http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-07-04

PROMETHEUS “มนุษย์กับผู้สร้าง” โดย นพมาส แววหงส์

.

PROMETHEUS “มนุษย์กับผู้สร้าง”
โดย นพมาส แววหงส์  คอลัมน์ ภาพยนตร์ 
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1663 หน้า 87


กำกับการแสดง Ridley Scott 
นำแสดง Michael Fassbinder 
Noomi Rapace 
Charlize Theron 
Guy Pearce 
Logan-Marshall Green



"โพรมิธิอุส" ในปกรณัมปรัมปราของกรีกโบราณ เป็นหนึ่งในพวกไททันที่มีบุญคุณต่อมนุษย์บนโลกอย่างมาก
ไททันเป็นเผ่าพันธุ์ของเทพเจ้าที่เคยครองอำนาจสูงสุด แต่ต่อมาถูกเทพอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งคือเทพเจ้าที่สถิตย์อยู่บนโอลิมปุสโค่นล้มและขึ้นครองความเป็นใหญ่ในจักรวาลแทน 
ชื่อของไททันนี้เป็นที่มาของศัพท์ที่เราคุ้นหูกันในชื่อเรือไททานิกที่โดนโชคชะตาเล่นตลกให้เรือที่ได้รับฉายาว่า "จมไม่ได้" ต้องถูกโค่นจนจมหายลงใต้ท้องสมุทรตั้งแต่ออกทะเลครั้งแรก เมื่อถูกภูแข็งน้ำแข็งชนเข้าโครมโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว 
โพรมิธิอุสสร้างคุณูปการมหาศาลให้แก่มวลมนุษย์ด้วยการที่ขัดคำสั่งเทพเจ้าและขโมยไฟบนสรวงสวรรค์มาให้มนุษย์รู้จักใช้กันบนโลก

วีรกรรมที่ทำให้แก่มนุษยชาติครั้งนั้นทำให้โพรมิธิอุสถูกเทพซุสลงโทษด้วยการมัดตัวเขาไว้กับก้อนหิน แล้วให้นกอินทรีมาจิกกินตับทุกวัน ตับจะงอกขึ้นมาใหม่ให้นกมาจิกกินในวันรุ่งขึ้น 
เรียกว่าเป็นการลงทัณฑ์ขั้นสาหัสชั่วกัปชั่วกัลป์เลยทีเดียว
ดีแต่ว่าตำนานเล่าไว้ด้วยว่าโพรมิธิอุสได้รับการปลดปล่อยโดยเฮอร์คิวลีสผู้เป็นกึ่งเทพกึ่งมนุษย์


ริดลีย์ สกอตต์ (Blade Runner, Alien, Gladiator, Black Hawk Down) นำชื่อโพรมิธิอุสมาตั้งเป็นชื่อหนังไซไฟเรื่องใหม่ของเขา ในความหมายที่โพรมิธิอุสพยายามทำให้มนุษยชาติมีความเสมอภาคกับเทพเจ้าที่เป็น "วิศวกร" สร้างมวลมนุษย์ขึ้น 
ตามข่าวว่าแรกทีเดียวหนังเรื่องนี้ตั้งใจสร้างเป็นพรีเควล หรือเรื่องราวที่มาก่อนหน้าหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในชุด Alien แต่แล้วก็กลายเป็นหนังโดดๆ ที่ยืนอยู่ต่างหากด้วยตัวเอง โดยสำหรับแฟนหนังชุด Alien แล้ว อาจเห็นความคล้ายคลึงกับหนังชุด Alien อยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ พอคลับคล้าย แต่ไม่มีความเกี่ยวโยงกันโดยตรง
หนังเปิดเรื่องด้วยภาพทิวทัศน์ธรรมชาติบริสุทธิ์ตระการตา ตัวละครที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์ ยืนอยู่โดดเดี่ยวบนยอดน้ำตกสูงลิ่ว เขาหยิบกล่องที่บรรจุของเหลวสีดำมาดื่ม และแล้วฤทธิ์ของสารสีดำนั้นก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในร่างของเขา ซึ่งร่วงหล่นลงในกระแสน้ำตกลงจากหน้าผาสูงชัน 
เรารู้กันอยู่แล้วว่าน้ำเป็นต้นตอของวิวัฒนาการมนุษย์


ตัดฉับมาสู่ปลายศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ในอนาคตกาลจากปัจจุบันไปอีกราวแปดสิบปี นักวิทยาศาสตร์สองคนไปสำรวจถ้ำยุคประวัติศาสตร์ และพบภาพเขียนฝาผนังที่ชี้ไปสู่กลุ่มดาวไกลโพ้นในจักรวาล 
ดร.เอลลี ชอว์ (นูมี ราปาชี จาก The Girl with the Dragon Tatoo) ตีความภาพเขียนนั้นว่ามนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลกตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และบันทึกเป็นภาพไว้บนผนังถ้ำเพื่อเป็นคำเชิญมนุษย์รุ่นต่อมาอีกนานให้ไปสู่ดวงดาวที่พวกเขาจากมา 
ตัดไปสู่ภายในยานอวกาศชื่อ โพรมิธิอุส ซึ่งมีหุ่นยนต์รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ไม่มีผิดชื่อเดวิด (ไมเคิล ฟาสบินเดอร์) ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ตามลำพัง ก่อนที่จะค่อยๆ ปลุกมนุษย์หลายคนที่แช่แข็งไว้ในแคปซูล ระหว่างการเดินทางข้ามอวกาศ 
ยานโพรมิธิอุสกำลังเข้าใกล้จุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ และกำลังจะลงจอดบนดาวดวงนั้น

กลวิธีในการเล่าเรื่องคือว่าบรรดาลูกเรือที่มากับยานลำนี้ เพิ่งจะได้รับการบอกเล่าเรื่องวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของภารกิจ นั่นคือ อัครมหาเศรษฐีวัยร้อยกว่าปีชื่อปีเตอร์ เวย์แลนด์ (กาย เพียร์ซ ที่แต่งหน้าให้ชราภาพจนจำเค้าหน้าเดิมไม่ได้) ลงทุนออกค่าใช้จ่ายสำหรับภารกิจนี้ตามที่เอลลีเสนอ และสมัครเดินทางมาตาม "คำเชิญ" ที่เธอสันนิษฐาน  
หัวหน้าภารกิจคือ เมริดิธ วิกเคอร์ส (ชาร์ลีซ เธอรอน) ผู้ดูบ้าอำนาจ และต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในมือคนเดียว


เมื่อยานลงจอด ภารกิจสำรวจดาวดวงนี้ก็เริ่มต้นขึ้น ทีมสำรวจพบโพรงยาวและซับซ้อนในโครงสร้างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และได้พบศพสิ่งมีชีวิตมากมาย พร้อมทั้งศีรษะขนาดใหญ่ที่ถูกตัดขาด นอกจากนั้น ยังพบว่าภายในโพรงที่เข้าไปสำรวจนั้น มีอากาศที่มนุษย์สามารถหายใจได้เป็นปกติ 
การตรวจสอบดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตที่เอลลีเรียกว่า "วิศวกร" นั้นปรากฏว่าเหมือนกับโครงสร้างดีเอ็นเอของมนุษย์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน 
นั่นหมายความว่า "วิศวกร" เหล่านี้คือต้นกำเนิดของมนุษย์เมื่อมนุษย์ต่างดาวเดินทางไปเยือนโลกเมื่อหลายพันหลายหมื่นปีที่แล้ว

ทีมสำรวจต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายจากพายุแม่เหล็ก และศัตรูของเผ่าพันธุ์ "วิศวกร" รวมทั้งตัว "วิศวกร" เองที่ยังเหลือรอดจากการถูกทำลาย และกลายมาเป็นสิ่งคุกคามสำหรับทีมสำรวจและสำหรับการอยู่รอดของมนุษยชาติบนโลกอีกด้วย
ทิ้งปัญหาให้ตัวเอกของเรื่องต้องขบคิดหาคำตอบว่า ทำไม "วิศวกร" ที่ให้กำเนิดมนุษย์ จึงต้องกลับมาพยายามทำลายมนุษย์ด้วย 
ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาใหญ่ๆ ระดับนี้ย่อมหาคำตอบไม่ได้โดยตรง นอกจากจะตีความกันไปต่างๆ นานา



โดยรวมแล้วเป็นหนังดีที่ผู้เขียนชอบนะคะ และสนุกชวนลุ้นไปด้วย ทั้งตื่นเต้นและตื่นตาอยู่ตลอดเรื่อง ทั้งด้วยโปรดักชั่นดีไซน์ และการตั้งสมมติฐานสำหรับกำเนิดมนุษย์ 
จุดอ่อนของหนังน่าจะอยู่ที่การวางแคแร็กเตอร์ที่ขาดความลึกเสียจนการกระทำของตัวละครขาดความน่าเชื่อและออกจะดูเกินเลยหรืองี่เง่าอย่างน่าโมโห

เราจะไม่รู้สึกแคร์กับตัวละครตัวไหนสักตัวแม้แต่ตัวนางเอกที่ออกจะทำอะไรโง่เง่า
ตัวละครที่เรานึกเอาใจช่วยกลับเป็นตัวหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ต่างหาก
ทั้งนี้และทั้งนั้น นี่ก็เป็นหนังที่น่าดูมากเรื่องหนึ่งนะคะ



.