เช็กสต๊อกหนังสือ เดือน พ.ค.55
โดย หนุงหนิง www.facebook.com/malai.chantarayota www.matichonbook.com
เลือกเรียบเรียงจาก คอลัมน์ เช็กสต๊อกหนังสือ ในมติชนสุดสัปดาห์ ปีที่ 32 ฉบับที่ 1653 - 1658
ตัวตน (สำนักพิมพ์กำมะหยี่, จำนวน 141 หน้า, ราคา 175 บาท) อธิชา มัญชุมากร กาบูล็อง แปลจากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสของ มิลาน คุนเดอรา
ตัวตนเป็นนิยายขนาดสั้น ซึ่งเล่าเรื่องผ่านชีวิตรักของหญิงชายคู่หนึ่ง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็จะสะท้อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมา และตัวตนก็เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม สถานะ ความคาดหวังทั้งของตนเองและของผู้อื่น
ซึ่งเมื่อตัวตนเผยออกมาหมด กว่าจะรู้ตัวคนรักก็กลายไปเป็นอีกคนที่เราไม่เคยรู้จักเสียแล้ว
เครียดให้โง่ (สำนักพิมพ์ MINIBEAR PUBLISHING, จำนวน 336 หน้า, ราคา 185 บาท) โดย BUFFET
สาเหตุใหญ่ ของความเครียดมาจากสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็น รถติด หมุนเงินไม่ทัน งานมีปัญหา อนาคตไม่แน่นอน หลายร้อยหลายพันเรื่องที่จะถาโถมเข้ามา
หนังสือเล่มบอกว่า เมื่อความเครียดได้เริ่มต้นขึ้นภายในจิตใจเราก็จะกลายเป็นกระปุกที่มีเหรียญแห่งความเครียดหยอดลงทุกวัน เมื่อมันเต็ม มันก็จะปริแตกระเบิดออกมาได้
สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างของความเครียดคือ การที่เราคิดว่าความสามารถของเราไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา ความเครียดจะเพิ่มระดับให้เราเครียดมากขึ้นไปอีก
หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการลดความเครียดไว้กว้างๆ แต่แนวทางหลักๆ คือ การเปลี่ยนมุมมองความคิดการมองโลกในแง่บวกเป็นที่ยอมรับกันว่าลดความเครียดไปได้อย่างมากจริงๆ แต่จะคิดอย่างไร อยู่ๆ จะให้เปลี่ยนปุ๊บปั๊บกันในทันทีคงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่จะค่อยๆ บอกทำความเข้าใจกันไป เตรียมตัวให้พร้อม ควบคุมตัวเอง และก็จะพิชิตความเครียดลงไปได้ในที่สุด
Big Bright : ปลุกพลังสมองให้สุขภาพดี...เดี๋ยวนี้! (สำนักพิมพ์พีเพิลมีเดียบุ๊คส์, จำนวน 119 หน้า, ราคา 125 บาท) โดย ศจีรัตน์ พุฒเรืองศักดิ์
...จากการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า สมองของคนเราเริ่มพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา และจะ พัฒนาสูงสุดเมื่ออายุ 22 ปี จากนั้นก็จะเริ่มเสื่อมถอยลงในช่วงอายุ 27 ปี
สมองของมนุษย์เราจะต้องทำงานตลอดเวลาไม่ว่าจะหลับหรือตื่น...
สมองเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย เป็นเหมือนกองบัญชาการที่สำคัญของร่างกาย เพราะสมองคือส่วนที่ควบคุมการทำงานแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ ประสาทรับความรู้สึก การมองเห็น การได้ยิน ความคิด ความจำ การเรียนรู้
หนังสือเล่มนี้จึงบอกว่า เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราจะปล่อยให้สมองของเราเสื่อมถอยลงไปโดยไม่ดูแลรักษาเลยได้อย่างไร
ภายในเล่มจึงบอกถึงวิธีการต่างๆ ให้เราได้ดูแลสมองให้เฉียบคมอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้สมองเกิดปัญหา
โดยเฉพาะปัญหาอัลไซเมอร์ อันน่ากลัว น่ากลัวจริงๆ นะ อะไรที่ลดความเสี่ยงได้ก็ควรรู้ไว้
33 ความคิดพลิกชีวิตสู่ความสำเร็จ (สำนักพิมพ์อมรินทร์ HOW-TO, จำนวน 200 หน้า, ราคา 155 บาท) รำพรรณ รักศรีอักษร แปลจากผลงานของ ซูเหม่ยจิ้ง, ริวงาวะ มิกะ และ จางจวิน
"คนเราไม่อาจกำหนดจุดเริ่มต้นของชีวิตได้ แต่การสร้างความคิดที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตได้"
"หากถือเอาความล้มเหลวเป็นโอกาส ความล้มเหลวก็จะห่างออกไป"
"จงมีรอยยิ้มและคำชมติดอยู่ที่ริมฝีปากเสมอ แล้วคุณจะพบว่าโลกเปลี่ยนไปทันที"
"การให้ไม่แน่ว่าจะได้รับผลตอบแทน แต่ถ้าไม่ให้ย่อมไม่มีวันได้รับผลตอบแทนแน่นอน"
หนังสือเล่มนี้มี 33 วิธีในการเปลี่ยนทัศนคติในการดำเนินชีวิต
โดยจัดแบ่งออกเป็น 6 หัวข้อ ได้แก่ ทัศนคติส่งผลต่อนิสัยใจคอ การกำหนดคุณค่าของชีวิต การสร้างความกระตือรือร้นในชีวิต การรู้จักที่จะวางแผนการ อะไรคือกุญแจทองในการทำงาน
และเส้นทางสู่ความสำเร็จ
ซึ่งหากสามารถเปลี่ยนทัศนคติได้แบบนี้ละก็ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เดินทางสู่ความสำเร็จได้แหงๆ
ศิลปวัฒนธรรม (ฉบับเดือนเมษายน 2555, ราคา 120 บาท)
พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับหมอบรัดเล และพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา กล่าวไว้ตรงกันว่า
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ขอผู้คุมพาไปพบ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นครั้งสุดท้าย แต่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก กลับโบกมือไม่ให้พบ ดังปรากฏในพระราชพงศาวดาร ดังนี้
"เพชฌฆาตกับผู้คุมก็ลากเอาตัวขึ้นแคร่หามไป กับทั้งสังขลิกพันธนาการ เจ้าตากจึงว่าแก่ผู้คุมเพชฌฆาตว่า ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายอยู่แล้ว ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่านผู้สำเร็จราชการ จะขอเจรจาด้วยสักสองสามคำ ผู้คุมก็ให้หามเข้ามา ได้ทอดพระเนตรเห็น จึงโบกพระหัตถ์มิให้นำมาเฝ้า ผู้คุมและเพชฌฆาตก็หามออกไปนอกพระราชวังถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะเสียถึงแก่พิราลัย จึงรับสั่งให้เอาศพไปฝังไว้ ณ วัดบางยี่เรือใต้ และเจ้าตากสิ้นขณะเมื่อสิ้นบุญถึงทำลายชีพนั้นอายุได้สี่สิบแปดปี"
"เหตุใดรัชกาลที่ 1 ไม่ให้พระเจ้าตากเข้าเฝ้าเป็นครั้งสุดท้าย"
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวพระราชประวัติของพระเจ้าตาก แค่เห็นชื่อบทความนี้ ก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้แล้วล่ะ
* * * * * * * * * * * * * * *
"ว้าวววว..ที่รักดูดิ ที่นี่มีโปรโมชั่นซื้อเบียร์ 1 แพ็ก แถม 1 แพ็ก ผมซื้อนะ รู้สึกว่าของเดิมในตู้เย็นเราหมดพอดี" สามีร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นระหว่างเดินช็อปปิ้งอยู่กับภรรยา
"กินมากไม่ดีหรอกค่ะเหล้าเบียร์เนี่ย รู้มั้ยว่าคุณน่ะฉุ ลงพุงเพราะของพวกนี้แหละ" ภรรยาว่าแล้วก็เดินผ่านไปดูของแผนกอื่น
สักพักคุณเธอก็เดินกลับมาพร้อมข้าวของเต็มมือ
"นี่คุณซื้ออะไรมาเยอะแยะ"
"ก็แค่เครื่องสำอางเล็กๆ น้อยๆ เองค่ะ"
"อะไรกันนี่ ราคามันมากกว่าค่าเบียร์ของผมเป็นสิบๆ เท่าเลยนะ"
"แหมคุณก็..ของพวกนี้มันทำให้คุณเห็นว่าฉันสวยตลอดเรือนร่างเลยนะ เวลาเรามีอะไรๆ กันคุณจะได้มีความสุขไงคะ"
"โห..แค่เบียร์สองป๋องก็ได้ผลเหมือนกันแหละน่า"
.