http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-01-17

.."ไม่อยากให้จ่ายเยียวยา? แล้วยุให้ "ฆ่า" กันทำไม?"

.
โพสต์อีกเรื่องหนึ่ง - วิวาทะเรื่องนิติราษฎร์ "สมคิด เลิศไพฑูรย์ vs ธีระ สุธีวรางกูร" "คำนูณ สิทธิสมาน vs เกษียร เตชะพีระ"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *หมอตุลย์เจอนอนประท้วง-พร้อมคำถาม "ยุให้ "ฆ่า" กันทำไม?"
ในเว็บไซต์ ประชาไท . . Tue, 2012-01-17 12:11 . . ที่มาของภาพ: Nithiwat Wannasiri


เสื้อหลากสียื่นหนังสือทำเนียบ ค้านจ่ายชดเชยผู้เสียชีวิตเหตุสลายชุมนุม ลั่นจ่ายทำไมเพราะไม่ใช่การชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมให้อภิสิทธิ์ยุบสภา-แล้วพรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจเท่านั้น ก่อนเจอฝ่ายหนุนเสื้อแดงชุมนุมต้านด้วยการ "กราบ-นอน" ประท้วง พร้อมชูป้ายถาม นพ.ตุลย์ "ไม่อยากให้จ่ายเยียวยา? แล้วยุให้ "ฆ่า" กันทำไม?"

วันนี้ (17 ม.ค.) นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินหรือกลุ่มเสื้อหลากสี พร้อมผู้สนับสนุน เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมภาส นิลพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการชุมนุมทางการเมือง ในช่วงปี 2548-2553 โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินกว่า 7 ล้านบาท รวมต้องใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ตุลย์ ซึ่งกล่าวว่า ทางเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการนำภาษีของประชาชนไปจ่ายให้กลับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาเรียกร้องชุมนุมให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรียุบสภาฯ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การชุมนุมทางประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีการเผาบ้านเผาเมือง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้คดีก่อการร้ายก็ยังอยู่ในชั้นอัยการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีต้องรอกระบวนการพิจารณาตามกระบวนการขั้นต้อนของศาลว่าการ ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ และการเบิกจ่ายเงินชดเชยนั้น จำเป็นต้องมีกฎหมายมารองรับด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไม่ยุติมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทางเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินจะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลต่อไป

อนึ่ง นพ.ตุลย์ ได้โพสต์ลงในเฟซบุคเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ด้วยว่า "รวมพลังกดดันครม.ให้ยกเลิกมติอัปยศ จ่ายเงินให้เสื้อแดงอย่างผิดกฎหมาย ไม่มีกฤฎหมายรองรับ ใครร่วมกดดันรัฐบาลช่วยกันเผยแพร่ด้วยการกด like กด share ด้วยครับ "



อย่างไรก็ตาม มีผู้สนับสนุนคนเสื้อแดงเดินทางมาคัดค้านการยื่นหนังสือของ นพ.ตุลย์ด้วย โดยในช่วงที่กลุ่มของ นพ.ตุลย์ ใกล้เลิกชุมนุม ผู้สนับสนุนคนเสื้อแดงได้ประท้วงเชิงสัญลักษณ์บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล มีการเดินสลับการหมอบกราบกลุ่มของ นพ.ตุลย์ เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร พร้อมชูป้าย "ไม่อยากให้จ่ายเยียวยา? แล้วยุให้ "ฆ่า" กันทำไม?" "ไม่มีใครสมควรตายเพราะคิดต่างทางการเมือง" จากนั้นมีการล้มตัวลงนอนราบไปกับพื้นเพื่อแสดงการคัดค้านการยื่นหนังสือของกลุ่ม นพ.ตุลย์ ดังกล่าว

ทั้งนี้ไม่มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น มีเพียงการตะโกนด่าจากกลุ่มผู้สนับสนุน นพ.ตุลย์ เช่น "น่าอนาถ" "น่าสมเพช" "พวกเผาบ้านเผาเมือง" โดยใช้เวลาไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ได้ยุติการชุมนุม


+ + + +

ท้ายบทความ มีการโพสต์ถึง การอนุมัติงบให้เบิกจ่ายเพื่อการล้อมปราบและให้ทหารสามารถใช้กระสุนจริงต่อการชุมนุมกลางเมืองครั้งนั้นถึง 6,000 ล้านบาท หากไม่มีการอนุมัติแผนการนี้ให้ปฏิบัติการได้ ก็ไม่ต้องมาจ่ายเยียวยาเหยื่อและญาติ 2,000 ล้านบาทในปีนี้

และขอบันทึกการโพสต์ข้อความหนึ่งไว้ คือ

Submitted by เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์ ลมตะวันออก (visitor) on Tue, 2012-01-17 12:59.

------------ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการอภิปรายในประเด็นเรื่อง "ความเสมอภาคในการเยียวยา"
เพราะหลักเรื่องความเสมอภาคนี้ ผมยกให้เป็นที่สักการะสูงสุด ยิ่งกว่าหลักเสรีภาพเสียอีก (ตุลาการศาลปกครองสูงสุดวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประสิทธิ์ประสาทหลักการนี้ให้ผม จึงขอเทิดทูนครูบาอาจารย์ไว้ทุกเมื่อเชื่อวัน)

ครั้งหนึ่งที่แหลมฉบังเคยเกิดประเด็นปัญหาทำนองนี้ขึ้น มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายค่าชดชยที่ไม่เป็นธรรมจากกรณีสารเคมีรั่วไหล โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบตัดสินใจจ่ายให้กับผู้มีชื่อในทะเบียนบ้าน (เท่านั้น) ท่านลองคิดดู วิธีคิดนี้ใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ คนที่รับอันตรายจริงเขามีที่ยืนอยู่ตรงไหน ผมจึงรับเป็นผู้แทนของชาวบ้านหลายร้อยคน ยื่นเรื่องนี้ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินในนามส่วนตัว เพื่อให้วินิจฉัยว่าหลักคิดนี้ใช้ได้หรือไม่ และเป้าหมายในคำร้องของผมคือการขอให้ตรวจสอบการใช้วิธีคิด หากไม่เข้าท่าก็ให้เสนอรัฐสภา เป็นการหาทางปรับปรุงตัววิธีคิดเสีย โดยผ่านการปรับปรุงตัวบทกฎหมายนั่นเอง (เป็นลักษณะการใช้อำนาจแบบหนึ่งของผู้ตรวจการแผ่นดิน) ผมไม่มีความต้องการเลยแม้แต่น้อยที่จะขอให้ "revoke ,เพิกถอน" การจ่ายที่ทำไปแล้ว เพราะนั่นเป็นความคิดที่ชั่วสุด ๆ ผมรอคำวินิจฉัยนานกว่าหนึ่งปี

เอกสารคำวินิจฉัย ผมขยี้ทิ้งไปแล้ว (ลองคิดดูว่าทำไมผมต้องทำอย่างนั้น)

-------------ด้วยความเคารพ ผมดีใจที่ทายาทของนายสวาท นายวสันต์ ภู่ทอง (คนที่ถูกยิง ถ้าจำไม่ผิด) จะได้รับการชดเชย และถ้าเป็นไปได้ คุณพ่อของจารุพงศ์ ทองสินธุ์ ก็ควรได้รับการดูแลจากรัฐ (ผมเสนอให้สร้างตึกหรืออาคารที่ทำการสภาประชาชนที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ทำการรัฐสภาสักสิบเท่า ไว้ให้ประชาชนใช้ทำกิจกรรม และให้แปะรูปของวีรชนในทุกวาระไว้ให้เด่นชัด)

คนที่เห็นว่าเรื่องนี้ขัดกับหลักความเสมอภาค วิธีที่ดีก็ควรจะเป็น "หาทางให้คนที่ยังไม่ได้รับ ให้ได้รับเสียก็เท่านั้น "

-------------แต่เรื่องการฟ้องร้องให้ระงับ เพราะการดำเนินงานของรัฐบาลนี้ ขัดต่อหลักความเสมอภาค
ใครที่คิดทำหรือทำแล้ว ผมไม่อยากพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว ผมกับเขาไม่มีวันจะ reconcile กันได้แน่ในชาตินี้ (เอาคำพูดของคุณธงชัยมาใช้)

ฯลฯ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ชมภาพและความคิดเห็นท้ายบท ที่ www.prachatai.com/journal/2012/01/38790


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

และหาอ่านข่าวเหตุการณ์นี้ จาก http://www.go6tv.com/2012/01/blog-post_4865.html
ซึ่งได้บันทึกคลิปวิดีโอไว้

www.youtube.com/watch?v=i4miXWH_Nss




+++

วิวาทะเรื่องนิติราษฎร์ "สมคิด เลิศไพฑูรย์ vs ธีระ สุธีวรางกูร" "คำนูณ สิทธิสมาน vs เกษียร เตชะพีระ"
ในมติชน ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 21:00:00 น.


พลันที่ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ของคณะนิติราษฎร์ได้รับการขานรับโดย ครก.112 และประชาชน ผู้มารวมตัวกันอย่างหนาแน่น ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา

ก็เกิดวิวาทะว่าด้วยข้อเสนอดังกล่าวขึ้นมา

คู่แรกเป็นการปะทะกันเล็กๆ ทางความคิด ระหว่าง "สมคิด เลิศไพฑูรย์" อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ "ธีระ สุธีวรางกูร" อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และสมาชิก "นิติราษฎร์"

คู่ต่อมาเป็นการประลองยุทธระดับเข้มข้นระหว่างจอมยุทธผู้เคยผ่าน "เบ้าหลอมทางการเมือง" เดียวกันมาก่อน อย่าง "คำนูณ สิทธิสมาน" ส.ว.สรรหา และคอลัมนิสต์เครือผู้จัดการ กับ "เกษียร เตชะพีระ" แห่งคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์

โปรดติดตามอ่านโดยระทึกในดวงหทัยพลัน



วิวาทะ "สมคิด เลิศไพฑูรย์" vs "ธีระ สุธีวรางกูร"


เสรีภาพในการวิจารณ์ "นิติราษฎร์"

สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัว)

อ่านการให้สัมภาษณ์นิติราษฎร์แล้วไม่สบายใจ
มธ.ให้เสรีภาพนิติราษฎร์มาล่ารายชื่อใน มธ. แต่นิติราษฎร์ให้สัมภาษณ์ว่าใครคัดค้านขัดขวางนิติราษฏร์ผิดกฏหมายเข้าชื่อ
อาจถูกจำคุก

ทำไมนิติราษฎร์เรียกร้องให้มีเสรีภาพในการวิจารณ์สถาบัน
แต่ไม่เห็นด้วยกับการมีเสรีภาพในการวิจารณ์นิติราษฏร์


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธีระ สุธีวรางกูร (ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัว)

ขอเรียนชี้แจงท่านอธิการบดี การขัดขวางการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย เป็นความผิดตามมาตรา 15 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายพ.ศ. 2542 ครับ เราเพียงแต่เสนอข้อเท็จจริงเท่านั้น

อีกอย่างหนึ่ง นิติราษฎร์ไม่เคยพูดที่ไหนว่าห้ามไม่ให้วิจารณ์พวกเรา
ขอความกรุณาอย่านำเอาสิ่งที่ท่านพูดเอง มาบอกว่าเป็นคำพูดหรือการกระทำของนิติราษฎร์เลย
ด้วยความเคารพท่านอธิการบดีครับ


_______________________________________________________________________________________________________

วิวาทะ "คำนูณ" vs "เกษียณ"


"คณะนิติราษฎร์กำลังสานต่อการปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475"
"แล้วคุณคำนูณกับสื่อเครือผู้จัดการกำลังสานต่อภารกิจใดหรือครับ? กบฎบวรเดช? คณะรัฐประหาร 2490 ของผิน-เผ่า? คณะปฏิวัติ 2500 ของจอมพลสฤษดิ์? คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน 2519 ? "


ไม่ใช่แค่ 112 !
โดย คำนูณ สิทธิสมาน (www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000006030)


เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2555 มีการเปิดตัวคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยมีเป้าหมายรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนให้มาร่วมกันเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

บ้านเมือง "ร้อน" ขึ้นทันตาเห็น !

เพราะคณะนี้เขามีร่างฯแก้ไขเพิ่มเติมไว้แล้ว เป็นร่างฯที่จัดทำให้คณะนิติราษฎรที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของเขามาตั้งแต่ปีที่แล้ว และที่เห็นเป็นระบบชัดเจนที่สุดก็ในเอกสารเผยแพร่ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2554

โดยทั่วไปเขาจะใช้คำว่า "แก้ไข" แต่ดูรายละเอียดทั้งหมดแล้วนอกจากจะมีค่าเท่ากับ "ยกเลิก" แล้วยังเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างประมวลกฎหมายอาญาในส่วนความมั่นคงแห่งรัฐครั้งสำคัญ

1. ยกเลิกมาตรา 112 ออกจากลักษณะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

2. เพิ่มเติมลักษณะความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

3. แบ่งแยกการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ออกจากพระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

4. แก้ไขอัตราโทษ โดยไม่บัญญัติอัตราโทษขั้นต่ำ ลดอัตราโทษขั้นสูง เพิ่มโทษปรับ โดยเปรียบเทียบกับอัตราโทษที่ใช้ในกรณีของบุคคลทั่วไป ให้การกระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์สูงกว่าบุคคลทั่วไป 1 ปี และแยกแยะโทษของการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นออกจากกัน

5. บัญญัติเหตุยกเว้นความผิดในกรณีติชมหรือแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

6. บัญญัติเหตุยกเว้นโทษในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง แต่หากการพิสูจน์นั้นไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนห้ามไม่ให้พิสูจน์

7. ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษ ให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้กล่าวโทษ


เห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าคณะนิติราษฎร์กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมไม่รู้ว่าคณะที่รณรงค์ล่ารายชื่อและคนที่ร่วมลงชื่อจะรู้ทั้งหมดหรือไม่ ?

คณะนิติราษฎร์กำลังสานต่อการปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475 ให้สำเร็จ !

คณะนิติราษฎร์กำลังจะเสนอให้สถาบันพระมหากษัตริย์กลับไปสู่สถานะหลังวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2475

พูดง่าย ๆ ว่าคณะนิติราษฎร์ต้องการใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2475 มีอายุบังคับใช้อยู่เพียง 5 เดือนเศษมาเป็นหลักในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย

ประเด็นนี้ผมเคยบอกท่านผู้อ่านมาแล้วเมื่อเห็นแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์เนื่องในโอกาสครบ 5 ปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ว่าก่อนหน้านี้บรรดาคนที่คัดค้านการรัฐประหาร รวมทั้งนปช. และพรรคเพื่อไทย เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นตัวตั้ง หรือไม่ก็ให้เอามาใช้แทนเลย แต่คณะนิติราษฎร์ไปไกลกว่า โดยให้ค่ารัฐธรรมนูญ 2540 ไว้จำกัดจำเขี่ยมาก เพราะให้ย้อนไปดึงเอารัฐธรรมนูญของคณะราษฎรมาเป็นต้นแบบกันเลยทีเดียว เริ่มต้นตั้งแต่พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ตามมาด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 นี่เป็นหลักการใหม่ที่ทั้งนปช.และพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยพูดชัดเจนมาก่อน ย้อนไปดูความในแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์ประเด็นที่ 4 ข้อ 2 กันทุกตัวอักษรนะ

"...เห็นว่ารัฐธรรมนูญที่จะนำมาใช้เป็นต้นแบบในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่สมควรเป็นพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 และอาจนำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ในส่วนของการประกันสิทธิและเสรีภาพตลอดจนโครงสร้างสถาบันการเมืองและองค์กรทางรัฐธรรมนูญเท่าที่สอดคล้องกับพัฒนาการในยุคร่วมสมัยมาเป็นแนวทางในการยกร่าง"

รัฐธรรมนูญ 2540 ถูกลดคุณค่าไปแค่ "อาจนำ" มาร่วมพิจารณาเฉพาะส่วนโครงสร้างสถาบันทางการเมืองและองค์กรทางรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ใช่ปรัชญาและแนวทางหลัก

รัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 คืออะไร ?

รัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น 3 วันหลังคณะราษฎรทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากในหลวงรัชกาลที่ 7 โดยคณะราษฎรเป็นผู้จัดทำฝ่ายเดียวแล้วนำมาถวายพระองค์ท่าน แม้พระองค์อาจไม่ทรงเห็นด้วยในเนื้อหาบางประการ แต่ด้วยพระราชปณิธานสูงสุดที่ไม่ต้องการให้แผ่นดินนองเลือดจึงทรงยินยอม แต่ก็ลงพระอักษรกำกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ว่า "ชั่วคราว" อันเป็นผลให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พระองค์ท่านมีส่วนร่วมพระราชทานความเห็นด้วยออกมาประกาศใช้ในอีก 5 เดือนเศษต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ซึ่งมีเนื้อหาบางประการแตกต่างออกไป

ในรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ไม่มีคำว่า "พระมหากษัตริย์" เหมือนรัฐธรรมนูญทุกฉบับต่อ ๆ มา โดยใช้คำว่า "กษัตริย์" เฉย ๆ

หลักการสำคัญอันเป็นเสมือนการแสดงเจตนารมณ์ปฏิบัติประชาธิปไตย-เปลี่ยนระบอบบรรจุอยู่ในมาตรา 1 ด้วยข้อความที่สั้น กระชับ เมื่อพูดถึงอำนาจสูงสุดของประเทศก็มีแต่คำว่า "ราษฎร" เท่านั้น ไม่มีข้อความต่อมาที่ระบุถึง "พระมหากษัตริย์" ไว้ในมาตราเดียวกันเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับต่อ ๆ มา

"อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย"

ไม่ใช่แต่เพียงภาษาเท่านั้นแต่ฐานภาพของ "กษัตริย์" ตามรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ไม่เหมือน "พระมหากษัตริย์" ในรัฐธรรมนูญฉบับต่อมาทุกฉบับต่อจากนั้น

อ่านหมวด 1 ข้อความทั่วไป และหมวด 2 กษัตริย์ ดูก็พอจะรับรู้อารมณ์และเจตนารมณ์ได้

ที่สำคัญและเชื่อมโยงไปถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่คณะนิติราษฎร์เสนอให้ยกเลิกด้วยก็คือ รัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ไม่มีหลักการสำคัญที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับต่อมาบัญญัติคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์และองค์พระมหากษัตริย์ไว้เด็ดขาด ดังเช่นความในมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งก็เหมือนฉบับ 2540 และฉบับอื่น ๆ ก่อนหน้า...

"องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ / ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้"

หลักการนี้มีที่มาที่ไปที่แสดงลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษของประเทศไทย และเพราะมีหลักการนี้บรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเหตุให้มีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ถ้าหลักการนี้ไม่คงอยู่ในรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ไม่มีฐานรองรับ

แน่นอนว่ารัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ก็ยังคุ้มครองฐานภาพของ "กษัตริย์" แต่ไม่ได้คุ้มครองไว้เด็ดขาดเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับต่อ ๆ มาทุกฉบับจนถึงปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ว่า...

"กษัตริย์จะถูกฟ้องร้องคดีอาชญายังโรงศาลไม่ได้ เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรจะวินิจฉัย"

และไม่ใช่แค่ยกเลิกมาตรา 112 หรือแก้ไขแบบปรับเปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมดเท่านั้น

ขณะนี้คนบางกลุ่มยังต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กลับไปสู่สถานะก่อนปี 2500 และก่อนปี 2490

.............................................

(ท่านผู้อ่านช่วยเติมบรรทัดสุดท้ายให้ข้อเขียนชิ้นนี้ด้วยหลังรับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกันอยู่แล้ว !!)


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

คำถามจาก "เกษียร เตชะพีระ" ถึง "คำนูณ สิทธิสมาน"
(ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัวของเกษียร เตชะพีระ)


คุณคำนูณกล่าวหาว่าคณะนิติราษฎร์ต้องการกลับไปสู่สภาพการณ์ระหว่าง 24 มิ.ย. 2475 - 10 ธ.ค. 2475 ไม่ใช่แค่แก้ม. 112

แล้วคุณคำนูณกับสื่อเครือผู้จัดการกำลังสานต่อภารกิจใดหรือครับ? กบฎบวรเดช? คณะรัฐประหาร 2490 ของผิน-เผ่า? คณะปฏิวัติ 2500 ของจอมพลสฤษดิ์? คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน 2519?


... ไม่มีใครทำซ้ำภารกิจในอดีตขึ้นใหม่จริง ๆ ได้หรอก ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยเอาเข้าจริงจึงไม่เคยมี เพราะทุกการ "ซ้ำรอย" ย่อมทำขึ้นในเงื่อนไขใหม่ทางประวัติศาสตร์เสมอ และเงื่อนไขใหม่ที่ปฏิสัมพันธ์กับการกระทำแบบเก่า ย่อมนำไปสู่ผลที่ต่างจากเดิม

ดังนั้นมากที่สุดที่คนเราทำได้ คือได้รับแรงบันดาลใจจากการต่อสู้ในอดีต รับสืบทอดคุณค่า/อุดมคติจากขบวนการในอดีต แล้วปรับมาทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเดินหน้าต่อไปในแนวนิยมของคุณค่าที่ตนสมาทานนั้น


ถ้าคณะนิติราษฎร์สมาทานคุณค่าของคณะราษฎรและ อ.ปรีดีซึ่งก็คือระบอบราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำจะส่งผลเป็นสภาพการณ์ระหว่าง 24 มิ.ย. 2475 - 10 ธ.ค. 2475 เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในทางกลับกัน สมมุติคุณคำนูณและสื่อเครือผู้จัดการต้องการสืบทอดคุณค่า/อุดมคติของคณะกู้บ้านกู้เมือง (บวรเดช), คณะรัฐประหาร (2490), คณะปฏิวัติ (2500), คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (2519) ก็โอเคครับ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการของคุณคำนูณกับสื่อเครือผู้จัดการจะเสกให้เหมือนอดีตได้ เรื่องในโลกย่อมไม่เป็นไปดังใจปรารถนาของมนุษย์เรานะครับ

แทนที่จะปลุกผีอดีตมาหลอกปัจจุบัน คำถามที่ผมอยากชวนคุณคำนูณและสื่อเครือผู้จัดการมาคิดคือ อะไรคือสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในระบอบราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญที่เหมาะสมและเป็นคุณแก่ความมั่นคงยั่งยืนของสถาบันกษัตริย์ควบคู่กับประชาธิปไตยในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยบทเรียนที่เราพบเห็นใน 4 - 5 ปีที่ผ่านมา? มาช่วยกันคิดดีกว่าครับ



.