http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-06-27

เช็กสต๊อกหนังสือ เดือน มิ.ย.55 โดย หนุงหนิง

.
sms ข่าวTPNews - 28 มิ.ย. เสื้อแดงนัดอวยพรวันเกิด 70 ปี " อ.สุรชัย ด่านฯ" เรือนจำพิเศษฯ 9.30 น.
- " คณิน บุญสุวรรณ " นำทีม สสร.40 ชน ศาล รธน. ชี้เป็นตัวการก่อวิกฤติรอบใหม่ 
- ธิดานำคณะเปิดโรงเรียน นปช.-เสื้อแดงที่เยอรมัน / 29 มิ.ย. เปิดที่เดนมาร์ค

________________________________________________________________________________________


เช็กสต๊อกหนังสือ เดือน มิ.ย.55
โดย หนุงหนิง www.facebook.com/malai.chantarayota  www.matichonbook.com
เลือกเรียบเรียงจาก คอลัมน์ เช็กสต๊อกหนังสือ ในมติชนสุดสัปดาห์ ปีที่ 32 ฉบับที่ 1659 - 1662


ศิลปวัฒนธรรม (ฉบับเดือนมิถุนายน 2555, ราคา 120 บาท)
ฉบับครบรอบ 80 ปี การปฏิวัติประชาธิปไตย เดือนมิถุนายน 2475

เรื่องราวภายในฉบับนี้ รับรองว่าเต็มอิ่มกับเหตุการณ์สำคัญนี้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์นาทีปฏิวัติ 2475 รู้ป่ะที่บอกกันว่าเวลาย่ำรุ่งน่ะ มันเป็นเวลากี่โมง พระยาพหลฯ ยืนอ่านประกาศอะไร ตรงไหน โดย ปรามินทร์ เครือทอง 
ส่วน ปฐมพงษ์ สุขเล็ก ก็มีเล่าเรื่องราว หอระฆัง วัดแคนอกกับคำสาบานก่อนวันยึดอำนาจ 
และ แลหลังกบฏปฏิวัติรัฐประหารในการเมืองสยามไทย โดย ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
รับรองความแซ่บเว่อร์ ทุกเรื่องเลยค่ะ



กบฏเจ้าฟ้าเหม็น (สำนักพิมพ์มติชน, จำนวน 240 หน้า, ราคา 170 บาท) โดย ปรามินทร์ เครือทอง 


"เจ้าฟ้าเหม็นเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี กับเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ ลูกสาวของเจ้าพระยาจักรี ขุนนางที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดินกรุงธนบุรี ซึ่งต่อมาปราบดาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เท่ากับว่าทรงเป็น "ลูกเจ้าตาก" เป็น "หลานรัชกาลที่ 1" และมาสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 2 ด้วยคดีกบฏ โดยการตัดสินของพระองค์เจ้าชายทับ หรือต่อมาก็คือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว"
แม้เจ้าฟ้าเหม็นจะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว หากแต่เรื่องราวของคดีไม่ได้จบตามไปด้วย 
เนื่องว่ามีเบื้องหลังและประเด็นที่น่าสนใจทิ้งไว้ให้ค้นหา ซึ่งแต่ละประเด็นล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังที่มาของคดีกบฏเจ้าฟ้าเหม็นที่ว่า มีอีกาคาบบัตรสนเท่ห์เจาะจงมาทิ้งลงหน้าพระบรมศพรัชกาลที่ 1 ที่หน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อันเป็นที่ตั้งพระบรมศพขณะนั้น 
โดยในบัตรสนเท่ห์นั้นกล่าวหาว่าเจ้าฟ้าเหม็นกับพวกเป็นกบฏ จนเป็นเหตุให้พระองค์ถูกตัดสินประหารชีวิต
หรืออาจจะเป็นเพราะ *ตัดหวายอย่าให้เหลือหน่อ ฆ่าพ่ออย่าให้เหลือลูก*
ซึ่ง ปรามินทร์ เครือทอง ผู้เขียนกล่าวว่า นอกจากพระประวัติที่น่าสนใจอย่างยิ่งแล้ว คดีบกฏเจ้าฟ้าเหม็นยังเป็นเบาะแสสำคัญให้ค้นหาข้อเท็จจริงที่ว่าคดีนี้เป็นคดี "ส่วนตัว" ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างพระราชวงศ์ทั้งสองจริงหรือไม่ 
โดยเฉพาะข้อกล่าวหาฉกรรจ์ที่ว่า "ลูกเจ้าตาก" คิดล้มล้างพระราชวงศ์ใหม่ และในทางกลับกันที่พระราชวงศ์ใหม่ใช้คดีนี้เพื่อกวาดล้าง "ลูกเจ้าตาก" ข้อกล่าวหานี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และมีความจริงมากแค่ไหน... 
เจ้าฟ้าเหม็นมีพระชาติกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ เป็นลูกของพระมหากษัตริย์ แต่ด้วยความที่เป็นลูกกษัตริย์นี่เอง กลับเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายพระองค์เกือบตลอดพระชนม์ชีพ 
จนเรียกได้ว่าเป็นเจ้าอาภัพที่สุดพระองค์หนึ่งในพงศาวดาร



ชนะโรคด้วยเสียงหัวเราะ (สำนักพิมพ์มติชน, จำนวน 272 หน้า, ราคา 185 บาท) พลอยแสง เอกญาติ แปลจากเรื่อง How Can You Not Laugh at a Time Like This? ผลงานของ คาร์ล่า อัลบริช

แน่นอนว่าวินาทีที่ไม่ว่าใครก็ตามรู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้าย ต่อให้เป็นคนที่มีอารมณ์ขันเหลือเฟือเพียงใด มองโลกในแง่ดีขนาดไหน แทบทุกคนคงหัวเราะไม่ออก
คาร์ล่าก็ไม่ต่างกัน แต่เธอก็ไม่เคยสูญเสียความเชื่อมั่น และบอกตัวเองว่าฉันจะต้องหายดี
ความหวังนั้นทรงพลัง ตราบใดที่มีความหวังก็ยังมีอนาคตรออยู่
หนังสือเล่มนี้เป็นผลจากหลายปีที่คาร์ล่าค้นคว้าจนพบทางออกที่ดีกว่าการแพทย์แผนหลัก เธอไม่ได้ทิ้งการแพทย์แผนหลักไปเลย แต่ก็ไม่ได้ยึดมั่นอยู่กับมันเพียงอย่างเดียว เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการ "บริหารจัดการ" โรคด้วยยาไปตลอดชีวิต และต้องการมีสุขภาพดีอีกครั้ง
วันนี้อาจยังไม่รู้คำตอบทุกอย่าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าชื่นใจที่สุดแล้วที่ยังมีไตคู่เดิม และอาการก็ดีกว่าที่แพทย์เคยคาดการณ์ไว้ กินยาน้อยลง 
คาร์ล่าบอกกับผู้อ่านทุกคนว่า "อาการที่ดีขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ฉันทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมา ฉันต้องพิจารณาลงไปถึงจิตวิญญาณของตนเองและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กิน การออกกำลังกาย การจัดสรรเวลา และคนที่ใช้เวลาด้วย
และที่สำคัญคือ
ฉันเรียนรู้ว่าการมีอารมณ์ขันเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ"
หนังสือเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้เจ็บป่วยด้วยรอยยิ้มของหญิงสาวผู้มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่สดใส 
ซึ่งในที่สุดเธอก็ชนะมันได้จริงๆ



ลืมไปเลยว่าเคยลืม (สำนักพิมพ์วีเลิร์น, จำนวน 187 หน้า, ราคา 170 บาท) พรเลิศ อิฐฐ์ แปลจากเรื่อง You Can Have an Amazing Memory

โดมินิก โอเบรียน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้บอกว่าเรื่องราวของเขาคือข้อพิสูจน์ที่เป็นจริงที่สุดที่ว่า ใครๆ ก็สามารถเป็นคนที่มีความจำยอดเยี่ยมได้ ชนิดที่จดจำทุกสิ่งได้อย่างแม่นยำและไม่มีวันลืม ด้วยการใช้เทคนิคการฝึกที่เขาแนะนำ 
โดยเขาบอกว่า เมื่อตอนเด็กเขาถูกตราหน้าว่าเป็นพวกหัวขี้เลื่อย เรียนไม่ทันเพื่อน จำอะไรไม่เคยได้ ถึงขั้นที่ครูประจำชั้นบอกว่าหัวสมองอย่างเขาคงไม่มีทางทำอะไรสำเร็จได้ในชีวิต 
แต่อีก 15 ปีต่อมา เขาก็ค้นพบเคล็ดลับบางอย่างที่พลิกชีวิตของเขาจนกลายเป็นคนที่มีความจำดีที่สุดในโลก โดยครองตำแหน่งแชมป์โลกด้านความจำถึง 8 สมัยซ้อน พร้อมทั้งทำลายสถิติโลกอีกมากมาย 
โดมินิก บอกว่า ถ้าเขาทำได้ ใครๆ ก็ทำได้ โดยเคล็ดลับทั้งหมดที่ว่าก็อยู่ภายในเล่มนี้



ผิดที่ฆ่า (น้ำพุสำนักพิมพ์, จำนวน 356 หน้า, ราคา 230 บาท) ธันยุดา บูรณวุฒิ แปลจากเรื่อง Alone ผลงานของ Lisa Gardner 

บ็อบบี้ ดอดจ์ *สไนเปอร์พลซุ่มยิง* แห่งหน่วยยุทธวิธีและปฏิบัติการพิเศษในสังกัดกรมตำรวจรัฐแมสซาชูเสตต์
พลซุ่มยิงของตำรวจฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจุดประสงค์ข้อเดียวเท่านั้นนั่นคือ หยุดการกระทำของเป้าหมายที่กำลังจ่อนิ้วติดไกปืนได้ทันท่วงที
เพื่อช่วยสองแม่ลูกซึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน และคนร้ายที่กำลังเล็งปืนไปที่ศีรษะของเหยื่อ ยิง สัญชาตญาณบอกให้บ็อบบี้เหนี่ยวไกทันที และเขาก็เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่ทว่า "เรื่องราวกลับตาลปัตรเมื่อบ็อบบี้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เสียเอง ซ้ำร้ายคนใกล้ชิดของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นยังถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดทีละคน สภาพศพสยดสยองสะท้อนถึงจิตวิปริตของคนร้าย ความหวาดผวาตามหลอกหลอนทุกคนที่เกี่ยวข้อง"
บอกต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ เอาเป็นว่าแค่ต้องการปกปิดเรื่องอัปยศของตัวเองและคนบางคน
ต่อให้ต้องทำเรื่องเลวร้ายขนาดไหนก็ยอมทำ



มหัศจรรย์เห็ด (แฮปปี้บุ๊ค พับลิชชิ่ง, จำนวน 160 หน้า, ราคา 150 บาท) เรียบเรียงโดย ภัทระ ฉลาดแพทย์ และ วชิระ จึง

เราคุ้นเคยกับเห็ดในฐานะของอาหารรสเลิศ ซึ่งนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารได้สารพัด แล้วก็ยังรู้ต่อไปอีกว่า เห็ดมีสรรพคุณบำรุงร่างกายมีประโยชน์มากมาย
แต่หนังสือเล่มนี้จะบอกเราว่า คุณค่าของเห็ดมีมากกว่านั้น โดยใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้อย่างมหัศจรรย์ด้วยนะเออ
โดยเรียกเห็ดพวกนี้ว่า "เห็ดทางการแพทย์" ให้สารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเลือด ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านกระบวนการอักเสบภายในร่างกาย ฯลฯ
อั่ยย่ะ มหัศจรรย์จริงๆ 
แต่อย่างไรก็ยังขาดผู้มีความรู้ในเรื่องนี้อยู่อีกมาก ว่าอันไหนกินเป็นอาหาร อันไหนใช้เป็นยา และอันไหนเป็นพิษ
ผู้เขียนเขาบอกว่า เห็ดนั้นหากใช้ได้ ใช้เป็น และรู้ฤทธิ์ของมันอย่างถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์มหาศาล
แต่หากใช้ไม่ถูก ไม่มีความรู้ ก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้เช่นกันนะเธ้อ
หนังสือเล่มนี้จะให้ความกระจ่างทั้งหมดนี้แก่คุณค่ะ



อร่อยง่ายๆ กับอาหารปลากระป๋อง

เมนูในเล่มเลือกใช้อาหารกระป๋องที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยและนิยมมีไว้ติดครัว ไม่ว่าจะเป็นปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ ปลาทูน่ากระป๋อง ผักกาดดองกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง  
มาดัดแปลงเป็น 51 จานอร่อยที่ทำง่าย สะดวก และราคาประหยัด เช่น 
สตูซี่โครงหมูลิ้นจี่ ห่อหมาปลาทูน่าใบชะพลู แกงอ่อมไก่ผักกาดดอง ต้มโคล้งปลากระป๋อง เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดหอยลาย อกเป็ดซอสสับปะรด ฯลฯ
ใครที่เคยทำแต่ มาม่ากับปลากระป๋อง มาตลอด ลองมาเปลี่ยนดูมั่งก็ดีนะ อิอิ 



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

รู้ป่ะนักกีฬาอะไร ที่สาวๆ กรี๊ด เพราะอะไรไปดูกันเล้ย

นักปีนเขา
เพราะความใฝ่ฝันของเขาคือจุดสุดยอดและเขามักไม่ไปคนเดียว กรี๊ดดด...สุภาพบุรุษที่สุด

นักยิมนาสติก
เพราะทุกท่าของเขาล้วนมีคะแนนเสมอนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักยิมนาสติกลีลาอีกนะ ไม่ให้กรี๊ดได้งายยย

นักกอล์ฟ 
เพราะเขาสามารถตีได้ถึง 18 หลุมในวันเดียว (โอ้วว์)

นักฟุตบอล 
คุณไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะยิงไม่เข้าประตู

นักเต้นรำ
เพราะเขาจะถามคุณก่อนเสมอว่า "ชอบจังหวะไหนครับ"

นักรักบี้
เพราะลีลาการปล้ำของเค้าสะใจอย่าบอกใคร (อย่าๆ จินตนาการมากนักสาวๆ)

นักว่ายน้ำ
เพราะมีให้เลือกตั้งหลายท่า ขอให้บอกจัดให้ได้ทั้งนั้นขอรับคุณผู้หญิง

ทันตแพทย์ 
เพราะเค้าจะถามคุณด้วยความห่วงใยเสมอว่า "เสียวไหมครับ" (พร้อมกับเช็ดน้ำลายให้ด้วยอีกแน่ะ)



.