http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-01-26

แก้รัฐธรรมนูญ (ถอนตะปูออกจากเท้า) ปรับ ครม. (เร่งจังหวะก้าวเดิน) โดย มุกดา สุวรรณชาติ

.

แก้รัฐธรรมนูญ (ถอนตะปูออกจากเท้า) ปรับ ครม. (เร่งจังหวะก้าวเดิน)
โดย มุกดา สุวรรณชาติ คอลัมน์ หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1641 หน้า 20


นับเป็นการเขียนถึงการแก้รัฐธรรมนูญเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี

แม้ฝ่ายที่ยอมรับว่าควรแก้ไขถกเถียงกันไปถึง วิธีการแก้ไข แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ออกมาคัดค้าน เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มอนุรักษนิยม กลุ่มนักวิชาการที่เคยเข้าร่วมกับคณะรัฐประหาร กลุ่มเอ็นจีโอบางส่วน กลุ่มชนชั้นสูงและชนชั้นกลางที่ต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร หัวชนฝา

เหตุผลสำคัญคือ เห็นว่าจะเป็นการแก้ไขเพื่อคนคน เดียวคือทักษิณ เพราะอำนาจทางการเมืองจะหลุดจากมือชนชั้นนำที่ผ่านวุฒิสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้ง และองค์กรอิสระที่กลุ่มอำนาจเก่าตั้งมากับมือ ทำให้อำนาจต่างๆ ตกไปอยู่ในมือขององค์กรที่มีที่มาจากประชาชนโดยผ่านการเลือกตั้ง

รวมทั้งเหตุผลลึกๆ ที่หวั่นเกรงคือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจจะนำไปสู่การกำหนดบทบาท สถานะและความสัมพันธ์ใหม่ขององค์กรและสถาบันที่ใช้อำนาจทางการเมืองให้มีลักษณะที่ต้องฟังเสียงประชาชนมากขึ้น

คนสามแสนจะให้คน 16 ล้านหุบปากเงียบไม่ได้อีกแล้ว


ทำไมต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550

ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ พูดถึงเหตุที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญไว้สั้นๆ ว่า...

รัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้ในปัจจุบันเป็นกติกาซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของหลายฝ่าย จึงเป็นกติกาที่ขัดขวางความปรองดองตัวจริงทีเดียว หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยากที่จะนำสังคมไปสู่ความปรองดองที่แท้จริงได้ ดังนั้น หากต้องการความปรองดองจริง วิธีเดียวคือสร้างกติกาซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่ายขึ้นใหม่ โดยพยายามตัดวงจรของการล้มกระดานหรือการรัฐประหารให้แน่นหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย

จาตุรนต์ ฉายแสง อธิบายเหตุผลไว้ค่อนข้างละเอียดว่าทำไมต้องแก้รัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการรัฐประหาร ถือได้ว่าคณะรัฐประหารเป็นผู้ร่างขึ้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังได้รับรองการรัฐประหารด้วย การคงใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต่อไปทั้งที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว

ในสายตาของอารยประเทศเขาถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่รัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งกลับยอมรับกฎกติกาที่พวกเผด็จการสร้างไว้

ในส่วนของเนื้อหา รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและขัดต่อหลักนิติธรรมคือให้องค์กรที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารหรือผ่านความเห็นชอบมาจากคณะรัฐประหารสามารถล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้

คนไม่กี่คนที่ไม่เชื่อมโยงกับประชาชนเลยสามารถหักล้างมติของประชาชนทั้งประเทศได้ การตรวจสอบ ควบคุมและถอดถอนฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารรวมทั้งข้าราชการระดับสูงทำโดยองค์กรที่ขาดความชอบธรรมและสามารถเลือกปฏิบัติโดยปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุล นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่เป็นปัญหาอีกมาก

เมื่อใช้รัฐธรรมนูญนี้มาระยะหนึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าทำให้ประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ใครมาเป็นรัฐบาลก็ไม่มีเสถียรภาพและไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรรคการเมืองและระบบพรรคการเมืองถูกทำลายให้อ่อนแอลงอย่างมาก

ความไม่เป็นประชาธิปไตยและขัดต่อหลักนิติธรรมของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังเป็นต้นเหตุสำคัญให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมไทยที่นับวันจะหนักหนายิ่งขึ้น

ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการพัฒนา ประชาชนเสียประโยชน์ทั้งๆ ที่ประเทศไทยอยู่ในจุดที่มีภูมิรัฐศาสตร์ที่เอื้ออำนวย มีโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆ ที่พัฒนาก้าวหน้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ แต่ต้องกลับมาติดหล่มความขัดแย้งและยังขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ

โดยเฉพาะในระบบความยุติธรรมและความไม่มีเสถียรภาพ

ทำให้ความสนใจที่เขาจะมาลงทุนหรือทำมาค้าขายด้วยน้อยลงไปอย่างมาก



การแก้รัฐธรรมนูญ คือการถอนตะปูที่ตำเท้าออก

สําหรับทีมวิเคราะห์เห็นว่าเวลาของการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แถลงเป็น นโยบายเร่งด่วน ต้องทำให้เสร็จใน 1 ปี ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน

แต่เหตุผลที่สำคัญ คือประเทศไทยเดินต่อไปไม่ได้ เราหยุดเดินมาตั้งแต่การรัฐประหาร 2549 เพราะไปเหยียบตะปูที่กลุ่มอำนาจเก่าวางไว้ถึง 3 ตัว

ตะปูตัวที่หนึ่ง คือรัฐธรรมนูญฉบับ 2550

ตะปูตัวที่สอง คืออำนาจที่บงการขบวนตุลาการภิวัฒน์ ที่สามารถทำให้คนที่ผัดกับข้าวอยู่ตกลงไปในกระทะได้

ตะปูตัวที่สาม คืออำนาจลึกลับที่บงการอยู่เหนือผู้ถืออาวุธ ทำให้คนทั้งประเทศต้องคอยพะวงแต่เรื่องรัฐประหาร

วันนี้การแข่งขันเพื่อการอยู่รอดของประเทศต่างๆ ไม่ใช่สงครามแต่เป็นการผลิต และการค้า 10 ปี ที่แล้วเราวิ่งนำเพื่อนบ้าน แต่หลังการรัฐประหาร 2549 มีตะปู 3 ตัวมาเสียบฝ่าเท้า ก็คนในชาติเดียวกันนี่แหละ ที่ขี้อิจฉา ริษยา ด้วยความโง่เขลา จึงเริ่มต้นทำลายความก้าวหน้าของชาติตัวเอง ด้วยการพยายามเสกตะปูเข้าท้อง

เมื่อไม่สำเร็จ ก็ยกพวกมาปล้น

พอชาวบ้านออกมาช่วย พวกโจรก็หลบหนีไปซ่อนอยู่ในเงามืด บ้างก็แปลงกายเป็นคนดี แต่ยังวางกับดักตะปูไว้ 3 ตัว เมื่อตะปูเสียบเข้าฝ่าเท้า ทั้งประเทศก็เดินไม่ได้ ถ้าอยากจะเดินต้องถอนตะปูออก

ตะปูตัวแรกที่ถอนได้ง่ายๆ ที่สุดคือรัฐธรรมนูญ 2550 ใช้สภาผู้แทนฯ กับมติของประชาชนก็จัดการได้ จากนั้นจึงจะมีโอกาสนำรัฐธรรมนูญใหม่ ไปถอนตะปูตุลาการภิวัฒน์ และใช้ถอนตะปูอำนาจที่บงการอาวุธให้มาอยู่ในกรอบของการป้องกันประเทศ



จับจังหวะการเดินให้ทันโลก

การหมุนของโลกคงเดิม แต่จังหวะการเคลื่อนไหวของคนในโลกเร็วขึ้น ถ้าผู้นำช้า คนทั้งประเทศจะก้าวไม่ทันโลก ผู้นำและทีมงานต้องปรับตัวก่อน เช่น การชิงจังหวะลงทุนที่เมืองทวายในพม่า ผู้นำปรับตัวไปแล้วแต่ประชาชนพม่ายังงงๆ ไม่รู้จะปรับตัวรับกับประชาธิปไตยแบบหล่นจากฟ้าได้อย่างไร ก็ได้แต่หวังว่าครั้งนี้ น้ำจากฟ้า จะส่งผลให้พืชผล ต้นไม้ใบหญ้างอกงามขึ้นมาบ้าง

สำหรับประเทศไทย ถ้าถอนตะปูออกจากเท้าได้แล้ว ก็ต้องเร่งปรับจังหวะก้าวเดินให้ทันเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ที่พัฒนานำหน้าไปแล้ว

คนชั้นนำในพม่าดูตัวอย่างประเทศจีนและคิดว่า จีนคอมมิวนิสต์ยังพัฒนาทุนนิยมได้ วันนี้จึงทั้งรวยทั้งมีอำนาจ ผู้อาวุโสในพม่าซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนสูงวัยจึงเร่งจังหวะก้าวเดินเพราะทุกคนอยากเห็นความสำเร็จในขณะที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่

วันนี้การเปลี่ยนนโยบายของพม่าจึงตรงตามความต้องการของทุกฝ่ายเพื่อจะได้โชติช่วงชัชวาลย์ทันตาเห็น

ส่วนกัมพูชา วัยของผู้นำกัมพูชาก็อยู่ในบั้นปลายชีวิต ในขณะที่ประเทศกัมพูชา ยังมิใช่ประเทศอุตสาหกรรม รายได้จากการท่องเที่ยวนครวัด นครธม ก็ยังน้อยมาก การเร่งจังหวะก้าวเดินของกัมพูชา ก็เพื่อหารายได้มาพัฒนาประเทศและเสริมความมั่นคงทางการเมือง จากทรัพยากรก๊าซและน้ำมันที่ชายฝั่งทะเลซึ่งทับซ้อนกับไทย

สำหรับมหาอำนาจต่างๆ ก็พอมองออกแล้วว่า ในระยะ 3- 5 ปีข้างหน้า ปัญหาพลังงานจะเป็นปัญหาใหญ่ หลายประเทศสงวนแหล่งพลังงานภายในประเทศของตนไว้แต่ออกล่าหาแหล่งอื่น แม้จะอยู่ไกลสุดหล้าฟ้าเขียว

แหล่งพลังงานในพม่าทั้งก๊าซและน้ำมันที่จะขุดได้ในอนาคตอาจไม่เหลือพอขายมากนัก เพราะพม่าจะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวายให้มีขนาดใหญ่เป็น 8 เท่าของนิคมแถบจังหวัดระยอง

ในขณะพม่าประกาศยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ตามการเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ การใช้น้ำมันและแก๊สที่ขุดได้จึงต้องมีจำนวนมหาศาล

ความหวังของกลุ่มผู้บริโภคและผู้ค้าน้ำมันจึงยังคงอยู่ที่แหล่งน้ำมันทับซ้อนไทยกัมพูชา

คาดว่าภายในปี 2555 น่าจะมีการอนุมัติสัมปทานเพื่อการสำรวจและขุดเจาะให้กับบริษัทของอเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และ ปตท. ของประเทศไทย

เพราะการนำพลังงานเหล่านี้มาใช้ อาจต้องใช้เวลา 3-5 ปี จึงจะประสบความสำเร็จ



ปรับ ครม.
ส่วนหนึ่งของการเร่งจังหวะการเดิน

สําหรับรัฐบาลไทย มีความจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเรื่องพลังงานเพราะถ้าหากเกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานขึ้นในประเทศ ในจังหวะเดียวกับที่การทรุดตัวของเศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรป ที่ส่งผลสะเทือนมาถึง อาจทำให้รัฐบาลล้มได้

ดังนั้น การเตรียมพร้อมทางความมั่นคง ด้านพลังงานของรัฐบาลไทย จึงเป็นความต้องการที่ตรงกันกับทุกประเทศ

วันนี้ไทยอ่านเกมบนเวทีโลกได้อย่างแน่นอนแล้ว ทั้งพม่าและกัมพูชาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ไทยเป็นกองกลาง ต้องโยนลูกให้แม่นเพื่อบุกเข้าไปยิงประตู

กัปตันทีมแบบยิ่งลักษณ์รู้แผนของโค้ชแล้วและเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อให้ได้ผลตามแผนที่วางไว้ ถ้าเปลี่ยนครั้งแรกยังไม่สำเร็จก็ต้องมีการเปลี่ยนครั้งที่ 2

ถ้าการปรับปรุงทีมครั้งนี้ได้ผลก็จะสามารถแก้ปัญหาทั้งภายในและภายนอกได้ ทั้งยังสามารถดึงพลังการเมืองจากต่างประเทศมาคานอำนาจกับกลุ่มอนุรักษนิยมและกลุ่มเผด็จการแผงที่ยังหลงเหลืออยู่ ถ้าสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจหลักๆ ได้ ก็จะเพิ่มความนิยมและผลักดันให้รัฐบาลก้าวต่อไป มีกำลังต่อสู้กับอำนาจ ทุกรูปแบบ

ผู้วิเคราะห์มองว่าการปรับ ครม. เป็นเรื่องปกติ ในเมื่อโค้ชลงเล่นเองไม่ได้ ก็ต้องวางแผนอย่างดี หานักฟุตบอลที่เล่นเก่งได้ตามแผน เพื่อเสริมทีมให้แข็งแกร่ง สามารถชนะได้ในครั้งต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โค้ชจะไม่แคร์กับเสียงโห่ของฝ่ายตรงข้าม หลังจากนี้อีก 5-6 เดือนก็คงมีการเปลี่ยนตัวกันอีก

เวลานี้ประเทศไทยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก ถอนตะปูออกจากฝ่าเท้า รักษาแผล แล้วเดินต่อไป หลายประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านก็เร่งถอนตะปูออกเช่นกัน ที่อินโดนีเซียทำมาหลายปีแล้ว และได้ผล ส่วนพม่ากำลังเร่งถอนตะปูออกเช่นกัน

แต่ที่บ้านเรายังกังวลกันว่า วันนี้จะมีคนบางกลุ่ม แอบวางกับดักตะปูเพิ่มเข้าไปอีก โดยซ่อนไว้ใต้พรมของกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้น เราจะได้เห็นการถีบยอดอกและเตะก้านคอทั้งๆ ที่เท้ายังมีตะปูคาอยู่



.