วีรกรรมเด็กๆ/ ร่ม แบบไม่ต้องถือ คอลัมน์ ตลกต่างแดน ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1652 หน้า 104
วีรกรรมเด็กๆ
อายุแค่ 13 แต่ เจเรมี่ วุยชิก เด็กนักเรียนชายในเมืองมิลตัน รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ก็สามารถช่วยเพื่อนนักเรียน ให้ "รอดตาย" มาได้ทั้งคันรถ...ทั้ง 12 ชีวิต
หลังจากที่โชเฟอร์วัย 43 "หัวใจวาย" กะทันหันคาพวงมาลัยรถ!!!
ถึงไม่ค่อยอยากจะ "ย้ำ" ก็ต้องย้ำกันอีกล่ะว่า อายุเป็นเพียง "ตัวเลข" เท่านั้นจริงๆ!!!
ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่า วีรกรรมของเจเรมี่ เป็นที่ชื่นชมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ หลังจากเหตุการณ์ช่วง "วิกฤต" ผ่านพ้นไปแล้ว
เพราะได้ เด็กชายเจเรมี่ นี่แหละ ที่รีบพุ่งเข้าไปคว้าพวงมาลัยรถ หลังจากที่เห็นคนขับรถรับส่งนักเรียน หมดสติ ฟุบคาพวงมาลัย
จากนั้น เจเรมี่ จึงค่อยๆ เลี้ยงพวงมาลัยขับรถไปจอดริมถนน แล้วจัดการ "ปั๊มหัวใจ" ให้โชเฟอร์ โดยมี จอห์นี่ วู้ด เพื่อนอีกคน รีบเข้ามาช่วยกันปั๊มหัวใจ ขณะที่เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ก็พยายามช่วยกันโทร.แจ้งตำรวจ ที่ช่วยนำคุณโชเฟอร์ส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ เจฟฟ์ ชอร์ต รองผู้อำนวยการโรงเรียนเล่าว่า ที่เจเรมี่และเพื่อนๆ สามารถปั๊มหัวใจกันได้คล่อง เพราะโรงเรียนมีการจัดการฝึกซ้อมให้เด็กรู้จักวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นปีละหลายครั้ง
ส่วนเด็กชายคนเก่ง บอกกับสถานีโทรทัศน์คิง ทีวี ที่ตามไปสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกตอนที่รีบพุ่งเข้าไปคว้าพวงมาลัยรถว่า
"ตอนนั้น ผมคิดแค่ว่า ผมยังไม่อยากตาย"
อายุเป็นเพียงตัวเลข
ยิ่ง "ตัวเลขน้อยๆ" ก็ยังพูดความจริง เป็นอยู่อย่างนี้แหละ!!!
ร่ม แบบไม่ต้องถือ เชื่อว่า น่าจะเป็นร่ม ที่ถูกอกถูกใจใครหลายคน
โดยเฉพาะคนที่มือไม่ค่อยว่าง!!!
ทุกวันนี้ ต้องยอมรับเหมือนกันว่า หลายคนอาจอยากมี "มือที่สาม" ซะเหลือเกิน
เพราะดูเหมือน "สองมือ" มันน้อยไป แทบจะไม่พอหอบหิ้วอุปกรณ์พกพาบรรดามี
ดูแค่ "โทรศัพท์มือถือ" บางคนก็มีถือกันไม่รู้กี่เครื่อง
ก็นี่แหละ เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ คุณอลัน คอฟแมน ชายอเมริกันวัย 49 ชาวรัฐฟลอริดา คิดว่า น่าจะดี หากฤดูฝนนี้ เราจะมีร่มแบบไม่ต้องถือ ออกมาใช้กัน
ซึ่งอลันเขาตั้งราคาสินค้าชิ้นนี้ ซึ่งมีน้ำหนักเบา 1 กิโลกรัม ไว้ที่ 40 ปอนด์ หรือราว 1,968 บาท
"ผมว่า คนสมัยนี้ต้องทำงานนอกออฟฟิศกันเยอะ อย่างน้อยก็น่าจะดี ที่เราจะมีร่มที่ไม่ต้องถือไว้ใช้"
นึกแล้วก็แปลกดี ของที่ควรจะต้องถือ เราก็ไม่ต้องถือ (ซะงั้น)
แต่ของที่ไม่ควรถือ
ทำไมเรายัง "ถือ" กันจังน้า!!!
++
ช่วย “น้องหมา”ด้วย/ขอทานรวย คอลัมน์ ตลกต่างแดน ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 06 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1651 หน้า 104
ช่วย "น้องหมา" ด้วย
เจอสุนัขถูกทิ้งไว้เพียงลำพังในรถ ท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนจัด เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะ "พังกระจกรถ" เพื่อช่วยน้องหมาออกมาให้ได้
เป็นไง เป็นกัน?
ดุไปอ๊ะปล่าวเนี่ย?
ขณะที่หลายคนอาจแค่ "คิด" แล้วก็ทำใจได้ว่า ปล่อยให้เป็น "หน้าที่" ของคนอื่นดีกว่า!!!
เราควร "ปล่อยวาง" ให้ได้
แต่สำหรับตำรวจสายตรวจ 2 นายในเมืองแมนส์ฟิลด์ ที่อังกฤษ ทำ "วางเฉย" ไม่ได้สิคะ
พอผ่านไปเห็นปุ๊บ คุณตำรวจก็ "วางมือ" เคาะกระจกรถ หวังปลุกให้สุนัขตื่นทันที
แต่พอเห็นว่า น้องหมา ยังนอนนิ่ง คราวนี้คุณตำรวจก็ไม่รีรอ รถเบนซ์ก็เบนซ์เหอะ ทั้งคู่ก็จัดการหาอาวุธมา "ทุบกระจกรถ" แตกเลย แล้วช่วยน้องหมาออกมา
แต่ทว่า มัน "น่าเสียดาย" ทั้งเรี่ยวแรงและเวลา ตรงที่ว่า น้องหมาตัวนี้ กลับไม่ใช่น้องหมาจริงๆ แต่เป็น "สุนัขของเล่น" ที่ชายชราวัย 80 ปี เจ้าของรถ ไม่คิดว่าจะมีใครคิดว่า...เป็นสุนัขจริง!!!
แต่ที่ "เจ็บ" กว่านั้นก็คือ คุณตำรวจยังต้องเสียเงินจ่ายค่าซ่อมกระจกให้เจ้าของรถอีกด้วย!!!
จ๊อบนี้ เห็นทีคุณตำรวจต้องคิดซะว่า
ได้ทั้ง ทำบุญ และ ทำทาน ไปพร้อมๆ กัน
ไม่งั้น มันจะเจ็บจี๊ด อะนะ!!!
ขอทานรวย
เมื่อก่อน อาจ "ไม่เชื่อ" กันว่ามีด้วยรึ "ขอทาน" ที่นั่งขอเงินชาวบ้านจนร่ำรวยเป็นเศรษฐี
แต่ตอนนี้ถึงไม่อยากเชื่อ ก็ต้อง "เชื่อ" ล่ะค่า หลังจากมีขอทานบางราย กล้าเปิดเผยตัว!!!
ที่อินเดีย ก็มี แต่ตอนนี้ "ตาย" ไปแล้ว(หนึ่ง)
ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่า ขอทาน ที่ทำให้ ขอประทานโทษเหอะ หลายคนแทบอยากจะสละอาชีพ ที่เคยคิดว่า ทำเงิน เป็นชายขอทานวัย 60 เศษ ที่ตำรวจในเมืองอัจแมร์ พบศพนอนตายอยู่ใกล้กับโบราณสถาน ที่เขาเคยนั่งขอทานอยู่เป็นประจำ โดยภายในกระเป๋า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเงินสดคิดเป็นเงินไทยราว 123,200 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ ตำรวจยังไม่ชัวร์ด้วยว่า เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของคุณขอทาน!!!
หรือเป็นเพียง ทรัพย์สินบางส่วน!!!
ถ้าเป็น "บางส่วน" ถ้าจะมี "บางคน" นึกอยากจะตกงาน
ขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะจ้า!!!
.
