http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-05-25

บทสรุป ว.5, จุดแตกหัก, รุกถอยหลัง, กฎหมายคือเครื่องมือ, ต้นทางคอร์รัปชั่น ในคอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

.
- ที่นี่มีคนตาย โดย สมิงสามผลัด  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

บทสรุป ว.5
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม ในข่าวสดออนไลน์ วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


กลับมาเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งกรณี "ว.5 โฟร์ซีซั่นส์"
หลังนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่าได้ตรวจสอบที่บริเวณชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์แล้ว พบเป็นห้องรับรองพิเศษวีไอพี มีลักษณะเปิดกว้าง ซึ่งผู้มีวุฒิภาวะคงไม่ใช้สถานที่ในลักษณะนี้ไปแสดงพฤติกรรมในเชิงชู้สาวได้ 
สรุปว่าไม่มีเรื่องชู้สาว!

ในเมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินสรุปออกมาแบบนี้แล้ว นายศิริโชค โสภา นายเทพไท เสนพงศ์ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ที่เคยพูดสองแง่สองง่ามกันเรื่อง ว.5 
จะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง?
หากย้อนกลับไปดูกระแสในช่วงนั้น สามเกลอละเลงกันสนุกปากจริงๆ 
ขุดมาหมดทั้งเอาอยู่ พื้นที่รับน้ำ สวรรค์ชั้น 7 
จนมีคนออกมาตำหนิว่าวิธีการแบบนี้ มันเลยเถิดการตรวจสอบรัฐบาลหรือไม่!?

เรื่องนี้มีการยื่นฟ้องเป็นคดีความแล้ว เพราะ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ทนายฟ้องทั้ง 3 คนข้อหาหมิ่นประมาท ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม 
แต่ในฐานะที่เป็นส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่กลับกล่าวหาใส่ร้ายผู้นำประเทศ ซึ่งเป็นผู้หญิงในทางที่เสื่อมเสียนั้น 
นายศิริโชค นายเทพไท และนายชวนนท์ ต้องแสดงความรับผิดชอบ 
หรืออย่างน้อยควรทบทวนระบบคิดของตัวเองเสียใหม่ 

ล่าสุดนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตอกย้ำว่าการออกมาค่อนแคะและพยายามโยงกับเรื่องใต้สะดือ
เพราะอารมณ์ค้างจากการพ่ายแพ้เลือกตั้ง  
ทั้งยังเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ รับผิดชอบการกระทำของลูกพรรคด้วย
เพราะทั้งนายศิริโชค นายเทพไท และนายชวนนท์ ถือเป็นคนที่ใกล้ชิด 
แต่ก็เพิกเฉยไม่มีการตักเตือน

ปล่อยปละจนสร้างความเสื่อม เสียต่อพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างใหญ่หลวง 
แต่ถึงที่สุดแล้ว เรื่องเอ่ยปากขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบ คงจะยากยิ่งกว่ายาก สำหรับนักการเมืองแนวนี้
และกลุ่มนี้!!! 



++

จุดแตกหัก
โดย มันฯ มือเสือ  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม 
ในข่าวสดรายวัน วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7847 หน้า 6 


มีความเห็นตามมาหลากหลายต่อคำปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่วิดีโอลิงก์เข้ามายังเวทีราชประสงค์เมื่อค่ำวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะวรรคตอนที่ว่า
'วันนี้เราเดินมาสุดทางพี่น้องขับเรือพาผมมาถึงฝั่ง ต่อไปเป็นการขึ้นเขาซึ่งต้องขึ้นรถไป พี่น้องไม่จำเป็นต้องแบกเรือมาส่งผมบนเขา'
ที่มีการนำไปตีความว่าทักษิณกำลังจะชิ่งคนเสื้อแดง

ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ฉวยโอกาสเสี้ยมทันที โดยพยายามชี้ให้คนเสื้อแดงเห็นว่าที่ผ่านมาถูกทักษิณหลอกใช้เป็นเครื่องมือ
เมื่อถึงฝั่งแล้วก็จะถีบหัว(เรือ)ส่ง
เดือดร้อนคนใกล้ชิดทักษิณ ไม่ว่านายนพดล ปัทมะ หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต้องออกมาอธิบายความแทนว่า ทักษิณไม่ได้มีเจตนาให้หมายความเช่นนั้น 


สรุปว่าทักษิณกับคนเสื้อแดงต้องปรับจูนความคิดกันใหม่  
ซึ่งหากจะว่ากันตามจริง ท่าทีของทักษิณในระยะหลังแจ่มชัดว่าต้องการอะไร 
สิ่งทักษิณพูดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็เหมือนที่ปราศรัยกับคนเสื้อแดงที่กัมพูชาเมื่อช่วงสงกรานต์เดือนที่แล้ว
นั่นคือต้องการปรองดองกับทุกฝ่ายเพื่อให้ตนเองได้กลับประเทศ

ขณะที่ฝ่ายคนเสื้อแดงก็มีจุดยืนอุดมการณ์ที่ก้าวข้ามทักษิณไปแล้วเหมือนกัน 
จุดยืนคนเสื้อแดงคือ ไม่ขัดขวางเรื่องปรองดองของรัฐบาล แต่จะไม่ขอร่วมด้วย โดยเฉพาะการยื่นมือปรองดองกับฝ่ายอำมาตย์ 
แต่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการนำตัวคนสั่งการและผู้เกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุม 98 ศพเมื่อปี 2553 มารับโทษทางอาญา 
รวมถึงช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในคุกให้ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีอย่างยุติธรรมโดยเร็ว

และที่สำคัญคือรัฐบาลต้องไม่นำ 2 เรื่องนี้ไปเป็นหัวข้อต่อรองกับกลุ่มอำนาจเก่า เพื่อเปิดทางให้ทักษิณได้เดินทางกลับประเทศโดยสะดวก

เพราะตรงนี้ต่างหากคือจุดแตกหักที่แท้จริง



++

รุกถอยหลัง
โดย กระสา มันเสมอ   คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม 
ในข่าวสดออนไลน์ วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.  ข่าวสดออนไลน์


นักโทษการเมืองผิดกฎหมายเลือกตั้ง งวด 111 คน จะหมดโทษภายในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2555 
เป็น'นักโทษ'ที่มีชีวิตปกติต่างกับนักโทษอื่น 
ชาวบ้านย่านถิ่นอดคิดไม่ได้ว่า อาชีพการเมืองเป็นอาชีพอภิสิทธิ์ วิเศษขนาดเท้าไม่แตะดินไปเสียทุกอย่าง ขณะเดียวกัน คนชื่ออภิสิทธิ์ อาจยังเป็นนักการเมืองสมัครเล่นอยู่ก็มี

ความเป็นความมีอภิสิทธิ์ แม้ยังไม่พ้นโทษ แวดวงการเมืองก็พร้อมประเคนตำแหน่งทางการเมืองให้ล่วงหน้า 
หมายถึงรัฐบาลจะต้องปรับครม. แล้วต้องเอาอดีต'นักโทษ'เหล่านี้เข้าไป 
หัวหน้ารัฐบาลถึงกับถอนหายใจ ประคองวันคืนอยู่กันมาดีๆ ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง ทำงานเป็นด้วยการพูดบ้าง เพิ่งดำริอยากแตะต้องงบบ้าง หากเรื่องทั้งปวงก็ยังไม่เหลือบ่ากว่าแรง 
ตะละแม่ก็เลยถีบถอยไว้ก่อน ยืนยันว่า จะยังไม่ปรับครม.ระหว่างนี้ 
พร้อมกับชื่นชมอาวุโสสิ 111 คนนั่น ว่าเป็นคนมีประสบการณ์ รักบ้านรักเมือง ถึงเวลา ได้ร่วมเป็นรัฐบาลกันก็ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ


ความจริง การปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลที่มีจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งในทางโลกทางธรรม 
ว่าไม่มีอะไรในโลกที่ตั้งมั่นอยู่ได้ อยู่ไม่ได้
ก็ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้อยู่ให้ได้
ถามว่าอะไรคือความอยู่ได้ 
สิ่งที่อยู่ได้สำคัญที่สุดคือประชาชนและประเทศชาติ

การเมืองที่เป็นไปเพื่อประชาชน ย่อมเห็นสิ่งนี้ 
เวลาการเมืองมั่นคง ทุกอย่างจะรุดไปข้างหน้า ข้อพึงสังวรคืออย่าลืมระวังข้างหลัง
โครงการประชาคมอาเซียน โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย โครงการรถด่วนรถเร็วทั่วประเทศ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง ฯลฯ แต่ละโครงการก้าวหน้ามหากาฬทั้งนั้น

แต่ในรายละเอียด คน เครื่องมือ ปัจจัยประกอบต่างๆ พร้อมหรือไม่ หรือการพัฒนาเหมือนกับสร้างตึก ในโรงพยาบาล เสร็จแล้วมีแต่ตึก หมอ พยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ หาใส่เข้าไปไม่ทัน  
การเมืองประเทศนี้ก็ตกอีหรอบนี้ ขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ มีความเหมาะสม

มีคนล้นเหลืออยู่แห่งเดียวคือ คุก
เดินเข้าไปแล้วไม่ออกกันนานจัง 



++

กฎหมายคือเครื่องมือ
โดย จ่าบ้าน  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


การแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานาน ไม่ใช่ที่เพิ่งเริ่มต้นจากปี 2547 เท่านั้น หากแต่คุกรุ่นติดต่อกันมานานนับหลายสิบปี เพียงมาปะทุปะทะกันเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหาร แล้วนายกรัฐมนตรีขณะนั้นเอ่ยปากว่าเหตุเกิดจาก “โจรกระจอก” เท่านั้น 

วันนั้น ไฟใต้ซึ่งเคยแต่เพียงสุมขอน และมีการแก้ไขปัญหามาตามลำดับก็ลุกโพลงขึ้นอีกครั้ง
วันนี้ เมื่อได้ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจลงไปสำรวจตรวจสอบเพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาให้ไปสู่สันติสุข
ข่าวคราวที่เกิดขึ้นแม้จะยังมีความรุนแรง แต่ก็น่าจะมีหนทางนำไปสู่สันติสุขในที่สุด


เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาลมีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อมอบนโยบายและชี้แจงการบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  
ผู้รับผิดชอบมีตั้งแต่รองนายกรัฐมนตรี พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธาน พลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้มอบนโยบายและชี้แจงหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน 

การนี้ เลขาธิการ ศอ.บต.ให้ความเห็นส่วนหนึ่งไว้ว่า 
การแก้ปัญหาจังหวัดชาย แดนภาคใต้ เราอย่าตกเป็นเครื่องมือของกฎหมาย แต่ให้ใช้กฎหมายนำมาเป็นเครื่องมือเพื่อนำสันติสุขมาสู่ภาคใต้ ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาไม่สำเร็จเพราะฝ่ายที่มีความคิดมีอุดมการณ์เขามีมาเป็นร้อยปี ไม่เคยเปลี่ยน แต่ของเราเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

เป้าหมายการทำงานด้านการพัฒนาของ ศอ.บต. คือมุ่งนำสันติสุข ความปลอดภัย เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความเจริญรุ่งเรือง กลับไปสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้


พันตำรวจเอกทวียังมีความเห็นที่ชัดแจ้งด้วยว่า อย่างนกเขาชวา ใครมองเป็นเรื่องเล็ก แต่ชาวบ้านส่งออกได้เงินเข้าประเทศเป็นพันล้านบาท
ที่สุดแล้วการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา อย่างจริงจัง 



++

ต้นทางคอร์รัปชั่น
โดย จ่าบ้าน  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 02:00 น. 


ว่าถึงเรื่องปราบคอร์รัปชั่น อยู่หยกๆ
จู่ๆ ก็มีเรื่องต่อเนื่องที่ร้ายแรงกว่าคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในหมู่ข้าราชการระดับสูง
มีตำแหน่งเป็นพันตำรวจเอกที่ก่อคดีปล้นทรัพย์รถบรรทุกเงิน แล้วหลบหนีออกนอกประเทศ ตามข้อสันนิษฐานของตำรวจด้วยกัน
มีการคาดเดาสาเหตุแห่งการประพฤติตัวเป็นโจรของตำรวจครั้งนี้ว่า น่าจะมาจากการซื้อขายตำแหน่งเป็นประการหนึ่ง

การซื้อขายตำแหน่งในวงราชการ โดยเฉพาะส่วนของตำรวจ มีการกล่าวหากันมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมากล่าวหากันวันสองวันนี้ 
ตำรวจคือข้าราชการที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด เป็นผู้ถือกฎหมายและปืนในมือ มีอำนาจจับกุมคุมขังผู้ที่กระทำผิดกฎหมายได้ทันที หรือเพียงเข้าใจว่าจะกระทำผิดกฎหมาย 

หากผู้ที่กระทำผิดกฎหมายไม่ร้ายแรงนัก เช่นคนขับรถแท็กซี่ หรือคนขับรถทั่วไป แม้ความผิดที่กระทำเป็นความผิดไม่ร้ายแรงนัก แต่คนขับแท็กซี่ หรือคนขับรถทั่วไปก็ไม่ค่อยประสงค์จะไปโรงพักนัก แต่จะเกิดการต่อรองจ่ายเงินให้ตำรวจจราจรผู้นั้นจำนวนหนึ่ง แน่นอน ย่อมน้อยกว่าจำนวนที่ต้องไปเสียค่าปรับบนโรงพัก หรืออาจต้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลา 
นั้นคือบ่อเกิดคอร์รัปชั่นในชั้นต้น 
ตำรวจยิ่งอยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น มียศมากขึ้นเท่าใด ส่วนหนึ่งมักจะหาลาภสักการะได้ไม่ยาก ทั้งมีผู้เต็มใจจ่ายให้ และไม่เต็มใจจ่าย แต่เพื่อให้ความผิดที่กระทำนั้นผ่อนหนักเป็นเบา หรือพ้นจากความผิด 
การที่ตำรวจต้องการตำแหน่งสูงขึ้นเป็นเพราะในบางตำแหน่งและบางพื้นที่ของตำแหน่งนั้นมีลาภสักการะอยู่แล้ว เช่นพื้นที่ซึ่งมีกิจการอันล่อแหลมต่อกฎหมาย หรือผิดกฎหมายโดยตรง

เห็นว่า เหตุที่เกิดขึ้นที่สถานีตำรวจภูธรไทรงาม กำแพงเพชร มีอาถรรพ์มาหลายครั้งแล้ว 

แต่ครั้งนี้คงไม่ใช่อาถรรพ์หรอก น่าเป็นเพราะหาเงินมาซื้อตำแหน่งก่อน แล้วหาคืนเจ้าของเงินไม่ได้
จึงต้องหาเงินมาคืนเจ้าของเงินที่เห็นว่ามีอิทธิพลพอสมควรด้วยวิธีนี้ สู้เสี่ยงติดคุกดีกว่า เสี่ยงตาย



+++


ที่นี่มีคนตาย
โดย สมิงสามผลัด  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


กิจกรรมรำลึกครบรอบ 2 ปีการสลายม็อบแดง 98 ศพ ซึ่งจัดขึ้นตลอดทั้งวันนี้ (19 พ.ค.) ที่แยกราชประสงค์ 
นอกจากจะเป็นการรวมตัวของบรรดาคนเสื้อแดงและแกนนำนปช.ทำพิธีสงฆ์ถวายสังฆทานให้ผู้เสียชีวิต  
ยังมีอีกหลายกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ


โดยเฉพาะนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง จัดกิจกรรมรำลึก "ที่นี่มีคนตาย"
นัดกลุ่มเรดไซเบอร์นับร้อยคนรวมตัวกันที่ร้านแมคโดนัลด์ ตรงแยกราชประสงค์
ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟน อาทิ ไอโฟน ไอแพด และแท็บเล็ต ลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในวันสลายการชุมนุมม็อบแดงเมื่อปี 53 ร่วมกัน โดยติดแท็ก "ที่นี่มีคนตาย" ในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก 

ให้สมาชิกกำหนดจุดที่มีคนตาย เขียนเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ณ บริเวณนี้ เพื่อเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้และสัมผัสว่าเคยมีความรุนแรงเกิดขึ้น 
เคยมีการปราบปรามนำไปสู่ความตาย 98 ศพ 
เคยเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมวนาราม  
เป็นอีกการรำลึกเหตุการณ์ 98 ศพผ่านทางโลกไซเบอร์



ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการจัดกิจกรรม "ประชาเฌอระลึก" เพื่อรำลึกครบรอบ 2 ปีการเสียชีวิตของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ อายุ 17 ปี นักกิจกรรมทางสังคม ที่ถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตที่ซอยรางน้ำ 
โดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อขอน้องเฌอ นำแผ่นโลหะที่มีรูปวาดน้องเฌอ พร้อมข้อ ความ "เฌอถูกทหารยิงเสียชีวิตที่นี่" ตอกลงบนทางเท้าจุดที่น้องเฌอเสียชีวิต 
เป็นการยืนยันว่ามีการสังหารเด็กวัยแค่ 17 ปีจริงๆ 
นี่คือส่วนหนึ่งในหลายๆ กิจกรรมรำลึกเหตุการณ์อำมหิตเมื่อปี 2553

เป็นส่วนหนึ่งของความสูญเสียที่ใหญ่หลวง

แม้ว่าล่วงเลยมาจนครบ 2 ปีแล้วในวันนี้ 
แต่ก็ยังไม่เคยเห็นความรับผิดชอบอะไรจากผู้มีอำนาจในยุคนั้นเลย 



.