http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2554-03-29

ผู้จัดระเบียบการเมือง และ อยากเลือกตั้งใหม่ โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

.
ผู้จัดระเบียบการเมือง
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
ในมติชน ออนไลน์ ฉบับวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19:15:00 น.


เมื่อการเมืองไทยกำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง แม้จะมีพวกนักเล่นเกมอำนาจโรคจิตกลุ่มหนึ่งยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง ไม่ให้เกิดประชาธิปไตยอยู่ก็ตามที

แต่วันนี้ต้องถือว่าการเลือกตั้งอยู่แค่เอื้อมแล้ว

มีความเคลื่อนไหวขานรับกันอย่างคึกคัก มีการมองหาสูตรใหม่ๆ เพื่อเป็นทางออกให้กับบ้านเมือง ภายใต้ร่มธงการเลือกตั้ง

จริงอยู่ การเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของประชาธิปไตย

แต่ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อำนาจถูกดึงไปไว้ในมือของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคิดกันเอาเองว่าเป็นคนดี ให้คนกลุ่มนี้เข้ามาจัดระเบียบการเมืองให้เรียบร้อยลงตัวสักระยะ

ประการหลังนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร

แล้วคำว่าคนดี ป่านนี้พี่มาร์คยังสั่งสอนบทเรียนให้ไม่เข็ดกันอีกหรือ

การเลือกตั้งจึงเป็นความปรารถนาของคนส่วนใหญ่มากกว่า

แม้ว่ายังจะต้องช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรประชาชนในท้องถิ่นในชุมชนต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองเพิ่มขึ้น

อำนาจต้องเป็นของประชาชนส่วนใหญ่ นั่นแหละจึงเป็นหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าอำนาจยังอยู่ในมือชนชั้นสูงกลุ่มนายทุนขุนศึกที่คิดว่าตนเองฉลาดกว่า คิดว่าเป็นผู้กำหนดระบบระเบียบการเมืองให้คนส่วนใหญ่ต้องเดินตาม นั่นย่อมมิใช่ประชาธิปไตย


ทุกวันนี้มีคนบางกลุ่มกลุ้มใจไม่อยากให้มีเลือกตั้งมาจากสาเหตุอะไร

มาจากการประเมินผลล่วงหน้าคาดหมายกันว่าประชาธิปัตย์อาจแพ้

เนื่องจากผิดพลาด ทำปากท้องประชาชนหิวโหยขาดแคลน ทำให้เกิดปัญหาสองมาตรฐาน ความรู้สึกระหว่างมีเส้นกับไม่มีเส้น แผ่กว้างไปทั่ว

เสื้อแดงยิ่งขยายตัวเพราะ 91 ศพไม่มีความเป็นธรรม

สภาพเช่นนี้บ่งชี้ว่า ผู้คนจะหันกลับไปหาเพื่อไทย

แต่นั่นก็เป็นไปตามธรรมชาติของการเมือง การเลือกตั้งแต่ละหนอารมณ์ความนิยมของประชาชน ย่อมไม่เหมือนกัน ใครจะไปกำหนดได้


ความกลัวว่าประชาธิปัตย์จะแพ้ แล้วทักษิณจะกลับมานี่แหละเป็นปมในชีวิตของนักเล่นเกมอำนาจกลุ่มหนึ่ง

ทั้งที่เอาเข้าจริงๆ ยังไม่มีใครรู้ว่าผลเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน

พรรคเพื่อไทยเองยังหาหัวไม่ลงตัว ทะเลาะกันนัวเนีย

แถมผู้คนเริ่มสนใจพรรคใหม่ ที่มี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นตัวชูโรง

อยากได้นายกฯใหม่ ที่ไม่ใช่มาร์คหรือคนของทักษิณ

เผื่อว่าจะได้หลุดพ้นจากวงจรขัดแย้งเสียที แถม ร.ต.อ.ปุระชัยคนนี้ยังการันตีเรื่องความดี ความสุจริต ตรงไปตรงมา ได้มากกว่า

ไม่ใช่แค่ดีแต่พูด



เลือกตั้งแล้วมาร์คจะกลับมา เพื่อไทยจะชนะ หรือปุระชัยจะเป็นทางออกใหม่ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ขอเพียงให้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย เป็นไปตามธรรมชาติของสังคม

เลิกเสียทีเถอะกับการที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะมาคิดแทนคนส่วนใหญ่ คิดเอาเองว่าปล่อยไปจะวุ่นวาย ขอให้ทุกคนหยุด เดี๋ยวจะจัดระเบียบใหม่ให้

จุดเริ่มต้นของวิกฤตประเทศไทยจนป่านนี้ยิ่งตกต่ำดำดิ่ง มาจากพวกนักจัดระเบียบแทนคนส่วนใหญ่นี่แหละ


++

อยากเลือกตั้งใหม่
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
ในมติชน ออนไลน์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:00:00 น.


การอภิปรายไม่ไว้วางใจดำเนินไปอย่างเมามันในสภา คล้ายจะเป็นมหกรรมการเมืองเพื่อพิสูจน์ฉายา "ดีแต่พูด" ของนายกฯและรัฐบาลนี้ให้ประจักษ์แจ้งต่อประชาชนในวงกว้าง ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ

คือตอบซะทุกเรื่อง ชี้แจงหมดทุกประเด็น

ทั้งนายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ใช้ลีลาวาทะ เชือดเฉือนฝ่ายค้านอย่างไม่มีลดละ

คล้ายจะบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

ข้าวของแพง ชาวบ้านแย่งซื้อน้ำมันปาล์มจะตีกันตายนั้น รัฐบาลก็ไม่ผิด

เรื่องภาษีบุหรี่นอก รัฐบาลก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายย่อยยับ 6 หมื่นล้านอะไรเลย

คนตาย 91 ศพ รัฐบาลก็ไม่ได้ทำ ไม่ได้สั่งการผิดพลาด ไม่ต้องรับผิดชอบแม้แต่น้อย

ปัญหา 3 จังหวัดใต้ มีประชาชน ทหารตำรวจ ล้มตายเป็นเบือ รัฐบาลก็มาถูกทางแล้ว ไม่มีผิดพลาดสักนิด

ฟังการตอบโต้กันในสภาทั้งหมดแล้ว ก็อยากให้เสร็จจากนี้รีบยุบสภาเสียโดยไว จะได้เลือกตั้งกันใหม่ จัดระเบียบการเมืองใหม่โดยประชาชนมีส่วนร่วม


แต่พูดถึงการเลือกตั้ง มักมีคำถามว่า เลือกเสร็จแล้ว การเมืองจะวนกลับไปเหมือนเดิมหรือไม่

ลงเอยก็แค่สงครามตัวแทนระหว่างประชาธิปัตย์ขั้วการเมืองอนุรักษนิยม กับเพื่อไทยขั้วการเมืองทักษิณ ที่ส่งให้บ้านเมืองจมปลักอยู่กับความขัดแย้งดังเดิมหรือเปล่า

คำตอบในเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่า ถ้าปล่อยให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด จะประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทยใครเป็นผู้ชนะ ต้องถือว่าเป็นประชามติของประชาชน ก็ต้องปล่อยให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล บริหารประเทศต่อไป

สำคัญว่า อย่ามีมือพิเศษที่ไหนมาเปิดค่ายทหารให้จัดตั้งรัฐบาลกันอีกเป็นใช้ได้



แต่การเมืองไทย อาจไม่มีแค่ประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทยเท่านั้น

วันก่อนภูมิใจไทย เนวิน ชิดชอบ ประกาศจับมือกับ บรรหาร ศิลปอาชา ชูสโลแกน "จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน" ซึ่งก็ยังไม่รู้ไปไหน แต่ที่แน่ๆ เหมือนการประกาศขั้วใหม่ขึ้นมาอีกขั้ว ระหว่างพระรองด้วยกัน

หลังจากนั้นไม่กี่วัน บรรหาร ศิลปอาชา ก็พบปะกับกลุ่ม 3 พี นายพินิจ จารุสมบัติ ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ บวกกับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ มาตั้งวงข้าววงการเมืองกันแถวๆ ประชาชื่น

เป็นที่รู้ว่า เป็นอีกขั้วที่จับมือกันเหนียวแน่นไม่น้อย ก่อนที่ภูมิใจไทยจะเข้ามาจูบปาก บรรหาร เสียอีก

แต่ทั้งหมดนี้ อาจมีข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องของนักการเมืองหน้าเก่าๆ ทั้งสิ้น


จึงมีข้อเสนอนักการเมืองทางเลือกใหม่ปลิวว่อนออกมาแล้ว

ชื่อของ ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยไม้บรรทัด ที่สังคมไทยยอมรับและเชื่อถือ กับพรรคการเมืองที่กำลังจะก่อตั้งใหม่ เป็นที่ต้อนรับไม่น้อย

เพราะมาพร้อมสัญลักษณ์การปรองดอง คุณธรรม จริยธรรม เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าพรรค

อีกจุดคือความซื่อสัตย์สุจริต

ยังไม่รู้ว่าถึงที่สุด พรรคนี้จะเกิดขึ้นจริง ดร.ปุระชัย จะลงสนามเพื่อเป็นนายกฯทางเลือกคนใหม่จริงหรือไม่


เพียง..จากการฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเอ่ยถึงซื่อสัตย์สุจริต

ที่รูปหล่อพูดเก่ง แต่เหม็นหึ่ง...จบไปได้เลย

.