.
บทความวิจารณ์ - ไม่มีใจ โดย กระสา มันเสมอ คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สะกดจิต
โดย มันฯ มือเสือ คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
เรื่อง "ของแพง" ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง
ประชาธิปัตย์พยายามกู้หน้ากู้ตาตนเองจากสมัย "ส้มหล่น" ได้เป็นรัฐบาล
ไม่ว่ากรณี "สวาปาล์ม" หรือ "ชั่งไข่" ที่กลายเป็นโลโก้ประจำพรรคไปแล้ว
สมาชิกพรรคกระจายกำลังออกตระเวนหาสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ถั่วฝักยาว ไปจนถึงชุดนักเรียน นำมาประกอบการแถลงข่าวรายวัน
จนปลัดพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช ถึงกับฟิวส์ขาดกับตัวเลขมั่วซั่ว ที่นำมาสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
พร้อมให้กำเนิดฉายา "ปลาบู่ชนเขื่อน"
สงคราม "ของถูก-ของแพง" ดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิง
"หนุ่มโอ๊ค"พานทองแท้ ชินวัตร ที่ระยะหลังมักปรากฏตัวตอบโต้ฝ่ายค้านผ่านทางเฟซบุ๊กบ่อยครั้ง
ล่าสุดวานซืนหนุ่มโอ๊คโพสต์ว่า
"วันนี้มีโอกาสไปทานอีกร้านนึงที่มีผู้แนะนำมา พอดีกำลังจะไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ เลยถือโอกาสแวะทานก่อนไปขึ้นเครื่อง เป็นร้านข้าวหมูแดง-หมูกรอบ
ชื่อร้าน ชูจันทร์
ลองทานแล้วอร่อยมาก ราคาเพียง 30 บาท ที่น่าสนใจและอาจเป็นประเด็นการเมืองเล็กน้อยคือร้านนี้
อยู่หน้าพรรคประชาธิปัตย์
ก็เหลือเชื่อของดีราคาถูกอยู่ใกล้ๆ กลับไม่มีใครพูดถึง พูดกันแต่แพงๆๆ
คิดว่าถ้าเราฉลาดที่จะเลือกร้านให้ดีๆ และนำมาบอกกัน แชร์กันอย่างนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน มากกว่า"
ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์สร้างวาทกรรม "แพงทั้งแผ่นดิน" ขึ้นมา เพื่อ "สะกดจิต" ให้ชาวบ้านคิดว่าของแพง
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็สวนกลับทันควันว่า
ปัญหารัฐบาลชุดนี้คือการมองทุกอย่างเป็นการเมือง อย่างเรื่องของแพง ก็ไปไกลถึงขั้นว่าประชาธิปัตย์สะกดจิตคนทั้งประเทศได้
"ถ้าสะกดจิตได้ คงไม่แพ้เลือกตั้ง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ฟังดูทะแม่งๆ เหมือนคำรับสารภาพกลายๆ ว่า
ตนเองไร้หนทางต่อสู้ฝ่ายตรงข้าม ต้องพึ่งการ "สะกดจิต" ชาวบ้านอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะชนะเลือกตั้งได้
แต่เมื่อระดับหัวหน้าพรรคพูดเอง
ก็คงจริงตามนั้น
++
หัวใจการแก้ปัญหาใต้
โดย จ่าบ้าน คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
หลังจากที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับผู้รับผิดชอบปัญหาความมั่นคงและความปลอดภัยของชาติลงไปประชุมและรับฟังเหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อมา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี นำคณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชาย แดนภาคใต้เข้าเยี่ยมชมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชาย แดนภาคใต้ ที่มีพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการ
หลังจากเยี่ยมชมแล้ว ท่านจุฬาราชมนตรีได้นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น และให้กำลังใจเลขาธิการ ศอ.บต. ดังที่ ข่าวสด ได้นำมาลงตีพิมพ์ในหน้า 3 อย่างละเอียดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความที่ท่านอาศิสกล่าวเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ต้องนับว่าเป็นทั้งความในใจ ที่สำคัญคือจริงใจและจริงจังในการนำปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนานของพื้นที่นั้นมาแก้ไขไปสู่สันติสุข หากทุกฝ่ายปฏิบัติได้ตามนั้น
ความตอนหนึ่งขอหยิบยกมานำเสนอไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
"ผมเดินทางมาถึงสี่แยกบ่อทองเห็นป้ายที่ท่านเขียนไว้ว่า พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ผมรู้สึกชื่นใจครับ ทำให้นึกถึงประวัติศาสตร์ ผมเป็นคนเรียนปอเนาะ แต่ก็ชอบอ่านประวัติศาสตร์ข้างนอก"
แล้วท่านก็หยิบยกสมัยที่มองโกลยกทัพเข้ายึดเมืองแบกแดด มีการต่อต้าน เพราะมองโกลไม่ใช่มุสลิม ตนกูลากู เรียกประชุม อุลามะอฺ (นักปราชญ์มุสลิม) แล้วถามว่า เราชาวมองโกลไม่ใช่มุสลิม แต่มาปกครองพวกท่านด้วยความยุติธรรม ท่านจะเลือกผู้ปกครองที่มีความเป็นธรรม หรือจะเลือกผู้ปกครองที่เป็นมุสลิม
บรรดานักปราชญ์มุสลิมนิ่งเงียบแล้วขอไปประชุมกันคืนหนึ่งก่อนให้คำตอบว่า
"หัวใจการปกครองคือความเป็นธรรม"
แล้วท่านจุฬาราชมนตรีก็บอกถึงองค์ประกอบอิสลาม มี 3 หลัก คือ อีมาน อิสลาม และเอี๊ยะซาน
"เราค่อนข้างจะหย่อนยานในเรื่องเอี๊ยะซาน คือการมีคุณธรรม มีจิตเมตตาต่อผู้อื่น มีไมตรีจิตต่อผู้อื่น"
การสร้างตามหลักเอี๊ยะซานคือสร้างกำแพงขึ้นในหัวใจของประชาชนและการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งประชาชนจะลุกขึ้นมาเป็นกำแพงให้ประเทศชาติเอง
"วันนี้ ท่านทวีกำลังจะมาสร้างกำแพง พวกเราต้องให้ความร่วมมือและช่วยเหลือท่าน"
++
สงครามต่อเนื่อง
โดย จ่าบ้าน คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
ครั้งที่พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน มี พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศทำสงครามเพื่อขจัดความยากจน ประการหนึ่ง ทำสงครามปราบปรามยาเสพติด ประการหนึ่ง และทำสงครามกำจัดคอร์รัปชั่น อีกประการหนึ่ง
สงครามขจัดความยากจน รัฐบาลที่มีพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ใช้นโยบายประชานิยมเป็นหลัก ใช้ความพยายามผ่องถ่ายงบประมาณจากภาษีประชาชนลงไปสู่ประชาชน แต่กลับปรากฏว่า การนำภาษีของประชาชนลงไปจ่ายให้ประชาชนมีการรั่วไหลจนกลายเป็นการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย
ส่วนสงครามปราบปรามยาเสพติด ขณะนั้น มีการปราบปรามผู้ผลิตและจำหน่ายยาเสพติดตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเป็นไปชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน จึงเกิดการปราบปรามที่เรียกว่า 'ฆ่าตัดตอน' ขึ้น เรื่องยังเป็นคดีความมาถึงวันนี้ไม่จบ
ครั้นมาถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพันตำรวจโททักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี มี พลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มี ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง เป็นรองนายกรัฐมนตรี
การปราบปรามยาเสพติดทุกชนิด ตั้งแต่การลำเลียงขนถ่าย การผลิตจากสารเริ่มต้น การจับกุม ผู้สั่งการจากในเรือนจำ และการจับกุมยาบ้า สารเริ่มต้นยาเสพติดประเภทอื่นเป็นจำนวนมาก เริ่มจริงจังอีกครั้ง โดยแทบว่าไม่มีการ 'ฆ่าตัดตอน' และได้ผลเป็นที่ชื่นชมของประชาชนอย่างดียิ่ง
สำหรับสงครามกำจัดคอร์รัป ชั่น นับแต่ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี การสงครามยังไม่เริ่มต้น และคงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร รัฐบาลชุดนั้นก็มีอันเป็นไป
กระทั่งถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีเส้นสายโยงใยกับพรรคไทยรักไทย มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ประกาศจะปราบคอร์รัปชั่นขึ้น มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
แต่เมื่อประกาศขึ้นแล้วว่าจะขจัดคอร์รัปชั่นในหมู่ข้าราชการให้ได้
ก็ขอฝากว่าควรสำรวจการคอร์รัปชั่นในหมู่คณะรัฐมนตรีด้วย
อย่างน้อย เริ่มดำเนินการตั้งแต่นี้ก่อน "รัฐบาลปู 3" จะเดินหน้า . . ก็ดีไม่น้อย
++
สอบผ่าน-สอบตก
โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
ดูผลสำรวจของ "อีสานโพล" ครั้งล่าสุดเรื่องเสียงสะท้อนชาวอีสานกับผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ประจำเดือนเม.ย.
เริ่มที่หัวข้อ นักการเมืองที่มี ผลงานโดดเด่นที่สุด
นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงนำมาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 52.1 ทิ้งห่างอันดับ 2 คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้แค่ร้อยละ 9.2
ในหัวข้อ หากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ คนอีสานจะเลือกพรรคการ เมืองใด
ร้อยละ 34.3 จะเลือกพรรคเพื่อไทย ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยได้มากถึงร้อยละ 47
ใน 2 ส่วนนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าคนอีสานยังชื่นชอบนายกฯยิ่งลักษณ์
ส่วนคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยอาจลดลงบ้าง แต่ก็ยังทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นฝุ่น
แต่ที่เป็นประเด็นมากที่สุดคือผลการสำรวจผลงานรัฐบาลใน 6 ด้าน
ซึ่งผลสำรวจพบว่า
1.ภาพรวมการทำงานของรัฐบาล ให้ผ่านร้อยละ 81.3
2.การเมืองและประชาธิปไตย ให้ผ่านร้อยละ 74.2
3.เศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดี ให้ไม่ผ่านร้อยละ 59.0 ผ่านร้อยละ 41.0
4.สังคม อาชญากรรม และยาเสพติด ให้ผ่าน ร้อยละ 62.4
5.สิ่งแวดล้อม มลภาวะ และภัยธรรมชาติ ให้ผ่านร้อยละ 68.8
6.การต่างประเทศ ให้ผ่านร้อยละ 83.7
สรุปว่า 5 ด้าน"การทำงาน-การเมืองประชาธิปไตย-สังคม- สิ่งแวดล้อม-การต่างประเทศ" สอบผ่านทั้งหมด
ยกเว้นเรื่องเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีที่สอบตก
ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลอาจล่าช้าเกินไปในการแก้ปัญหาราคาสินค้า
แต่เป็นเรื่องดีที่นายกฯยิ่งลักษณ์ยอมรับความเป็นจริง
เลือกที่ลุยแก้ปัญหาทันที แทนที่จะไปตอบโต้กับฝ่ายค้าน
สั่งกระทรวงพาณิชย์ตรึงราคาสินค้า 4 เดือน
ลุยตรวจสอบราคาสินค้าให้โปร่งใสและเป็นกลาง ป้องกันการขึ้นราคาตามอำเภอใจ
สั่งกระทรวงพลังงานชะลอการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี แอลพีจี และน้ำมัน ออกไปอีก 3 เดือน
ตรึงราคาการขนส่งสินค้า
ทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องทำสอดคล้องกันให้เป็นรูปธรรม
เชื่อมั่นได้ว่ารัฐบาลจะตรึงราคาสินค้าได้อยู่หมัด
แก้ปัญหาปากท้องได้เห็นผลชัดเจนมากกว่ามาตรการไข่ชั่งกิโลในอดีต
+++
ไม่มีใจ
โดย กระสา มันเสมอ คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
ต้นสัปดาห์ก่อน ท่านไพบูลย์ นวลนิล นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา ประกาศก้องสาธารณชนะเผื่ออนาคตว่า
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ภูเก็ต ไม่ทราบว่า รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคตอย่างไร
หรือจะปล่อยให้เงียบหายไปกับสายลม
จากการพบปะกับชาวบ้าน ทุกคนวิตกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
และยิ่งเครียดมากขึ้น เมื่อเห็นว่ารัฐบาล หน่วยงานรัฐ ยังไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ
ความจริง รัฐควรหันมาให้ความสำคัญ พร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะการเตรียมพร้อม เตรียมการทุกอย่าง ต้องใช้เวลาเป็นปี
ควรเข้าใจตรงกันด้วยว่า ภัยพิบัติทุกอย่างทุกประเภท น่าตั้งกระทรวงภัยพิบัติขึ้นมาตั้งรับ จะได้บริหารจัดการภัยพิบัติที่เกิดขึ้นฉับพลัน
รวมถึงการเตือนภัยแจ้งเหตุ การช่วยเหลือและการเยียวยาให้อย่างปัจจุบันทันด่วน
วิชาการบริสุทธิ์เช่นนี้หายาก เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแท้จริง
ไม่มีสิ่งใดเคลือบแฝง
รัฐอาจจะรับฟังแต่ไม่ได้ยิน หรือได้ยินแต่ฟังหูไว้หู เหมือนตัวละครการเมืองน้ำเน่า ที่มีแต่ตำแหน่งกับผลประโยชน์เฉพาะหน้า ถึงเคราะห์ถึงคราวแล้ว ก็ดันทุรังทู่ซี้ต่อไป
การมีความรับผิดชอบในหน้าที่ การเตรียมการเผชิญอยู่ในโลกวิปริต เป็นภาระของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐที่ควรทำงานอย่างหนัก
ไม่ว่าจะแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม น้ำท่วม ฝนแล้ง ไม่ใช่คิดว่า รัฐมีหน่วยงานรับผิดชอบหมด มีมากเกินไป กระจายกันอยู่ทั่ว แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติทำอะไรไม่เคยทันเหตุการณ์สักอย่าง
กระทรวงรับงานตามตรง น่าเกิดขึ้นนานแล้วด้วยน้ำมือของนักการเมืองที่คิดเป็น ทำงานเป็น
แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นจากมือที่แบของนักการเมืองที่ไม่มีใจ
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย