http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-10-31

LOOPER “ข้ามเวลา” โดย นพมาส แววหงส์

.

LOOPER “ข้ามเวลา”
โดย นพมาส แววหงส์  คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 33 ฉบับที่ 1680 หน้า 94


กำกับการแสดง Rian Johnson
นำแสดง Joseph Gordon-Levitt
Bruce Willis
Emily Blunt
Jeff Daniels
Paul Dano


ค.ศ.2044...
เศรษฐกิจซวดเซซบเซา จนอาชญากรรมที่เป็นระบบเฟื่องฟูแพร่หลายและแผ่อิทธิพลไปทั่วทั้งอเมริกา 

การเดินทางข้ามเวลากำลังจะถูกคิดค้นขึ้นในสามสิบปีจากนี้ 
แต่ทันทีที่มีคนสร้างเครื่องที่สามารถส่งคนให้เดินทางข้ามเวลาได้ ประดิษฐกรรมชิ้นนี้ก็กลายเป็นของต้องห้ามที่ผิดกฎหมายในทันที 
ก็ลองคิดดูสิว่าโลกจะวุ่นวายสับสนสักแค่ไหนหนอ หากคนเราสามารถเดินทางข้ามเวลาได้และไปยุ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตที่จะส่งผลถึงอนาคต 
อดีตกับอนาคตจะพัวพันกันอีนุงตุงนังจนแยกไม่ได้ว่าอะไรเกิดขึ้นแล้วหรือจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย 
กระนั้น ในปี 2074 พวกมาเฟียก็ยังใช้เครื่องข้ามเวลานี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดบุคคลที่ไม่ต้องการให้มีชีวิตอยู่ต่อไป


โจ (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) เป็นมือปืนรับจ้างของมาเฟียกลุ่มหนึ่ง เสียแต่ว่าคนที่เขาได้รับคำสั่งให้ฆ่า ไม่ได้อยู่ในกาลเวลาเดียวกับเขา แต่เป็นบุคคลที่ถูกส่งตัวมาจากโลกในอีกสามสิบปีข้างหน้า เพื่อนำกลับมากำจัด จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการกำจัดศพในโลกยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากจนตำรวจสามารถสืบสาวไปสู่ต้นตอได้โดยง่าย
วิธีการคือมือสังหารจะต้องไปคอยอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนด เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ร่างของเป้าสังหารก็จะถูกส่งตัวข้ามเวลามา โดยถูกมัดมือมัดเท้าและมีถุงคลุมหัวมิด เมื่อมือสังหารยิงเหยื่อทิ้งโดยไม่ต้องได้เห็นหน้าค่าตาเหยื่อ ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินแท่งที่ติดมากับร่างของเหยื่อสังหาร 
มือปืนรับจ้างจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยเงินที่ได้จากตัวเหยื่อสังหารเป็นเวลาสามสิบปี ก่อนที่แก๊งมาเฟียจะ "ปิดลูป" หรือปิดวงจรชีวิตของมือปืนคนนั้นๆ 
นี่คือที่มาของชื่อหนังว่า "ลูปเปอร์" ซึ่งเป็นชื่อเรียกมือปืนที่มีอาชีพแบบนี้


หัวหน้าใหญ่ผู้คุมกิจการกำจัดคนแบบนี้เป็นชายที่มาจากอนาคต ชื่อเอ๊บ (เจฟฟ์ แดเนียลส์) ผู้รู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพราะเขาผ่านกาลเวลาสามสิบปีนี้มาแล้ว 
ขณะเดียวกันมนุษยชาติก็กำลังก้าวไปสู่วิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่ง คือเริ่มเกิดมีมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังจิตสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุใกล้ตัวได้ 
มนุษย์กลายพันธุ์พวกนี้ได้ชื่อว่า ทีเค ซึ่งย่อมาจากคำว่า telekinetics 
พวกที่มีอำนาจจิตแบบอ่อนๆ จะสามารถบังคับวัตถุน้ำหนักเบา เช่น เหรียญ ให้ลอยขึ้นในอากาศได้ 
เล่าลือกันว่า ในอนาคต จะมีทีเคที่มีอำนาจจิตสูงมากคนหนึ่งเป็นผู้บงการกลุ่มมาเฟีย ทีเคคนนี้มีฉายาว่า Rainmaker หรือคนทำฝน 

โจทำงานเก็บหอมรอมริบไว้ใช้ในชีวิตบั้นปลายที่หวังจะเดินทางไปใช้ชีวิตอย่างสบายในฝรั่งเศส 
แต่การณ์กลับไม่เป็นไปตามที่เขาคาด เนื่องจากในงานสังหารเหยื่องานหนึ่ง เขากลับได้เห็นเหยื่อปรากฏร่างขึ้นโดยไม่ได้คลุมหน้า 
ใบหน้านั้นคือใบหน้าของเขาเองในวัยที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบัน


โจผู้สูงวัย (บรูซ วิลลิส) หลบหนีการถูกสังหารไปได้ และหาวิธีเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของตัวเขาและผู้หญิงที่เขารัก
ภารกิจที่โจคนที่อยู่ในปี 2074 ต้องทำคือ ตามหาตัวเด็กคนที่จะโตขึ้นเป็นเรนเมกเกอร์ให้ได้และกำจัดทิ้งเสีย เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม คือ ถ้าไม่มีเรนเมกเกอร์มาคุมองค์กรอาชญากรรมนี้ ก็จะไม่มีใครสั่งให้ "ปิดลูป" ของโจเสีย 
ขณะที่ภารกิจของโจคนที่อยู่ในปี 2044 ต้องทำคือ ติดตามกำจัดคนที่จะเป็นตัวเขาในอีกสามสิบปีข้างหน้าเสีย

เรื่องราวของการข้ามเวลาระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนี้เป็นเรื่องชวนพิศวงสงกาและน่าปวดเศียรเวียนเกล้า ในทำนองเดียวกับคำถามว่าไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่



หนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการข้ามเวลา ก็มักมีจุดสนใจอยู่ตรงการพยายามกลับไปเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เพื่อแก้ไขสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต ทำนองเดียวกับ Back to the Future 
แต่ความคิดแบบนี้ดูเหมือนจะสนับสนุนทฤษฎีเอกภพคู่ขนาน ซึ่งพูดถึงความเป็นไปได้แบบต่างๆ ในโลก
Looper มีเนื้อหาที่น่าคิดดีอยู่หรอก แม้ว่าจะยังมีคำถามที่ยากเกินกว่าจะตอบได้ เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางของเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงและแบบที่บรรจบกันเป็นวง รวมทั้งความเกี่ยวพันของบุคคลต่างๆ ที่เป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกัน

ส่วนที่ผู้เขียนคิดว่าหนังมีน้ำหนักและโดนใจมาก อยู่ที่เนื้อหาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กด้วยความรักและเอาใจใส่ ซึ่งอาจจะสามารถหยุดศักยภาพของความรุนแรงที่จะเกิดในตัวเด็กคนนั้นต่อไปได้

เป็นหนังที่ดูสนุกใช้ได้นะคะ แม้จะยังมีช่องโหว่ที่ "ปิดลูป" ได้ไม่หมดก็ตาม



.