http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-10-24

ARGO “วิกฤตการณ์อิหร่าน” โดย นพมาส แววหงส์

.

ARGO “วิกฤตการณ์อิหร่าน”
โดย นพมาส แววหงส์  คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1679 หน้า 87


กำกับการแสดง Ben Affleck
นำแสดง Ben Affleck 
Bryan Cranston
John Goodman
Alan Arkin


คนรุ่นอายุตั้งแต่สามสิบปลายๆ ขึ้นไปน่าจะยังจำวิกฤตการณ์อิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.1979 ได้ดี 
เหตุการณ์นี้ตกเป็นข่าวใหญ่น่าตื่นตะลึงไปทั่วโลก จากการที่มีกลุ่มหัวรุนแรงบุกเข้าสถานทูตอเมริกันในกรุงเตหะราน และจับเจ้าหน้าที่สถานทูต 52 คน เป็นตัวประกัน 
ข้อเรียกร้องของพวกหัวรุนแรงพวกนี้คือให้สหรัฐส่งตัวพระเจ้าชาห์ที่ประชวรด้วยโรคมะเร็งและเสด็จไปลี้ภัยในสหรัฐคืนกลับมายังประเทศอิหร่าน 
ตอนนั้นใครๆ ก็ต้องรู้จัก อยา ตอลเลาะห์ โคไมนี ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนาของอิหร่าน 
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสมัยของประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ 
วิกฤตการณ์จับตัวประกันครั้งนั้นกินเวลายาวนานถึง 444 วัน กว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและตัวประกันถูกปล่อยตัวกลับประเทศ

ส่วนเรื่องที่ยังไม่ค่อยรู้กันแพร่หลายนัก คือ นอกจากตัวประกันห้าสิบสองคนที่ถูกคุมตัวไว้ที่สถานทูตแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตอีกหกคนที่ตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวงในเตหะราน
คนทั้งหกนี้หลบออกมาจากสถานทูตระหว่างการบุกเข้ายึด และไปขอหลบภัยอยู่ในสถานทูตแคนาดา ณ กรุงเตหะราน 
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยนำคนทั้งหกออกจากอิหร่านให้พ้นภัย


สหรัฐมีทางเลือกไม่มากนักที่จะช่วยคนทั้งหกออกจากอิหร่าน หลังจากระดมสมองกันจนหมดปัญญาแล้ว 
การให้คนทั้งหกปั่นจักรยานระยะทางสามร้อยไมล์มาจนถึงชายแดนเพื่อผ่านด่านออกมาทางตุรกี ก็เสี่ยงภัยและสภาพอากาศหนาวจัดเกินไป
หรือการให้คนทั้งหกปลอมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ก็ไม่เข้าเค้า เพราะอิหร่านไม่มีครูชาวต่างชาติไปสอนภาษาหลงเหลืออยู่อีกแล้ว 
"ไอเดียที่เข้าท่าที่สุดในบรรดาไอเดียแย่ๆ ทั้งหลาย" มาจาก โทนี เมนเดซ (เบน แอฟเฟลก) เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของซีไอเอ เขาเสนอแผนการช่วยคนทั้งหกที่ติดอยู่ในสถานทูตแคนาดา โดยอุปโลกน์โปรเจ็กต์สร้างหนังเก๊ๆ ในฮอลลีวู้ด เพื่อเป็นข้ออ้างให้นำตัวทีมสร้างหนังชาวแคนาดาที่เดินทางเข้าไปสำรวจโลเกชั่นในอิหร่าน 

เมนเดซเกิดไอเดียนี้จากการดูหนังเรื่อง พิภพวานร และติดต่อ จอห์น เชมเบอร์ส (จอห์น กู๊ดแมน) นักแต่งหน้ามือรางวัลออสการ์ของฮอลลีวู้ด ซึ่งดึงเอา เลสเตอร์ ซีเกิล (อลัน อาร์คิน) ผู้อำนวยการสร้างผู้มีเส้นสายเครือข่ายอยู่ในฮอลลีวู้ดมาร่วมด้วย 
โปรเจ็กต์หนังเรื่อง Argo จึงกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้น จากสคริปต์ที่ส่งมาให้เลือก เป็นหนังแนว "โอเปราอวกาศ" ทำนองเดียวกับสตาร์วอร์ส ซึ่งต้องใช้โลเกชั่นแปลกๆ 
ตามตำนานกรีก Argo เป็นชื่อเรือที่เจสันกับพวกอาร์โกนอตเดินทางไปเพื่อแสวงหาขนแกะทองคำและนำกลับมาสู่กรีซ 
จึงมีนัยยะความหมายที่เหมาะสมตรงกับภารกิจนี้อย่างยิ่ง

เมนเดซมีความเชี่ยวชาญพิเศษในการนำตัวคนกลับคืนประเทศ โดยที่ในปฏิบัติการนี้ เขาจะเดินทางเข้าอิหร่านด้วยหนังสือเดินทางสัญชาติแคนาดา และยื่นขออนุญาตสำรวจโลเกชั่นถ่ายหนังจากทางการอิหร่าน ก่อนที่จะบินกลับพร้อมทีมถ่ายหนังหกคนที่ทำประหนึ่งว่าเดินทางเข้าไปดูสถานที่ด้วยกัน โดยต่างถือหนังสือเดินทางแคนาดาทั้งหมด 
ความสำเร็จของปฏิบัติการนี้อยู่ที่ความน่าเชื่อถือของโปรเจ็กต์สร้างหนังนี้  
ดังนั้น โดยไม่มีใครล่วงรู้ ซีไอเอจึงเป็นคนออกทุนสร้างหนังที่อุปโลกน์ขึ้นมานี้ และด้วยความเชี่ยวชาญของมืออาชีพอย่าง จอห์น เชมเบอร์ส และ เลสเตอร์ ซีเกิล โปรเจ็กต์อาร์โกก็ดำเนินการราวกับจะสร้างหนังจริงๆ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสคริปต์หนัง สตอรีบอร์ด การออกข่าวประชาสัมพันธ์ ฯลฯ



หนังมีส่วนผสมที่เหมาะเจาะลงตัวของความเครียดขมึงของเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องความเป็นความตาย ซึ่งจำลองเหตุการณ์จริงได้อย่างละเอียดลออและน่าเชื่อ อารมณ์ขันแสบๆ คันๆ ในการดำเนินโครงการสร้างหนังของฮอลลีวู้ด และการลุ้นระทึกของเหตุการณ์ในช่วงท้ายๆ ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังสารคดี แต่เป็นหนังที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริงที่ใช้การดำเนินเรื่องอย่างน่าตื่นเต้นระทึกใจ 

หลังจากหันมากำกับหนัง แทนที่จะเป็นพระเอกในจอเพียงบทบาทเดียว เบน แอฟเฟลก ได้พิสูจน์ฝีมือให้เห็นชัดเจนว่าเขาเป็นผู้กำกับหนังฝีมือดีคนหนึ่ง เขาเคยกำกับฯ เรื่อง The Town ซึ่งก็เป็นหนังดีมากเรื่องหนึ่ง แต่หลายคนยังปรามาสว่าอาจเป็นเรื่องฟลุกก็ได้ 
แต่พอมาถึง Argo ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้กำกับฯ คุมทุกอย่างไว้อยู่มือและละเอียดลออกับรายละเอียดทุกขั้นตอน 
เบน แอฟเฟล็ก แสดงให้เห็นชัดเจนจะแจ้งว่า ฝีมือกำกับหนังของเขาไม่ใช่เรื่องฟลุกอีกแล้ว


ในช่วงเครดิตตอนจบ มีภาพของเหตุการณ์จริงและบุคคลจริงตามที่เกิดขึ้น เทียบอยู่กับภาพจำลองจากหนังและตัวละครที่แสดงเป็นบุคคลเหล่านั้น เป็นช่วงที่น่าประทับใจที่สุดตอนหนึ่งของหนัง ซึ่งทำให้ผู้เขียนนั่งดูอย่างตราตรึงไม่ขยับเขยื้อนเลยทีเดียว

นี่คือเหตุการณ์จริงที่ถูกปกปิดไว้กว่ายี่สิบปี และได้รับการเปิดเผยในยุคของประธานาธิบดี บิล คลินตัน เมื่อ ค.ศ.1997 แต่ก็ยังไม่เป็นที่รับรู้กันกว้างขวางเท่าไรนัก ความสำเร็จของหนังนี่แหละจะทำให้เรื่องราวถูกจารึกไว้ในความทรงจำของผู้คน

เป็นหนังดีมากที่น่าจับตาสำหรับรางวัลต่างๆ หลายด้านเลยนะคะ



.