http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-04-13

นับถอยหลังปลดล็อก 111 "สมคิด-คิดใหม่"../ รวมมิตร"นายกฯ ปู"พูดผิด..

.

นับถอยหลังปลดล็อก 111 "สมคิด-คิดใหม่" ในลู่แข่ง AEC แนะเจ้าสัวไทยสู้ศึกธุรกิจไร้พรมแดน
โดย ศัลยา ประชาชาติ คอลัมน์ บทความพิเศษ
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1652 หน้า 12


อีกประมาณ 45 วัน นักการเมืองระดับตำนาน ในบ้านเลขที่ 111 จะคืนสนาม

ภาระ พันธะ ของคนการเมือง 111 ในเครือข่าย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ต้องกลับมาปฏิบัติการ มีไม่น้อยกว่า 7 วาระ

วาระแรก ขับเคลื่อน 16 นโยบายเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทยให้สัมฤทธิผลก่อนวันครบรอบแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 23 สิงหาคม 2555 ไม่เช่นนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะอาจถูกยื่นถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งได้

วาระที่สอง ขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในฐานะฝ่ายบริหาร ให้สัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม ออกดอกออกผลเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกาศใช้ได้อย่างเร็ว มิถุนายน 2556

วาระที่สาม ผลักดัน-ประคองกระแสสังคม ให้ยอมรับแผนปรองดอง โดยการตั้งบุคคลที่เป็นกลาง มีความน่าเชื่อถือเป็นกรรมการระดับชาติ เพื่อจัดทำแผน-มาตรการ การคืนความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนที่เคยได้รับโทษการเมืองจากเหตุรัฐประหาร 2549

วาระที่สี่ รื้อ-ถอนและปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผ่านคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชุดที่ นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน

วาระที่ห้า รับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาผู้แทนราษฎร ที่อาจเกิดขึ้นในสมัยประชุมสภา ช่วงเดือนสิงหาคม 2555

วาระที่หก เปิดรับอดีตสมาชิกไทยรักไทย ในบ้าน 111 ที่ออกไปสังกัดพรรคอื่น กลับคืนพรรคเพื่อไทย เช่น ข่าวการเจรจากับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา กลับมาร่วมทีม โดยมีตำแหน่งระดับเดียวกับเลขาธิการพรรค เป็นสะพานน้ำใจ ไม่ใช่แค่ "ข่าวปล่อย"

วาระที่เจ็ด เชื่อมไมตรีกับคนการเมืองที่เคยอยู่ขั้วตรงข้าม เพื่อเป็นอะไหล่การเมือง ในกรณีเกิดอุบัติเหตุการเมือง โดยให้กลุ่มของ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายพินิจ จารุสมบัติ กลุ่มทายาทตระกูลสุวรรณฉวี อยู่ในเวตติ้งลิสต์

ส่วนกลุ่มของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่แปรพักตร์ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก็อาจคืนกลับถิ่น "วังน้ำยม" โดยการต่อสายผ่านทางลูกพี่เก่า-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์

มีแต่ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตขุนพลคู่คิด ที่กลายเป็นคู่ขนานของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่ยังแบ่งรับ-แบ่งสู้ ที่จะหวนคืนอำนาจการเมือง



นักการเมืองทั้ง 111 คน อาจคิดเรื่องกลเกมการเมือง ช่วงชิงอำนาจในสภาผู้แทนราษฎร

แต่ "ดร.สมคิด" คิดว่า "การตัดสินใจใหญ่ๆ กำลังรอรัฐบาลตัดสินใจ และสถานการณ์สำคัญของประเทศในวันนี้อยู่ที่จุดพลิกพัน เกาหลีใต้ไปแล้ว สิงคโปร์ไปแล้ว มาเลเซียไปแล้ว เวียดนามกำลังจะไป เรากำลังอยู่กับลาว กับพม่า เราต้องการจุดยืนนโยบายเพื่อต้องการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ปฏิรูป"

เล็กเชอร์สาธารณะ ของ "ดร.สมคิด" มักแตะเรื่อง "ปฏิรูป" และ "ความกล้าหาญ กล้าทำและความจริงใจ"

"ถ้าเป็นนักการเมืองที่ดี ผมคิดว่านักการเมืองที่ดีมี ฉะนั้น อยากให้เป็นจุดเริ่มต้น จุดแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างรากฐานให้เมืองไทยเป็นจุดยืนที่เข้มแข็งในอนาคต พรรคไหนเป็นรัฐบาลก็ได้ แต่ขอให้เป็นพรรคที่รู้ว่าไทยต้องการอะไร ต้องเดินไปทางไหน จะทำอย่างไร จะหาคนดีๆ มาอยู่ได้อย่างไร"

ช่วงที่ผ่านมา "ดร.สมคิด" ถูกเชิญให้เดินสายปาฐกถา ขึ้นเวทีอภิปราย เรื่องผู้นำมากกว่าเรื่องการเมือง

เขาบอกว่า "สถานการณ์ในประเทศขณะนี้เริ่มจะแบกรับไม่ไหวแล้วกับการเมืองเชิงนักแข่ง แต่เราต้องการการเมืองเชิงรัฐบุรุษทำเพื่อประเทศ และผมเชื่อว่ามีอยู่กับพรรคการเมืองดีๆ แบบนี้ ผมเชื่อว่าจะมีอนาคตถ้าเราทำอย่างนั้น"

เมื่อถามเขาว่า อีก 45 วันจะหมดวาระโทษการเมือง คิดกลับสู่วังวนอำนาจอีกหรือไม่ เขาจึงมักได้แต่สายหน้าและยิ้มเป็นคำตอบ

เพราะชีวิตทุกวันนี้ของ "ดร.สมคิด" สุขยิ่งกว่าสุข กับการใช้ชีวิต "กุนซือ" ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ในกลุ่มกิจการสินค้าอุปโภค บริโภค



บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่น้อยกว่า 3 บริษัทมี "ดร.สมคิด" ร่วมคิดแผนกลยุทธ์การค้า การขาย และโรดแม็ปไปสู่สังคมประชาคมอาเซียน

ทั้งเครือสหพัฒนฯ บริษัทคอนซูเมอร์ อายุ 60 กว่าปี และยักษ์ใหญ่กลุ่มโอสถสภา ที่ทำธุรกิจเก่าแก่มาไม่น้อยกว่าร้อยปี คือ 2 เครือข่าย ที่เครือญาติ 2 ตระกูลเก่งการค้าอย่าง "โชควัฒนา" กับ "โอสถานุเคราะห์" ล้วนมีคู่คิดเป็น "ดร.สมคิด"

ที่เหลือแม้ไม่มีตำแหน่งที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ แต่เขามักถูกเชิญให้ร่วมวงสนทนาให้คำชี้แนะกับบรรดาลูก-หลานเจ้าสัวเมืองไทย หลายตระกูล

ไม่นับรวมมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ เช่น "มหาวิทยาลัยกรุงเทพ" ที่ทุกหลักสูตรถูก "สมคิด" ช่วยคิดออกแบบ ให้เชื่อมต่อทางวิชาการ มีระบบปฏิบัติการร่วมกับมหาวิทยาลัยนานาชาติ ในนาม "นายกสภามหาวิทยาลัย" สถาบันการศึกษาของคนในตระกูล "โอสถานุเคราะห์"

เช่นเดียวกับแผนการทางวิชการที่เชื่อมโยงนักศึกษาในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ที่ "ดร.สมคิด" เป็น "ศาสตราพิชาน" เข้ากับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ



ล่าสุด "ดร.สมคิด" แนะแนวการค้าร่วมวงกับประชาคมอาเซียน หรือ AEC โดยบอกเบิกทางให้พ่อค้า นักลงทุน และทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมในปี 2015 ทุกอย่างจะเสรี มีนัยสำคัญทั้งกับภาครัฐและภาคเอกชน

สำหรับธุรกิจภาคเอกชนมีผลกระทบ 2 มิติ

มิติแรก Scope-ขอบเขตของโอกาส ต่อไปนี้จะไม่ใช่แค่ กลุ่มอาเซียนบวก 3 (รวมจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี) แต่จะเพิ่มเป็นกลุ่มอาเซียนบวก 6 เพิ่มออสเตรเลีย อินเดีย และนิวซีแลนด์เข้ามาด้วย

มิติที่สอง Business Approach-วิถีการทำธุรกิจ จะเปลี่ยนไป การทำตลาดระดับประชาคมอาเซียนต้องตอบโจทย์ 4 ด้าน เช่น ลูกค้าที่เพิ่มขึ้น, คู่แข่งทางการค้า-ธุรกิจ, กฎระเบียบของแต่ละประเทศ และต้นทุนที่ต้องเพิ่มขึ้น

ดร.สมคิด ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ที่พลิกบทบาทมาเป็นประเทศแกนนำในการขยายตัวในการลงทุนทั่วอาเซียน ด้วยการใช้ "JETRO-Japan external trade organization" หรือเจโทร ทำหน้าที่เหมือนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) รวมกับสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ.)

ดังนั้น ในวาระที่จะเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน ไทยควรเดินทางแนวทางญี่ปุ่น ที่มีทั้งเอ็กซิมแบงก์และบีโอไอ. ร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนายกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME bank) เป็นโค้ชชิ่ง-พี่เลี้ยง ให้กับภาคธุรกิจไทย

ภาคธุรกิจไทยต้องจัดระเบียบใหม่ ซึ่งอาจจะต้องมีกลุ่ม-cluster สำหรับประชาคมอาเซียน

พร้อมๆ กันต้องมีกองทุนประชาคมอาเซียน เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจไทย ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ช่วยให้เอกชนปรับตัวจาก นักลงทุน Local สู่การเป็นนักลงทุนระดับบริษัทข้ามชาติ สัญชาติไทย

ภาคเอกชนทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย หรือสมาคมผู้ส่งออก ควรทำข้อเสนอให้รัฐบาล เพื่อก้าวเดินไปพร้อมกัน

ทางหนึ่งนักธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชน ได้รู้ตัว ตั้งตัวได้เตรียมตัวเข้าสู่ระบบธุรกิจ เศรษฐกิจอาเซียน ทางหนึ่งภาคเอกชน จะได้เห็นเส้นทางภาครัฐในฐานะ "ตัวช่วย" เข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ทางที่เป็นไปได้มากที่สุด ภาครัฐควรปรับบทบาทให้ "บีโอไอ." เป็นพี่เลี้ยงมีบทบาทต่อการลงทุน ทำการค้าในต่างประเทศ เช่นเดียวกับที่ "เจโทร" ทำการค้าการลงทุนให้ญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จมาแล้ว

เพราะจากนี้ไป ประเทศไทยต้องเข้าไปอยู่ในลู่แข่งขัน กับนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น

ทั้งหมดนี้คือ วิสัยทัศน์ส่าสุดของ "ดร.สมคิด" ในฐานะคนเคยคิดใหม่ ทำใหม่ ในลู่ทางแข่งขันทางการค้า ที่นับวันยิ่งไร้พรมแดน

เช่นเดียวกับลู่แข่งทางการเมืองของ "ดร.สมคิด" ที่ยังคาดเดาได้ยากว่า จะเข้าสู่การแข่งขันที่เข้มข้นในรูปแบบใด



++

รวมมิตร "นายกฯ ปู" พูดผิด-กดมือถือในขบวน หอแต๋วแตก-ไหว้พี่เค้าซะสิ
คอลัมน์ แมลงวันในไร่ส้ม ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1652 หน้า 78


"คู่กัด" บนพื้นที่ข่าวสารต่างๆ ทั้งในสื่อกระดาษและออนไลน์ ยังคงเป็นพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์

ประเด็นปะทะกัน มีตั้งแต่ กรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรียกหาดใหญ่เป็นจังหวัดหาดใหญ่ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นประธานาธิบดีมาเลเซีย ไปจนถึงการที่มีภาพนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กำลังกดโทรศัพท์มือถือ ระหว่างรอเดินในขบวนอัญเชิญพระโกศ เมื่อวันที่ 9 เมษายน

เรียกแขกหน้าเก่าๆ ให้ดาหน้าออกมาโจมตี

พรรคเพื่อไทยได้จังหวะเอาคืน ระหว่างการอภิปรายผลการพิจารณาศึกษาแนวทางการปรองดองในสภา เมื่อวันที่ 5 เมษายน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรค แซว ส.ส. พรรค ปชป. ที่ประท้วงการอภิปรายว่า ให้นึกเสียว่าเป็นโฆษณาคั่นหนังเรื่อง "หอแต๋วแตก"

ก่อนจะทิ้งท้าย กรณีพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่มาเดินเกมปรองดอง

ณัฐวุฒิ ชี้ว่า แท้จริงแล้ว พล.อ.สนธิ คือผู้มีบทบาทอย่างสำคัญ ในการทำให้พรรคการเมืองหนึ่ง ได้เป็นรัฐบาล

ก่อนจะทิ้งหมัดด้วยมุขจิ๊กโก๋ๆ ว่า "ไหว้พี่เค้าเสียสิ"

คลิปบันทึกสองเหตุการณ์นี้ ระบาดไปตามเว็บต่างๆ อย่างครึกครื้น



กรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พูดผิด มีผู้นำเอาข้อความในบล็อก Sirichoke Sopha ใน OK Nation มาแปะไว้ในห้องราชดำเนิน เว็บพันทิป เมื่อวันที่ 8 เมษายน

ข้อความจาก Sirichoke Sopha ระบุว่า "...จากจังหวัดหาดใหญ่ ข้ามฟากไปมาเลย์ฯ ยกระดับนายกมาเลย์ให้เป็นประธานาธิปดี ฮั่นแน่..."

เรียกคอมเมนต์ตามมาอย่างคึกคัก อาทิ

ดีนะ ที่แค่พูดผิดๆ ถูกๆ เป็นประจำ แต่ถ้าขืนเป็นพวกพูดแล้วไม่ทำ ผมโกรธตายเลย (pockz)

เหนื่อยนะครับ เกิดมาเป็นสาวกพรรคแมงสาบนี่ วันๆ ต้องมานั่งคอยหาประเด็นมาด่ารัฐบาล วันสองวันมานี่พยายามจุดประเด็นเรื่องทักษิณกับนายกไปพบแกนนำพูโล ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นเรื่องเท็จ พรรคแมงสาบสร้างเรื่องขึ้นมาเอง ถูกชาวบ้านด่าเละกลับไป พอไม่มีเรื่องให้จับผิดก็หันมาเล่นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ อย่างนายกพูดผิดเช่นกระทู้นี้เป็นต้น (ขุนเข่าหน้าเปื่อย)

อาการของคนขี้แพ้ (มือพิณเขย่าโลก), มาร์คชั่งไข่ต้องใช้เงิน ปูปล่อยไก่แต่ได้เพื่อน (ทองรำไร)

คราวนี้ขอให้จุดติดนะครับ เอาให้เป็นกระแสสังคมไปเลยยิ่งดี แป้กมาหลายเรื่อง ไอ้แพงทั้งแผ่นดินก็มอดไปแล้ว เป่าหนักๆ หน่อยครับ (FCPOTO)

พูดผิดกับพูดมากแล้วโกหกอันไหนดีกว่ากัน (คุณชายทหารไทย)



และในวันพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี 9 เมษายน

ศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนในริ้วขบวนอิสริยยศอัญเชิญพระโกศ เผยแพร่ภาพดังกล่าวต่อด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า "รูปนี้มีการแชร์กันแพร่หลาย ควรไม่ควรดูกันเอาเอง"

เฟซบุ๊กของนักจัดรายการทีวีคนหนึ่ง เปิดประเด็นดังกล่าวขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกัน

ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างคึกคัก

แม่เฒ่าแดง รักชาวประชา---เป็นภาพเหตุการณ์ ระหว่างยืนรอจัดริ้วขบวน พิธีเริ่มเดินจริง นายกปูต้องเดินนำหน้าผู้นำเหล่าทัพ

งุงิ งุ่มง่าม---ถามว่า ปิดมือถือตอนพิธีเริ่ม มันผิดตรงไหนบอกผมทีครับ ไม่มีอะไรจะเอามาเล่นแล้วหรือครับ

Chanaphan Setthawaisayaphong---เกิดมาชีวิตนี้ไม่เคยเห็นผู้นำประเทศเค้าปิดมือถือกันกลางพิธีการเลยครับ

งุงิ งุ่มง่าม---งั้นดูนี้ครับ โทร.กลางงานเลยครับ เคยเห็นหรือยังครับ พร้อมกับนำเอาภาพอดีตนายกฯ คนหนึ่ง กำลังพูดโทรศัพท์ ขณะยืนเรียงแถวรอถ่ายภาพ ในการประชุมนานาชาติ

เด็กควบคุมพิเศษ---น่าจะหาข้อมูลว่าเขาทำอะไรกันแน่ ถ้าเขากำลังปิดมือถือแล้วพาดหัวเรื่องว่า ไม่เหมาะ อันนี้ไม่ควรนะ

ภาพเห็นๆ อยู่ในโทรทัศน์ ตอนนายกเดินเขาเดินนำหน้าผู้นำเหล่าทัพ ส่วนภาพที่เป็นข่าวนี้นายกอยู่หลัง แสดงว่ายังไม่ได้เริ่มพิธี และมีโอกาสเป็นไปได้ถึง 99% ว่าเขาปิดมือถือ ก่อนมาอยู่หน้าผู้นำเหล่าทัพและพิธีจะเริ่ม

อีกอย่างคนที่เสพข่าวตอนนี้คงต้องเสพทั้งสองด้านเพราะขนาดสื่อกระแสหลักยังโน้มเอียง และอย่าหวังว่ายิ่งลักษณ์จะออกมาตอบโต้นะ เพราะเขามุ่งแก้ไข ไม่ได้มุ่งแก้แค้น See More6 hours ago

ในเว็บบอร์ดประชาทอล์ก มีอีกกระทู้ออกมาสวนว่า

"ด่านายกยิ่งลักษณ์จนเพลิน ระวังเดี๋ยวจะมีการขุดเอารูปสมัยนายกคนหนึ่งที่เอาดอกไม้จันทน์ มาหมุนเล่น จนโดนด่าไปทั้งประเทศ"

"...นึกถึงงานใหญ่ และสำคัญมาก ที่มีนายกท่านหนึ่งเอาดอกไม้จันทน์มาหมุนเล่นไปมาในขณะที่รอพิธีการ จนนักข่าวจับภาพได้ โดนด่าไปหลายวันเลย" (narutojung / 10 เม.ย.)



ผลจากการปะทะ ทำให้เกิดกระทู้ถามในห้องราชดำเนินว่า ทำอย่างไร ปชป. ถึงจะชนะเลือกตั้ง?

คำตอบที่เสนอเข้ามาเข้มข้นน่าสนใจ อาทิ

1.เปลี่ยนหัวหน้าพรรค 2.เชิญชวน หรือขอร้องให้ยุบพรรคต่างๆ ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยมารวมกับประชาธิปัตย์ สู้กับเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวหน้า

3.กำหนดนโยบายที่เป็นรูปธรรมในการหาเสียงที่เพื่อไทยยังไม่ได้ทำ (มีอยู่มากมาย เช่น การปฏิรูปที่ดิน การเก็บภาษีมรดก การเปิดมหาวิทยาลัยครบทุกจังหวัด การพัฒนาสถาบันกองทัพไทย การกระจายอำนาจ การจัดการศึกษาสู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม ฯลฯ)

4.หยุดการเล่นพวก 5.หยุดวาทกรรมใส่ร้าย เล่นสำนวน มีโฆษกพรรคที่พูดจาสุภาพ มีเหตุมีผล (ถ้าได้ผู้หญิงก็ดี) / จริงใจ (enpee)

อีกความเห็น เข้ามาโต้แย้ง คงทำไม่ได้ เพราะ

1) หัวหน้าพรรค คนปัจจุบัน ไม่ยอม 2) มือตอนนี้เป็นหิด มัวแต่เกา (ไม่ถูกที่คัน) 3) นโยบายไม่มีใครเชื่อแล้ว ครั้งที่แล้ว บอก 99 วัน แต่ 2 ปี ก็ไม่สำเร็จ 4) ไม่เคยเล่นพวกอ่ะแต่พวกเขาเล่นเอง 5) ทำเป็นอย่างนี้อย่างเดียวเลยอ่ะ (sb*star)

พรรคนี้เล่นแต่เกมการเมืองแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่สมัยเตี่ยบรรหารแล้ว มาสมัยนี้ พื้นที่รับน้ำบ้างละ โฟร์ซีซั่นสวรรค์ชั้น 7 บ้างละ เดี๋ยวก็ตั้งฉายารัฐบาล (กี่ฉายาแล้วก็ไม่รู้แต่ไม่ติดหูซักชื่อ สู้ประชาชนชูป้ายหนเดียวไม่ได้ ติดตัวไปตลอดชีวิตเลย) แขวะคนโน้นด่าคนนี้ นี่ล่าสุดมาสร้างนิยายปรีดีฆ่ายุค 2555 ทักษิณถ่ายรูปกับพูโล (บอกเอามาจากเว็บ แต่เว็บพูโลนี่มันมีตัวตนด้วยรึ) (Number 31)

คงต้องโทษการปรับตัวเข้าโลกใหม่ไม่ได้ของบรรดาแกนนำพรรคละครับ แค่การหาผู้นำพรรคใหม่ๆ เก่งๆ ไม่ได้ แสดงว่าพรรคยังต้องตกอยู่ในสภาพไล่ตามพรรคคุณทักษิณต่อไป (mayerboss)

นั่นคือ "อารมณ์ความรู้สึก" ของสังคมบางส่วน ที่มีต่อบทบาทการเปิดประเด็นสร้างข่าวสารของพรรคประชาธิปัตย์



.