http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-04-13

นพมาส: BLACK GOLD/ มาดามหลูหลี: New Tales of Gisaeng

.










BLACK GOLD "ทรัพย์ในดิน"
โดย นพมาส แววหงส์ คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1652 หน้า 87


กำกับการแสดง Jean-Jacques Annaud
นำแสดง Antonio Banderas
Tahar Rahim
Mark Strong
Freida Pinto


คงไม่ต้องบอกว่า "ทองคำสีดำ" คือฉายาที่ใช้เรียกขานน้ำมันปิโตรเลียม ที่เป็นทรัพย์ในดิน สินในน้ำ หากดินแดนในประเทศใดมีการขุดลงไปพบ

และแหล่งน้ำมันมหาศาลของโลกที่ค้นพบเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 อยู่ใต้ทะเลทรายอาหรับที่เป็นมีกลุ่มชนต่างๆ รวมทั้งชนเผ่าเร่ร่อนหรือพวกเบดูอินต่อสู่แย่งชิงกันครอบครอง

Black Gold กำหนดเหตุการณ์ไว้ในช่วงทศวรรษ 1930 ภายใต้การนำของสุลต่านอามาร์ (มาร์ก สตรอง) ชนเผ่าเร่ร่อนทำข้อตกลงเป็นสนธิสัญญาสงบศึกเหนือดินแดนที่เรียกว่า "แถบสีเหลือง" (Yellow Belt) โดยจะถือว่าดินแดนแถบนี้ไม่มีใครครอบครองเป็นเจ้าของ โดยที่สุลต่านอามาร์เจรจากับเอเมียร์เนซิป (อันโทนิโย แบนเดราส) เป็นสนธิสัญญาที่ทำด้วยวาจา

เพื่อเป็นหลักประกันของสัญญา สุลต่านยินยอมมอบโอรสสององค์ที่ยังเด็กอยู่ไว้เป็นตัวประกันในการปกครองของเอเมียร์เนซิป
เหมือนพระนเรศวรกับพระเอกาทศรฐตอนทรงพระเยาว์ที่ต้องเสด็จไปประทับเมืองหงสาวดีในฐานะตัวประกันเลย
และเช่นเดียวกัน เอเมียร์เนซิปทรงเลี้ยงดูเจ้าชายทั้งสองเสมือนบุตรบุญธรรม มากกว่าจะเป็นนักโทษ


เจ้าชายอาวดา (ทาฮาร์ ราฮิม ในตอนเป็นหนุ่ม) พลัดพรากจากพระบิดามาตั้งแต่ยังเล็ก และไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆ เลย แต่เจ้าชายซาเลห์ (อาคิน กาซี ตอนหนุ่ม) ยังจดจำได้ว่าตนเป็นใครและมีภารกิจใดที่ต้องกระทำ
อาวดาเป็นเพื่อนเล่นสนิทสนมกับเจ้าหญิงเลห์ลา พระธิดาของเอเมียร์เนซิป จวบจนเธอเริ่มโตเป็นสาว (เฟรดา ปินโต สาวสวยชาวภารตะจาก Slumdog Millionaire และ Immortals) จึงได้ถูกแยกตัวไปตามขนบประเพณี

สิบห้าปีผ่านไป เลห์ลายังคงเฝ้าดูอาวดาจากเบื้องหลังฉากกั้นหน้าต่างในพระราชวังฝ่ายใน ขณะที่อาวดาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มสวมแว่น เคร่งขรึม เอางานเอาการ และชอบหมกตัวอยู่กับหนังสือ
ระหว่างนั้น เอเมียร์เนซิปซึ่งเป็นเจ้านครกลางทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา และเคยออกปากว่า ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการเป็นกษัตริย์ที่ยากจน ได้รับข้อเสนอจากเจ้าพ่อน้ำมันชาวเท็กซัส ซึ่งค้นพบว่ามีแหล่งน้ำมันมหาศาลอยู่ในแถบเยลโลว์เบลต์
นี่คือขุมทรัพย์ที่เนซิปเห็นว่าจะสร้างความมั่งคั่งและความเจริญให้แก่ตนและชนชาติอาหรับ

ทว่าแน่นอน ปัญหาอยู่ที่ว่า เยลโลว์เบลต์นั้นถูกอยู่ใต้สนธิสัญญาว่าจะกันให้เป็น no man"s land นั่นคือ ไม่มีชนเผ่าไหนได้ครอบครอง
และชนเผ่าในทะเลทรายส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าเร่รอน ซึ่งยึดถือขนบประเพณีเก่าแก่ของอิสลาม และไม่อยากเป็นวิถีชีวิตไปสู่ความเจริญตามอารยธรรมตะวันตก โดยเฉพาะสุลต่านอามาร์ ผู้แสดงความจริงใจในสนธิสัญญาด้วยการมอบโอรสสององค์ไว้เป็นตัวประกันเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว

เพื่อผูกมัดเงื่อนสัมพันธไมตรีให้แน่นหนายิ่งขึ้น เนซิปจัดการอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายอาวดาและเจ้าหญิงเลห์ลา ซึ่งทำให้อาวดาต้องเผชิญหน้ากับการเลือกระหว่างพ่อตัวกับพ่อตา
เจ้าชายซาเลห์เลือกทางเดินของตัวเอง และประสบชะตากรรมหฤโหด
ส่วนเจ้าชายอาวดาก็ต้องทำหน้าที่ประสานไมตรีระหว่างชนเผ่าต่างๆ
กลายเป็นการเดินทางรอนแรมกลางทะเลทราย และการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างฝ่ายต่างๆ



แน่นอนว่าจากความเป็นไปในประวัติศาสตร์จนมาถึงโลกปัจจุบัน เรารู้ดีแล้วว่าดินแดนตะวันออกกลางกลายเป็นแหล่งน้ำมันแหล่งใหญ่ในโลก สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้แก่ประเทศในแถบนั้นขนาดไหน
หนังเป็นเรื่องราวการต่อสู้ แย่งชิงความเป็นผู้นำ และวิถีชีวิตของชาวทะเลทราย ด้วยทุนสร้างมหาศาลถึง 55 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนังเกี่ยวกับดินแดนทะเลทรายที่ลงทุนสูงสุดนับแต่ความอลังการเยี่ยงมหากาพย์ของ Lawrence of Arabia (ปีเตอร์ โอทูล) ใน ค.ศ.1962

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการถ่ายทำในทะเลทรายจะให้ภาพสวยๆ ชวนตื่นตาน่าประทับใจ แต่หนังก็เสนอเรื่องราวที่ออกจะตื้นเขิน และขาดความละเอียดอ่อน
ไม่มีตัวละครตัวไหนที่พัฒนาไปอย่างน่าสนใจ ทุกตัวเป็นตัวละครที่เห็นกันดาษดื่น อย่างที่เรียกว่า สเตริโอไทป์ ขาดความลึกเหมือนคนจริงๆ โดยเฉพาะ อันโทนิโย แบนเดราส ซึ่งเล่นเหมือนเป็นผู้ร้ายแบบตัวตลกในการ์ตูน แม้ตอนจบเมื่อเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เขาก็ยังเล่นเป็นตัวตลกอยู่นั่นเอง
นักแสดงอีกคนที่ชวน "เฮ้อ" (แปลว่าชวนให้ถอนหายใจด้วยความไม่ได้ดังใจ) ที่สุดคือ เฟรดา ปินโต ซึ่งเอามาแต่รูปโฉมสะคราญ แต่กลวงโบ๋สำหรับตัวละครตัวนี้ ฉากแต่ละฉากที่เธอปรากฏตัวอยู่กลายเป็นเรื่องชวนหัวเราะในความซื่อจนไร้เดียงสาไปเสียหมด ทั้งๆ ที่หนังคงจะต้องการสร้างเสน่ห์เย้ายวนใจและให้สีสันแก่เรื่องราว
พระเอกคือ ทาฮาร์ ราฮิม นั้นพอดูได้ ไม่ชวนยี้ แต่ก็ยังน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้เยอะ

นักแสดงที่เล่นได้น่าประทับใจที่สุดในหนังคือ มาร์ก สตรอง ที่เล่นเป็นสุลต่าน เสียแต่มีบทไม่มาก แต่ก็ตรึงตราด้วยศักดิ์ศรีของชาวอาหรับที่เป็นตัวแทนของโลกเก่าๆ ชวนให้นึกถึง เคน วาตานาเบ ที่เล่นเป็นซามูไรคนสุดท้ายคู่กับ ทอม ครูส ใน The Last Samurai


ผู้กำกับฯ ฌอง-ฌากส์ อันโนด์ ใช่ว่าจะเป็นผู้กำกับไร้ฝีมือ เพราะเคยทำหนังดีๆ มาแล้วหลายเรื่อง อย่างเช่น Enemy at the Gates (จูด ลอว์ โจเซฟ ไฟนส์ และ เรเชล ไวส์) Seven Years in Tibet (แบรด พิตต์) และ The Lover (เจน มาร์ช) แต่มาเรื่องนี้ฝีมือตกไปเยอะเลยเชียว

ใครชอบทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตาก็ไปดูกันได้นะคะ แต่อย่าคาดหวังสูงนัก



++

New Tales of Gisaeng : วิถีกีแซง
โดย มาดามหลูหลี : hluhlee@gmail.com คอลัมน์ เงาเกาหลี
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1652 หน้า 86


ภาพยนตร์หรือซีรี่ส์เกาหลีหลายเรื่องที่มักเล่าเรื่องราวของกีแซง หรือหญิงงามเมืองซึ่งเสมือนศิลปินที่ขายศิลปะและเป็นเพื่อนดื่มเพื่อนคุยให้ความสำราญแก่คุณผู้ชายทั้งหลายในสมัยโชซอน คล้ายๆ กับเกอิชาของญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเลิกอาชีพและหายหมดไปกับกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง

หากอิมซังฮันผู้เขียนบทและฮียองฮี/ซอนมูนควอน สองผู้กำกับฯ ได้สร้าง New Tales of Gisaeng เพื่อเล่าเรื่องของหญิงสาวผู้มีอาชีพกีแซงในสมัยปัจจุบัน โดยผูกเรื่องราวถึง 52 ตอน (ดูจนตาแฉะ) มีทันซารัน (อิมซูฮยาง นางเอกหน้าใหม่คนสวยเหมือนผ่านมือหมอ) เป็นนางเอกตัวเอกคอยเดินเรื่อง เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเธอและผู้คนรอบตัว

ที่เหลือเชื่อว่าชีวิตคนเราจะมีชะตาผูกพันกันได้



ทันซารัน นักศึกษาสาขาศิลปการแสดงและร่ายรำแบบโบราณ หญิงสาวกำพร้าแม่และทันชูลซู (คิมจูยอง) ผู้เป็นพ่อได้แต่งงานใหม่กับอีซุก (จีฮวาจา) แม่หม้ายที่มีทันกงจู (เบกโอกดัม) ลูกติด
เพราะครอบครัวยากจนและพ่อมีสุขภาพไม่ดี ทันซารันจึงทำงานพิเศษ ด้วยการรับงานร่ายรำให้ผู้สนใจศิลปะตามบ้าน ทำให้เธอได้พบอาดาโม (ซังฮุน พระเอกหล่อหุ่นสมาร์ต) เพราะคุณย่าของอาดาโมเรียกให้เธอมารำแสดงที่บ้าน

ภาพการร่ายรำที่งดงามกับในหน้าที่สวยเย็นตาของทันซารัน ได้ประทับใจตรึงตาจนอาดาโมลืมไม่ลง อาดาโม หนุ่มหล่อผู้ยโสลูกชายคนเดียวของอาโซรา (อิมฮยุก) ประธานอึนโซกรุ๊ปกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ระดับประเทศ
ทั้งคู่ได้พบอีกครั้งด้วยการนัดบอดหมู่ คืออาดาโมกับเพื่อนอีก 3 คน และทันซารันมากับเพื่อนๆ ไฮโซอีก 3 คน มีกึมรารา (ฮันฮยีริน ดาราหน้าตาสวยแบ๊วดี) ลูกสาวกึมโอซาน (ฮันจินฮี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลใหญ่ เธอเป็นเหมือนหัวโจกของสาวๆ เพราะมีฐานะและสถานะดีกว่าทุกคน กึมราราจึงบอกเพื่อนๆ ว่าเธอขอจองหนุ่มหล่ออาดาโม

รู้สึกว่าคนเกาหลีจะให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับการมีคู่ของลูกหลานวัยหนุ่มสาวที่ถึงวัยอันควรด้วยการนัดบอดหาคู่ เราเห็นแต่การนัดบอดเป็นคู่ ยังมีการนัดบอดหมู่อีกด้วย
สมเป็นประเทศสร้างชาติจริงๆ


อาดาโมขอคบกับทันซารัน เพราะชอบและอยากเอาชนะใจแม้รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ด้วยฐานะที่แตกต่างกันมา และประธานอาคงไม่ยอมรับมีเพียงคุณย่าที่คอยเอาใจช่วย
แต่ทันซารันกลับให้ใจเกินร้อยแก่อาดาโม เธอรับฟังเรื่องราวที่เขาเล่าอย่างเข้าใจ และให้คำแนะนำคำปลอบโยนใจ รวมทั้งทำหลายสิ่งอย่างให้แม้เธอต้องเรียนรู้ใหม่ก็ตาม
ชายหนุ่มที่มีความเชื่อมั่น คิดว่าจะรักจะเลิกตัดใจได้ง่ายๆ กลับกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ แพ้ทั้งใจตัวเองและต้องสูญเสียหญิงสาวที่รักไป
คนเรามักตัดสินใจได้เด็ดขาด เพราะมีสิ่งที่กระทบใจอย่างรุนแรง ทันซารันเจอะเจอเรื่องราวชีวิตที่ตั้งรับไม่ทันของตน ทั้งสูญเสียรักแรกและอยู่ๆ กลายเป็นกำพร้าไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จึงตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางการเป็นกีแซง
อาชีพที่สังคมไม่ยอมรับแต่พวกผู้ชายชอบ


พูยงกัก บ้านของกีแซง สถานที่ที่แขกผู้มาเยือนต้องนัดหมาย (จองโต๊ะ) มาดามโอฮวารัน (คิมโบยูน ดาราฝีมือดีจากฮวางจินยี ชอบน้ำเสียงที่แปลกแต่ไพเราะของเธอ) ประธานพูยงกัก บริหารจัดการจนสถานที่นี้เสมือนหนึ่งเป็นศูนย์ศิลปะที่มีสาวสวยเป็นเพื่อนคุยกับแขกซึ่งทัดเทียมมีความรู้ มีการใช้ภาษาต่างประเทศในการพูดคุย ให้เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองระดับชาติได้อย่างทรงเกียรติ
มีอาหารอร่อยรสเลิศ มีการแสดงสวยงามอันเป็นศิลปะประจำชาติ และบริการที่ถูกใจด้วยสาวงามมีกึ๋น ที่แม้แต่มาเฟียยังอยากมาและต้องทำตัวสุภาพตามกฎกติกาของพูยงกัก
มาดามโอให้กีแซงสาวๆ เรียกเธอว่าคุณแม่ ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่เหมือนแม่ที่คอยดูแลลูกๆ อย่างดี แขกคนไหนทำอะไรไม่ถูกต้องเธอจะไล่ตะเพิดไปอย่างไม่เกรงใจเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ

New Tales of Gisaeng เป็นเรื่องราวของผู้คนที่อยู่ๆ ก็มาเกี่ยวข้องกับพูยงกักบ้านของกีแซงอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนชะตาลิขิต


ทันซารันได้มีชีวิตใหม่จากพูยงกัก อาดาโมได้บทเรียนล้ำค่าจากพูยงกัก กึมราราคุณหนูที่เอาแต่ใจก็เข้าใจชีวิตมากขึ้นเพราะพูยงกัก และอีกหลายๆ ชีวิตที่ต้องมาเกี่ยวพันกัน มีโชคชะตาร่วมกันที่พูยงกัก
ด้วยความยาวของละครๆ จึงสามารถเล่าเรื่องราวได้ดี ให้เข้าใจตัวละครรวมทั้งให้บทเรียนชีวิตแก่ตัวละครและผู้ชมไปด้วย มีตัวละครอีกหลายๆ บทบาทที่น่าสนใจ และนักแสดงหน้าใหม่หลายคน
ส่วนพระเอกนางเอกได้รางวัล New Star Awards : SBS Drama Awards 2011


ชอบอิมฮยุกในบทท่านประธานอาโซราผู้เย่อหยิ่งจอมบงการ มีความคิดแบบหัวโบราณที่คิดเสมอว่าผู้ชายต้องเป็นใหญ่ คุณนายอาแทบจะกราบเท้าสามีเธอก่อนนอน ขนาดตำแหน่งที่นั่งอาโซราต้องนั่งในตำแหน่งหัวโต๊ะเสมอทั้งในห้องรับแขกและโต๊ะอาหาร คุณย่าซึ่งเป็นแม่ของอาโซรายังต้องนั่งด้านข้างและเออออกับทุกอย่างที่ลูกชายพูด แม้แต่การเลี้ยงสุนัขหรือจัดวันเกิดให้สุนัข ซึ่งอาจเป็นการแสดงออกของอาโซราที่เขินไม่กล้าแสดงความรักต่อลูกเมีย จึงมาแสดงออกผ่านสุนัขสัตว์เลี้ยงน่ารักแทน
ตอนท่านประธานอาถูกผีเข้า ดูแล้วตกใจน่ากลัวมากๆ คิดว่าทำไมละครสมัยใหม่ไม่ได้บอกว่าเป็นหนังผี ดันมีผีได้อย่างไร และผีก็เลือกคนเข้าเสียด้วย
บทนี้เป็นการโชว์ฝีมือการแสดงของอิมฮยุกที่เป็นทั้งคนแก่, ขุนศึกสมัยโบราณและเด็กเล็กได้อย่างขำๆ


ละครใส่บทไสยศาสตร์เพิ่มเพื่อจะให้บทเรียนแก่อาโซรา คุณพ่อของอาดาโมที่ชอบดุแจกทุกคนในบ้าน ได้ตระหนักถึงสัจธรรมของชีวิต ว่าความสุขที่แท้จริงนอกจากทรัพย์สมบัติแล้ว คนเรายังต้องการความรัก และความเอื้ออาทรเอาใจใส่ต่อกัน



.