.
ทำไมเร็วจัง
โดย "แม่ลูกจันทร์"
ในไทยรัฐ ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554, 05:00 น.
ถ้านายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภาฯภายในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม
รัฐบาลจะเหลือวีซ่าอีกเพียง 15 วัน ประชุม ครม.ได้อีก 2 ครั้งเท่านั้นเอง
“แม่ลูกจันทร์” เคยกระชุ่นคอการเมืองให้จับตาช่วงใกล้ยุบสภาฯให้ดีๆเพราะจะมีการฉวยจังหวะชุลมุนอนุมัติทิ้งทวนโครงการใหญ่ๆ แน่นอน!!
ล่าสุดในการประชุม ครม.เมื่อวานซืน ก็มีการอนุมัติทิ้งทวนโครงการมูลค่าสี่แสนห้าหมื่นเจ็ดพันล้านบาท ซื้อเครื่องบินฝูงใหญ่ของบริษัทการบินไทย รวดเดียว 75 ลำ
งานนี้ โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ชงใส่พานเสนอที่ประชุม ครม. และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็เปิดไฟเขียวให้ลุยถั่วได้ทันที
โอ้แม่เจ้า...นี่คือรายการ “จัดหนัก” ระดับแซ่ดบอมบ์
เพราะเป็นการอนุมัติจัดซื้อเครื่องบินจำนวนมากที่สุด ราคาแพงที่สุด ระเบิดเถิดเทิงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 75 ลำ มูลค่าเกือบห้าแสนล้านบาทของการบินไทย จะไม่ผ่านฉลุยเหมือนหยอดจาระบี ถ้าไม่มีการสมานฉันท์ในพรรคร่วมรัฐบาล
สรุปอย่างสั้นๆคือ รัฐบาลเห็นชอบให้การบินไทยจัดซื้อ หรือจัดหาเครื่องบินโดยสารล่วงหน้าระยะยาวถึง 12 ปี
ตั้งแต่ พ.ศ.2554 คร่อมไปถึง พ.ศ. 2565 โน่นเลย
โดยกระทรวงคมนาคมเห็นชอบให้แบ่งการจัดซื้อเครื่องบิน 75 ลำ เป็น 2 ช่วง ช่วงละ 6 ปี
6 ปีแรก อนุมัติจัดซื้อ หรือเช่าซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 37 ลำ คิดเป็นมูลค่า 216,000 ล้านบาทโดยประมาณ
6 ปีหลัง อนุมัติจัดซื้อ หรือเช่าซื้อเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 38 ลำ เป็นเงิน 241,000 ล้านบาทโดยประมาณ
โครงการนี้ กระทรวงคมนาคมได้ส่งให้ สภาพัฒน์พิจารณารายละเอียดตามระเบียบราชการ
และสภาพัฒน์ได้ศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ และให้ความเห็นชอบแผนจัดซื้อเครื่องบินทั้ง 75 ลำ ก่อนเสนอขออนุมัติจากที่ประชุม ครม.
ถ้าฟังแล้วไม่คิดมากๆ มันก็เป็นโครงการธรรมดาๆ
แต่มันมีความไม่ธรรมดาที่ “แม่ลูกจันทร์” หยิบมาเป็นข้อสังเกต 3 ประการ
ข้อสังเกตประการที่ 1, โครงการจัดซื้อเครื่องบินตามปกติเป็นโครงการ 5 ปี หรือยาวที่สุดก็ไม่เกิน 8 ปี
เหตุไฉน รัฐบาลอภิสิทธิ์รีบร้อนอนุมัติยาวถึง 12 ปี
แถมอนุมัติให้ซื้อเครื่องบินโครมเดียว 75 ลำ
สมมติว่าค่าคอมมิชชั่นจิ๊บๆ 10 เปอร์เซ็นต์
10 เปอร์เซ็นต์ของสี่แสนห้าหมื่นล้านบาท ก็ สี่หมื่นห้าพันล้านบาท นะคุณโยม
ข้อสังเกตประการที่ 2, การบินไทย เพิ่งเสนอแผน 5 ปี ขออนุมัติเช่าเครื่องบิน 37 ลำ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สดๆร้อนๆ นี่เอง
แต่แผนเช่าเครื่องบิน 37 ลำถูก “โสภณ” รมว.คมนาคม เหยียบดิสก์เบรกให้บริษัทการบินไทยกลับไปทบทวน
เป็นไปได้อย่างไร ที่การบินไทยใช้เวลาไม่ถึงเดือนจัดทำแผนรายละเอียดจัดซื้อ หรือเช่าซื้อเครื่องบิน 75 ลำ ระยะเวลา 12 ปี (สนองนโยบายของฝ่ายการเมือง) เสร็จเรียบร้อยรวดเร็วอย่างน่ามหัศจรรย์
เป็นไปได้หรือที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจฯ ใช้เวลาศึกษารายละเอียดโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 75 ลำ มูลค่าเกือบห้าแสนล้านบาท ให้ความเห็นชอบเรียบร้อยรวดเร็วในเวลาสัปดาห์เดียว
ข้อสังเกตประการที่ 3, ประธานบอร์ดการบินไทย ชื่อ ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้มีหน้าที่บรรจุเรื่องเข้า ครม. ก็ชื่อ ดร.อำพน กิตติอำพน
คนเดียวกันแต่ดันใส่หมวก 2 ใบ
มิน่าล่ะ...โครงการนี้ถึงผ่านความเห็นชอบจาก ครม.รวดเร็วทันใจ สะดวกสบายสะดือบาน
ภาษาเขมรเค้าบอกว่า “เนียงสะระบอง”.
++
วันที่ไม่มีของฟรี
โดย ลม เปลี่ยนทิศ
ในไทยรัฐ ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554, 05:00 น.
นโยบายหาเสียงล่วงหน้าของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กำลังทำให้ประชาชน นักวิชาการ พ่อค้านักธุรกิจ มึนงงไปตามๆกัน ไม่รู้ไปร่ำเรียนมาจากสำนักไหน แต่ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องแน่นอน สุดท้ายแล้วประเทศไทยและคนไทยทุกคนก็ต้องจ่ายอยู่ดี
เรื่องการอุ้มน้ำมันดีเซลเพื่อไปตายเอาดาบหน้า ยังไม่รู้ว่าจะตายแบบไหน คนบ่นกันไม่ทันข้ามวัน
วันวาน นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) ก็ออกมาเปิดเผยว่า นโยบายประชานิยม ของ นายกฯอภิสิทธิ์ เรื่อง “ไฟฟ้าฟรี” จะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ วันที่ 27 เมษายนนี้ ผู้ประกอบการทุกราย ไม่ว่า เล็ก กลาง ใหญ่ และหน่วยราชการจะต้อง“รับภาระจ่ายค่าไฟฟ้าฟรี” เพื่อสนองนโยบายหาเสียงของ นายกฯอภิสิทธิ์ และ พรรคประชาธิปัตย์
คาดว่าจะต้องเริ่มจ่ายตั้งแต่เดือน มิถุนายน นี้เป็นต้นไป
นาย ดิเรกบอกว่า ผู้ที่ซื้อไฟฟ้าตรงจากการไฟฟ้าจะต้อง เป็นผู้ร่วมจ่ายค่าไฟให้กับผู้ใช้ไฟฟรีไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 7.9 ล้านครัวเรือน คิดเป็นเงิน เดือนละ 1,000 ล้านบาท ปีละ 12,000 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่ม หน่วยละ 10 สตางค์ เบื้องต้นจะนำเงินจากการไฟฟ้า 3 แห่งจ่ายไปก่อน
ฟังคำอธิบายแล้วพูดได้คำเดียวว่านี่คือการ “ปล้น” ชัดๆ
นักการเมืองไปหาเสียงไว้กับประชาชน เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง แต่กลับมาออกกฎ บังคับให้ผู้ประกอบการทั้งประเทศจ่ายเงินก้อนนี้แทน ไม่เพี้ยนก็เมายาบ้า มันยุติธรรมหรือไม่ เอาหัวอะไรก็ได้ตรองดูเถิด แค่เอาเงินภาษีคนทั้งประเทศไปจ่ายชดเชยน้ำมันดีเซลหาเสียง มันก็แย่พออยู่แล้ว นี่จะมาปล้นเงินในกระเป๋าเอกชนไปหาเสียงให้ตัวเองอีก
คงเห็นผู้ประกอบการไทยกินหญ้ากินแกลบมั้ง
ทำไมจึงไม่เอา กำไรการไฟฟ้า 3 แห่งปีละหลายหมื่นล้าน ไปจ่ายแทน
หากวันที่ 27 เมษายน นายกฯอภิสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ อนุมัติเรื่องนี้ออกมา ผมไม่แน่ใจว่าผู้ประกอบการทั้งประเทศจะมีใครเลือกคุณ อภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
การบริหารประเทศต้องตั้งอยู่พื้นฐานความถูกต้องและความยุติธรรม ไม่ใช่นึกเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง
อย่างการลดภาษีอุ้มน้ำมันดีเซล คุณกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง บอกว่า ทำให้รัฐเสียรายได้เดือนละ 8,496 ล้านบาท ถ้าอุ้มไปถึงเดือนกันยายน จะเสียรายได้ 44,380 ล้านบาท ถ้าอุ้มไป 1 ปี จะเสียรายได้ 101,952 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ปี 2555 ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะต้องปรับลดงบประมาณรายจ่ายลง
การลดงบประมาณรายจ่าย ก็คือ ลดงบลงทุนนั่นเอง ถนนหนทาง สะพาน สาธารณูปโภคต่างๆก็จะสร้างเพิ่มไม่ได้ รัฐบาลไม่มีเงิน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเจริญของประเทศ กระทบต่อคุณภาพชีวิตคนไทย 65 ล้านคน
ทำไมคนไทย 65 ล้านคน ประเทศไทยทั้งประเทศ จะต้องจ่ายเงินหลายแสนล้านบาท เพื่อคะแนนนิยม ของคนชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพียงคนเดียว
ในโลกนี้ไม่ มีอะไรฟรี เมื่อคนหนึ่งได้อีกคนก็ต้องจ่าย นี่คือ สัจธรรม ลองคิดดู หากวันใดไม่มีของฟรี น้ำมันดีเซลต้องจ่ายตามราคาจริง
รถเมล์ รถไฟ ไฟฟ้า ต้องจ่ายตามจริง คนไทยและคนจนจะทำอย่างไร มันคือระเบิดเวลามหาประลัย ที่จะทำให้สังคมไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าในอนาคต
ผมเห็นด้วยกับการช่วยคนจน เพื่อให้เขาหายจน ให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีมอมเมาคนจนด้วยของฟรีแต่ไม่ฟรีจริง เราควรสอนให้คนจนมีวินัยชีวิต รู้จักดิ้นรนทำมาหากิน ประเทศชาติถึงจะเจริญครับ.
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย