http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-05-28

“ถ้าเกิดมีอาจารย์สอนอะไรนอกลู่นอกทางให้ลูกผม ผู้บริหารจะทำยังไง?”! โดย เกษียร เตชะพีระ


.

“ถ้าเกิดมีอาจารย์สอนอะไรนอกลู่นอกทางให้ลูกผม ผู้บริหารจะทำยังไง?”!
โดย เกษียร เตชะพีระ
ในมติชน ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา14:00 น.


ท่ามกลางความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดเห็นในสังคมอย่างรุนแรงหลายปีที่ผ่านมาเป็นไปได้ว่าผู้บริหารสถานอุดมศึกษา(คณบดี,อธิการบดี,นายกสภามหาวิทยาลัย ฯลฯ) บางแห่งอาจเจอคำถาม เหนือความคาดหมายทำนองที่เป็นชื่อบทความข้างต้นจากผู้ปกครองได้ 
เพราะท่านผู้ปกครองคุ้นชินกับระบบการศึกษาที่ลูกประสบพบเรียนมาแต่อ้อนแต่ออกซึ่งด้านหลักแล้วมุ่งสอนให้เด็ก"เชื่อ"ตามครูผู้สอนอันเป็นการเจริญรอยตามคำขวัญของรัฐบาลไทยตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองว่า "เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย" และ "ชาติไทยเป็นชาติว่าตามกันและตามผู้นำ" 
ท่านผู้ปกครองก็เลยวิตกว่าอาจารย์ระดับอุดมศึกษาจะสอนให้เด็ก"เชื่อ"แบบเดียวกันเพียงแต่เชื่อในเรื่องที่ผาดแผลงนอกกรอบนอกลู่นอกทางไปเสียอย่างที่เค้าไฮด์ปาร์กกันตามม็อบหรือโพสต์กัน ในเว็บบอร์ดหรือบล็อกหรือเฟซบุ๊ก ฯลฯ

แล้วลูกท่านก็อาจจะ "เชื่อ" ตามอาจารย์ไป
ท่านก็เลยคาดหวังให้ผู้บริหารใช้อำนาจสั่งการกำชับกำชาให้อาจารย์อย่าสอนออกนอกลู่นอกทางเสีย 
แต่การติดตั้งภูมิคุ้มกันทางความคิดจิตใจให้เยาวชนไว้รับมือความคิดผาดแผลงนอกกรอบทุกวันนี้จะใช้วิธีสั่งด้วยอำนาจประกาศิตแบบนั้นได้หรือครับ?

เอาเข้าจริงผู้บริหารจะตามสั่งตามตรวจสอบควบคุมอาจารย์ผู้สอนไปได้ครบทุกคนทุกวิชาหรือ?แล้วเส้นแบ่งเกณฑ์แยกแยะความคิดในกรอบออกจากความคิดนอกกรอบมันอยู่ที่ไหน?ความคิดแบบไหนที่อยู่ในกรอบ?ความคิดแบบไหนที่อยู่นอกกรอบ? ใครเป็นคนชี้วัดตัดสิน? ผู้บริหารหรือ? อาจารย์หรือ? ผู้ปกครองหรือ? สกอ.หรือ? กระทรวงศึกษาธิการหรือ? รัฐบาลหรือ? สื่อเลือกข้างหรือ? ม็อบเสื้อสีหรือ? กอ.รมน.หรือ? ถ้าเกิดท่านเหล่านั้นเห็นต่างกัน เราจะตัดสินอย่างไร? และเสรีภาพทางวิชาการจะอยู่ตรงไหน? การสอนจะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ถ้าอาจารย์ต้องฟังคำสั่งผู้บริหารต้อยๆ ๆ อย่างนี้?



ท้ายที่สุด พูดจริงๆ คิดว่าอาจารย์เขาจะสยบยอมต่ออำนาจผู้บริหารในเรื่องความรู้ ความคิดเห็นทางวิชาการหรือ?

หรือต่อให้ผู้บริหารสั่งได้ เอาว่าอาจารย์เขายอมทำตาม ไม่สอนอะไรที่ (ใครก็ไม่รู้บอกว่า) นอกลู่ นอกทาง คิดหรือว่าลูกของท่านจะปลอดพ้นจากความคิดผาดแผลงนอกกรอบเหล่านี้ที่พลุกพล่าน เกลื่อนกลาดอยู่ตามสื่อสารพัดแขนงเต็มไปหมดทั่วทั้งสังคม ชนิดที่หลากหลายล้นทะลักเหลือแหล่กว่า ในห้องเรียนอีก 
ไม่ว่าผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี ยูทูบ เว็บบอร์ด บล็อก เฟซบุ๊ก ฯลฯลฯลฯ 
แค่ดูรายการ Divas Cafe ทาง Voice TV ครู่เดียว ก็ตาแป๋วหูผึ่งกรอบแตกแหกโค้งทะลุโลก ทางความคิดไปไหนต่อไหนแล้ว ยิ่งกว่าฟังอาจารย์บรรยายในห้องเรียน (หลับแล้วหลับอีก) ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า 
แล้วท่านผู้ปกครองจะตามไปเอาสองมืออุดหูปิดตาลูกทันได้อย่างไร?

จะมิเป็นการดีกว่าหรือครับที่จะติดตั้งภูมิคุ้มกันให้ลูกของท่านด้วยการสอนให้พวกเขา"คิดเองเป็น"และ"เลิกเชื่อเป็น" แทนที่จะสอนให้พวกเขา "เชื่อ" ต้อยๆ ๆ ถ่ายเดียวเหมือนที่ผ่านมา  

หากเราสามารถสอนให้พวกเขาคิดด้วยเหตุด้วยผลด้วยหลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นอย่างสุขุมหนักแน่นเยือกเย็นหัดมองต่างมุมคิดหลากแบบเข้าใจวิธีคิดของคนต่างกลุ่มต่างฝ่าย โดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย แต่หยั่งรู้หลักเหตุผล ฐานคิด จุดอ่อน จุดแข็ง ข้อจำกัดของวิธีคิดเหล่านั้น แล้วรู้จักที่จะนำมา คัดสรรประสานดัดแปลงเชื่อมโยงแล้วปั้นปลูกขึ้นเป็นระบบระเบียบวิธีคิดของตัวเอง  
สามารถวิพากษ์วิจารณ์ขุดค้นหลักคิดต่างๆลงไปถึงฐานรากการคิดและดังนั้นจึงเลิกเชื่อเป็นโดยไม่จำเป็นต้องเกลียด ชังหลังเลิกเชื่อแล้ว หากเข้าใจและเก็บรับเป็นบทเรียน.....
แบบนี้จะมิดีแก่เขา เป็นเกราะปราการทางปัญญาความคิดวิจารณญาณที่จะปกป้องคุ้มครอง ความคิดจิตใจของตัวเขาเองอย่างวิเศษอัศจรรย์ยิ่งกว่าคำสั่งบ้อท่าบ้าอำนาจของผู้บริหารเทวดาใดๆ หรือ?


ถ้าเขาคิดเองเป็น เลิกเชื่อเป็น ก็ไม่ต้องกลัวอาจารย์คนไหนท่านใดจะบอกสอนความคิดนอกลู่ นอกทางไหนมาให้ เพราะเขาย่อมรับมือได้ เข้าใจได้ ไม่เห็นด้วยได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ เลือกเชื่อและไม่เชื่อได้ 
เว้นแต่ท่านผู้ปกครองจะเห็นไปว่า คนที่คิดเองเป็นและเลิกเชื่อเป็นคือคนที่นอกกรอบนอกลู่นอกทางที่สุด, มีแต่คนที่เชื่ออย่างเดียว โดยคิดเองไม่เป็น เลิกเชื่อไม่เป็น จึงจะเป็นคนในกรอบในลู่ในทาง

ถ้าอย่างนั้น จะส่งลูกของท่านมาเรียนมหาวิทยาลัยเพื่ออะไรล่ะครับ?



_____________________________________________

มีบทความเก่าที่ให้แง่คิดอีกมุมในเรื่อง ความคิดของพ่อแม่ ฯลฯ

ความรักทำให้คนตาบอด โดย คำ ผกา
อ่านที่ http://botkwamdee.blogspot.com/2011/02/blog-post_19.html


.