http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-10-02

คอป. เคยอ่านป่ะ? โดย จอห์น วิญญู

.

คอป. เคยอ่านป่ะ?
โดย จอห์น วิญญู spokedark.tv www.facebook.com/spokedarktv
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1676 หน้า 79


ประเด็นรายงานฉบับสุดท้ายของ คอป. ช่างร้อนเหลือหลายจริงๆ นะครับ 
ร้อนจนไม่ค่อยแน่ใจว่าตรูควรจะบังอาจแสดงความคิดเห็นหรือเปล่า 
แต่ไหนๆ ก็ลงทุนอ่านสามร้อยหน้าจนเล่นเอาตาแฉะกันไปแล้ว ก็ขอแหยมแหย่นิ้วโป้งเท้าเข้ากองไฟให้พอเรียกความเสียวฉ่าๆ อู้ววส์ อ้าาาาส์ ไอ้หย่ะ ให้ตัวเองซักหน่อย 
พอเสียว


เกิดอะไรขึ้นเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553?
ผม ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากรู้มากครับ ผมฟัง "ความจริง" จากฝ่ายต่างๆ มามาก 
ผมผ่านมรสุมอารมณ์ต่างๆ มาเยอะ 
ผมผ่านความสะเทือนใจ ความโกรธเกรี้ยว ความรู้สึกสมเพชและสิ้นหวังมาช่วงหนึ่ง แต่ไม่สามารถประกาศได้ว่า "พอใจ" แล้วกับคำบอกเล่า คำอธิบาย และ "ความจริง" ของคนต่างๆ  
ผมจึงอยากทราบ "ความจริง" ในเวอร์ชั่นของคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยคนที่ค่อนข้างมีเครดิตมากในใจผม

ทั้งนี้ ขอบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้พร้อมที่จะเชื่อทุกอย่างที่ อ.คณิต ณ นคร พูดแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ดูจาก track record และรายงาน คอป. ฉบับอื่นๆ ที่ท่านได้นำเสนอต่อผู้มีอำนาจและสาธารณะโดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูประบบงานยุติธรรม สิทธิผู้ต้องหา สิทธิผู้ต้องขัง กฎหมายอาญามาตรา 112 ฯลฯ แล้ว ผมคิดว่าสาธารณะควรเปิดใจและตั้งใจรับฟังสิ่งที่ท่านจะพูด ฟังจนจบแล้วจะว่ายังไงก็ค่อยว่ากัน 
(อ้อ แล้วสิ่งที่ท่านออกมาบอกหลายอย่างก็ถูกรัฐบาลทำหูทวนลมใส่อย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็น่าจะหมายความว่าคงเป็นเรื่องมีประโยชน์พอสมควรล่ะน่ะ)


ผมไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาของรายงานชิ้นนี้ดีกว่าครับ (อย่างเดียวเหอะ แม่ง พิมพ์ผิดโคตรเยอะเระ --- สงสัยหมดตังค์จ้างคนพิสูจน์อักษร) อย่างเดียวที่ผมขอสำหรับชาวบ้านประชาราษฎรธรรมดาๆ อย่างเราท่านก็คือ ขอแค่อ่าน ให้จบ --- 

คำพูดในรายงานฉบับนี้สามารถถูกนำมาใช้เพื่อเอาประโยชน์ในทางการเมืองได้ง่ายมากนะครับ กล่าวคือสามารถยกคำพูดมาเป็นท่อนๆ เพื่อเอาประโยชน์เข้าฝ่ายตัวเองได้ง่ายจริงๆ 
เพราะสุดท้ายแล้ว หลักใหญ่ใจความของรายงานฉบับนี้ก็คือ ไม่ได้มีใครผิดหรือถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการทำให้โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้น 
มันขัดกับความรู้สึกแน่นอนครับ 
คนเราไม่มีใครอยากผิดหวังกับการกระทำของคนที่เรารักและชื่นชม แต่เราต้องพยายามละจากความโหยหาฮีโร่ หรือยอดมนุษย์กันแล้ว

เราคงต้องยอมรับว่าทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน มีความอ่อนแอ ความผิดพลาด ความหวาดกลัว ความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่อยู่เหนือจากความเป็นมนุษย์นี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์คับขันหรือสถานการณ์อันตราย  
มันซวยตรงที่ว่าคนสองกลุ่มที่สุดท้ายต้องมาเผชิญหน้ากันดันมีอาวุธในจำนวนที่ไม่เท่ากัน และมีการฝึกฝนทางการสงครามไม่เท่ากัน จำนวนคนเจ็บคนตายจึงดูไม่สมดุลกันอย่างแรง 
มันก็เศร้ามากครับ



อย่างไรก็ตาม อ่านกันหน่อยเถิด อ่านจบแล้วจะด่าจะชมหรือจะทำเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามสะดวก 
แต่อ่านก่อน นะๆๆ สัญญาว่า รายงานฉบับนี้ไม่ได้มีแค่การรับรองการมีอยู่ของ "คนชุดดำ" หรือโยนความผิดให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อย่างแน่นอนครับ ไม่มีพระเอกขี่ม้าขาว ไม่มีตัวร้ายที่ทำอย่างอื่นไม่เป็นเลยนอกจากร้ายล้วนๆ 
รายงานฉบับนี้ไม่ได้เป็นสีขาวดำนะครับ เค้าเป็นสีเทาตุ่นๆ สีของชีวิตจริง สีของโลก ไม่ใช่สีของหนังบล็อกบัสเตอร์ และแน่นอนไม่ใช่สีของละครหลังข่าว  
อ่านแล้ว ตัดสินใจเอาเองว่าจะให้คุณค่างานชิ้นนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ขอเน้นย้ำว่า "ต้องอ่านเองครับ"

อีกเรื่องหนึ่งที่พึงระลึกขณะอ่านก็คือ คอป. ทำงานภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ซึ่งข้อที่ใหญ่โตมโหฬารที่สุดก็คือ ไม่มีอำนาจในการเรียกบุคคลเข้ามาให้การ และไม่มีอำนาจในการเรียกเอาเอกสารหลักฐานต่างๆ มาดูด้วย แค่นี้ เป็นเกล้ากระผมก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านแล้วฮัฟว์ 
สิ่งที่ออกมาในเอกสารสรุปนี้ คือสิ่งที่มาจากการ "ขอความร่วมมือ" จากภาครัฐสามพันแปดร้อยห้าสิบหน่วย (หมายความว่าหลายฝ่ายมาก) จากการเอาเงินไปจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ ด้านการใช้กำลัง ด้านการจัดการฝูงชน และด้านนิติวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศมาให้ความเห็น และจากการสอบถาม จดบันทึกถ้อยคำของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้จำนวนกว่าหนึ่งพันหกร้อยคน เพื่อนำมาพิจารณาประมวลข้อมูลทั้งหมดออกมาเป็นรายงานฉบับดังกล่าว 
สำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่สืบสวนหาความจริงแต่ไม่มีอำนาจอะไรเลยแล้วทำได้ขนาดนี้ ยังไงก็ต้องซูฮกเค้าในความพยายามกันมั่งล่ะครับ


นอกจากนี้ ในบทนำ หรือจะขอเรียกว่า disclaimer ในตอนต้นของรายงานก็ยังบอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า "ความจริง" นั้น ไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว แต่ละฝ่ายก็มีชุดความจริงของตัวเอง แต่ละคนก็มีชุดความจริงของตัวเอง โดยที่ไม่ได้จำเป็นว่าความจริงของใครจะ "จริงน้อย" หรือ "จริงมาก" กว่าใคร  
นั่นก็คือ คนหนึ่งบอกว่านี่คือความจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกคนหนึ่ง "โกหก" เสมอไป 
ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนหมู่มากอันซับซ้อนแล้ว คำว่า "ความจริง" ดูจะเป็นสิ่ง "เหนือจริง" หรือเป็น คอนเซ็ปต์ ซะมากกว่า

และสำหรับคนที่เรียกร้องให้ คอป. ออกมาชี้ว่าใครต้องรับผิดอะไรนั้น เค้าก็บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนะ ว่าจุดประสงค์ในการทำรายงานชิ้นนี้ไม่ใช่การฟันธงว่าใครต้องรับผิดชอบอะไร นั่นคือหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมมิใช่หรือ? 
อ่านกันเถอะครับ ผมเชื่อว่าคุณต้องเจอสิ่งที่คุณเห็นด้วยในรายงานนี้บ้างไม่มากก็น้อย เราประชาชนควรจะอ่านกันมากๆ จะได้ไม่เป็นเหมือนพวกเกรียนในเน็ตที่เห็นตัวหนังสือเยอะหน่อยก็พ่นข้อความ "ยาวไปไม่อ่าน ยาวไปไม่อ่าน" เต็มหน้าเว็บ แล้วก็หมั่นขยันด่าในสิ่งที่ตัวเองไม่อ่านเพราะมันยาวไป ... ไม่อ่าน ...

จังหวะนี้ อ่านเอง คิดเอง ตัดสินเอง แม่นกว่า  
อ่านกันหน่อยว่า คอป. มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับความปุปะของสถาบันยุติธรรมของประเทศนี้  
อ่านกันหน่อยว่า คอป. เชื่อว่ารากเหง้าของปัญหาทางการเมืองของประเทศนี้มีรากเหง้ามาจากอะไร 
และที่สำคัญที่สุด 
เวลาเจอพวกนักการเมืองทั้งหลายที่ฉลาดพูด ฉลาดหยิบ เลือกหยิบยกเอาแต่เฉพาะท่อนใดท่อนหนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรายงานมาพูดปั่นหัวเรา เพื่ออ้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเอง

เราจะได้รู้ทัน

หึหึ




.