http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2554-04-14

** "10 เมษา" สอนให้รู้ว่า "กำลัง-อำนาจ" หยุดคนไม่ได้ โดย ชฎา ไอยคุปต์

.
"10 เมษา" สอนให้รู้ว่า "กำลัง-อำนาจ" หยุดคนไม่ได้
โดย ชฎา ไอยคุปต์ อีเมล : iyacoupt@hotmail.com
www.facebook.com/login/setashome.php?ref=genlogin#!/profile.php?id=100001242647508
ในมติชน ออนไลน์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 08:01:43 น.


รับชมVDO
www.youtube.com/watch?v=VWhMB-w47q4&feature=player_embedded#at=101
www.youtube.com/watch?v=VWhMB-w47q4&feature=player_embedded#t=0s กูลกิจ-วสุ สุริยะแก่นทราย


สิทธิ เสรีภาพ คือ หน้าต่างของบ้านที่นำแสงสว่างแห่งมนุษยธรรมเข้ามา และเสรีภาพเป็นพื้นฐานของความดีทั้งมวล ที่เทิดทูน "คุณค่าของมนุษย์"

จุดประสงค์ใหญ่ของเสรีภาพไม่ใช่เพียงแค่ความเพ้อฝัน แต่ต้องการแสวงหา"ความจริง"

ไม่ใช่ต้องการเฉพาะเพื่อลดอำนาจของรัฐบาล

แต่ต้องการให้เกิดความยุติธรรมขึ้นภายในชาติและความสุขของประชาชน

ความจริงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่มีอำนาจใดมาคัดค้าน หรือเอาชนะได้


การรวมตัวกันของกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากวันที่ถูกเจ้าหน้าที่้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 10 เมษายน 25533 หลังจากที่พวกเขามาปักหลักชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาและทวงความยุติธรรม ยุติสองมาตรฐาน ตามสิทธิและเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่กลับไม่ถอยไม่หนี ช่วยกันปกป้องอาณาเขตพื้นที่ชุมนุม เพื่อแสดงให้ผู้ปกครองเห็นว่า พวกเขาจะไม่ไปไหนจนกว่าข้อเรียกร้องจะถูกนำไปพิจารณาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคม มีพื้นที่แสดงความคิดความเห็นแสดงออกได้อย่างเสรี

ไม่ใช่ความยุติธรรมที่ต้องอยู่อย่าง ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ และง่อยเปลี้ยเสียขา

แต่การทวงความยุติธรรมผ่าน "ลิ้น" ไม่อาจสู้กับอิทธิพลดินปืนได้

ไม่มีใครคาดคิดว่าการเรียกร้องตามเสรีภาพอันพึงมีต้องกลายเป็น "ผี" เฝ้าถนน

เมื่อกองทัพนำกำลังทหารพร้อมอาวุธ โล่กระบองไว้ทุบตี ปืนลูกซองบรรจุกระสุนกระยางไว้ยิง ปืนเอ็ม 16 ไว้ป้องกันตัว และมีรถสายพานลำเลียงเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง และมีเฮลิคอปเตอร์ไว้หย่อนแก๊สน้ำตา เจ้าหน้าที่ตั้งแถวเข้าโอบล้อมพื้นที่ชุมนุม เกือบทุกด้าน ยืนประชันหน้ากับคนเสื้อแดงที่ไม่ยอมถอยหนี

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าประชิดและผลักดันผู้ชุมนุมเสื้อแดงตามคำสั่ง "ขอพื้นที่คืน" แต่เมื่อปฏิบัติจริงไม่รู้ว่าเป็น "ขอ"หรือ"ขู่"


การบัญญัติศัพท์ที่ทำให้ คำว่า "สลายการชุมนุม" ดูละมุนละไมได้ขนาดนี้ เป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งของนักการเมือง คือ การใช้คำพูดใหม่ๆกับเรื่องเดิมๆ เพราะรู้ว่าประชาชนมักเบื่อง่าย และชอบการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

เสียงกระสุนนัดแรกดังขึ้นตามด้วยเสียงรัวถี่ยิบขนาดนั้น ไม่ใช่คำขอหรือคำขู่แต่เอาจริง

ขณะที่ผู้ชุมนุมยังคงหยัดยืน ตั้งหลักปักธงไม่ยอมออกจากที่มั่น โดยไม่มีใครคาดคิดว่า สนามประชาธิปไตยจะถูกแปรเปลี่ยนให้เป็น"สนามรบ" โดยมีกำลัง 2 ฝ่าย คือ "ทหาร"กับ"ประชาชน" ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน ทหารผู้ทำหน้าที่ปกป้อง "ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" แต่ต้องต่อสู้กับประชาชนตาม"คำสั่ง"ของผู้บังคับบัญชา เมื่อเกิดการปะทะ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ทหารต้องเป็นจำเลยทำร้ายประชาชน


ในนาทีเผชิญหน้าระหว่าง"นักรบ"กับ"นักสู้" เสมือนฉากในอดีตที่กองทัพไทยไปตีเมือง"คืน" จากข้าศึก แต่ในคราวนี้ คือ ประชาชน ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่าทั้งกำลังและอาวุธ

ครั้งนั้นเกิดการสูญเสียแบบไม่ทันตั้งตัวของทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายทหาร

ตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บขยับขึ้นเรื่อยๆตามเสียงกระสุนปืนรัวดังอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลาบ่ายถึงดึก จากนั้นตัวเลขทหารขยับตามมาในช่วงหัวค่ำ เมื่อมีระเบิดไม่ทราบทิศทางตกลงกลางวงทหารที่พยายามเข้าสลายการชุมนุม แม้พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปนานแล้ว

เสียงโห่ร้อง ครวญคราง โอยโอย ความเจ็บปวดทั้งกายทั้งใจ ดังขึ้นหลังจากเสียงกระสุน ระเบิด ควันจากแก๊สน้ำตา สงบลง

สามารถนับยอดผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันนั้นได้จำนวน 25 คน เป็นพลเรือน 21 ราย ทหาร 4 ราย บาดเจ็บกว่า 800 คน และมีพลเรือนที่ตายเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บยังมีผู้พิการอีกจำนวนไม่น้อยที่ ตาบอด เป็นอัมพาต ฯลฯ



เวลาผ่านไป 1 ปีเต็ม ผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ผู้พิการ และผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่รอดตายมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เหมือนกับว่าได้เดินผ่านสมรภูมิรบ ลิ้มรสความรุนแรง ความเจ็บปวดมาร่วมกันและกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมข้อเรียกร้องที่เข้มมากขึ้นเพื่อ "คนเจ็บ-คนตาย-คนเป็น" อัดแน่นไปด้วยปริมาณส่วนคุณภาพต้องรอดูผลหลังจากนี้

ภาพของ "กูลกิจ สุริยะแก่นทราย" หญิงวัย 59 ปี พา "วสุ สุริยะแก่นทราย" สามีวัย 60 ปี นั่งรถเข็นคนพิการมาร่วมชุมนุมที่ จ.ปทุมธานี

ในโอกาสครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์ที่อ.ลาดหลุมแก้ว เธอเข็นสามีไปรอบๆพื้นที่การชุมนุมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อเทียบกับปีก่อนที่เธอนอนสะอื้นอยู่ข้างเตียงคนไข้ผู้เป็นสามีที่นอนนิ่ง โดยแพทย์ระบุว่า เป็น"อัมพาต" ถูกของแข็งฟาดจนกะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคั่งในสมอง และแขนทั้งสองข้างถูกตีมีรอยเขียวช้ำ เพราะเดินลุยไปสกัดทหารด้วยมือเปล่าอาสาอยู่แนวหน้า ตามคำบอกเล่าของภรรยา

"วสุ" ต่อสู้กับอาการอัมพาตจนดีขึ้นลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง แม้จะยังเดินไม่ได้ แขนขวาพิการแต่ก็สามารถขยับปากพูดและพยายามอ้าปากที่บิดเบี้ยวไปข้างหนึ่งอธิบายและเล่าในสภาพลิ้นรั้ว จับใจความได้ว่า พวกเราดันกับทหารไม่ต้องมาถามว่าใครทำร้าย นี่คือ ข้อความจากปากของ "วสุ" ที่เคลือบไปด้วยรอยยิ้มนึกย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปลงๆ ในวันที่ภรรยาพาออกมาเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดง และพวกเขาทั้งคู่บอกว่าจะไปร่วมรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปี "10 เมษายน"

"กูลกิจ" บอกว่า ถึงจะลำบากยังไงก็อยากพาสามีออกมาร่วมชุมนุม ทันทีที่สามีรู้สึกตัวสิ่งแรกที่เขาถามถึง คือ พวกเราชนะไหม ?

เมื่อคำตอบคือ "ไม่" แต่พวกเราไม่มีเวลาต้องเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครมาขอร้องหรือมาจ้างให้เดินทางไปร่วมชุมนุม แต่พวกเราไปกันเอง ถ้าเราไม่ไปร่วมเวทีก็ต้องเลิกไป เขาก็ลำบากเราก็ลำบาก แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะเราอยากได้ประชาธิปไตยและความยุติธรรมก็ต้องไปร่วมชุมนุมกันให้มากๆ แม้ไม่ได้วันนี้ก็ต้องได้สักวัน



"วันที่ 10 เมษายนนี้ ครบรอบ 1ปี จะพาสามีไปร่วมงานกับคนเสื้อแดงรำลึกเหตุการณ์ เพราะเขาอยากไปดูตรงที่ถูกตีจนพิการ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยพาไปแล้วครั้งหนึ่งแกก็ชี้ให้ดูจุดที่ถูกตี แม้ว่าความจำเรื่องอื่นๆจะหลงลืมไปบ้างแต่แกไม่เคยลืมว่าถูกตีที่ไหนและใครเป็นคนลงมือ"กูลกิจ" กล่าวย้ำ

นี่คือตัวอย่างหนึ่งของคนเสื้อแดงที่กลับมาชุมนุมอีกครั้ง ของคนทุพพลภาพที่ยังคงยืนหยัด มุ่งมั่นในอุดมการณ์ต่อไป เช่นเดียวกับคนอีกจำนวนมากที่ เชื่อมั่นว่า "เสรีภาพ" ในการรวมตัวกันเป็นล้าน จะทำลายล้างอำนาจที่ไม่เป็นธรรม อำนาจเผด็จการและทรราชย์ อันเป็นปีศาจของประชาธิปไตยได้


"10 เมษา"สอนให้รู้ว่า การใช้กำลัง อำนาจ หรือเผด็จการ ใช้ได้ผลแค่ขณะหนึ่งเท่านั้น


-----------------------------------

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ครบ 1 ปี 10 เม.ย."เลือด" เปิดใจภรรยา"พล.อ.ร่มเกล้า" "ไม่ปรองดองคนผิด-รอความยุติธรรม"
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302240062&grpid=no&catid=02
12 มีนา มาทำไม ?
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1299573703&grpid=01&catid=02
"เสียงคนเสื้อแดง" ขานรับอิสรภาพของ "แกนนำนปช." พร้อมสู้ต่อ !! (มีคลิป)
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298454683&grpid=06&catid=02
คอป.ซัก "ผบ.หน่วย" ทหารแตกทัพเหตุ 10 เมษา 53 ถามใช้ "อาวุธ" อะไร ขน "ยานเกราะ" ออกมาทำไม
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1297867974&grpid=01&catid=02
"เสื้อแดง" กลับมาพร้อม "รอยแผลเก่า"
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1295867321&grpid=06&catid=02
เด็ก 8 ขวบ "ทายาทเสื้อแดง"ลั่นมาทวงประชาธิปไตยให้พ่อ-ม็อบแดงลั่นสู้จนตาย-ไม่เลิก-ไม่ถอย
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1292075693&grpid=01&catid=02
คนไม่มีสิทธิ์(แดง) "ขอแจม" นัดพบครั้งแรกหลังพลัดพราก ณ สวนสนุก
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1279904665&grpid=no&catid=02
รำลึก 10เมษาฯ เสื้อแดง "อมเลือด" จับคู่ปรับทุกข์ภายใต้กฎ"ห้ามร้อง" เสียงดัง ครบ 3 เดือน
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1278744584&grpid=no&catid=02
พ่อฉัน(เสื้อแดง)"หนีตาย"ถูก "ไล่ล่า"
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1278322204&grpid=10&catid=02
บันทึกเหตุการณ์หลังสิ้นเสียง "ปืน-ระเบิด" เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิตตั้งแต่ "10 เม.ย.-19พ.ค."
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1275550757&grpid=10&catid=02
ชีวิตหลัง 10 เมษา "ยาก-ลำบาก" เมื่อเสาหลักถูกโค่น
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1275455137&grpid=10&catid=02
ความจริงจากปากชาวบ้านตกเป็นเหยื่อกระสุนบอกถูก"ทหารยิง"
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274975998&grpid=10&catid=02
"บัณฑิตแม่ฟ้าหลวง"ควักลูกตาทิ้งถูก"กระสุนยาง"ยิงจน"บอด"
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274703823&grpid=10&catid=02
เสียงกระซิบจาก"คนเสื้อแดง" อยากบอกดังๆ มีเลือด มีเนื้อ "เจ็บ" เป็นเหมือนกัน
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1271764682&grpid=10&catid=02

.