http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-04-25

วงค์ ตาวัน: ไม่มีใครสั่งใครได้, ปลอดภัยทุกบ้าน, โลกไม่เหมือนเดิม, ภาพพูโล

.
บทความอีกแง่มุม - แตกต่าง ต้องไม่แตกแยก โดย จ่าบ้าน 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไม่มีใครสั่งใครได้
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์  วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. 


การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ปทุมธานีและการเลือกตั้ง นายกอบจ.ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ทั้ง 2 สนาม ทั้งที่จังหวัดนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดเสื้อแดง นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มเมือง

ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ตรงที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยมาก
มีแค่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาใช้สิทธิ์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์
ที่มาใช้สิทธิ์น้อย น่าจะเป็นเพราะโดนเสื้อแดงคว่ำบาตร
ไม่มาลงคะแนนเพื่อเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย

อาจจะด้วยความไม่พอใจ ที่ส.ส.ของพรรคได้ทิ้งเก้าอี้เพื่อไปลงสมัครนายกอบจ. ราวกับไม่เห็นความสำคัญของงานการเมืองระดับชาติ
อาจจะด้วยความไม่พอใจ ในทิศทางบางประการของเพื่อไทย ซึ่งเริ่มไม่สอดคล้องกับเสื้อแดง! 
ไปจนถึงอาจต้องการกระตุกให้พรรคเพื่อไทย หันมารับฟังเสียงเสื้อแดงมากขึ้น
หรือจะด้วยอะไรก็ตามที ซึ่งเพื่อไทยต้องรีบสรุปให้ได้

ทั้งหมดนี้จุดเริ่มต้นมาจากการไม่ไปลงคะแนนของคนเสื้อแดง
สะท้อนให้เห็นว่า เสื้อแดงเป็นขบวนการของประชาชนรากหญ้า ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย

แต่ไม่ใช่มวลชนที่ขึ้นตรงกับเพื่อไทยอย่างไม่ลืมหูลืมตา!
อาจจะศรัทธาในทักษิณ พร้อมสนับสนุนทักษิณ ด้วยเห็นเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองบางอย่าง
แต่อย่าถึงขั้นไปเชื่อว่าทักษิณซื้อได้และชี้นิ้วสั่งได้

กล่าวสำหรับประชาธิปัตย์ นอกจากจะต้องปลาบปลื้มที่สามารถเพิ่มส.ส.ได้ 1 เสียง ที่สำคัญเอาชนะได้ในสนามของเสื้อแดง

แต่ต้องไม่ลืมว่า ผู้มาใช้สิทธิ์มีแค่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และเสื้อแดงเล่นบทคว่ำบาตร 
พร้อมๆ กัน ต้องไปทบทวนระบบคิดของประชาธิปัตย์เองเสียใหม่! 
ตั้งแต่หัวหน้ายันหางแถว ที่ชอบกล่าวหาเสื้อแดงเป็นคนของทักษิณ 
ชอบอ้างทฤษฎีเลอะเทอะ มีพรรค มีมวลชน มีกองกำลัง คล้ายป้ายสีข้อหาคอมมิวนิสต์ใส่ชาวบ้านเสื้อแดง 
เลิกพูดได้แล้ว

ประชาธิปัตย์ควรเลิกตั้งตัวเป็นศัตรูเสื้อแดงและเลิกมองอย่างผิดๆ

เพราะกรณีปทุมธานีสะท้อนว่าเสื้อแดงกับเพื่อไทย ไม่มีใครสั่งใครได้! 



++

ปลอดภัยทุกบ้าน
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์  วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


 สงกรานต์ที่ผ่านมา ตำรวจยังได้คะแนนจากชาวบ้านอยู่ ในด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ไม่มีปัญหารถราตามถนนสายหลักติดขัดจนทุกข์ทรมาน ไปจนถึงการดูแลบ้านเรือนทรัพย์สิน โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ 
 ลุล่วงปลอดภัยทุกหลัง 

 ฝากบ้านไว้กับตำรวจในสงกรานต์ปีนี้ เพิ่มความพิเศษ เมื่อมีเทคโนโลยีตาอัจฉริยะเข้ามาเสริม เป็นหูตาให้ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 ช่วยเสริมให้กับตำรวจสายตรวจ

 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.กับพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบโครงการฝากบ้านมาตลอด ได้ประสานกับกระทรวงไอซีทีให้เข้ามาร่วมสนับสนุนด้านเทคโนโลยี 
 นำมาสู่การติดตั้งกล้องวงจรปิดไฮโทค ส่งสัญญาณผ่านระบบ 3 จี ไปยังโรงพัก เฝ้าระวังได้ชนิดไม่คลาดสายตา
 นับว่าได้ผลมาก ฟังว่ากระทรวงไอซีทีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะขยายตาอัจฉริยะให้ใช้ทั่วทั้งกทม.ในเร็วๆ นี้!


 พล.ต.อ.พงศพัศ สรุปผลสำเร็จของโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงสงกรานต์ โดยมีประชาชนฝากเอาไว้รวมทั่วประเทศ 4,360 หลัง
 ปลอดภัยหมดทุกหลัง 
 ในนครบาลฝากไว้มากสุด 1,981 หลัง 
 เพิ่มจากสงกรานต์ปีก่อน 505 หลัง แสดงว่าคนกรุงเทพฯมั่นใจตำรวจมากขึ้น 

 จังหวัดปริมณฑลรอบๆ กทม.นั้น ฝากไว้รวม 923 หลัง ในจำนวนนี้นนทบุรีฝากไว้มากสุด 478 หลัง 
 ส่วนในพื้นที่ตำรวจภูธร 2-9 และในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ รวมอีก 1,456 หลัง
 โดยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น มีตัวเลขน้อยสุดคือฝากแค่ 4 หลัง 
 ทั้งหมดนี้ฝากแล้วปลอดภัยทั้ง 4,360 หลัง

 ความปลาบปลื้ม ความไว้วางใจ ย่อมหลั่งไหลมาสู่ตำรวจ 
 ที่น่าสนใจ โครงการตาอัจฉริยะ ซึ่งปีนี้เริ่มในท้องที่สน.โชคชัย ซึ่งมีตัวเลขฝากบ้านไว้สูงสุด 
 ถือว่าช่วยงานตำรวจได้มาก เป็นกล้องวงจรปิดที่ชัดแจ๋วทั้งกลางวันกลางคืน ส่งสัญญาณผ่าน 3 จี ดูได้ที่โรงพักและมือถือของตำรวจ
 น่ายินดีที่กระทรวงไอซีที ตั้งงบประมาณเพื่อจัดหามาติดตั้งทั่วทั้งกทม.ในโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในเทศกาลปีใหม่ครั้งต่อไป


 พอพ้นจากปีใหม่ ก็หันกล้องมาส่องตามถนน ตรอกซอกซอย
 สอดส่องป้องกันโจรทั่วกรุงเทพฯตลอดทั้งปี
 ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับกล้องของกทม.แต่อย่างใด!



++

โลกไม่เหมือนเดิม
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์  วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเลที่สุมาตรา เมื่อก่อนจะถึงสงกรานต์ไม่กี่วัน ได้พิสูจน์แล้วว่า แผนรับมือสึนามิที่เตรียมไว้นั้น เป็นเรื่องจำเป็นจริงๆ
โดยเฉพาะจังหวัดชายทะเลอันดามัน ที่ถูกกวาดราบเป็นหน้ากลองเมื่อ 8 ปีก่อน 
โชคดีที่ผ่านไปโดยปลอดภัย ไม่มีคลื่นรุนแรงเกิดขึ้น 
แต่ถัดมาไม่กี่วัน ได้เกิดแผ่นดินไหวที่ภูเก็ตต่อเนื่องหลายวันหลายสิบหน 
ยังดีที่อิทธิฤทธิ์ไม่รุนแรง แต่เมื่อเกิดแบบถี่ยิบ ไม่หยุดหย่อน ทำให้ต้องมาคิดวิเคราะห์กันอย่างหนัก

ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา วิศวกรรม ออกมาเตือนภัยกันอย่างจริงจัง 
การเฝ้าระวังรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศเรา เป็นหัวข้อสนทนาหลักในระยะนี้! 
ผู้รู้พูดตรงกันว่า เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหว จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย และจะนำมาสู่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไปจนถึงคลื่นยักษ์  
แม้แต่ในเมืองใหญ่อย่างกทม. เริ่มหวั่นไหวกันมาก เพราะมีตึกสูงเบียดเสียดเต็มไปหมด

เป็นความจริงที่ว่า บ้านเมืองเราได้เผชิญภัยธรรมชาติร้ายแรงมากขึ้นๆ ไม่ใช่แค่ดูผ่านภาพข่าวเหตุการณ์ที่เกิดในต่างประเทศอีกแล้ว 
สไตล์ไทยๆ ที่มักจะพูดกันว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า ถึงเวลาเดี๋ยวก็แก้กันได้ 
ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนกันแล้วกระมัง!?


อย่างน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ไม่เคยเกิดก็มาเกิดให้เห็น 
ไม่ใช่แค่บ้านเราหรอก แต่ทุกประเทศทุกพื้นที่ ต่างต้องรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในหลายๆ ด้าน 
เพราะโลกเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เปลี่ยนแปลง เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงหลายรูปแบบ 

กระทรวงกรมกองที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว ถึงเวลาต้องนั่งวางแผนรับมืออย่างจริงจัง 
รัฐบาลเอง คงไม่แค่วางแผนป้องกันมหาอุทกภัย ที่กำลังเร่งทำกันอยู่เท่านั้น 
เห็นทีต้องมีวาระแห่งชาติเรื่องป้องกันภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แล้ว!

พื้นที่ที่มีเขื่อนตั้งบนรอยเลื่อน ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือกระทบภาพพจน์ท่องเที่ยวหรอก หากจะต้องจัดเตรียมแผนป้องกันขึ้นมา
เมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะกทม. ต้องเริ่มเตรียมรับมือแล้ว 
ต้องเริ่มซ้อมรับแผ่นดินไหว ขั้นตอนอพยพผู้คน จุดรวมคนจุดปลอดภัย 

มองไปล่วงหน้า รักษาชีวิตคนให้ได้ เป็นสิ่ง ที่รัฐบาลควรต้องทำ!



++

ภาพพูโล 
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์  วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


หากติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชุดนี้ในการแก้ปัญหาไฟใต้ ผ่านบทบาทของ 2 หน่วยงานสำคัญ คือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือศอ.บต. 
โดยจะเป็นการเคลื่อนไหวในทางปฏิบัติที่เป็นจริงไม่ออกข่าว ไม่แถลง ไม่ดีแต่พูด 
จะพบว่า มีการรุกคืบทางการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจกับคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนอย่างต่อเนื่อง 
ครอบคลุมไปถึงฝั่งมาเลเซีย ที่คนไทยในจังหวัดชายแดน ข้ามไปทำธุรกิจ ไปขายแรงงาน อีกราว 2 แสนคน 
เป็นความพยายามเข้าถึงคนในพื้นที่ ซึ่งเดิมทีมีระยะห่างกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลมาตลอด 
โดยเฉพาะคนไทยที่ข้ามแดนไปทำงาน เป็นผู้สุจริต ไม่เกี่ยวกับก่อการร้ายใดๆ ทั้งสิ้น!

การเดินหน้าของรัฐบาลในทิศทางนี้ น่าจะถูกต้อง คลี่คลายสถานการณ์ได้ดีที่สุด 
เป็นการเข้าถึงมวลชนนำมาสู่ความไว้วางใจในรัฐบาล 
น่าจะช่วยลดเงื่อนไขความขัดแย้งในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี 
ทั้งหมดนี้คือกระบวนการสร้างสันติภาพ ตามนโยบายดับไฟใต้ของสมช.


การที่มีผู้ขัดขวางกระบวนการร่วมมือครั้งนี้ ด้วยการปล่อยภาพและบิดเบือนข้อมูล! 
เปิดภาพพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. พบปะกับผู้ประกอบการร้านอาหารต้มยำกุ้ง แต่บิดเบือนว่าเป็นพูโล 
นายวันซำซูดิน ดินวันฮูเซ็น ประธานชมรมต้มยำกุ้งในภาพ ถูกป้ายสีว่าเป็นนายซำซูดิง คาน แกนนำพูโล

ผู้ปล่อยภาพและป้ายสี มีเจตนาจะทำลายกระบวนการสร้างความเข้าใจ 
พอจะรู้ตัวได้ไม่ยาก!! 
ไม่พ้นกลุ่มการเมืองที่สูญเสียประโยชน์จากงบประมาณหากหมดการสู้รบ รวมทั้งหวั่นเกรงเสียฐานเสียงในพื้นที่ครั้งใหญ่


ล่าสุดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงส่งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาฯ สมช. พ.ต.อ.ทวี รุดไปมาเลเซียอีกครั้ง 
ทำความเข้าใจกับประธานชมรมต้มยำกุ้งและคนไทยที่นั่น
อย่าได้เสียขวัญกับการถูกป้ายสี จนถึงขั้นไม่กล้ากลับมาเยี่ยมบ้านในฝั่งไทยช่วงสงกรานต์

ผลการทำความเข้าใจน่าจะลุล่วงด้วยดี

นี่คืออีกกลเกมเล่นการเมืองโดยไม่สนใจความสงบสุขใน 3 จังหวัดใต้! 



+++

แตกต่าง ต้องไม่แตกแยก 
โดย จ่าบ้าน  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จาก ข่าวสดออนไลน์  วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ดูเหมือนว่ามีการกล่าวถึงเรื่องเจรจาออกเป็นสองสามแนวทาง

แนวทางแรกคือไม่เจรจา น่าจะมาจากกลุ่มทหารฝ่ายเหยี่ยวที่ตั้งหลักอยู่ที่ผู้ชนะย่อมไม่เจรจา ด้วยเชื่อว่าฝ่ายทหาร หรือกองกำลังของบ้านเมืองยังเป็นฝ่ายชนะในที่สุด

แนวทางต่อมา คือต้องตั้งหลักเจรจาบนหลักการของทั้งสองฝ่าย จะเจรจาโดยลับ หรือโดยแจ้ง แล้วแต่ว่าผลการเจรจาในเบื้องต้นเป็นประการใด

แนวทางสุดท้าย คือการเจรจาของผู้มีอำนาจทั้งสองฝ่ายเพื่อให้การเจรจายุติปัญหานั้นบังเกิดผล และเป็นการเจรจาที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกฝ่าย หรือ Win - Win และ Win


ความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดปัญหาเมื่อไม่กี่ปี หรือเพิ่งเกิดเมื่อมีกรณีการปล้นปืนของทหารจากค่ายทหาร แต่เกิดมานานหลายสิบปีมาแล้ว ว่าแต่จะเริ่มปัญหาเรื่องอะไรและเมื่อไหร่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร...

กระนั้น เท่าที่สดับรับฟังมา ปัญหาที่ต่อเนื่องเรื้อรังมายาวนาน น่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งด้านการเมือง การปกครอง และความเข้าใจผิด
กับการดูถูกเหยียดหยามความเป็นคนต่างเชื้อชาติ ประการหนึ่ง

อีกประการหนึ่ง คือการไม่เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่แห่งหลักศาสนาของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะใช้ความเป็นเจ้าขุนมูลนาย และความเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธเข้าไปจับ

โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายรัฐบาลในแต่ละยุคในแต่ละสมัย ที่ไม่มีการเรียนรู้ ต่อเนื่อง
ว่าเฉพาะเรื่องการศึกษาเรียนรู้ของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมมีธรรมเนียมปฏิบัติตามศาสนา ยิ่งเป็นผู้ที่เคร่งครัดการปฏิบัติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่นับถือศาสนาต่างกันไม่ได้

ความละเอียดอ่อนหลายประการในประเทศที่มีชนชาติซึ่งแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมปฏิบัติ หรือประเพณี ผู้ที่เข้ามามีอำนาจรัฐ เป็นรัฐบาลของประเทศนั้น ควรคำนึงถึงความแตกต่างให้มาก และอย่าให้ความแตกต่างนั้นนำไปสู่การแตกแยกเด็ดขาด

เพราะเมื่อ ไม่เข้าใจ ก็เข้าไม่ถึง ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา หรือใครว่าไม่จริง



.