http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-11-03

เพื่อนโยบายปฏิรูป..ของเพื่อไทย ปรับทั้งพรรค และ ครม. โดย มุกดา สุวรรณชาติ

.

เพื่อนโยบายปฏิรูป...ของ เพื่อไทย ปรับทั้งพรรค และ ครม.
โดย มุกดา สุวรรณชาติ คอลัมน์ หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1681 หน้า 20


สัปดาห์ก่อนเรื่องปฏิรูปถูกขัดจังหวะด้วยข่าวการชุมนุมของกลุ่มคนที่ทนกระแสการปฏิรูปไม่ได้ พอดีเป็นจังหวะปรับ ครม. และเปลี่ยนผู้บริหารพรรคเพื่อไทย
ฉบับนี้จึงถือโอกาสวิเคราะห์วิจารณ์ควบไปทั้งนโยบายและตัวบุคคล


แผนการปฏิรูปใหญ่ที่ไร้พรมแดน

ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีการชูคำขวัญแบบ จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์ เหมือนยุค จอมพลถนอม กิตติขจร และก็ไม่ออกแนว งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข เช่น สมัยรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 
แต่ดูเหมือนในสมัยทักษิณ ทุกคนถูกกระตุ้นให้ทำงาน โดยการให้โอกาส ให้ทุน ให้ความรู้ ให้ผลตอบแทน
มีการประเมินว่าในพรรคไทยรักไทย คาดการณ์แนวโน้มการหดตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาแล้ว และก็หาทางรอดของประเทศไทย จึงวางแผนปลุกตลาดในประเทศและเปิดตลาดเอเชียเพิ่ม โดยระดมทุกคนทั้งสมองและแรงงาน จากทุกส่วนมาทำงานให้มากที่สุด

เมื่อคิดจะเปลี่ยนประเทศให้ก้าวหน้า ก็ต้องเปลี่ยนคน ไม่ใช่คนชั้นสูงหรือกลุ่มคนที่มีฐานะทางสังคมดีอยู่แล้ว หรือกลุ่มที่มีการศึกษากลุ่มเล็กๆ ประเภท แชมป์โอลิมปิก นั่นสำหรับเอาไว้โชว์แขก 
แต่ต้องยกระดับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ และความรู้ความสามารถ

1. ยกระดับความมั่นคงในชีวิต วันนี้กลุ่มคนชั้นล่างได้ประโยชน์สูงสุดเมื่อเทียบกับชีวิตในอดีต มีความมั่นใจต่อความมั่นคงในชีวิตมากขึ้นทั้งยามเกิดและยามเจ็บป่วยจากนโยบายสาธารณสุขที่ทำให้การรักษาเกือบฟรี  
2. ยกระดับค่าแรง ทำให้คนที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมและการบริการได้เงินมากขึ้น ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนในปีหน้า 
3. ยกระดับราคาสินค้าการเกษตร เช่น ยาง ข้าว ฯลฯ กำลังดำเนินงานอยู่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 
4. แก้ปัญหาอื่นๆ เช่น การศึกษา การสื่อสาร การขนส่ง การให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือเงินกองทุนต่างๆ ล้วนแต่เป็นผลต่อการ ให้โอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งสิ้น 
5. แก้ปัญหาและยกระดับการพัฒนาทางการเมือง 
6. ปัจจัยในการปฏิรูปทุกเรื่อง ทุกอย่าง ไม่กำหนดขอบเขต มีในประเทศก็ใช้ ไม่มีก็ขยายออกไปถึงเพื่อนบ้าน ไปทั้งอาเซียน พยายามผูกโยงไปทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ไม่จำกัด ทั้งตลาด ความรู้ และทุน ไม่ว่าจะเป็นชาติใดประเทศใด จะเห็นว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสนับสนุนการใช้แรงงานต่างชาติ การขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ทรัพยากร เช่น ก๊าซจากพม่า ไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว นี่คือแผนที่ไร้กรอบเขตแดน

นี่เป็นหลักคิดปฏิรูปที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม หรือจะมองว่าเป็นทุนนิยมสามานย์ ที่ทำให้ทุกคนพยายามแสวงหาเงิน ก็แล้วแต่จุดยืนของคนมอง ว่าได้หรือเสียประโยชน์


ทักษิณคิดนโยบายปฏิรูปเหล่านี้เองหรือ?

มีคำพูดติดปากว่า...ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ หรือ เล็กๆ ทักษิณไม่...ใหญ่ๆ ทักษิณทำ ทีมวิเคราะห์มองนโยบายทุกด้านตั้งแต่เริ่มเป็นพรรคไทยรักไทย ผ่านการรัฐประหาร จนเป็นพรรคเพื่อไทย หลายนโยบายมีลักษณะต่อเนื่อง และมุ่งเข้าสู่จุดหมายเดียวกัน แต่นโยบายเหล่านี้มาจากไหน
1. มาจากการสำรวจความต้องการของประชาชนโดยตรง หรือเป็นความเดือดร้อนที่ต้องแก้ไข 
2. มาจากข้อเสนอของข้าราชการ เพราะพวกเขาทำงานมานานมีประสบการณ์ เห็นปัญหา ถ้าเต็มใจร่วมมือย่อมได้นโยบายที่ดี 
3. มาจากการระดมความคิดของคนในพรรคทั้ง ส.ส. นักคิด นักวิชาการ 
4. มาจากแรงบีบของสถานการณ์  
คำตอบเรื่องนโยบายคือทักษิณไม่ได้คิดเอง แต่มีส่วนสำคัญในการเลือก ว่าจะทำเรื่องไหน เพราะการระดมความคิดแบบนี้สามารถสร้างนโยบายได้นับร้อยหัวข้อ


ถึงตรงนี้ความสามารถของผู้นำจะเป็นตัวชี้ขาด ว่าจะเลือกข้อไหน? ทำเรื่องใดก่อน? เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์อะไร? เพราะในเวลาที่จำกัด เงินที่จำกัด และสภาพแวดล้อมต่างๆ โอกาสในการนำนโยบายไปปฏิบัติให้สำเร็จ ก็มีขอบเขต ไม่สามารถทำได้ทุกเรื่อง  
เช่น... ยุคนายกฯ ทักษิณ เลือกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ด้วยการถามถึงงบประมาณที่ต้องใช้ต่อปี พอรู้ว่ามีพอก็ตัดสินใจทำ เพื่อบรรลุเป้าหมายสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนจน

ยุคนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินหน้าเต็มตัว เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และการจำนำข้าว เพราะต้องการบรรลุเป้าหมายในการยกระดับรายได้ของคนชั้นล่าง  
และบางนโยบายก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ตลอด เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ 2550 แม้จะรู้ว่าหากจะกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการปฏิรูปประเทศ จะต้องปฏิรูปการเมืองก่อน เรื่องนี้ยังมีความเห็นที่แตกต่าง และในสถานการณ์ปัจจุบัน ทักษิณไม่กล้านำตัวเองเข้าไปเกี่ยวเพราะยิ่งเกี่ยวข้องยิ่งแก้ยาก 
และอย่าไปหวังว่ารัฐบาลจะขยับตัวเรื่องนี้ก่อน เพราะอาจจะผิดข้อตกลงในสัญญาสงบศึกบางฉบับซึ่งประชาชนไม่ได้รับรู้ด้วย



การปรับกำลังกองหน้า
ต้องการคนลุยงาน


ทีมวิเคราะห์มองว่า ตัวนโยบายคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อไทยมี ส่วนตัวบุคคลยังมองไม่เห็นว่ามีใครเก่งพิเศษ ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์จึงยังคงเป็นคนสำคัญที่สุดในกองหน้า แม้ลีลาฟุตบอลจะไม่สวยงาม แต่เล่นตามโค้ชสั่ง ไม่หวงลูก มุ่งสู่ชัยชนะตามเป้าหมาย ไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนยิงประตู
ประสบการณ์ปีกว่าในสนาม ด้วยลีลาการเล่นที่ทรหดอดทน และสุภาพ จนกรรมการเกรงใจ กล่าวได้ว่า เธอไม่เคยได้รับใบเหลืองเลย

ความหวังของกองเชียร์ คืออยากให้ รมต. คนอื่นๆ เพิ่มฝีเท้าและการประสานงานเพื่อทำประตูให้ได้ การเปลี่ยนตัว ครม. ทำให้ปลายปีนี้ ผู้คนหวังว่าจะได้เห็นฝีเท้าของ พงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ชัชชาติ สุทธิพันธ์ รมว. คมนาคม นพ.ประดิษฐ์ สินวณรงค์ และคนหน้าใหม่อีกหลายคน 
คนดูอยากเห็น รมต. บุกไปข้างหน้ามากกว่าเดินตามหลังนายกฯ เพราะนโยบายหลักเป็นเชิงรุกทั้งสิ้นเช่นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และการรับจำนำข้าว เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องผลักดันต่อไป และคนที่จะได้จะเสียผลประโยชน์ก็ต้องมาถกเถียงต่อสู้กัน ซึ่งบางครั้งก็ไม่มีข้อยุติ

งานแบบนี้ไม่ง่ายแบบสั่งการลงในกระดาษ บางทีกว่าจะยอมรับว่า 300 บาทเหมาะสม ในตลาดแรงงานอาจต้องจ้างถึง 400 บาทไปแล้ว


กองกลาง ...กำลังหนุนเพื่อการรุก 
อย่าเอาแต่ตั้งรับ


ที่สำคัญคือตัวองค์กรพรรคเพื่อไทย แม้ผู้นำพรรคทางจิตใจยังคงเป็นทักษิณคนเดิม แต่งานจะเดินได้ การเล่นจะลื่นไหล การทำหน้าที่ของกองกลางเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้มีการเปลี่ยนกรรมการพรรคชุดใหม่ มี คุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค และ คุณภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาธิการพรรค แน่นอนว่ายังมีทีมงาน กรรมการพรรค ทั้งรองหัวหน้า รองเลขา และตำแหน่งอื่นๆ สนับสนุนการทำงาน

มีคำถามว่าทำไมหัวหน้าจึงเป็นคุณจารุพงศ์ 
คำตอบก็คือซื่อสัตย์ไว้ใจได้ ทั้งต่องานและต่อคน มีสายสัมพันธ์ที่ดี และพูดคุยได้กับทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย สามารถทำงานเป็นทีม หัวหน้าพรรคจะใช้ความอาวุโสและตำแหน่ง รมว.มหาดไทยประสานกับฝ่ายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการเมืองและผลักดันนโยบายของรัฐให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

ส่วนเลขา ทำไมต้องเป็นภูมิธรรม ไม่ว่าข่าวที่ออกมาในช่วงนี้จะวางตัวเขาไปอยู่ตำแหน่งใด แต่พี่อ้วน ภูมิธรรม รู้ตัวและเตรียมทำงานพรรคอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เพราะอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จังหวะที่สถานการณ์เปลี่ยนจึงก้าวขึ้นจาก ผอ.พรรคเป็นเลขาธิการพรรคได้ทันที วันนี้เขาจึงรับงานในพรรคโดยไม่ต้องฝึกงานใดๆ
แต่การทำงานคงหนักพอสมควรเพราะหัวหน้าพรรคมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งงานในกระทรวงหนักมาก
สภาพของภูมิธรรมจึงต้องกลายเป็นตัวยืน ทำงานอยู่ในพรรคแบบเกิน 100%

ในสถานการณ์แบบนี้ทีมวิเคราะห์มองว่า ฝ่ายตรงข้ามพยายามหาเรื่องโต้กลับ สุดแรง กำลังหนุนจากพรรคจึงต้องเปิดแนวรุกต่อหลายแนว เพื่อเปิดช่องให้รัฐบาลทำงาน จึงจะอยู่รอดได้ ความสำเร็จของงานทั้งหมด ไม่เพียงแค่การวางแผน แต่จะต้องอาศัยความสามารถในการกระจายงานให้คนในพรรคและแนวร่วม ทั้งระดับกลาง ระดับล่างช่วงเดินงานต่อ เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติอย่างเต็มที่
ดังนั้น
ต้องขยายพรรคเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่จะต้องลดความขัดแย้งในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้ 
ต้องทำงานแนวร่วมให้ดี โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดงทั้งบนและล่าง
พร้อมรับและรุก กับการแก้ปัญหาการเมืองนอกสภา เตรียมแผนทางการเมืองในจังหวะสำคัญเช่นการเลือกตั้ง กทม. หรือการสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐ



กองหลังที่แข็งแกร่ง
คือหลักประกันของอำนาจรัฐ


กองหลังของเพื่อไทยคือ ส.ส. และคนเสื้อแดง สภาผู้แทนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่อยู่แล้ว ความสามารถในการจัดการคืออย่าให้แตกสามัคคีกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้คนที่มีบารมีมากกว่าประธานสภา ส่วนเรื่องการรุกของฝ่ายตรงข้ามในสภาเชื่อว่า ส.ส. เพื่อไทยสกัดได้ไม่ยาก

ส่วนคนเสื้อแดงเป็นกองหลังที่สำคัญที่สุด ที่สามารถต้านเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามได้ทุกรูปแบบ เพราะไม่มีกรอบที่จำกัดในการต่อสู้เหมือน ส.ส. ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะบุกแบบไหน และคนที่มีบทบาทสำคัญในวันนี้คือ จตุพร พรหมพันธุ์  
หลายปีที่ผ่านมาทีมวิเคราะห์และสื่ออื่นไม่เคยจัดจตุพรอยู่ในส่วนของรัฐบาล แต่จัดอยู่ในส่วนของเสื้อแดงมาโดยตลอด
ในขณะที่การจัดตัว จาตุรนต์ ฉายแสง อยู่ในส่วนของรัฐบาลแม้ว่าครั้งนี้ทั้งคู่จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี คนเสื้อแดงทั่วไปก็คิดอย่างนี้ และเทใจให้จตุพร เชื่อว่าคนนี้แหละจะสามารถพาพวกเขาบุกไปข้างหน้าเมื่อถึงคราวจำเป็น 

จตุพรจึงยังเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของนักสู้เสื้อแดง เป็นความยิ่งใหญ่ที่มอบให้กันไม่ได้ ต้องสร้างขึ้นจากการต่อสู้ 
คาดว่าถ้ามีตำแหน่งที่ปรึกษา รมว. มหาดไทยก็น่าจะใช้ให้เป็นประโยชน์ในการทำงานได้ มวลชนหวังว่าจตุพรและแกนนำ นปช. ทั้งหมดจะไม่ทิ้งพวกเขาไป วันนี้แกนนำพาประชาชนออกมาไกลเกินกว่าที่จะย้อนกลับ 

ในทางปฏิบัติแล้ว เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หรือเรื่องคนตาย 99 ศพ คนเสื้อแดงที่ก้าวหน้าที่สุดจะต้องบุกหน้าไปก่อน ให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลตามหลัง 

การปฏิรูปประเทศเดินหน้ามาหลายปี ถ้าท้อแท้หมดแรง แผนผลักดันประเทศให้ก้าวหน้าก็จะหยุดลงและเราจะไม่มีโอกาสพูดถึงโครงการทวาย ระเบียงเศรษฐกิจในอาเซียน รถไฟความเร็วสูง  
แต่จะได้พูดเรื่องการกราบพระศพสมเด็จฯ สีหนุ ว่าต้องแบมือหรือไม่ แต่งชุดดำหรือชุดขาว ไปไหว้พระธาตุ ยืนเหยียบฐานพระธาตุหรือไม่
ถ้าใครชอบวิจารณ์เรื่องละเอียดเหล่านี้มากกว่าก็ไม่ต้องปฏิรูป

องค์ประกอบของขบวนประชาธิปไตยในยุคนี้ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดคือคนเสื้อแดงจำนวนมหาศาล กลุ่มที่นำมีหลายคนอาจเก่งไม่เท่ากันแต่รวมกันแล้ว ใช้งานได้ดี ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ถนนประชาธิปไตยวันนี้แม้ยาวไกลแต่ก็ถือว่าเป็นเส้นทางมาตรฐานที่ราดยางแล้ว

ถ้าสามัคคีกันทำไมจะเดินต่อไปไม่ได้ 
สุดท้ายอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะเป็นปลายปีนี้หรือปีหน้า ก็ต้องพร้อมรับมือ



.