.
บทความอีกแง่มุม - แตกต่าง ต้องไม่แตกแยก โดย จ่าบ้าน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ไม่มีใครสั่งใครได้
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์ วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ปทุมธานีและการเลือกตั้ง นายกอบจ.ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ทั้ง 2 สนาม ทั้งที่จังหวัดนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดเสื้อแดง นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มเมือง
ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ตรงที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยมาก
มีแค่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาใช้สิทธิ์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์
ที่มาใช้สิทธิ์น้อย น่าจะเป็นเพราะโดนเสื้อแดงคว่ำบาตร
ไม่มาลงคะแนนเพื่อเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
อาจจะด้วยความไม่พอใจ ที่ส.ส.ของพรรคได้ทิ้งเก้าอี้เพื่อไปลงสมัครนายกอบจ. ราวกับไม่เห็นความสำคัญของงานการเมืองระดับชาติ
อาจจะด้วยความไม่พอใจ ในทิศทางบางประการของเพื่อไทย ซึ่งเริ่มไม่สอดคล้องกับเสื้อแดง!
ไปจนถึงอาจต้องการกระตุกให้พรรคเพื่อไทย หันมารับฟังเสียงเสื้อแดงมากขึ้น
หรือจะด้วยอะไรก็ตามที ซึ่งเพื่อไทยต้องรีบสรุปให้ได้
ทั้งหมดนี้จุดเริ่มต้นมาจากการไม่ไปลงคะแนนของคนเสื้อแดง
สะท้อนให้เห็นว่า เสื้อแดงเป็นขบวนการของประชาชนรากหญ้า ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย
แต่ไม่ใช่มวลชนที่ขึ้นตรงกับเพื่อไทยอย่างไม่ลืมหูลืมตา!
อาจจะศรัทธาในทักษิณ พร้อมสนับสนุนทักษิณ ด้วยเห็นเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองบางอย่าง
แต่อย่าถึงขั้นไปเชื่อว่าทักษิณซื้อได้และชี้นิ้วสั่งได้
กล่าวสำหรับประชาธิปัตย์ นอกจากจะต้องปลาบปลื้มที่สามารถเพิ่มส.ส.ได้ 1 เสียง ที่สำคัญเอาชนะได้ในสนามของเสื้อแดง
แต่ต้องไม่ลืมว่า ผู้มาใช้สิทธิ์มีแค่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และเสื้อแดงเล่นบทคว่ำบาตร
พร้อมๆ กัน ต้องไปทบทวนระบบคิดของประชาธิปัตย์เองเสียใหม่!
ตั้งแต่หัวหน้ายันหางแถว ที่ชอบกล่าวหาเสื้อแดงเป็นคนของทักษิณ
ชอบอ้างทฤษฎีเลอะเทอะ มีพรรค มีมวลชน มีกองกำลัง คล้ายป้ายสีข้อหาคอมมิวนิสต์ใส่ชาวบ้านเสื้อแดง
เลิกพูดได้แล้ว
ประชาธิปัตย์ควรเลิกตั้งตัวเป็นศัตรูเสื้อแดงและเลิกมองอย่างผิดๆ
เพราะกรณีปทุมธานีสะท้อนว่าเสื้อแดงกับเพื่อไทย ไม่มีใครสั่งใครได้!
++
ปลอดภัยทุกบ้าน
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์ วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
สงกรานต์ที่ผ่านมา ตำรวจยังได้คะแนนจากชาวบ้านอยู่ ในด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ไม่มีปัญหารถราตามถนนสายหลักติดขัดจนทุกข์ทรมาน ไปจนถึงการดูแลบ้านเรือนทรัพย์สิน โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ
ลุล่วงปลอดภัยทุกหลัง
ฝากบ้านไว้กับตำรวจในสงกรานต์ปีนี้ เพิ่มความพิเศษ เมื่อมีเทคโนโลยีตาอัจฉริยะเข้ามาเสริม เป็นหูตาให้ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วยเสริมให้กับตำรวจสายตรวจ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.กับพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบโครงการฝากบ้านมาตลอด ได้ประสานกับกระทรวงไอซีทีให้เข้ามาร่วมสนับสนุนด้านเทคโนโลยี
นำมาสู่การติดตั้งกล้องวงจรปิดไฮโทค ส่งสัญญาณผ่านระบบ 3 จี ไปยังโรงพัก เฝ้าระวังได้ชนิดไม่คลาดสายตา
นับว่าได้ผลมาก ฟังว่ากระทรวงไอซีทีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะขยายตาอัจฉริยะให้ใช้ทั่วทั้งกทม.ในเร็วๆ นี้!
พล.ต.อ.พงศพัศ สรุปผลสำเร็จของโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงสงกรานต์ โดยมีประชาชนฝากเอาไว้รวมทั่วประเทศ 4,360 หลัง
ปลอดภัยหมดทุกหลัง
ในนครบาลฝากไว้มากสุด 1,981 หลัง
เพิ่มจากสงกรานต์ปีก่อน 505 หลัง แสดงว่าคนกรุงเทพฯมั่นใจตำรวจมากขึ้น
จังหวัดปริมณฑลรอบๆ กทม.นั้น ฝากไว้รวม 923 หลัง ในจำนวนนี้นนทบุรีฝากไว้มากสุด 478 หลัง
ส่วนในพื้นที่ตำรวจภูธร 2-9 และในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ รวมอีก 1,456 หลัง
โดยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น มีตัวเลขน้อยสุดคือฝากแค่ 4 หลัง
ทั้งหมดนี้ฝากแล้วปลอดภัยทั้ง 4,360 หลัง
ความปลาบปลื้ม ความไว้วางใจ ย่อมหลั่งไหลมาสู่ตำรวจ
ที่น่าสนใจ โครงการตาอัจฉริยะ ซึ่งปีนี้เริ่มในท้องที่สน.โชคชัย ซึ่งมีตัวเลขฝากบ้านไว้สูงสุด
ถือว่าช่วยงานตำรวจได้มาก เป็นกล้องวงจรปิดที่ชัดแจ๋วทั้งกลางวันกลางคืน ส่งสัญญาณผ่าน 3 จี ดูได้ที่โรงพักและมือถือของตำรวจ
น่ายินดีที่กระทรวงไอซีที ตั้งงบประมาณเพื่อจัดหามาติดตั้งทั่วทั้งกทม.ในโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในเทศกาลปีใหม่ครั้งต่อไป
พอพ้นจากปีใหม่ ก็หันกล้องมาส่องตามถนน ตรอกซอกซอย
สอดส่องป้องกันโจรทั่วกรุงเทพฯตลอดทั้งปี
ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับกล้องของกทม.แต่อย่างใด!
++
โลกไม่เหมือนเดิม
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเลที่สุมาตรา เมื่อก่อนจะถึงสงกรานต์ไม่กี่วัน ได้พิสูจน์แล้วว่า แผนรับมือสึนามิที่เตรียมไว้นั้น เป็นเรื่องจำเป็นจริงๆ
โดยเฉพาะจังหวัดชายทะเลอันดามัน ที่ถูกกวาดราบเป็นหน้ากลองเมื่อ 8 ปีก่อน
โชคดีที่ผ่านไปโดยปลอดภัย ไม่มีคลื่นรุนแรงเกิดขึ้น
แต่ถัดมาไม่กี่วัน ได้เกิดแผ่นดินไหวที่ภูเก็ตต่อเนื่องหลายวันหลายสิบหน
ยังดีที่อิทธิฤทธิ์ไม่รุนแรง แต่เมื่อเกิดแบบถี่ยิบ ไม่หยุดหย่อน ทำให้ต้องมาคิดวิเคราะห์กันอย่างหนัก
ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา วิศวกรรม ออกมาเตือนภัยกันอย่างจริงจัง
การเฝ้าระวังรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศเรา เป็นหัวข้อสนทนาหลักในระยะนี้!
ผู้รู้พูดตรงกันว่า เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหว จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย และจะนำมาสู่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไปจนถึงคลื่นยักษ์
แม้แต่ในเมืองใหญ่อย่างกทม. เริ่มหวั่นไหวกันมาก เพราะมีตึกสูงเบียดเสียดเต็มไปหมด
เป็นความจริงที่ว่า บ้านเมืองเราได้เผชิญภัยธรรมชาติร้ายแรงมากขึ้นๆ ไม่ใช่แค่ดูผ่านภาพข่าวเหตุการณ์ที่เกิดในต่างประเทศอีกแล้ว
สไตล์ไทยๆ ที่มักจะพูดกันว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า ถึงเวลาเดี๋ยวก็แก้กันได้
ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนกันแล้วกระมัง!?
อย่างน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ไม่เคยเกิดก็มาเกิดให้เห็น
ไม่ใช่แค่บ้านเราหรอก แต่ทุกประเทศทุกพื้นที่ ต่างต้องรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในหลายๆ ด้าน
เพราะโลกเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เปลี่ยนแปลง เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงหลายรูปแบบ
กระทรวงกรมกองที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว ถึงเวลาต้องนั่งวางแผนรับมืออย่างจริงจัง
รัฐบาลเอง คงไม่แค่วางแผนป้องกันมหาอุทกภัย ที่กำลังเร่งทำกันอยู่เท่านั้น
เห็นทีต้องมีวาระแห่งชาติเรื่องป้องกันภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แล้ว!
พื้นที่ที่มีเขื่อนตั้งบนรอยเลื่อน ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือกระทบภาพพจน์ท่องเที่ยวหรอก หากจะต้องจัดเตรียมแผนป้องกันขึ้นมา
เมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะกทม. ต้องเริ่มเตรียมรับมือแล้ว
ต้องเริ่มซ้อมรับแผ่นดินไหว ขั้นตอนอพยพผู้คน จุดรวมคนจุดปลอดภัย
มองไปล่วงหน้า รักษาชีวิตคนให้ได้ เป็นสิ่ง ที่รัฐบาลควรต้องทำ!
++
ภาพพูโล
โดย วงค์ ตาวัน คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสด ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
หากติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชุดนี้ในการแก้ปัญหาไฟใต้ ผ่านบทบาทของ 2 หน่วยงานสำคัญ คือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือศอ.บต.
โดยจะเป็นการเคลื่อนไหวในทางปฏิบัติที่เป็นจริงไม่ออกข่าว ไม่แถลง ไม่ดีแต่พูด
จะพบว่า มีการรุกคืบทางการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจกับคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนอย่างต่อเนื่อง
ครอบคลุมไปถึงฝั่งมาเลเซีย ที่คนไทยในจังหวัดชายแดน ข้ามไปทำธุรกิจ ไปขายแรงงาน อีกราว 2 แสนคน
เป็นความพยายามเข้าถึงคนในพื้นที่ ซึ่งเดิมทีมีระยะห่างกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลมาตลอด
โดยเฉพาะคนไทยที่ข้ามแดนไปทำงาน เป็นผู้สุจริต ไม่เกี่ยวกับก่อการร้ายใดๆ ทั้งสิ้น!
การเดินหน้าของรัฐบาลในทิศทางนี้ น่าจะถูกต้อง คลี่คลายสถานการณ์ได้ดีที่สุด
เป็นการเข้าถึงมวลชนนำมาสู่ความไว้วางใจในรัฐบาล
น่าจะช่วยลดเงื่อนไขความขัดแย้งในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้คือกระบวนการสร้างสันติภาพ ตามนโยบายดับไฟใต้ของสมช.
การที่มีผู้ขัดขวางกระบวนการร่วมมือครั้งนี้ ด้วยการปล่อยภาพและบิดเบือนข้อมูล!
เปิดภาพพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. พบปะกับผู้ประกอบการร้านอาหารต้มยำกุ้ง แต่บิดเบือนว่าเป็นพูโล
นายวันซำซูดิน ดินวันฮูเซ็น ประธานชมรมต้มยำกุ้งในภาพ ถูกป้ายสีว่าเป็นนายซำซูดิง คาน แกนนำพูโล
ผู้ปล่อยภาพและป้ายสี มีเจตนาจะทำลายกระบวนการสร้างความเข้าใจ
พอจะรู้ตัวได้ไม่ยาก!!
ไม่พ้นกลุ่มการเมืองที่สูญเสียประโยชน์จากงบประมาณหากหมดการสู้รบ รวมทั้งหวั่นเกรงเสียฐานเสียงในพื้นที่ครั้งใหญ่
ล่าสุดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงส่งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาฯ สมช. พ.ต.อ.ทวี รุดไปมาเลเซียอีกครั้ง
ทำความเข้าใจกับประธานชมรมต้มยำกุ้งและคนไทยที่นั่น
อย่าได้เสียขวัญกับการถูกป้ายสี จนถึงขั้นไม่กล้ากลับมาเยี่ยมบ้านในฝั่งไทยช่วงสงกรานต์
ผลการทำความเข้าใจน่าจะลุล่วงด้วยดี
นี่คืออีกกลเกมเล่นการเมืองโดยไม่สนใจความสงบสุขใน 3 จังหวัดใต้!
+++
แตกต่าง ต้องไม่แตกแยก
โดย จ่าบ้าน คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จาก ข่าวสดออนไลน์ วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ดูเหมือนว่ามีการกล่าวถึงเรื่องเจรจาออกเป็นสองสามแนวทาง
แนวทางแรกคือไม่เจรจา น่าจะมาจากกลุ่มทหารฝ่ายเหยี่ยวที่ตั้งหลักอยู่ที่ผู้ชนะย่อมไม่เจรจา ด้วยเชื่อว่าฝ่ายทหาร หรือกองกำลังของบ้านเมืองยังเป็นฝ่ายชนะในที่สุด
แนวทางต่อมา คือต้องตั้งหลักเจรจาบนหลักการของทั้งสองฝ่าย จะเจรจาโดยลับ หรือโดยแจ้ง แล้วแต่ว่าผลการเจรจาในเบื้องต้นเป็นประการใด
แนวทางสุดท้าย คือการเจรจาของผู้มีอำนาจทั้งสองฝ่ายเพื่อให้การเจรจายุติปัญหานั้นบังเกิดผล และเป็นการเจรจาที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกฝ่าย หรือ Win - Win และ Win
ความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดปัญหาเมื่อไม่กี่ปี หรือเพิ่งเกิดเมื่อมีกรณีการปล้นปืนของทหารจากค่ายทหาร แต่เกิดมานานหลายสิบปีมาแล้ว ว่าแต่จะเริ่มปัญหาเรื่องอะไรและเมื่อไหร่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร...
กระนั้น เท่าที่สดับรับฟังมา ปัญหาที่ต่อเนื่องเรื้อรังมายาวนาน น่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งด้านการเมือง การปกครอง และความเข้าใจผิด
กับการดูถูกเหยียดหยามความเป็นคนต่างเชื้อชาติ ประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง คือการไม่เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่แห่งหลักศาสนาของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะใช้ความเป็นเจ้าขุนมูลนาย และความเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธเข้าไปจับ
โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายรัฐบาลในแต่ละยุคในแต่ละสมัย ที่ไม่มีการเรียนรู้ ต่อเนื่อง
ว่าเฉพาะเรื่องการศึกษาเรียนรู้ของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมมีธรรมเนียมปฏิบัติตามศาสนา ยิ่งเป็นผู้ที่เคร่งครัดการปฏิบัติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่นับถือศาสนาต่างกันไม่ได้
ความละเอียดอ่อนหลายประการในประเทศที่มีชนชาติซึ่งแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมปฏิบัติ หรือประเพณี ผู้ที่เข้ามามีอำนาจรัฐ เป็นรัฐบาลของประเทศนั้น ควรคำนึงถึงความแตกต่างให้มาก และอย่าให้ความแตกต่างนั้นนำไปสู่การแตกแยกเด็ดขาด
เพราะเมื่อ ไม่เข้าใจ ก็เข้าไม่ถึง ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา หรือใครว่าไม่จริง
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย