http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-07-11

เรื่องเก่าใหม่ๆ, จับใจผ่านจอ โดย ศิลา โคมฉาย

.

เรื่องเก่าใหม่ๆ
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1663 หน้า 67


หลังการก่อเหตุสะเทือนขวัญของอาชญากรรุ่นเยาว์ นักเรียนอาชีวะ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อคิดเห็น การเสนอทางแก้ไขปัญหา มีหลากหลาย ดังกระหึ่มมาจากทุกทิศทาง ปรากฏบนแทบทุกหน้าสื่อ 
แสดงการรับผิดชอบสังคมร่วมกัน
แต่ไม่รู้ว่าเขาเสนอให้กับใคร 
เพราะเรื่องดูเหมือนจะเกินกำลัง ความรับผิดชอบแบบโดดๆ ของส่วนใดส่วนหนึ่ง และไม่มีใครออกหน้ารับแบบเต็มๆ
บางรายจึงบอกให้กว้างเข้าไว้...ต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

อันที่จริงเรื่องราวที่เกิดเป็นปัญหาเก่าซ้ำซาก โบร่ำโบราณ ก่อนหน้าประดาผู้บริหารในกระทรวงศึกษาฯ ในสถาบันอาชีวะ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นุ่งขาสั้นเป็นนักเรียนเอาด้วยซ้ำ
ข้อเสนอก็มิได้มีอะไรใหม่จนน่าตื่นตาตื่นใจ


สิ่งที่สังคมรับรู้นานมา คือเป็นการก่อเหตุร้ายของคนกลุ่มน้อย พวกหัวโจกไม่กี่ราย แต่ไม่เคยได้เห็นการปฏิบัติการคัดแยกจัดการอย่างจริงจัง ทำนองเดียวกับข่าวซ้ำๆ ของขบวนการตัดไม้พะยูง โดยผู้มีอิทธิพล ที่ยังคงอยู่ในเงามืดสบายๆ กระทั่งไม้พยุงกำลังจะหมดไปจากป่าเมืองไทย
หน้าหนวดของผู้มีอิทธิพลก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็น
รู้ว่าสาเหตุสำคัญ เกิดมาจากเรื่องของศักดิ์ศรีระหว่างสถาบัน เครื่องแบบที่สวมใส่ ค่านิยมผิดๆ จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ต้องการการยอมรับเข้ากลุ่มพวก ความคึกคะนอง อารมณ์ร้อน ขาดสติ ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ อยากเด่นอยากดัง รวมถึงปัญหาส่วนตัว 
รับรู้กันมานาน แต่ยังคงสร้างปัญหาใหม่ และนับวันจะสะเทือนขวัญยิ่งกว่าเดิม


หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แก้ไขปัญหาด้วยการกำหนดให้วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงจัดทำบัญชีและประวัตินักศึกษากลุ่มเสี่ยง เชิญผู้ปกครองมาหารือถึงมาตรการดูแลเด็ก 
ประกาศเด็ดขาดภายใน 3 เดือนจากนี้ไปเด็กต้องไม่มีเรื่อง 
ทั้งจะขอความร่วมมือจากทหารและตำรวจ มาร่วมอบรมนักเรียน เน้นตรงความเป็นสุภาพบุรุษ
ขณะตำรวจซึ่งมีหน้าที่ป้องกันและปราบปราม เน้นให้ฝ่ายท้องที่ตรวจตราเข้มงวดกับพื้นที่เสี่ยง รวมถึงให้ตำรวจจราจรเข้ามาเป็นกำลังเสริม ส่วนผู้ปกครองถูกเรียกร้องให้ใกล้ชิดกับเด็กมากขึ้น 
ต่างทำหน้าที่เฉพาะหน้าตามสภาพปัญหาที่เกิดร้อนๆ


แม้จะต้องเสนอให้กับใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่เจ้าภาพอย่างเป็นทางการ ที่จัดตั้งขึ้นมาจัดการปัญหาเรื้อรังยาวนาน เพราะเล็งเห็นความสำคัญ 
ว่าอาจกระทบกระเทือน ต่อการเร่งระดมบ่มเพาะแรงงานระดับยอดฝีมือ ให้มีกำลังมากพอ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เร่งขยายตัว และใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการผลิต 
คนอาจเมินการศึกษาสายอาชีวะ เพราะไม่อยากเอาชีวิตไปแขวนไว้กับความเสี่ยงต่อลูกปืน 
กระทั่งตัวเด็กอาชีวะเอง อาจเสี่ยงต่อการเป็นอาชญากรก่อนได้เป็นวิศวกร 

การเสนอวิธีแก้ปัญหายังผ่านมาในแทบทุกทิศทาง 
ระดับผู้บริหารการศึกษา เลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เสนอให้อาชีวศึกษาเป็นระบบเดียว ใช้ชื่อ เครื่องแบบ สัญลักษณ์เดียวกัน เพื่อไม่ทำให้เกิดความแตกต่าง 
นักบำบัด สำนักสนับสนุนสุขภาวะ เด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. แนะนำให้ใช้ศิลปะช่วยในการแก้ไขปัญหาความรุนแรง เห็นว่า เด็กอาชีวะมีวิชาเรียนส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือช่าง อยู่กับเครื่องยนต์กลไก ค่อนข้างขาดการพัฒนาทางจิตใจ 
เด็กพวกนี้ควรได้ทำกิจกรรมด้านศิลปะ อย่างการวาดเส้น ร้องเพลง ปั้นดิน จัดดอกไม้ ฯลฯ ซึ่งมีกระบวนการให้เด็กได้เรียนรู้ภายในใจของตนเอง
มนุษย์ร่ำเรียนเพื่อมีวิชาความรู้อยู่ในหัว จึงควรมีวิชาที่อยู่ข้างในใจด้วย

ระดับชาวบ้าน เช่น บ้านคลอก อำเภอถลาง จ.ภูเก็ต ผู้นำเสนอประสบการณ์ของชุมชน แก้การวิวาทบาดหมางของเด็กรุ่นใหม่ ด้วยการให้ความจริงใจ รู้และเข้าใจปัญหา จัดทำค่ายมัสยิดสัมพันธ์ คัดเอาเยาวชนประพฤติดีต่างบ้านเข้ามาร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน ค่อยขยับขยายจนครอบคลุมส่วนใหญ่ ละลายพฤติกรรมก้าวร้าวมาดร้ายต่อกันจนหมดสิ้น
ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็นสภาเยาวชนตำบลป่าคลอก มีสมาชิกร่วม 5,000 คน 
เข้มแข็งเข้มข้นในจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม
ไม่ต่างจากชาวบ้านน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ที่แก้ไขปัญหากลุ่มวัยรุ่นทะเลาะเบาะแว้งทำร้ายกันในงานประจำปีของชุมชน โดยผู้อาวุโสเรียกกลุ่มหัวโจกมาพูดคุยคลี่คลายปัญหา ไว้วางใจกัน 
และมอบหมายภาระหน้าที่ ด้านการรักษาความสงบ ในงานครั้งต่อๆ ไปให้ร่วมกันรับผิดชอบ


หน่วยงานเกี่ยวข้องส่วนไหน จะเป็นผู้รับ ประมวลและคัดกรองข้อเสนอเหล่านี้ 
แม้กับความเห็นที่ค้นลึกลงไปพบว่า ในโลกออนไลน์ มีความเคลื่อนไหวของบรรดาอดีตเด็กช่าง หลากหลายสถาบัน บางกลุ่มเคยเป็นอริต่อกัน จบการศึกษาแล้วกลับต้องมาทำงานด้วยกัน เลยจับมือรวมตัวทำประโยชน์ให้สังคม  
พวกเขาควรมีส่วนร่วมในการคลี่คลายปัญหา 
อาจขับเคลื่อนให้เกิดการร่วมมือระหว่างสถาบัน ทำประโยชน์ล้างอริตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน 
ว่าแต่ว่า ข้อเสนอเหล่านี้จักมีฝ่ายดำเนินการอะไรไหมเล่า?



++

จับใจผ่านจอ 
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1664 หน้า 67


หลายปีก่อนผมได้ชมสุดยอดครีเอทีฟชาวไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงโฆษณาสากล 
ถูกจัดอยู่ในระดับท็อปเท็นของโลก 
เจ้าของชิ้นงานสุดฮิต ไอ้ฤทธิ์กินแบล็ก! 
รับเชิญฐานะบุคคลพิเศษ มาพูดคุย บอกเล่าประสบการณ์ ในรายการโทรทัศน์ 
จำได้ว่าเขาจัดลำดับภาพ อารมณ์ ค่านิยมของยุคสมัย ในการสร้างสรรค์งานโฆษณา ให้เห็นเป็นระบบชัดๆ และยังชี้ไปถึงอนาคต
คือย้อนหลังไปจากเวลานั้นราว 20 ปี สิ่งที่เป็นหัวใจในการนำเสนองาน เพื่อให้กระทบใจ ประทับใจ เป็นที่จดจำได้ในกลุ่มเป้าหมายของสินค้า

ภาพต้องสวย เพลงต้องเพราะ 
ถ้าถอยไปสั้นหน่อยช่วง 10 ปี เรื่องราวที่นำเสนอต้องเพิ่มสมองลงไปในภาพสวย ให้ใครต่อใครที่ได้เห็นร้องได้คำเดียวว่า ใช่!
แสดงความฉลาด และมีความเท่ทางความคิด
ขณะปัจจุบัน อันหมายถึงเวลาที่เขากำลังถ่ายทอดเรื่องราว แนวคิดหลักในการสร้างสรรค์คือ อะไรก็ได้ที่สนุกสนาน ใหม่สด
และต้องไม่ยึดติดกับอะไรนัก
เราจึงได้เห็นภาพรองเท้าแตะ ประเภทจุดขายอยู่ที่ความเบาสบาย ถูกใช้แทนลูกโป่ง ผูกติดปลายไม้ลอยสลอนอยู่เหนือหัว
กับคำบรรยายสรรพคุณแบบกวนๆ

สุดยอดครีเอทีฟ บ่งชี้ถึงคุณสมบัติของผู้จะทำอาชีพเช่นเขาว่า คนที่คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลมากๆ ไม่น่าจะเป็นครีเอทีฟได้ 
ประสบการณ์และข้อคิดพวกนั้น ทำให้ผมต้องตรวจสอบตัวเองวุ่นวาย และพบว่าอาจกำลังตกยุค กรอบความคิดน่าจะแข็งตัวไปแล้วเมื่อ 10-20 ปีก่อน เพราะยังชื่นชมกับงานโฆษณายุคโน้น ทั้งยังเป็นมนุษย์พันธุ์ยืนยันในเหตุผล 
ต้องถูกผลักและกวาดต้อนไปอยู่นอกกรอบกลุ่มเป้าหมาย


กับอาชีพขีดเขียนที่คุณสมบัติสำคัญ ไม่อาจแยกออกจากการเป็นนักเดินทาง ต้องฉกฉวยทุกโอกาสที่เป็นไปได้ ท่องโลกกว้าง สัมผัส สัมพันธ์ สังเกตสังกา เรียนรู้สั่งสม...  
เดินทางโดยมิได้ว่างเว้น แม้ต้องหยุดนิ่งสงบงันอยู่กับที่ ยังเลือกท่องเข้าไปในโลกหนังสือ ดิ่งลึกผ่านบทเพลงที่เรื่องราวอารมณ์ถ้อยคำ ท่วงทำนองลีลาประณีตละเอียดอ่อน  
หรือท่องไปกับโทรทัศน์ 
แล้วการเดินทางชนิดนี้ก็มีหลายส่วนบ่งบอกว่า ไม่ใช่เรื่องของคนที่ถูกครอบด้วยความคิด เป็นเหตุเป็นผลมากไป 

รายการถูกสร้างสรรค์เพื่อความบันเทิง และผู้คนต่างตอบรับ 
ว่ากันว่ารายการโทรทัศน์ ที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ชื่นชอบ 3 อันดับแรก โดยดูจากเรตติ้งที่ แพน เดมิค มีเดียเอเยนซี่ ผู้เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์สื่อระบุ คือชิงร้อย ชิงล้าน ตีสิบ และคนอวดผี 
ชมชิงร้อย ชิงล้าน เพื่อเก็บมุขขำ มุขฮาของแก๊ง 3 ช่า ไว้อำกันเล่น 
ชมตีสิบ เพื่อมีข้อมูลจากช่วง เรื่องจริง ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ไว้พูดคุยถกเถียงในกลุ่ม ในที่ทำงาน
คนอวดผี เป็นเรื่องที่ผู้หญิง โดยเฉพาะสาวรุ่นอยากรู้นัก

หลายคราวที่การเดินทาง เริ่มต้นด้วยภาพข่าว ความกระเหี้ยนกระหายออกล่าสังหาร ด้วยความอำมหิตของกลุ่มวัยรุ่นในยามเช้า การเมืองเข้มข้นชวนคลื่นเหียน ผ่านไปถึงยามค่ำด้วยละครแผดเสียงด่าทอ ตบตี จิกหัวกระชากผมของผู้หญิงสวย แล้วปิดท้ายรอบดึกด้วยเรื่องผี-ผี เขย่าขวัญสั่นประสาท 
เป็นสาระบันเทิงประจำวันแบบสุดระทึก  

ผมมักถูกขับต้อนให้เร่ไปหาสารคดีชีวิตสัตว์ เปิดโลกท่องเที่ยว การออกแบบตกแต่ง การทำอาหาร กระทั่งแฟชั่นที่มากด้วยผู้หญิงสวย หรือเลือกชมช่องต่างประเทศสื่อผ่านภาษาของเขา 
แบบที่อาศัยการคาดเดาเอาจากภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏ



ในยุคสมัยโทรทัศน์มีช่วงจอดำ การเดินทางผ่านหน้าจอ ผมได้รับการอธิบายคุณภาพสังคมโดยไม่ได้คาดคิด จากทัศนะของโค้ชฟุตบอลโค้ชง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ 
เขาเห็นว่า การประสบความสำเร็จของฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี ที่มีมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง มาตรฐานสูงคงที่ ไม่เคยต้องตกไปอยู่ในสภาพรองบ่อน เพราะการมีความพร้อม จริงจัง เป็นนักสู้เด็ดเดี่ยว ไม่รู้จักย่อท้อ ไม่ยอมพับพ่าย  
สิ่งนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะ หากเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของสังคมเยอรมัน ที่หยิ่งในเกียรติภูมิ ชาติพันธุ์ มีความจริงจัง เข้มแข็งในระบบระเบียบกับการดำเนินชีวิต 
เป็นตัวกำหนดบุคลิกให้กับทีมฟุตบอล

คำอธิบายนี้สะท้อนถึงทีมชาติฟุตบอลของเรา ที่มองหาไม่เห็นบุคลิก และอยู่ในสภาพล้มลุกคลุกคลาน ผ่านไปถึงสังคมที่บันเทิงสุดเหวี่ยงอยู่ตรงหน้าจอ 
เราจะเริ่มคิดถึงบุคลิกกันบ้างไหมเล่า?



.