http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-05-11

พรรคราคาถูก, รสนิยม“ฮิตเลอร์”, นิมิตดีที่ควรระวัง, พวกน้อยลากไป ในคอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

.
โพสต์เพิ่ม - แห่งชาติ โดย กระสา มันเสมอ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พรรคราคาถูก
โดย มันฯ มือเสือ  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. 


ท่ามกลางกระแส 'ของแพง'
สื่อมวลชนพยายามเสาะหาข้อมูลข้อเท็จจริงว่า 
สินค้าโดยเฉพาะประเภทพืชผัก หมู เห็ด เป็ด ไก่ "แพงทั้งแผ่นดิน" เหมือนที่ฝ่ายค้านระบุ หรือเป็นแค่วาทกรรมทางการเมือง
จากตัวเลขเปรียบเทียบ ราคาเดือนพ.ค.2554 กับเดือนพ.ค.2555 พบว่าสินค้าบางตัวแพงขึ้นจริง
เช่น เนื้อวัว อาหารทะเล กุ้ง ปู ปลาหมึก พืชผักบางชนิด อาทิ คะน้า ผักกาดขาว ส่วนกะหล่ำปลีถูกลงก.ก.ละ 3 บาท
แต่บางตัวก็ถูกลง เช่น ไข่ไก่ทุกเบอร์ต่อ 10 ฟองถูกลง 4-10 บาท เนื้อหมู ไม่ว่าสามชั้น เนื้อแดง สันใน สันนอกถูกลง 10-20 บาทต่อก.ก.
ไก่ตัวแพงขึ้น แต่อกไก่ ปีกไก่ น่องไก่ถูกลง ปลาช่อน ปลาดุก ปลาทับทิมถูกลง ปลานิลทรงตัว

สรุปคือมีทั้งแพงขึ้นและถูกลง
ดังนั้น การกล่าวเหมารวมว่า "แพงทั้งแผ่นดิน" จึงเป็นวาทกรรมเกินเลย
มีเป้าหมายทางการเมืองมากกว่าสะท้อนข้อเท็จจริง


เป็นนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ผู้รับผิดชอบที่สุดทนกับเกมการเมืองนี้ 
จึงได้ออกมาตอบโต้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต พร้อมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปลดออกจากการเป็นโฆษกประชาธิปัตย์
เนื่องจาก "มั่ว" ตัวเลขราคาสินค้า สร้างความสับสนให้ประชาชน 
ก็ต้องรอฟังว่าฝั่งประชาธิปัตย์จะว่าอย่างไร


อย่าง ไรก็ตามสิ่งที่นักการเมืองควรระวังคือ ต้องไม่นำเรื่องของแพงมาเล่นการเมือง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการซ้ำเติมประชาชน ทำให้เสียคะแนนไป
ปัญหาของแพงเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลต้องเร่งแก้ไข
ส่วนหน้าที่ฝ่ายค้านคือการตรวจสอบว่า รัฐบาลได้แก้ปัญหาถูกทิศถูกทางแล้วหรือไม่

อย่างถั่วฝักยาวก.ก.ละ 80 บาท ก็ต้องบอกว่าไปซื้อหามาจากไหน นำมาแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐบาลเพื่อจะได้จัดการกับผู้ค้าฉวยโอกาส
ไม่ใช่ฉวยโอกาสตีกินการเมืองไปวันๆ เสียเอง
ตามประสาพรรคราคาถูก 



++

รสนิยม"ฮิตเลอร์"
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม ในข่าวสดออนไลน์ วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ยังเป็น "พวกน้อยลากไป" เหมือนเดิม 
การประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 ซึ่งกลับมาเริ่มอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา 
ยังใช้มุขเก่าๆ กันต่อ 
อภิปรายนอกญัตติ ลากออกนอกประเด็น 
โดยเฉพาะส.ส.บางคนจงใจพูดนอกประเด็นเล่นกับเวลา 
ยั่วให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วง 
ยั่วให้ประธานรัฐสภาใช้อำนาจเด็ดขาดเข้าจัดการ 
คงตั้งใจจะขยายประเด็นเล่นงานประธานรัฐสภาที่ชื่อ นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ว่าเป็นเผด็จการ 
ขยายพฤติกรรมโจมตี "ไฮ- ฮิตเลอร์" ที่ทำกันไปก่อนหน้านี้ว่าชอบธรรมแล้ว 

ความจริงแล้วเรื่องแบบนี้ ต้องถือเป็นงานถนัดของส.ส.บางคนบางพรรค 
เล่นกับคำพูดคมๆ เล่นกับลีลาแปลกๆ แหวกแนว 
พยายามสร้างภาพว่าถูกกระทำ โดนกลั่นแกล้ง ถูก "พวกมากลากไป" รังแก 
โดยลืมไปว่าประชาชนนั่งดูทีวีถ่ายทอดสดอยู่ด้วย

ชาวบ้านเห็นหมดว่าใครพูดอะไร ทำอะไร
ใครบ้างที่ชอบสร้างความปั่นป่วน จนท่านประธานต้องชักใบแดง 
ใครบ้างที่ชอบยั่วยุให้วุ่นวาย  
ใครบ้างที่เตะถ่วง ลากยาวไม่รู้จบ 

เอาง่ายๆ แค่ลุกขึ้นทำท่าทำทางแล้วตะโกน "ไฮ- ฮิตเลอร์" กลางสภา 
ชาวบ้านก็รับกันไม่ได้แล้ว

หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวนักเรียนแต่งแฟนซี สวมชุดฮิตเลอร์-นาซีในงานกีฬาสีที่เชียงใหม่ 
ยังโดนสังคมตำหนิไม่เหมาะสม
กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก 
แต่นั่นเป็นเด็กน้อย ที่รู้เท่า ไม่ถึงการณ์ ทำไปเพราะความคึกคะนอง ไม่รู้ประวัติศาสตร์

แต่นี่เป็นส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แท้ๆ 
จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้เดียงสา ก็คงไม่ได้ 
จะแก้ตัวว่าต้องการสื่อถึงเผด็จการ ไม่ได้มีจิตใจฝักใฝ่ฮิตเลอร์ คลั่งนาซี ก็คงไม่เข้าท่า 
เพราะประเด็นอยู่ที่ว่าทำท่าฮิตเลอร์กลางสภา

มันไม่เหมาะสมแน่นอน
ฉะนั้น เรื่องนี้คณะกรรมาธิการกิจการสภาต้องสอบพฤติกรรมให้ถึงที่สุด
อย่าปล่อยให้ล้มเหลวเหมือนการสอบส.ส.ดูรูปโป๊กลางสภาอีก 



++

นิมิตดีที่ควรระวัง
โดย จ่าบ้าน  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ข่าวสดออนไลน์วันอังคารที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


เชื่อ ได้ว่าเหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยัง ไม่สงบราบคาบลงอย่างง่ายดาย แม้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมทั้งท่านจุฬาราชมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการพูดคุยกันถึงการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว 
กระนั้นยังเชื่อได้ว่า การพบกันเพื่อแสวงหาหนทางแก้ไขปัญหา ที่รุนแรงน่าจะยังดำเนินต่อไป และคงมีหนทางและช่องทางเพื่อดำเนินไปสู่สันติสุขได้ในที่สุด 
เท่า ที่สดับมา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ผอ.ศอ.บต. ยังเดินหน้าเพื่อเชื่อมโยงผู้เป็นแกนนำของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การเจรจาสร้างข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันของประชาชนทุกหมู่เหล่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคตอันไม่นานนี้ 
โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่น่าจะใช่กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงแน่นอน


ส่วน กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือก่อความรุนแรงนั้น หากพี่น้องคนไทยมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้ยังนิ่งเฉย หรือไม่อินังขังขอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นผลให้พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ต้องบาดเจ็บล้มตายลงไปต่อหน้าต่อตา ทั้งยังใช้การตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ก็น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ความสงบยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ 
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรายงานวิเคราะห์วิจัยจากหลายส่วนงาน ไม่ว่าจะเป็นภาควิชาการ ภาคราชการ ภาคเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติ รวมไปถึงฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หากนำรายงานวิเคราะห์วิจัยเหล่านั้นมารวบรวมหาสาเหตุและการแก้ไขปัญหา ก็น่าจะเห็นช่องทางของความเป็นไปได้  
บ่อเกิดของปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ไม่เห็นกันในหมู่ผู้รับผิดชอบบ้านเมือง 
หากแต่ผู้นำรัฐบาลในบางยุคบางสมัยไม่สามารถ หรือไม่เอาใจใส่ต่อการแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด 
มิหนำซ้ำ ผู้นำรัฐบาลบางคนยังก่อฟืนสุมไฟให้กระพือโหมขึ้นเพื่อมิให้เหตุการณ์นั้นสงบอย่างที่ควร


นิมิต หมายและความปรารถนาที่จะก่อให้เกิดความสงบและสันติสุขในหมู่พี่น้องชาวไทย มุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะดำเนินการผ่อนปรนไปได้ในที่สุด 
ขณะที่ควรระวังผู้ที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์สงบ ก่อหวอดเผาโรงเรียนก่อนเปิดเรียนในเดือนนี้ก็แล้วกัน



++

พวกน้อยลากไป
โดย สมิงสามผลัด  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันเสาร์ที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


นั่งอยู่หน้าจอทีวีดูการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 2 มาตลอด กว่าสิบวันนี้
รู้สึกได้ว่าเป็นการประชุมที่น่าเบื่อหน่าย
ส.ส.ฝ่ายค้านและส.ว.บางส่วนโจมตีในประเด็นเดิมๆ 
พูดแบบแผ่นเสียงตกร่องว่าส.ส.ฟากรัฐบาล "รวบรัด เร่งรีบ ลุกลี้ลุกลน" แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อใครคนหนึ่ง
กล่าวหาว่าเป็นพวกมาก ลากไป

ทั้งที่การประชุมรัฐสภาเป็นวาระ 2 สมาชิกรัฐสภาอภิปรายคำแปรญัตติได้เฉพาะในส่วนที่ "ขอสงวนความเห็น" ไว้
พูดนอกเหนือไปจากนี้ไม่ได้เด็ดขาด 
แต่อย่างที่เห็นกันอยู่ว่ามีการแหกกฎ ประวิงเวลาไปวันๆ


บางคนลุกขึ้นมาพูดซ้ำซากเป็นชั่วโมงๆ แต่ไม่มีประเด็นที่ขอสงวนความเห็นไว้เลย 
พูดนอกประเด็น ราวกับเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 
พาดพิงถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง 
เพียงแค่ล่อเป้าให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประท้วง เข้าทางเกม "ฆ่าเวลา" ไปเรื่อยๆ 
บางคนวนเวียนอยู่กับเรื่องสภาเผด็จการ
อ้างแต่เรื่องเสียงข้างมากลากไป

พูดเหมือนไม่เข้าใจหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ฉวยโอกาสสร้างกระแสสร้างข่าว ตีกินไปวันๆ 

ขนาด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านก็ยังเล่นกับเขาด้วย 
ลุกขึ้นขอชี้แจงเรื่องถูกตั้งข้อสงสัยว่าให้คนกดบัตรแทนกลางสภา
ไม่ลดราวาศอก ต่อปากต่อคำกับนายประชา ประสพดี ส.ส.เพื่อไทย 
ราวกับนายประชาเป็นนายกรัฐมนตรี


ที่สำคัญประเด็นของนายอภิสิทธิ์ มันไม่เกี่ยวกับการประชุมแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 เลยสักนิด
สไตล์อภิปราย "ถ่วงเวลา-ลากยาว" แบบไม่รู้จบ 
ประชาชนที่นั่งดูการถ่าย ทอดสดอยู่ก็จะรู้สึกเบื่อหน่ายได้

ก็แปลกใจว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์หายหน้าหายตาไปไหนหมด
นายชวน หลีกภัย หรือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้างเลยหรือ ?

กับพฤติกรรม "เสียงข้างน้อย" ลากไปแบบนี้ 



+++

แห่งชาติ
โดย กระสา มันเสมอ  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพุธที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ว่ากันตามจริง หากคนเรารู้ตัวว่ามีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นบ้าง
อะไรที่ได้มา แม้กระทั่งอำนาจรัฐ ก็ควรอยู่และเป็นไปเพื่อคนอื่น

รับภาระความเป็นรัฐบาลแห่งชาติมา มีใครรู้กันกี่คนว่า ทุกรัฐบาลที่เป็นแห่งชาติในโลกคือรัฐบาลห้วงแห่งความวิกฤต 
แปลความหมายแห่งชาติเป็นวิกฤตไม่ออกก็ตื้นเขินชอบกล

อุทกภัยเป็นวาระแห่งชาติ หมายถึงน้ำท่วมเป็นวิกฤตยิ่งใหญ่ ภัยแล้งก็เป็นวิกฤตแห่งชาติ
ขึ้นชื่อว่าวิกฤต ขึ้นชื่อว่าแห่งชาติ น่าจะรู้ทั่วกันว่า ความผิดปกติกำลังคุกคามทั้งชาติและประชาชน 
รัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลในความวิกฤตทำอย่างไร?  
ยังหลงใหลได้ปลื้มกับอำนาจที่รับมาไม่เสร็จ ยังเพลิดเพลินกับเสียงสรรเสริญเยินยอไม่จบ ยังสนุกบนปลายลิ้นต่างการทำงาน


แห่งชาติชาติไหนก็ตาม คือความวิกฤต คือความผิดปกติ
การทำงานเพื่อให้ได้มาในความอยู่รอด อยู่ได้ของชาติของประชาชน
ต้องทำด้วยความกระตือรือร้น มุ่งมั่นตั้งใจ ทำงานให้ได้จริง
ผนวกด้วยความพร้อม การตระเตรียม ทั้งคนทั้งเครื่องมือ การรุกงานหนักและต่อเนื่อง

ตะบันเป็นวาระแห่งชาติ เหมือนอุทกภัย เหมือนภัยแล้ง เหมือนเรื่องยาเสพติด เหมือนเรื่อง 3 จังหวัดภาคใต้
เหมือนเรื่องข้าวของแพงระยับแต่ชีวิตถูกลง
ถ้าแห่งชาติพรรค์นั้นเลวระยำถึง 100 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลแห่งชาติทำงานไล่ความเลวร้ายคืนไปได้กี่เปอร์เซ็นต์?


หรืออย่างภัยแล้งกล้วยๆ วันนี้ ทรายตื้นเขินในเจ้าพระยาตั้งแต่ชัยนาทยันสิงห์บุรี 
ถามว่า จะเอาทรายออกได้อย่างไรในปัจจุบันทันด่วน จะเอาไปไหน
ได้ประโยชน์คืนมาแค่ไหน เพิ่มการรองรับน้ำขึ้นมาอีกเท่าไร และใครเป็นเจ้าภาพ ดำเนินงาน สั่งงาน

แห่งชาติของเราแต่ละเรื่อง เป็นไปเพื่อเพื่อนร่วมชาติจริงๆ หรือเปล่า
หรือการสนุกบนปลายลิ้น ตื้นเขินแบบทราย
จนเป็นสันดอนเป็นสันดานของการเมืองแห่งชาติ 



.