.
มุนินฺ หลายๆ เล่ม
โดย นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ คอลัมน์ การ์ตูนที่รัก
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1665 หน้า 85
การ์ตูนมุนินฺ ของจ้ำอ้าวสำนักพิมพ์ (jump out) เป็นการ์ตูนแนวรักเศร้าเหงาซึ้งที่ออกมาแล้วหลายเล่ม เป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
ลายเส้นสวยงาม ประณีต สะอาด และเป็นสีเทา อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้เขียนคือมุนินเติมพินทุที่ น.หนู นอกเหนือจากลายเส้นสีเทาและมุนินพินทุแล้ว หนังสือก็ต้องมีรูเพื่อความสะดวกสอดนิ้วถือไปไหนมาไหน
ขณะที่หัวแตงโมใช้กลไกการกลายร่างเพื่อพูดหรือทำอะไรโดนๆ อะไรที่โดนนั้นก็ออกจะดาร์ก เข้าข่ายมองโลกในแง่ร้ายด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ มุนินมิได้กลายร่าง เนื้อหาเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วออกจะสดใสกว่า เรื่องส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันของคนทุกคน เป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนมักหลงลืม
มุนินชวนให้นักอ่านหันมาดูเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้อีกครั้ง ด้วยมุมมองใหม่ๆ กลไกที่เธอใช้บ่อยคือเปลี่ยนมุมมอง เรื่องราวเป็นเรื่องเดิมแต่อย่ายืนมอง ณ ที่เดิม มาเปลี่ยนจุดยืนมองเสียบ้าง
บรรณาธิการได้เขียนออกตัวไว้แล้วว่านักอ่านแต่ละท่านจะโดนไม่เหมือนกัน บางเรื่องโดนบางคน บางเรื่องไม่โดนบางคน
เล่ม 2 ตอน หมามีปัญหา
ดังที่ทราบกันทั่วไปในหมู่คนรักหมาว่าหมาดีกว่าคนตรงที่ไม่พูด นอกจากไม่พูดแล้วมันยังรักเราเสมอไม่มีคำว่าเปลี่ยนแปลง เคล็ดลับเรื่องนี้ง่ายมากหากอยากจะเห็นแง่มุมที่ดีของใครบางคนให้ไปถามหมาของเขา รับรองว่าถ้าหมาพูดได้หมาจะเล่าแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น การเปลี่ยนมุมมองที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือให้ไปยืนแทนที่หมา พยายามมองโลกแบบที่หมามองแล้วเราจะพบว่าโลกน่าอยู่ขึ้นมาก
การ์ตูนมุนินเรื่องนี้เล่าว่าคู่รักคู่หนึ่งซื้อหมามาเลี้ยงด้วยกัน ตั้งชื่อหมาว่าโบราณ หมาโบราณมีความสุขมาก "แต่วันนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป แม่มีงานเยอะขึ้น พ่อขี้เกียจมากขึ้น" เวลาผ่านไปหมาพบว่าเจ้านายผู้ชายไม่ค่อยมีความสุขแล้ววันหนึ่งเจ้านายผู้ชายก็หายไป "ตอนนี้พ่อออกไปจากบ้านแล้ว เหลือโบราณกะแม่และเราไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ นานๆ ครั้งแม่จะพาโบราณไปหาพ่อ แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสุขอยู่ดี" จบ
เป็นการ์ตูนสั้น ง่าย ให้ข่าวสารที่ดี
เล่ม 1 ตอน รักเล็ก "เธอคงมองไม่เห็นคนตัวเล็ก เหมือนกับที่เธอไม่ได้ยินเสียงเล็กๆ ผมเอาแต่สังเกตเธอจากมุมเล็กๆ และไกลๆ"
การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนที่รักเขาข้างเดียวเป็นอย่างไร เวลารักเขาข้างเดียวเผลอนึกว่าตัวเองสำคัญนักหนาแล้วทำไมเขาไม่หันมามองเรา
แต่หากเปลี่ยนมุมมองสักนิดจะพบว่าเราเป็นเพียงคนตัวเล็ก เล็กมาก เล็กเสียจนเขาไม่เคยสังเกตเห็น จะส่งเสียงเรียกเขาก็ต้องตะโกน ตะโกนไปแล้วก็ดูคล้ายเขา "เหมือนได้ยิน คนพูดอะไรไม่รู้แว่วๆ" จะแนะนำอะไรเป็นพันครั้งเขาก็ไม่เคยฟังแต่หันไปเห็นคนอื่นดีกว่า
หากเราสำเหนียกว่าเราเล็กกระจิ๋วเพียงนั้น พูดไปพันครั้งเขาก็ไม่ได้ยินเพราะที่แท้แล้วเราเล็กมาก จะทำอะไรก็จะได้ระวังไม่ถูกเขาเหยียบแบนโดยประมาท "เพราะที่เขาเป็นคนตัวเล็กก็เจ็บมากพอแล้ว"
มุนินเล่าเรื่องนี้สั้น ไม่ง่าย อ่านแล้วต้องคิด คนที่เคยถูกทิ้งอ่านเรื่องนี้น่าจะโดน
การ์ตูนมุนินมีเรื่องเกี่ยวกับคู่รักอีกหลายเรื่องหลายแง่มุม มีเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่หลายเรื่อง เรื่องเกี่ยวกับพี่น้องก็มีให้อ่าน เรื่องเกี่ยวกับเจ้านายและลูกน้องก็ยังมี ไม่โดนใครก็ต้องโดนใครแน่นอน
มุนินมองโลกในแง่บวก ไม่มีอะไรที่เรียกว่าผู้ร้ายหรือคนนิสัยไม่ดีในการ์ตูนมุนินเลย หากคนเราจะไม่เข้าใจกันหรือโกรธกันหรือทะเลาะกันก็ด้วยเหตุที่มองกันคนละมุมเสมอ ไม่มีใครทำผิด มีแต่คนที่ไม่รู้ หากได้เปลี่ยนมุมมองก็จะรู้
เช่น เล่ม 2 ตอน น้องคนเล็ก เล่าเรื่องพี่น้องสามคน พี่ชายคนโตชอบเล่นตุ๊กตุ่นทหาร พี่ชายคนกลางชอบเล่นดินน้ำมัน น้องสาวคนเล็กชอบเล่นต่อเลโก ตอนแรกสามคนต่างคนต่างเล่น ต่อมาทั้งสามคนเอาของมาเล่นด้วยกัน กลายเป็นภาพวัยเด็กของนักอ่านชนชั้นกลางจำนวนมาก
วันหนึ่งคนโตและคนกลางทะเลาะกันเพราะต่างฝ่ายต่างแข่งกันนำของเล่นชิ้นใหญ่มาสู้กัน แต่ถ้ามองจากมุมของน้องเล็กที่ไม่มีเงินจะเพิ่มเลโกได้ง่ายๆ เพราะเลโกราคาแพง ก็จะรับรู้ได้ว่าที่แท้ทุกคนกำลังเล่นกันอยู่ จบ
เรื่องสั้น ไม่ง่าย คิดหลายตลบ นักอ่านแต่ละคนได้ข่าวสารไม่เหมือนกัน
เล่ม 2 ตอน ครั้งสุดท้าย เรื่องพ่อและลูกชาย เรื่องนี้ดีมาก
มุนินเล่าเรื่องของเด็กชายคนหนึ่งตั้งแต่ครั้งเรียนอนุบาลจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างกระชับและจับประเด็นสำคัญของชีวิตครบถ้วน เป็นเรื่องร่วมสมัยของครอบครัวชนชั้นกลางอีกเช่นเคย พ่อแม่ทุกบ้านคาดหวังและกดดันลูกให้ได้ดี เรียนเก่ง มีงานดี มีเงินใช้ และเป็นคนดี
ข้างลูกชายรับรู้อีกแบบเพราะยืนกันคนละมุม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พูดยากว่าใครผิดใครถูกในโลกแห่งความเป็นจริง
ในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้พ่ายแพ้ในการศึกษาไทยตกท่อระบายน้ำค่อนข้างแน่ ขณะเดียวกันพ่อแม่ที่กดดันลูกจนเสียคนก็มีตัวให้เห็นเช่นกัน
การ์ตูนมุนินดึงนักอ่านกลับไปที่มุมมองของคนเป็นพ่อแม่ครั้งที่ลูกชายเพิ่งเกิด เป็นความจริงแท้แน่นอนที่ในเวลานั้นไม่มีพ่อแม่คนไหนเลยที่คิดอยากให้ลูกได้เรียนหมอหรือวิศวะหรือผู้พิพากษา มีแต่อยากให้ลูกคลอดปลอดภัย ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงไม่เจ็บป่วย
พ่อแม่ทุกคนขอเท่านี้จริงๆ ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้
"หวังอย่างเดียวให้เกิดมาครบ 32" แต่พอเวลาผ่านไปโลกมิได้เป็นสีเทาแต่เป็นขาวกับดำ พ่อแม่จึงเริ่มกดดันลูกอย่าให้ตกสีดำเป็นอันขาด
ผมมักแนะนำพ่อแม่ที่คาดหวังและกดดันลูกมากเกินไปให้กลับไปเปิดอัลบั้มตอนที่เขายังเป็นเด็กเล็ก เวลานั้นพวกเราไม่เคยคาดหวังอะไรเลย ขอมีเพียงรอยยิ้มชีวิตก็เป็นสุข
สำหรับการ์ตูนมุนินพินทุยังคงออกเล่มใหม่มาเรื่อยๆ ลายเส้นยังเป็นสีเทาไม่ขาวไม่ดำเพราะสำหรับมุนินแล้วไม่มีอะไรขาวหรือดำ ทุกเรื่องทุกราวล้วนมีทางออกเสมอ
อ่านการ์ตูนมุนินแล้วต้องหาการ์ตูนญี่ปุ่นมนุษย์ม้าลายมาอ่านเปรียบเทียบ
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย