http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-12-11

หนุ่มเมืองจันท์: วิธีคิด

.

วิธีคิด 
โดย หนุ่มเมืองจันท์
www.facebook/boycitychanFC คอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 07 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1686 หน้า 24


วันก่อนไปคุยกับนักอ่านในงานหนังสือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
งาน CMU Book Fair ครับ
ทั้งที่ผมมางานหนังสือที่เชียงใหม่หลายครั้ง แต่เป็นงาน "แฮปปี้ บุ๊กเดย์" ของสำนักพิมพ์มติชนที่จัดต่อเนื่องหลายปีเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว
ช่วงนั้นงาน CMU Book Fair ก็มีแล้ว แต่ไม่เคยได้ไปร่วมงานเลย

ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกสำหรับงานหนังสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่ 
"อิง" ประชาสัมพันธ์ของสำนักพิมพ์มติชนเป็นผู้ดำเนินการเสวนา 
เธอเป็นสาวเจียงฮาย แต่เคยมาทำงานที่เชียงใหม่ 1 ปี 
ผมถาม "อิง" ว่าเคยไปงาน "แฮปปี้ บุ๊กเดย์" ที่เชียงใหม่หรือเปล่า
"เคยค่ะ" อิงตอบ 
"ตอนนั้นอิงเรียนมัธยม"
จบข่าว!!!

บนเวทีเสวนา นอกจากการคุยกันบนเวทีแล้ว ยังมีคำถามจากผู้ฟังเยอะมาก 
สนุกและอบอุ่นอย่างยิ่ง 
มีคำถามหนึ่ง น้องถามว่าทำไมพี่สนใจเรื่อง "วิธีคิด" ของคน 
ใช่ครับ ผมชอบศึกษาเรื่อง "วิธีคิด" มาก เพราะเชื่อว่า "วิธีคิด" เป็นตัวกำหนด "การกระทำ"

ชนะหรือแพ้
สุขหรือทุกข์
ขึ้นอยู่กับ "วิธีคิด" ทั้งสิ้น



ผมยกตัวอย่าง "ศุภชัย เจียรวนนท์" ตอนวิกฤติค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 
กลุ่มทรูกู้เงินต่างประเทศมาเยอะ ประมาณ 45,000 ล้านบาท 
พอรัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาท 
จากอัตราแลกเปลี่ยน 25 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ 
ขึ้นมาเป็น 50 บาท
หนี้ของกลุ่มทรูเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 ล้านบาททันที 
ตอนนั้นใครๆ ก็คิดว่า "ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว"
ขายสินทรัพย์ทั้งหมดก็ยังไม่ได้เลย 
คิดแบบยอมแพ้

แต่ "ศุภชัย" กลับคิดอีกมุมหนึ่ง
"ไม่มีอะไรเสียอีกแล้ว"
เป็นความคิดแบบหลังชนฝา เดินหน้าสู้อย่างเดียว 
วิธีคิดแบบนี้เองทำให้ "ทรู" ยืนยันอยู่จนถึงทุกวันนี้ 
เพราะเขาคิดแบบไม่ยอมแพ้




"อิวาน เลนเดิล" อดีตนักเทนนิสชื่อดังของโลก 
ช่วงหนึ่งเขาได้แชมป์มาทุกรายการ 
ยกเว้น "แกรนด์สแลม" ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของการแข่งขันเทสนิสระดับโลก 4 รายการ 
เข้ารอบชิงชนะเลิศ "ยูเอส โอเพ่น" 1 ในแกรนด์สแลม 2 ครั้ง 
ครั้งแรกชิงกับ "จิมมี่ คอนเนอร์" เขาเล่นได้ดีและนำมาตลอด 
จนมาถึงลูกสำคัญ ถ้าได้แต้มก็ชนะเป็นแชมป์เลย 
ปรากฏว่า "เลนเดิล" ตีพลาด
จากนั้นเขาก็ตีเสียมาโดยตลอด จนกระทั่งแพ้ไปในที่สุด

ปีต่อมา "เลนเดิล" เข้าชิงชนะเลิศกับ "ไมเคิล ชาง" 
เกมสูสีกันมาก จน "ชาง" เป็นตะคริวต้องพักการแข่งขันไปพักหนึ่ง 
และเมื่อ "ชาง" กลับมาเล่นใหม่ 
"เลนเดิล" ก็ตีพลาดแล้วพลาดอีก 
เขาพ่ายแพ้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

หลังการแข่งขัน "เลนเดิล" ไปปรึกษาจิตแพทย์
จิตแพทย์ถามคำถามแรก 
"ปกติเวลาซ้อมคุณตีดีใช่ไหม"  
"ใช่" 
"แล้วทำไมตอนแข่ง ตีไม่ได้"
"มันรู้สึกตื่นเต้น"

"ทำไมตื่นเต้น" จิตแพทย์ถามต่อ
"เลนเดิล" นิ่งคิด 
"ผมกลัวแพ้ครับ"

จิตแพทย์จึงแนะนำว่า "แพ้" หรือ "ชนะ" มันเป็นแค่ "ผล" 
"ผล" นั้นมาจาก "เหตุ" 
"เหตุ" คือ การตีดีหรือไม่ดี 
ถ้าตี "ดี" ก็ชนะ 
ตี "ไม่ดี" ก็มีโอกาสแพ้


"คุณควบคุมการตีของคู่ต่อสู้ไม่ได้ แต่สามารถควบคุมการตีของตัวเองได้" 
คำแนะนำของจิตแพทย์ก็คือ การแพ้หรือชนะขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอื่นๆ มากมาย 
ดังนั้น สิ่งที่ "เลนเดิล" ต้องทำก็คือ เมื่ออยู่ในสนาม ห้ามคิดถึงผล "แพ้-ชนะ" เป็นอันขาด 
ให้พยายามท่องคาถาในใจอยู่ตลอดเวลา
คือ "ตีทุกลูกให้ดีที่สุด"


ปีต่อมา "เลนเดิล" เข้าชิงชนะเลิศยูเอส โอเพ่นกับ "จอห์น แม็กเอนโร" 
ก่อนลงสนาม เขานึกถึงคำแนะนำของจิตแพทย์ 
ทำสมาธิและท่องในใจ 
"ตีทุกลูกให้ดีที่สุด"
แต่ด้วยบรรยากาศในสนามทำให้เขาตื่นเต้นและลืมสิ่งที่ท่องมา
"เลนเดิล" แพ้ 2 เซ็ตรวด

เซ็ตที่ 3 ถ้าเขาแพ้ ก็แพ้เลย
"เลนเดิล" บอกว่าตอนนั้นเขานั่งทำใจแล้ว และคิดว่า "คงแพ้อีกแล้ว" 
พอคำว่า "แพ้" เข้ามาในความคิด
"เลนเดิล" ฉุกคิดถึงคำสอนของจิตแพทย์ขึ้นมาทันที 
"แพ้" คือ "ผล"
"ผล" มาจาก "เหตุ"
"เหตุ" คือ ตีดีหรือไม่ดี

เขาเดินเข้าสนามอีกครั้งแบบ "นิว เลนเดิล" 
ไม่สนใจว่าผลจะเป็นอย่างไร คะแนนจะนำหรือตาม 
แต่ตีทุกลูกให้ดีที่สุด 
เขาตั้งหน้าตี-ตี และตี 
ไม่สนใจอะไรอะไรทั้งสิ้น


"เลนเดิล" มารู้ตัวอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ "จอห์น แม็กเอนโร" เดินมาที่กลางสนามและจับมือกับเขาเพื่อแสดงความยินดี

เป็นสัญญาณการสิ้นสุดเกม

"อิวาน เลนเดิล" เป็นแชมป์ยูเอส โอเพ่น

เพียงเพราะ "วิธีคิด" ที่เปลี่ยนไป 




.