http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-05-22

หนุ่มเมืองจันท์: ปีก “ความเชื่อมั่น”

.

ปีก “ความเชื่อมั่น”
โดย หนุ่มเมืองจันท์ boycitychan@matichon.co.th www.facebook/boycitychanFC คอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1657 หน้า 24


ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายหรือเปล่าครับ 
ดราม่าโคตร-โคตรเลย

ขออนุญาตสรุปความให้คนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องฟุตบอลอังกฤษนิดนึงครับ 
ก่อนนัดสุดท้าย "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" หรือ "ผีแดง" มีคะแนนเท่ากับ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" หรือ "เรือใบสีฟ้า" แต่ประตูได้เสียสู้ไม่ได้
หมายความว่าถ้านัดสุดท้ายทั้งคู่ชนะ 
"แมนฯ ซิตี้" จะได้เป็นแชมป์

ชะตาชีวิตของ "ผีแดง" ขึ้นอยู่กับคู่แข่ง 
ผลปรากฏว่าครบ 90 นาที "แมนฯ ยู" นำทีมซันเดอร์แลนด์ 1 : 0 
ส่วน "เรือใบสีฟ้า" โดน "ควีนส์ปาร์ค" ส่อง 
ตามอยู่ 1 : 2

คู่ของ "ผีแดง" ทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที 
"เรือใบสีฟ้า" ทดเวลา 5 นาที 
ใครๆ คิดว่า "ผีแดง" เป็นแชมป์อย่างแน่นอน

ทดเวลาครบ 3 นาที แมนฯ ยู ชนะไป 1 : 0
อีกสนามหนึ่ง "เรือใบสีฟ้า" ตีตื้นมาเป็น 2 : 2 
เหลืออีกแค่ 2 นาที 
ถ้าผลออกมาแบบนี้ "ผีแดง" แชมป์

แต่ใครจะไปคิดว่า "เรือใบสีฟ้า" จะกล้าปล้นความตาย 
"แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ยิงประตูชัยสำเร็จ  
ชนะไป 3 : 2 
คว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 44 ปี

นี่คือ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในสนามฟุตบอล 
เรื่องที่ใครคิดว่า "เป็นไปไม่ได้" 
กลับเกิดขึ้นจริง



จํา "สมชาย เหล่าสายเชื้อ" ได้ไหมครับ 
เขาเป็นเจ้าของ "โตโยต้า ดีเยี่ยม" ที่จังหวัดอุบลราชธานี  
ผมเคยเขียนถึง "สมชาย" เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ด้วยคำถามว่า "ไปอยู่ที่ไหนมา" 
เพราะประวัติของเขาสุดยอดจริงๆ 
สุดยอดจนต้องเขียนถึง 2 ตอนติดต่อกัน

วันนี้ "โตโยต้า ดีเยี่ยม" กลายเป็นดีลเลอร์ตัวอย่างของ "โตโยต้า" ชนิดที่ต้องพาดีลเลอร์อื่นๆ ไปดูงานเป็นประจำ 
ครั้งหนึ่ง โทรศัพท์คุยกับ "สมชาย" คุยไปคุยมาวกมาที่เรื่องวิธีการบริหารงานขาย 
เขาบอกว่าทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์อะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อยอดขาย 
"สมชาย" ไม่เคยลดเป้าการขายลง 
ถ้าเดือนนี้มีปัญหา เดือนหน้าต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม 
และเป้ารวมยังคงเหมือนเดิม

เพราะเขาเชื่อว่าถ้าทุกคนพยายามอย่างจริงจัง มันต้องเป็นไปได้ 
ทุกครั้งที่พนักงานในบริษัทท้อใจ ไม่มั่นใจว่าจะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่ 
"หนูคงทำไม่ได้หรอก" 
ถ้ามีประโยคนี้หลุดออกมาเมื่อไร "สมชาย" จะถามกลับทันที 
"เวลาที่ใครดูถูกคุณ คุณชอบหรือเปล่า" 
ทุกคนจะตอบเหมือนกัน 
"ไม่ชอบค่ะ"

ครับ ถ้าเราไม่ชอบให้ใครดูถูกเรา 
"คุณก็อย่าดูถูกตัวเอง" เป็นประโยคตบท้ายของ "สมชาย" 

ถ้าถามว่า "ชัยชนะ" ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกิดขึ้นเพราะอะไร 
ยิง 2 ประตูในเวลา 5 นาที 
ใครๆ ก็คิดว่า "เป็นไปไม่ได้" 
แต่นักเตะ "เรือใบสีฟ้า" กลับเชื่อมั่นว่า "เราต้องทำได้" 
เขาไม่ดูถูกตัวเอง 
เขาจึงคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอบครอง



มีนิทานเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง 
เป็นนิทานเมืองจันท์ครับ เพราะคนเล่าเป็นคนเมืองจันท์ 
มีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งกำพร้าพ่อแม่ต้องอยู่ตามลำพังในป่าละเมาะ 
ทุกวันมันจะวิ่งไปหาอาหาร 
เจอผลไม้เมื่อไรก็กัดกินประทังชีวิต

มันชอบวิ่งเล่นอยู่ตามสนามหญ้า ตอนกลางคืนก็แอบนอนอยู่ในพงหญ้า 
ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ทุกวัน 
ร่างกายของมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม

จนวันหนึ่ง มีเจ้าแมวหลุดมาที่ป่าละเมาะแห่งนี้ 
ทันทีที่เห็นสิ่งมีชีวิตตัวนี้เคลื่อนที่ เจ้าแมวก็วิ่งไล่ทันที 
เจ้าตัวน้อยเห็นศัตรูมาแต่ไกล มันรีบวิ่งหนีสุดชีวิต 
ขาก็วิ่ง มือก็แกว่งไกว 
แต่มือที่แกว่งนั้น แทนที่จะสลับแขนซ้ายขวาตามจังหวะการวิ่ง  
แขนของมันกลับกางขึ้น-กางลง 
แขนใหญ่กว้างที่เต็มไปด้วยขนกระพือขึ้น-ลง

แล้วสิ่งที่มันไม่เคยรู้มาก่อนก็บังเกิดขึ้น 
ร่างของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้น 
ยิ่งกระพือ ร่างก็ยิ่งลอยสูงขึ้น  
จนถึงยอดไม้ 

ครับ แขนของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ มนุษย์เรียกมันว่า "ปีก" 
อาการที่กัดกินผลไม้ เราเรียกว่า "จิก" 
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้านกน้อยคิดว่าตัวเองเหมือนสัตว์อื่นทั่วไปที่เห็นอยู่บนดิน  
เดินได้ วิ่งได้ 
เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้เพิ่งได้รู้ว่ามันบินได้ 
เมื่อมันกระพือปีก


นิทานจบลงแค่นี้  
แต่เรื่องราวในโลกแห่งความเป็นจริงยังดำเนินต่อไป 
คนเราทุกคนต่างมีศักยภาพมากกว่าที่เราทำอยู่ 
แต่บางทีเมื่อเจองานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย เราก็ดูถูกตัวเองว่า "ทำไม่ได้" 
ทั้งที่ความจริงคือ เรา "ไม่เคยทำ" เท่านั้นเอง

เหมือนเจ้านกน้อยตัวนี้ มันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันบินได้ 
จนวันหนึ่ง สถานการณ์บังคับให้มันกระพือปีกขึ้น 
เจ้านกตัวนี้จึงรู้ว่าตัวเองมีศักยภาพมากกว่าที่คิด 
...มันบินได้

แต่เราคงไม่ต้องรอให้สถานการณ์บีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ 
ขอเพียงแค่เปิดใจกว้างรับสิ่งใหม่ 
ห้ามดูถูกตนเองเป็นอันขาดว่า "ทำไม่ได้"  
คิดง่ายๆ ว่าถ้าคนอื่นทำได้ เราก็น่าจะทำได้ 

ขอเพียงแค่กระพือปีกแห่ง "ความเชื่อมั่น" แรงๆ 
แล้วบางที สิ่งที่เราคิดว่า "เป็นไปไม่ได้"
อาจจะ "เป็นไปได้"


มองไปข้างหน้า 
เห็น "ยอดไม้" นั้นไหม 
เรามาบินกันเถอะ

...กระพือปีกได้แล้ว



.