.
ผอ.ยูเนสโกโต้สุวิทย์ พูดไปเอง ชี้ไม่มีวาระที่อ้าง
สุรเกียรติ์ฟันธง ไทยพลาดแล้ว!
ข่าวสดรายวัน หน้า 1 วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7516
ยูเนสโกแถลงโต้ "สุวิทย์ คุณกิตติ" นำประเทศไทยถอนตัวภาคีมรดกโลก ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์กังขาข้ออ้างที่นำมาเปิดเผย ยืนยันยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้หารือแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหาร รวมถึงไม่ได้ขอรายงานเพื่อนำมาหารือ ยิ่งกว่านั้นก็ไม่เคยผลักดันให้มีการหารือในเรื่องแผนบริหารจัดการดังกล่าวด้วย ส่วนที่ไม่สามารถเลื่อนวาระได้เพราะสมาชิกไม่ยินยอม ด้านสุวิทย์กลับมาถึงไทยอ้างเหตุผลต้องถอนเพราะไม่อยากรับภาระความรับผิดชอบที่ตามมา
ด้านอดีตรมว.ต่างประ เทศ "สุรเกียรติ์ เสถียรไทย"ชี้ไทยไม่ได้ประโยชน์ -เสียโอกาสจากการกระทำดังกล่าว เพราะมีวิธีอื่นตั้งมากมาย เช่น วอล์กเอาต์ หรือให้ที่ประชุมบันทึกว่าไม่เห็นด้วย เพื่อจะได้มาเป็นเหตุผลในการโต้แย้งภายหลัง
"สุวิทย์"อ้างเหตุไทยลาออกภาคีมรดกโลก
เมื่อเวลา 05.50 น.วันที่ 27 มิ.ย. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจามรดกโลกฝ่ายไทย เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ หลังตัดสินใจให้ประเทศไทยยื่นลาออกจากการเป็นภาคีคณะกรรมการมรดกโลก
นายสุวิทย์เปิดเผยว่า ถ้าหากไปเห็นชอบกับแผนบริหารจัดการหรือไม่เห็นชอบกับแผนบริหารจัดการ แต่กลับไปเห็นชอบกับข้อมติที่มีการซ่อนรายละเอียดเหล่านี้อยู่ข้างในจะเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยและเขตแดนของไทย ถ้าหากคณะกรรมการเห็นชอบในร่างข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งเราก็ไม่ได้ความเห็นชอบด้วย แต่ศูนย์มรดกโลกผู้แทนผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ก็พยายามผลักดันในเรื่องนี้และนำเสนอในที่ประชุมในลักษณะเร่งด่วน รวบรัด ซึ่งเราเองก็ได้ทักท้วงในที่ประชุมแล้วว่าควรจะให้มีกระบวนการในการเจรจามากขึ้น เพื่อจะได้หาข้อยุติร่วมกันให้ได้ แต่คณะกรรมการและศูนย์มรดกโลกไม่ได้ยอมขยายเวลาให้เราที่ขอขยายเวลาเพื่อที่จะได้พิจารณาเพื่อหาข้อยุติให้ได้ จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน หรือปัญหาผลกระทบกันบริเวณชายแดน แต่ในที่สุดที่ประชุมก็ยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อ
"ถ้าเราปล่อยไปแล้วไปสู่ขบวนการและมีส่วนร่วมในการพิจารณาร่างดังกล่าวด้วยนั้น ก็จะทำให้เกิดปัญหาและก็ความผูกพันในฐานะที่เราไปร่วมพิจารณาถึงแม้จะไม่เห็นชอบด้วยแต่ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นชอบด้วยก็จะทำให้เกิดปัญหาและเกิดการตีความขึ้นมา ดังนั้น เราจึงประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุ สัญญามรดกโลก และก็ประกาศด้วยว่าจะไม่ร่วมพิจารณาในครั้งนี้ แล้วผลที่ออกมาใดๆ ก็ตามเราไม่เห็นชอบด้วย ขอยืนยันว่าการกระทำการใดๆ ของประเทศกัมพูชา องค์การยูเนสโกหรือว่าผืนมรดกโลกก็ตาม ในการที่ดำเนินการเกี่ยวข้องบริเวณรอบตัวปราสาทเขาพระวิหารที่อาจจะรุกล้ำอำนาจอธิปไตยในเขตแดนไทยเราไม่สามารถยอมรับได้ เพราะฉะนั้นเราจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ประเทศไทยได้พิจารณาแล้วเห็นว่าศูนย์มรดกโลก คณะกรรม การมรดกโลกก็ดี ไม่ได้เห็นถึงความสำคัญของความละเอียดอ่อนเรื่องของปัญหาเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา" นายสุวิทย์ระบุ
อ้างไม่อยากผูกพัน-รับผิดชอบ
นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า เมื่อเริ่มไม่มีความชัดเจนและสุ่มเสี่ยงทางประเทศไทยก็ได้ปรึกษาหารือ และตัดสินใจว่าขอถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก และไม่ขอร่วมการประชุมพิจารณาร่างข้อมติดังกล่าว เราจึงออกมา ซึ่งศูนย์มรดกโลกก็พยายามต่อรองว่าอย่ารีบยื่นหนังสือประกาศถอนตัวได้หรือไม่ ซึ่งตนนั้นได้ประกาศไปแล้วถ้าไม่ยื่นในวันเดียวกันนั้นถ้าหากมีการพิจารณาอะไรไปก็จะหาว่ามีส่วนร่วมในการพิจารณาและความเห็นชอบมติร่างข้อดังกล่าวด้วย อาจจะเป็นความผูกพันที่เราจะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งตนไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนั้นได้ จึงได้ตัดสินใจว่าขอถอนตัวออกมา "วันนี้ก็ไม่มีคนไทยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกด้วย จึงขอเรียนถึงพี่น้องประชาชนคนไทยว่าคณะผู้แทนไทยพยายามทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในการแก้ไขปัญหาที่เราไปเสียเปรียบทำให้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกได้ในช่วงปี พ.ศ.2551 และต้องมาแก้ไขปัญหาในวันนี้ เราไม่สามารถที่จะแก้ได้ หวังว่าพี่น้องประชาชนทุกคนคงเข้าใจ"
"มาร์ค"ซัดนพดล-ชี้สร้างปัญหา
ที่วัดศรีธาตุ จ.ยโสธร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของไทยหลังถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลกว่านายสุวิทย์จะรายงานในที่ประชุมครม. ซึ่งคงมีประเด็นที่จะให้หน่วยงานเร่งดูในข้อมติของมรดกโลกหลังจากเราเดินออกจากที่ประชุมแล้ว มันมีผลมีความหมายอย่างไร และขั้นตอนดำเนินการต่อจากการแสดงเจตนาของนายสุวิทย์จะเป็นอย่างไร เข้าใจว่าจะต้องเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่จะมาทำต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังไทยถอนตัวมีผลกระทบต่อมรดกโลกของไทยที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยัง เพราะขั้นตอนต่างๆ ยังมีอีกหลายขั้นตอน ฉะนั้นตรงนี้คือจุดที่จะให้ทุกหน่วยงานไปรวบรวมข้อมูลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่านายนพดล ปัทมะ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีต รมว.ต่างประ เทศ บอกว่าการทำแบบนี้เหมือนปิ้งปลาประชดแมวและจะกระทบกับส่วนอื่นๆ ที่ไทยจะขึ้นทะเบียนมรดกโลก นายกฯกล่าวว่า ผลกระทบทั้งหลายจะมีการพิจารณาอย่างถ่องแท้ แต่ผลกระทบต่อการขึ้นทะเบียนอะไรก็ไม่รุนแรง หากว่าถ้าว่าเราเสียดินแดน และนายนพดลน่าจะทราบว่า สิ่งที่ตัวเองทำไว้เมื่อปี พ.ศ.2551 สร้างปัญหามาอย่างไร ทำให้ทุกวันนี้ที่เราพยายามแก้มา 3 ปี ไม่ให้ไปเสนอแผนบริหารพื้นที่ มันจะคาบเกี่ยวกับพื้นที่ของเราเป็นปัญหามาตลอด อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไปเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อยู่ช่วงหนึ่งด้วย
อ้างไม่กระทบมรดกโลกในไทย
เมื่อถามว่าทางพันธมิตรฯ ประกาศเป็นชัยชนะของเขา กรณีที่ไทยถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก นายกฯกล่าวว่า คิดว่าเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ถอนตัวหรือไม่ถอนตัว ชัยชนะอยู่ที่การรักษาอธิปไตย รักษาดินแดน ตนยินดีทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่และพันธมิตรฯ ที่หวงแหนเรื่องนี้ต้องติดตามเรื่องต่อไป เพราะการถอนออกไปไม่ได้จบ ต้องช่วยกันรักษาดินแดน ป้องกันไม่ให้เดินเกมในลักษณะระหว่างประเทศ ที่มากระทบสิทธิ์ของไทย
เมื่อถามว่าตอนนี้ชายแดนทางกัมพูชาเริ่มเคลื่อนไหว นายกฯกล่าวว่า ตนได้คุยกับทางกองทัพตั้งแต่ก่อนถอนตัว ประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยสอบถามว่ามีการเฝ้าระวังแค่ไหน ซึ่งกองทัพยืนยันว่าเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาและรายงานให้ตนทราบว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร
เมื่อถามว่าช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลตรงนี้จะทำให้เป็นปัญหาต่อการดูแลแนวชายแดนกัมพูชา หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คงเป็นช่วงสั้นๆ ตนถึงอยากบอกว่าถ้าเลือกตั้งเสร็จทำอย่างไรเพื่อให้มีการตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เราจะได้มาสะสางปัญหานี้ต่อไป และขอยืนยันว่าถ้ามีความชัดเจนว่าเรามีรัฐบาลที่เข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง คิดว่าทางกัมพูชาจะปรับท่าที เพราะบางครั้งกัมพูชาพยายามจะดูเงื่อนไขการเมืองภายในประเทศ บางทีลุ้นอยู่ว่าถ้าเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจะหารัฐบาลที่พูดคุยกันง่ายกว่าหรือเปล่า เขาจึงดำเนินงานอย่างที่เราเห็น
เมื่อถามย้ำว่าจะกระทบต่อมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยัง เพราะมติที่ออกมาในท้ายที่สุดยังไม่มีการพูดถึงการไปอนุมัติหรือเห็นชอบกับแผนบริหารจัดการ ฉะนั้นตนมองว่าสถานะของการขึ้นทะเบียนเหมือนเดิม คือยังไม่สมบูรณ์ ยังมีปัญหาอยู่ และเรากำลังให้หน่วยงานไปดูข้อมติอย่างละเอียด เพราะในข้อมติการอ้างอิงต่ออนุสัญญาและข้อบังคับอะไรต่างๆ ตรงนี้ให้ไปดูให้ละเอียด ซึ่งในที่ประชุม ครม.ในวันที่ 28 มิ.ย.คงจะรับทราบสิ่งที่นายสุวิทย์ได้ไปดำเนินการมาภายใต้มติ ครม.เดิม และขั้นตอนที่จะทำต่อไป
ยูเนสโกแถลงโต้สุวิทย์บิดเบือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก แถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของยูเนสโก แสดงความเสียใจต่อการที่ไทยถอนตัวออกจากการเป็นภาคีคณะกรรมการมรดกโลก โดยระบุว่า อนุสัญญามรดกโลกปี 2515 ไม่ได้เป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์และปกป้องสมบัติโลกทั้งด้านธรรมชาติและด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีคุณค่าในทางสากลแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเครื่องมือพัฒนาความร่วมมือและการเจรจานานาชาติด้วย
นอกจากนั้น นางโบโกวา ยังชี้แจงข้อมูลที่ตรงกันข้ามกับประเด็นที่นายสุวิทย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทย โดยยืนยันผ่านแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้หารือถึงแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และคณะกรรมการมรดกโลกก็ไม่ได้ขอรายงานเพื่อนำมาหารือ ยิ่งกว่านั้นคณะกรรมการมรดกโลกต้องการสร้างความกระจ่างว่าศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ไม่เคยผลักดันให้เกิดการหารือในเรื่องแผนบริหารจัดการดังกล่าว
ชี้คำร้องขอเลื่อนไม่มีผู้สนับสนุน
การตัดสินใจเพียงประการเดียวของคณะกรรมการมรดกโลก ในเรื่องปราสาทพระวิหารที่เป็นมรดกโลก คือ ยืนยันถึงการปกป้องและอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารจากอันตรายใดๆ และคณะกรรมการมรดกโลกสนับสนุนทั้งไทยและกัมพูชาให้ใช้อนุสัญญาปี 2515 เป็นเครื่องมือสนับสนุนการอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเจรจา คณะกรรมการมรดกโลกอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ หลังจากไทยวอล์กเอาต์ ส่วนคำขอของไทยที่ให้เลื่อนการพิจารณาออกไป ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในที่ประชุมคณะกรรม การมรดกโลก
"มรดกโลกไม่ควรนำมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง แต่เป็นเครื่องมือสำหรับการเจรจาและการสร้างความปรองดอง" นางโบโกวา ย้ำ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นางโบโกวาเคยส่งนายโคอิชิโร มัตซึอุระ เป็นผู้แทนพิเศษมายังไทยและกัมพูชา หลังทั้งสองประเทศปะทะกันใกล้กับปราสาทพระวิหาร และนางโบโกวายังเคยช่วยอำนวยความสะดวกให้ไทยและกัมพูชาในระหว่างการหารือที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และนางโบโกวาแสดงความหวังว่าไทยจะพิจารณาอย่างรอบคอบและเคารพอนุสัญญา อีกทั้งจะให้ความร่วมมือในการปกป้องมรดกโลกต่อไป
"สุรเกียรติ์"ชี้ไทยเสียประโยชน์
ที่โรงแรมสยามซิตี นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีไทยยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกและกรรมการมรดกโลกว่า ตนยังไม่เห็นข้อมูลทั้งหมด และยังไม่ชัดเจนว่าการถอนตัวจากการเป็นกรรมการมรดกโลกจะเป็นประโยชน์อะไรกับประเทศไทย เพราะการกำหนดจุดยืนของไทยในกรณีที่ไทยไม่เห็นด้วยในประเด็นต่างๆ ก็สามารถทำได้ในหลายลักษณะและทั่วโลกก็ใช้วิธีนี้ เช่น วอล์กเอาต์ หรือขอให้ที่ประชุมบันทึกว่าไม่เห็นด้วยในประเด็นไหน ซึ่งสามารถหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างคัดค้านในอนาคตได้
"ตอนนี้ยังไม่เห็นเหตุผลทั้งหมดของคณะเจรจา แต่เท่าที่ฟังการให้สัมภาษณ์ การประชุมเป็นการเสนอระเบียบวาระ แต่ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาในรายละเอียด และคณะกรรมการก็ถอนคำที่ทางฝ่ายเราคัดค้าน ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นประโยชน์ที่เราไปถอนตัวจากการเป็นภาคี และคิดว่า หลังเลือกตั้ง ฝ่ายไทยคงต้องกลับมาพิจารณาให้รอบคอบ เพราะกระบวนการถอนตัวที่จะมีผลสำเร็จใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งตอนนี้มีคำถาม 3 ข้อ คือ 1.ยังไม่เห็นที่กัมพูชาเสนอเกินเข้ามาในร่างข้อมติชัดๆ 2.ยังไม่เห็นร่างข้อมติว่า อะไรที่เรารับไม่ได้แน่ๆ 3.สังคมยังไม่ได้ถกเถียงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง" นายสุรเกียรติ์กล่าว
นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า คณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้เป็นองค์กรที่เกี่ยวกับการปักปันเขต แดน แต่บางครั้งองค์กรที่เกี่ยวกับเรื่องเขตแดน ก็อาจจะยกมติมากล่าวอ้างบ้าง แต่ตนเห็นไปใน ทางที่ว่า ถ้ายังอยู่ข้างในภาคีและสู้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อปกป้องจุดยืน จะดีกว่าอยู่ข้างนอก เพราะถ้าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วฝ่ายไทยจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่า มีใครทำอะไรไปบ้าง แต่อยู่ข้างในยังคัดค้านได้ ฉะนั้น หลังเลือกตั้งก็ยังมีเวลาพิจาร ณาทบทวนกันได้ว่า จะออกจริงหรือไม่ออก ถ้าพิจารณาแล้วเห็นพ้องยืนยันว่าจะออก ก็แล้วแต่รัฐบาล แต่ถ้าคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ยังไม่รอบ คอบ เป็นการตัดสินใจอย่างกระชั้นชิด ใกล้ช่วงเวลาเลือกตั้ง ก็พิจารณาใหม่ได้ และสามารถขอ กลับไปใหม่ได้ ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลใหม่
ระบุการเมืองภายในไทยชี้นำ
เมื่อถามว่า การตัดสินใจถอนตัวเป็นผลจากปัจจัยการเมืองภายในด้วย นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะอีกอาทิตย์เดียวก็เลือกตั้งแล้ว ตนยังไม่อยากวิจารณ์มาก แต่หลังเลือกตั้ง เรายังมีเวลาก็ค่อยเอาที่กัมพูชาเสนอมาดูว่าเป็นอย่างไรแน่ และวาระที่บรรจุเข้าที่ประชุมเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะส่งผลความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามากขึ้นหรือไม่ นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องทวิภาคี แต่การแก้ปัญหาไปอยู่ในระดับพหุภาคี ถ้าความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นปกติ ก็แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่แน่นอนว่า ก็ต้องรักษาอธิปไตย ดังนั้น รัฐบาลใหม่ต้องมียุทธศาสตร์ระดับทวิภาคีและพหุภาคีกับประเทศเพื่อนบ้านที่ชัดเจน จึงจะแก้ปัญหาพิพาทได้ ส่วนเรื่องนี้จะมีผลต่อกรณีที่กัมพูชายื่นเรื่องให้ศาลโลกพิจารณาข้อพิพาทเขตแดนหรือไม่นั้น ตนยังตอบไม่ได้ ต้องดูรายละเอียดทั้งหมดก่อน อย่างไรก็ดี เรื่องการต่างประเทศต้องมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจใดๆ ไม่ใช่ว่า ปีที่ผ่านมาฝ่ายไทยไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วพอประชุมก็ไปล็อบบี้กรรมการจากต่างประเทศ พอกรรมการไม่ทำให้ ก็โวยวายชวนตี ดังนั้น อย่าให้ต่างชาติมองแบบนี้ ต้องมาคิดว่า ทำไมต่างชาติที่เป็นกรรมการมรดกโลกหลายสิบประเทศ ทำไมไม่เอากับฝ่ายไทยเลย ก็ต้องทบทวน
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อมรดโลกแห่งอื่นๆ ของไทย นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ความเป็นมรดกโลกคงยังอยู่ และตามอนุสัญญาก็ไม่ได้ห้ามให้ไทยเสนอแห่งใหม่ๆ เข้าไป แต่เป็นเรื่องแปลกแน่นอนที่ว่า ไทยไม่ได้เป็นภาคีแล้วแต่จะเสนอสถานที่เข้าไปให้กรรมการมรดกโลกพิจารณา
ผบ.ทบ.เผยเป็นแผนเตรียมไว้
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาคีมรดกโลก ว่าไม่มีปัญหาอะไร เป็นมาตรการหนึ่งที่เราได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จะทำ อย่างไรต่อไป ซึ่งการประชุมภาคีมรดกโลกครั้งนี้มีปัญหาเกิดขึ้นในเรื่องของการเสนอวาระเข้าไปในการประชุม เท่าที่ตนทราบจากการรายงานในชั้นต้นเดิมจะขอเลื่อนไปก่อน แต่ปรากฏว่าเขาจะนำเข้าไปในวาระและจะพิจารณาเลย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็คงต้องหาทางแก้ปัญหากันต่อ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการดูแลตามแนวชายแดนเราก็ปฏิบัติเหมือนที่ผ่านมา และเราก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่มีการปะทะกันมา เราได้มีการเตรียมการเพิ่มเติม ปรับกำลัง จัดที่กำบังต่างๆ ให้ปลอดภัย ซึ่งเราจะเตรียมการป้องกันเป็นหลัก เราไม่ต้องการรุกรานใครทั้งสิ้น และที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้เริ่มต้นสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตามจะติดตามสถานการณ์ต่อไป ทหารจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ในเรื่องนี้ต้องแยกประเด็นออกจากกัน เพราะเราได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกภาคีมรดกโลก ไม่จำเป็นต้องมาพูดให้เป็นประเด็นอีกแล้ว คงต้องไปดูในเรื่องของศาลโลกต่อไป ว่าจะตัดสินให้คุ้มครองตามคำร้องของประเทศกัมพูชาหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ตนคิดว่าในส่วนของรัฐบาลและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
จับมือแสดงความยินดีกับสุวิทย์
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้ปรึกษาเรื่องการดูแลตามแนวชายแดนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมน ตรีได้สั่งการผ่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และได้สั่งการให้เข้มงวดตามแนวชายแดนตั้งแต่พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 คือด้านจันทบุรีและตราด ตลอดแนว การสัญจรไปมาของประชาชนและงานด้านการข่าว ส่วนการเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ฝ่ายตรงข้าม เรื่องนี้ ทาง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เตรียมพร้อมมาโดยตลอด เราทั้ง 3 เหล่าทัพจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"วันนี้ คงต้องมีการพูดคุยกันแล้วในระดับสูง เพราะระดับล่างยังคุยอะไรกันไม่ได้ ต้องดูข้างบนว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไป ในเรื่องของมาตรการต่างๆ จะเข้มงวดแค่ไหน ต้องพูดคุยกันอีก แต่สิ่งหนึ่งที่พบว่าทั้งสองประเทศไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบ เพราะจะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายเดือดร้อน" ผบ.ทบ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เสร็จ ได้เดินมาจับมือกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย ที่เพิ่งแถลงข่าวเสร็จเช่นเดียวกัน โดยทั้งสองฝ่ายมีสีหน้ายิ้มแย้ม และนายสุวิทย์ได้พุดคุยกับ ผบ.ทบ.ว่า"เมื่อวานมันเอาหมดทุกอย่างเลย" และผบ.ทบ.ได้ตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไร ท่านรมว.กลาโหมได้โทรศัพท์สั่งการมาที่ผม และผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง"
ประวิตรพร้อมดูแลอธิปไตยไทย
ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก(อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์การดูแลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง ส่วนความรับผิดชอบของทหารตนได้สั่งการไปแล้วในเรื่องการดูแลอธิปไตย ทุกอย่างที่เป็นของประเทศไทยตามแนวชายแดน และเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ดังนั้น ไม่มีปัญหา อะไรที่เป็นของเราก็ยังเป็นของเรา
เมื่อถามว่าการถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกจะทำให้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียดเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่ตนคิดว่าเราต้องดูแลอธิปไตยทุกอย่างที่เป็นของเรา เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เมื่อถามว่า นายกฯได้กำชับในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ท่านให้ดูแลพื้นที่และประชาชนตามแนวชายแดน ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกครั้งมีการเตรียมแผนอพยพอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เราเตรียมการไว้แล้ว เวลานี้เรามีความพร้อมในการป้องกัน การให้ความปลอดภัยกับประชาชน เมื่อถามว่ากัมพูชามีการเคลื่อนกำลังบริเวณชายแดนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ตนเชื่อว่าไทยและกัมพูชาคงไม่อยากรบกัน คงต้องมีการพูดจากัน
เทือกชี้จำเป็นต้องถอน-เลี่ยงไม่ได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาคีคณะกรรมการมรดกโลกว่า เป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความจริงจุดยืนของรัฐบาลไทยต้องการที่จะร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ในเวทีโลกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องอธิปไตยของชาติ พื้นแผ่นดินของเราตารางนิ้วเดียวเราก็ยอมไม่ได้ จึงถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะปกป้องอธิปไตยของเรา
"คณะกรรมการมรดกโลกเมื่อไม่ฟังเหตุผลของเรา ทั้งที่เรื่องการปักปันเขตแดนกำลังดำเนินการอยู่ และยังจะพิจารณาอะไรที่เป็นการข่มเหงเรา เราก็รับไม่ได้" นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินใจเช่นนี้ จะส่งผลไปถึงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ทหารได้ส่งกำลังดูแลอยู่อย่างแข็งแรงและมั่นคง มั่นใจว่ากองทัพไทยจะรักษาอธิป ไตยของเราได้อย่างสมภาคภูมิ ไม่ต้องให้ประชา ชนกังวลใจ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น เชื่อว่าหลังเลือกตั้งทุกอย่างจะคลี่คลาย ขณะนี้มันสอดรับกันอยู่ เมื่อเลือกตั้งแล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อยได้
เมื่อถามว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย เพราะจะไม่สามารถนำโบราณสถานอื่นๆ ขึ้นเป็นมรดกโลกได้และจะมีผลกับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในประเทศไทย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ไม่น่าแปลกใจที่นายปลอดประสพไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เพราะไม่เห็นด้วยทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าเห็นด้วยถึงจะเป็นเรื่องแปลก ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวล เพราะประเทศไทยยังเป็นประเทศที่คนสนใจมาเที่ยวติดอันดับโลกอยู่ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นข่าวไทยติดอันดับ 3 ของโลกที่น่าเที่ยว ขออย่างเดียวว่าอย่าให้มีพวกมาเผาบ้านเผาเมือง หรืออย่ามาก่อเหตุจลาจลอย่างที่เคยทำมาอีก คนเขาก็มาเที่ยวแล้ว
เผยบัวแก้วท้วงสุวิทย์ไม่ให้ถอน
รายงานข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยบรรยากาศการหารือ ก่อนที่นายสุวิทย์ จะถอนตัวจากสมาชิกภาคีมรดกโลก ทั้งที่ความเป็นจริงเรื่องดังกล่าวมีแนวโน้มที่ไทย-กัมพูชา สามารถหาทางออกร่วมกันได้ โดยไทยเสนอให้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ปราสาทพระวิหาร แลกกับการเลื่อนการพิจารณาพื้นที่รอบปราสาท 4.6 ตร.ก.ม. นอกจากนี้ ไทยและยูเนสโกได้ใช้เวลาพิจารณาในส่วนของถ้อยคำที่จะระบุอยู่ในข้อมติของคณะกรรมการมรดกโลก เช่น protection and conservation แทนคำเดิมที่ได้ระบุก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งไทยไม่ต้องการให้กัมพูชาขยายความคำว่าบูรณะว่าต้องทำอย่างไร
รายงานข่าวกระทรวงต่างประเทศระบุด้วยว่า ผลการเจรจาดังกล่าวเป็นที่น่าพอใจ เพราะกัมพูชายอมรับข้อเสนอของไทย แต่นายสุวิทย์กังวลว่าทางกัมพูชาอาจสอดแทรกแผนบริหารเข้ามาในข้อมติดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงได้ท้วงติงความคิดของนายสุวิทย์ว่าการเจรจาระดับพหุภาคีจะไม่มีการกระทำดังกล่าวแน่นอน เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจะเจรจาในเรื่องที่หยิบยกมาเท่านั้น อย่างไรก็ดี สิ่งที่นายสุวิทย์กระทำลงไปถือว่าไม่รักษามารยาททางการทูต เพราะเป็นการแสดงความไม่เชื่อมั่นในคู่เจรจา และตีความไปก่อนหน้า จนนำไปสู่การตัดสินใจบอกล้างอนุสัญญามรดกโลก 1972 ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เพราะมีทางเลือกอีกหลายแนวทาง ซึ่งทางกระทรวงก็ได้รายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว
วันเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว. วัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีไทยประกาศถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกว่า นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ได้โทรศัพท์มารายงานการลาออกจากภาคีมรดกโลกของไทย ยังไม่มีผลทันที รัฐบาลต้องส่งหนังสือยืนยันแจ้งการลาออกอย่างเป็นทางการกลับไปยังยูเนสโก เมื่อครบ 1 ปีการลาออกจึงจะมีผลสมบูรณ์ ส่วนตำแหน่งคณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศนั้น นางโสมสุดาต้องส่งหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการเช่นกัน ซึ่งต้องหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรอีกบ้าง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้
+ + + +
ณ ประเทศโคตรอินดี้: เมื่อสู้เขาไม่ได้ก็ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก โดย นายปราบ รักไฉไล
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309259817&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ลาออกจากมรดกโลก: บนความสูญเสียของใคร? โดย พวงทอง ภวัครพันธุ์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309247610&grpid=01&catid=02&subcatid=0207
หัวจิตหัวใจ โดย ฐากูร บุนปาน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309260372&grpid=&catid=02&subcatid=0207
"นพดล"โต้กลับ"อภิสิทธิ์"ใส่ร้ายป้ายสีกรณีปราสาทพระวิหาร ลั่นพร้อมอโหสิ จวกหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309232642&grpid=00&catid=01&subcatid=0100
"มาร์ค"เผยผ่านเฟซบุ๊ก"จากใจนายกฯตอน 8" อัด"นพดล"ควรหุบปากเรื่องไทย-กัมพูชา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309230949&grpid=00&catid=01&subcatid=0100
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย