http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-02-14

วงค์ ตาวัน: ข่าวปฏิวัติ, เดินหน้า, พลังหนุ่มสาว, ถ้าไม่อยากเยียวยา

.

ข่าวปฏิวัติ
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


14 กุมภาพันธ์ วันนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์ ดอกไม้แดง กุหลาบแดง คงเบ่งบานไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ความรักไม่ควรมีเพียงแค่วันเดียว จะรักระหว่างหนุ่มสาว รักระหว่างเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่รักกันแค่วันนี้ แล้วอีก 364 วันตบตีเข่นฆ่ากัน

ในทางการเมือง เชื่อกันว่า ความรักจะอบอวลมากขึ้น หลังมีสัญญาณดีระหว่างประธานองคมนตรีกับนายกรัฐมนตรี
จะมีก็แต่ฝ่ายแค้นรัฐบาลเท่านั้น ที่ยิ่งตีอกชกตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

แน่นอนการเมืองคงไม่ราบรื่น มีปมปัญหาใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้าหลายปม
แต่ขัดแย้งกันในกรอบกติกา โต้แย้งกันอย่างสันติสุข
หรือสุดท้ายถ้าถึงทางตัน ไปไม่ได้ ก็หาทางออกตามหลักประชาธิปไตย
เป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่ไม่น่ารังเกียจอะไร!


นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า เมื่อป๋าเปรมยิ้มแย้มกับนายกฯปู จะช่วยกลบข่าวสารเรื่องการปฏิวัติล้มรัฐบาลไปได้มากโข
ก่อนหน้านี้ มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาจุดพลุอ้างมีข่าวกรองของมะกันว่าจะมีการยึดอำนาจในเดือนเมษายน
เล่นเอาทุกฝ่ายดาหน้าออกมาปฏิเสธ ตั้งแต่ผู้นำกองทัพ ยันสถานทูตสหรัฐ
จะว่าไปแล้ว ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับกองทัพนั้น เป็นไปด้วยดีตลอด
โดยเฉพาะในวิกฤตน้ำท่วม รัฐบาลนี้สั่งทหารออกช่วยเหลือประชาชน

ทหารก็ชอบ เพราะได้คะแนนความรักจากชาวบ้านคืนมา
ดีกว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่สั่งทหารไปปราบม็อบ มีแต่ทำให้มือเปื้อนเลือด!
ทหารเขายังไม่อยากทำ แต่คนสั่งนั่นสิ ทำไมจิตใจถึงเป็นเช่นนั้น
จึงยังมองไม่ออกว่า ลำพังผู้นำกองทัพเองจะมีอะไรขัดแย้งกับผู้นำรัฐบาลถึงขั้นต้องล้มกระดานกัน

แต่มีการมองเลยไปถึงปัญหาความขัดแย้งในสังคมกรณี 112 ว่ากลุ่มขวาจัด มีอาการหน้ามืดตามัวอย่างมาก
เคลื่อนไหวจะใช้เป็นชนวนเหตุล้มรัฐบาลให้ได้
นั่นก็มีเหตุผลให้นายจตุพรไม่สบายใจ!?
แต่ถึงอย่างไรการพูดจาเพื่อดักคอปฏิวัติ อาจขัดหูขัดตา ว่าเป็นการทำลายบรรยากาศ

แต่ยังดีกว่าไอ้พวกที่ออกมาเชียร์ให้ปฏิวัติมิใช่หรือ
ต้องมองให้ลึกถึงจุดยืนอันแตกต่าง จะก้าวไปข้างหน้าหรือฉุดรั้งอย่างงมงายล้าหลัง!



++

เดินหน้า
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 05:00 น.


กลายเป็นงานเลี้ยง งานแสดงดนตรีออร์เคสตรา ที่ผู้คนจับตามองกันทั่วประเทศ และสื่อมวลชนพร้อมใจกันพาดหัวข่าวในวันรุ่งขึ้น พร้อมด้วยภาพข่าว บรรยากาศชื่นมื่นระหว่างพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี กับนายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

พอดิบพอดีกับชื่องาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" ซึ่งจุดประสงค์คือเลี้ยงขอบคุณผู้เกี่ยวข้องกับ ศปภ.ในช่วงน้ำท่วม

ผลที่ตามมาของงานนี้ เชื่อกันว่า จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างแท้จริง
เพราะพล.อ.เปรมถือเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง
ขณะที่นายกฯ ปูก็คือตัวแทนของรัฐบาล เป็นน้องสาวของทักษิณ
ภาพความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองฝ่าย ย่อมมีผลโดยตรงต่อบรรยากาศการปรองดองสมานฉันท์อย่างฉับพลัน

แม้ว่าในความจริง ยังต้องเดินต่อไปอีกหลายก้าว กว่าจะถึงความสงบสุข!

แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนและแจ่มใสยิ่ง


ดูเหมือนพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และกลุ่มมวลชน คงจะได้ข่าวที่ผิดๆ หรือวิเคราะห์กันอย่างพลาดๆ
มีการเคลื่อนไหวประท้วงงานนี้กันยกใหญ่ ชูประเด็นโจมตีรัฐบาลหลอกประธานองคมนตรีมา สร้างภาพ!?

ทั้งที่ความเป็นมา เริ่มจากการสนทนาระหว่าง ดร.สุกรี เจริญสุข แห่งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ กับป๋าเปรม
อันเนื่องจากกรณีประสบปัญหาขัดแย้งเรื่องหลักสูตรในมหาวิทยาลัยอย่างรุนแรง
จึงนำมาซึ่งไอเดีย จัดแสดงปลอบขวัญนักศึกษาดุริยางคศิลป์
เมื่อเลือกจะใช้ทำเนียบรัฐบาล ก็เชื่อมผ่านไปยังรองนายกฯ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งให้การสนับสนุนดุริยางคศิลป์มาตลอด
เลยกลายเป็นงานใหญ่ที่ทำเนียบ มีทูตนานาชาติเป็นแขกรับเชิญ
ป๋าเปรมไม่ได้ถูกหลอกมาอย่างแน่นอน!

ขณะเดียวกันภาพสำคัญทางการเมือง ระหว่างประธานองคมนตรีกับนายกรัฐมนตรี
คงทำให้บรรดาทูตมหาอำนาจ รายงานด่วนพร้อมบทวิเคราะห์การเมืองไทยกลับไปยังรัฐบาลของตนเองได้ทันที

แน่นอน การเมืองไทยยังมีอีกหลายปมปัญหา ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งมากมายอีก
แต่ถ้าต่อสู้กันด้วยเหตุผล ไม่ยึดตนเองต้องเป็นผู้ชนะ ขัดแย้งกันบนความสันติสุขก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

นักการเมือง กลุ่มการเมือง ที่ป่วยทางจิต เบื้องลึกอำมหิต
พวกแพ้ไม่เป็นนี่แหละคือปัญหาของบ้านเมืองไทย!



++

พลังหนุ่มสาว
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


อีก 2-3 วันจะเข้าสู่เทศกาลวาเลนไทน์ ที่เรียกกันว่าวันแห่งความรัก อันที่จริงต้นตอความเป็นมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับบ้านเราเลย ต้นกำเนิดจากนักบุญชาวฝรั่งตะวันตกโน่น
แต่กระแสสังคมโลกก็คงเป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้
คนไทยกับวาเลนไทน์กลายเป็นเทศกาลที่ต้องยึดถือเป็นเรื่องใหญ่ทุกปี
ระยะหลัง น่าเหน็ดเหนื่อยแทนราชการไทย
เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสังคมวัยรุ่นและปัญหาทางเพศ ต้องออกมารณรงค์เรียกร้องสารพัด เตรียมรับวาเลนไทน์
ห่วงใยวัยรุ่นวัยเรียน จะยึดเอาวันนี้เป็นวันมั่วสุมทางเพศ เป็นวันเสียตัว

ทั้งที่ความจริงเด็กๆ เสียตัวกันแทบทุกวัน!
ไม่เกี่ยวกับฤกษ์ 14 กุมภาพันธ์แต่อย่างใด
เพียงแต่วาเลนไทน์อาจจะเพิ่มพิเศษหน่อย
ดังนั้น ที่รณรงค์ป้องกันในเทศกาลนี้ จึงเป็นปลายเหตุอย่างแท้จริง

แม้แต่การเน้นสถานที่ เน้นป้องกันโรงแรมม่านรูดต่างๆ นั่นก็ไม่สอดรับกับสภาพที่เป็นจริงอีก
เพราะยุคนี้เช่าหอพักอยู่ ก็มั่วสุมกันเป็นปกติอยู่แล้ว หรือเปิดห้องเช่ารายวันก็มีกันเกลื่อนกราด


การรณรงค์ที่ดูจะยอมรับความจริงมากสุด เห็นจะเป็นการเรียกร้องให้ใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันท้อง ป้องกันโรค
แต่มิได้หมายความว่า ควรยอมรับสภาพเด็กใจแตกเสียตัวกันรายวัน แล้วปล่อยปละละเลยไปตามนั้น เป็นปัญหาที่ต้องแก้ แต่ต้องแก้ให้ถูกจุดถูกทาง

กล่าวกันว่า ยุคที่นักเรียนนักศึกษาวัยหนุ่มสาว สนใจปัญหาบ้านเมืองจนกลายเป็นกระแสสูงในสถาบันการศึกษา
ช่วงปี 2516-2519 เป็นยุคที่วัยรุ่นไทยหลงระเริงเสพสุขไร้สาระน้อยที่สุด!
เป็นยุคที่วัยหนุ่มสาว ได้ใช้พลังความเร่าร้อนในตัว มาทุ่มเทให้กับปัญหาสังคม
ออกติดโปสเตอร์รณรงค์ ออกพบปะชาวบ้านตามโรงงาน ในท้องนา และชนบท

นั่นอาจเป็นอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ย้อนเวลากลับไปไม่ได้
แต่วันนี้ถ้ากระแสบ้านเมืองเข้ามาอยู่ในใจคนหนุ่มสาวจริงจัง จะเกิดพลังทางการเมือง แทนที่จะเป็นพลังในหอพักในห้องเช่า

ขนาดธรรมศาสตร์ ซึ่งควรเป็นหลักให้กับปัญญาชนคิดกว้างไกล ยังปิดกั้นเสียเอง
คนหนุ่มสาวก็เลยจมอยู่เรื่องส่วนตัวเรื่องแคบๆ กระทั่งกลายเป็นเด็กงมงาย!



++

ถ้าไม่อยากเยียวยา
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพุธที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


เหตุใดแกนนำรุ่นเก่าจึงโผล่มาผสมโรงกับแกนนำรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์ ออกมาค้านเงินเยียวยาให้กับประชาชนที่สูญเสียจากเหตุขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้เพราะแกนนำของพรรค พัวพันอยู่กับเหตุนองเลือดปี 2553

จ่อจะเป็นคดีความอยู่ในเร็ววันนี้

นอกจากจะไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นขณะเป็นรัฐบาล เอาแต่โทษคนชุดดำอันเลื่อนลอย เอาแต่โทษประชาชนที่ชุมนุม
ราวกับชุดดำในฐานะรับผิดชอบเทียบเท่านายกฯ

ไม่เคยยอมรับว่า ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ยอมหาทางออกในทางสันติ ก็ไม่เกิดการสูญเสีย หรือถ้าจะใช้มาตรการกฎหมายเด็ดขาด ก็ต้องจบแบบไม่สูญเสีย


ตอนเกิดเหตุก็ไม่รับผิดชอบ ตอนนี้เมื่อเขาจะเยียวยาก็ยอมรับไม่ได้
ยิ่งถลำลึกสำแดงจิตใจส่วนลึกให้ปรากฏต่อสังคม!
วิธีการเฉไฉว่า ม็อบเสื้อแดงยอมตายเพื่อให้รัฐบาลนี้เข้ามามีอำนาจ ดังนั้นควรควักเงินส่วนตัวจ่ายกันเอง
พูดแบบนี้เขาเรียกหน้ามืดตามัว เพราะคนตายส่วนใหญ่คือประชาชนในชนบท เครือญาติหลายหมู่บ้าน หลายจังหวัด รอความหวัง รอความเป็นธรรม

เท่ากับประชาธิปัตย์กล้าท้าทายกับความรู้สึกของคนชนบทโดยเฉพาะในอีสานและเหนือ!?
แต่ก็อย่างว่า ความหวังของพรรคการเมืองนี้ในการเข้าสู่อำนาจรู้ๆ กันอยู่ ว่าหวังที่อะไร
น่าจะไม่เกี่ยวกับเสียงเลือกตั้ง น่าจะไม่เกี่ยวกับมือประชาชน
แต่เป็นมืออะไรก็ไม่รู้!


มองอีกทางหนึ่ง ทัศนะของผู้นำพรรคนี้ คงแยกประชาชนออกเป็นฝักฝ่ายกระมัง
ถ้าเป็นสีนี้ ต้องไม่สนับสนุน
อย่างนี้ ถ้าสักวันหนึ่งเกิดมีวาสนามีมือพิเศษอุ้มชู ได้เป็นใหญ่เป็นโต แล้วจะดูแลประชาชนกันอย่างไร!?
ขณะที่ประชาธิปัตย์มักหยิบเอาคำพูดทักษิณขึ้นมาโจมตีว่าไม่ดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง
ประชาธิปัตย์พูดได้ถูกต้อง แต่ก็กระทำไม่ต่างจากที่โจมตีเขา

แทนที่จะมีสำนึกในความเป็นนักการเมืองประชาธิปไตย
ไม่ว่าประชาชนสีไหน ถ้าบาดเจ็บล้มตายจากการชุมนุมประท้วงทางการเมือง ควรต้องเห็นอกเห็นใจ

แทนที่จะสำนึกว่า ถ้าไม่มีการตัดสินใจใช้กำลังทหารผิดๆ ก็ไม่มีใครล้มตาย
ถ้าไม่อยากให้เยียวยา ก็อย่าให้เกิดการฆ่าสิ!



.