์ ยังกล่าวถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง มูลค่า 1.2 ล้านล้าน สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่จะเริ่มลงมือก่อสร้างปลายปี โดยความร่วมมือช่วยเหลือจากจีน

เช่นเดียวกับเขื่อนป้องกันน้ำทะเลท่วมกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จใน 3 ปีครึ่งจากกำหนดการเดิม 9 ปี



พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวเทิดทูนพระปรีชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีนำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำ ทั้งที่ยังทรงพักผ่อนพระวรกายอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช

ทั้งยังกล่าวขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่เล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล ในการตราพระราชกำหนด 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.โอนหนี้ และ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อนำมาแก้ไขป้องกันอุทกภัยและสร้างอนาคตประเทศ

ตรงนี้เองที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้คนเสื้อแดงช่วยให้กำลังใจให้นายกฯ ปู ให้อยู่แค่ 3 ปี 11 เดือน 11 วันก็พอแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังขมวดปมเข้าหาหัวข้อ "หยุดรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ" โดยกล่าวโจมตีการรัฐประหารเมื่อ 6 ปีก่อนว่าเป็น "การรัฐประหารที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง"

ทั้งยังกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 399 เสียง ที่โหวตรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อให้มีการสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นก้าวแรกนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง

กระนั้นก็ตาม

"วันนี้ พวกเรายังไม่หมดภารกิจจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยคืนมา วันนี้ได้มาส่วนหนึ่งแล้วคือการให้ไปเลือก ส.ส.ร. ฉะนั้น เราต้องช่วยกันดู เอาคนมีหัวใจประชาธิปไตยจริงๆ มาร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย"

อดีตนายกฯ ยังย้ำสาเหตุที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เนื่องจากไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีความยุติธรรม ผู้รักษากติกาขาดความยุติธรรมทำให้บ้านเมืองสับสนวุ่นวาย เกิดเหตุการณ์บาดหมางทะเลาะเบาะแว้งแตกแยก

"วันนี้รัฐธรรมนูญไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน ให้อำนาจประชาชนไว้ต่ำมาก คนเป็นนายกรัฐมนตรีมาจากประชาชนทั้งประเทศ แต่ต้องมาตกอยู่ภายใต้การพิจารณาของคนไม่กี่คนที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน"



ไม่ว่าการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง หรือวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีขึ้นท่ามกลางแรงเสียดทานจากกลุ่มที่มีความเห็นต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นการแสดงพลังเตรียมพร้อมที่จะเป็น "ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก" ให้กับรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อย่างที่นางธิดากล่าวว่า ปัจจุบันโอกาสจะเกิดรัฐประหารยังมี เราต้องยกระดับชัยชนะการเลือกตั้งรัฐบาลที่มาจากประชาชนให้สูงขึ้น ไม่ให้ถูกทำลาย เป็นการปกป้องชัยชนะของประชาชน

"ถ้าเราประมาทการรัฐประหารมันเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่วันนี้คนเสื้อแดงขอท้าทายว่าใครที่จะทำรัฐประหาร โปรดดูภาพคนเสื้อแดงที่โบนันซ่านี้ แล้วลองคิดดูว่าจะกล้าทำอีกหรือไม่ ก้าวต่อไปของเราคือรัฐธรรมนูญ เราไม่เอารัฐธรรมนูญ 2550 แปลว่าเราไม่เอารัฐธรรมนูญ และผลพวงของรัฐประหารทั้งหมด"

หรือเหมือนอย่างที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวปราศรัยบนเวที

"รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีหลังพิงเดียวคือพี่น้องเสื้อแดงที่โบนันซ่า ถ้าเสื้อแดงแข็งแรง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่อยู่แค่ 4 ปี แต่จะต่ออีก 4 ปี เป็น 8 ปี และถ้าเสื้อแดงอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับบ้านแน่"

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะถึงรัฐบาลจะได้รับชัยชนะเด็ดขาด "ในสภา"

แต่ความพยายามของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน "นอกสภา" เพิ่งจะเริ่มก่อตัว ไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสื้อหลากสี หรือกลุ่มสยามสามัคคี

หากกลุ่มเคลื่อนไหวเหล่านี้โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ กลับมา "คลิก" กับพรรคประชาธิปัตย์ลงตัวเหมือนเดิมได้เมื่อไหร่

ที่หลายคนหวั่นเกรงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็น"ชนวน"นำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกรอบใหม่ อาจไม่ใช่ความกลัวเกินจริงอีกต่อไป

และนั่นย่อมส่งผลสะเทือนต่อการอยู่ครบเทอม 4 ปีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แน่นอน



++

ต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประชาธิปัตย์ จับมือกับ "พันธมิตรฯ" ความหวังที่ยังไม่เกิดขึ้น
รายงานพิเศษ ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1646 หน้า 8


คะแนน 399 เสียงให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ถือว่ามาก

มากเมื่อเปรียบเทียบกับ 199 เสียงที่ลงคะแนนไม่รับ มากเมื่อเปรียบเทียบกับ 14 เสียงที่งดออกเสียง

แม้ นายเทพไท เสนพงศ์ จะให้ความเห็น

"พรรคไม่ได้หวั่นไหวเพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าเสียงสนับสนุนรัฐบาลกับ ส.ว. ส่วนหนึ่งสามารถผ่านร่างทั้ง 3 ไปได้ แต่การเมืองไม่ได้อยู่ที่สภาเพียงอย่างเดียว เพราะการเมืองประเทศไทยต้องมีส่วนประกอบของการเมืองภาคประชาชนและการเมืองนอกสภา เพราะหลายครั้งการเมืองนอกสภามีบทบาท

"399 เสียงไม่ได้มีหลักประกันว่าจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปด้วยดี เพราะในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 377 เสียงก็ทำให้รัฐบาลล้มลงมาแล้ว"

ที่ไม่ควรลืมก็คือ รัฐบาล 377 เสียงของพรรคไทยรักไทยล้มเพราะการรัฐประหาร

ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อันมาจากคณะรัฐประหารซึ่งมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้า ปรากฏว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีส่วนในการลงนามแก้ไขเพิ่มเติมด้วย

และในคืนลงมติ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา



ไม่ว่าจะมองผ่านถ้อยแถลงของ นายเทพไท เสนพงศ์ แกนนำคนสำคัญพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมองผ่านปฏิญญาหาดใหญ่ 2555

แน่ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างถึงที่สุด

อย่าได้แปลกใจหากตัวแทนสาขาพรรคประชาธิปัตย์จากจังหวัดพัทลุงได้เสนอแนวทางต่อที่ประชุม ณ หาดใหญ่ อย่างค่อนข้างเป็นระบบ

"ให้ระดมคนไปประท้วงไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไปกันทุกจังหวัด ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร เริ่มระดมพลมาที่ศาลากลางตลอดจนทำให้กำหนดสัญลักษณ์ในการคัดค้านให้ชัดเจน เช่น ติดโบดำ และอยากให้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์แสดงความชัดเจนไปเลย เช่น ติดผ้าดำเข้าไปในห้องประชุมสภา

"และให้ขยายผลการทำความเข้าใจประเด็นต่างๆ ในภาคอีสาน เพราะที่ผ่านมามวลชนเสื้อแดงถูกปลุกปั่นในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องไปสร้างความรู้ความเข้าใจ"

ลำพัง 159 ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ คงเหมือนกับแมลงปอขย่มหลักหิน แม้จะได้กลุ่ม 40 สว.เข้ามามีส่วนร่วม แต่อย่างเก่งก็ได้เพียง 199

เป็น 199 ที่แม้กระทั่ง 34 เสียงจากพรรคภูมิใจไทยก็หวังพึ่งไม่ได้



ดังนั้น เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์จึงอยู่ที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มสยามสามัคคี จึงอยู่ที่กลุ่มเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน จึงอยู่ที่กลุ่มประชาภิวัฒน์ อันสามารถต่อสายไปยังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้

แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะตีปลาหน้าไซ "การปลุกระดมของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้เพื่อปลุกคนใต้ให้เข้ามาเคลื่อนไหวใน กทม. เหมือนตอนที่เคยจับมือกับพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549"

กระนั้น ก็ไม่แน่ว่าเป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่

นั่นก็ขึ้นอยู่กับพลังบางพลังที่สามารถผลักรุนให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขานรับเข้าร่วมหรือไม่



+++

ถนัดใช้กำลัง
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 03 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:30 น.


พฤติกรรมของ 2 พี่น้องฝาแฝดที่ใช้กำลัง ทำร้ายอาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ นั้น เชื่อได้เลยว่าฝ่ายที่เคลื่อนไหวต่อต้านนิติราษฎร์หลายต่อหลายคน ต้องเต็มไปด้วยความพึงพอใจ อาจจะยกให้เป็นฮีโร่ในดวงใจไปเลยด้วยซ้ำ

เพราะกระบวนการต่อต้านนิติราษฎร์นั้น เราแทบไม่เคยได้ยินการโต้แย้งด้วยข้อมูลวิชาการเลย
มีแต่โจมตีแบบเหมารวม
ได้แต่ป้ายสีข้อหารับเงินทักษิณ เป็นพวกล้มเจ้า
ไม่เคยใช้เหตุผล เอาแต่ปลุกปั่นกันจนมีอาการคลั่ง ก็เลยแสดงออกด้วยการใช้กำลัง

อาจารย์วรเจตน์เป็นนักวิชาการบอบบาง อยู่กับตำรับตำรา ไม่เคยท้าทายใครในด้านความรุนแรง ไม่เคยท้าตีท้าต่อยกับใคร
ท้าทายแต่ด้านความคิด พร้อมโต้แย้งกันด้วยข้อมูลวิชาการ!

อย่างว่า เมื่อต่อสู้ด้วยสติปัญญากับนิติราษฎร์ไม่ได้ เลยต้องใช้กำลัง


ทำให้ต้องนึกถึงกลุ่มกระทิงแดงอันธพาลการเมืองในอดีต
จัดตั้งกันขึ้นมาเพื่อใช้วิธีการป่าเถื่อนคุกคามทำร้ายฝ่ายปัญญาชน

ผู้พันตึ๋งคนดังนั่นไง เมื่อก่อนชื่อนายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ เป็นผู้นำกระทิงแดง ในฐานะนักเรียนอาชีวะ
จนภายหลังภารกิจเสร็จสิ้น จึงเปิดตัวเป็นข้าราชการยศนายร้อย ก่อนเติบโตขึ้นเป็นนายพัน!

หน้าที่ของกระทิงแดงยุคนั้น คอยดักทุบตีนักศึกษาเวลาออกติดโปสเตอร์ แจกใบปลิว
บุกไปก่อกวน ขว้างปา เตะต่อย เวลามีชุมนุมอภิปรายไฮด์ปาร์ก
ก่อนพัฒนาไปเป็นการขว้างระเบิด ยิงปืนใส่สุดท้ายกลายเป็นการฆ่าหมู่ในธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519

น่าสังเกตว่า ขบวนการฉุดสังคมล้าหลังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ถนัดแต่ใช้กำลัง ไม่ค่อยใช้สติปัญญา!


บรรดากระทิงแดงในอดีต เห็น 2 พี่น้องฝาแฝดคู่นี้ก็เรียกได้ว่านอนตายตาหลับ

เหมือนกับบรรดาผู้ที่เคยทำหน้าที่ปลุกปั่นคน อย่างไม่เคยใช้เหตุผลในอดีต ผ่านทางวิทยุยานเกราะ หนังสือพิมพ์ดาวสยามในอดีต

คงหลับตาสบายใจ ที่มีสื่อมวลชนปัจจุบันบางกลุ่มสืบทอดอย่างงมงายหน้ามืดตามัว

ไปจนถึงนักการเมืองส.ส. และส.ว. ที่อภิปรายสนั่นสภา จับนิติราษฎร์โยงรัฐบาลด้วยข้อหาล้มเจ้า

2 ฝาแฝดเลยสนองตอบด้วยการใช้กำลังอย่างสะอกสะใจไปตามๆ กัน!



_____________________________________________________________________________________________________________

รับไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง
www.youtube.com/watch?v=DqR9eU3Coeg



รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน 25-02-55
www.youtube.com/watch?v=JjuzM9vwlFg




.