http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-06-12

หนุ่มเมืองจันท์: ดึกแล้วทำอะไรดี

.

ดึกแล้วทำอะไรดี
โดย หนุ่มเมืองจันท์ boycitychan@matichon.co.th www.facebook/boycitychanFC คอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1660 หน้า 24


อาจเป็นเพราะอาชีพนักข่าวที่เลิกงานดึก 
ดังนั้น เมื่อเห็น "สุดยอดธุรกิจกลางคืน" ที่นักศึกษาปริญญาโท สาขาการตลาดของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เสนอในการสัมมนาเรื่อง "Biz after work" หรือธุรกิจหลังเลิกงาน 
ผมกด like ทันที

น้องนักศึกษากลุ่มนี้เขาทำวิจัยคนทำงานกลุ่มอายุระหว่าง 30-44 ปี หรือที่เรียกว่า "เจเนอเรชั่นเอ็กซ์" และกลุ่ม "เจเนอเรชั่นวาย" อายุ 20-29 ปี ทั้งหมด 440 คนในพื้นที่กรุงเทพฯ 
รายได้ของกลุ่มเจนฯ เอ็กซ์ ประมาณ 35,000-50,000 บาท
ส่วนเจนฯ วาย ประมาณ 18,000-24,000 บาท

เชื่อไหมครับว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างใช้ชีวิตกลางคืน
ทั้งเที่ยวกลางคืน ทั้งทำงานตอนดึก 
ส่วนใหญ่จะเป็นวันศุกร์-เสาร์ 
รองลงมาคือ วันพุธ
เหตุผลคือทำงานมาตั้ง 2 วันแล้ว วันที่ 3 ขอคลายเครียดหน่อย
ฟังดูคล้ายๆ "ข้ออ้าง" มากกว่า 
จริงๆ คือ อยากเที่ยวแล้ว

และเมื่อถามถึงกิจกรรมยามค่ำคืนนอกจากการเที่ยวสถานบันเทิงแล้ว อยากได้อะไรอีก 
กิจกรรมที่มีการพูดถึง คือ ร้านขายเครื่องดื่ม ล้างรถ หรือเล่นกีฬา เช่น สนามฟุตบอล แบดบินตัน ฯลฯ 
แต่เมื่อสรุปข้อมูลทั้งหมดแล้ว มีธุรกิจที่น่าสนใจ 5 ธุรกิจ คือ
1. ห้างสรรพสินค้าที่เปิดถึงตี 2 
2. ร้านอาหารที่มีชื่อเสียง เช่น เอ็มเค สุกี้ ฟูจิ หรือบาร์บีคิวพลาซ่า น่าจะเปิด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับนักเที่ยวกลางคืน เพราะนักเที่ยวกลุ่มนี้เบื่อร้านข้าวต้ม หรือร้านหมูกระทะริมถนนเต็มที 
3. ร้านนวดสปา เพราะตอนนี้ปิดรับคิว 4 ทุ่ม แต่บางคนเพิ่งเลิกงาน อยากไปนวดสปาพักผ่อนก่อนนอน 
4. ร้านตัดผม เหตุผลก็คล้ายๆ ร้านนวดสปา

ในจำนวน 4 ธุรกิจนี้ ผมกด like ทันที 3 ธุรกิจ
คือ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม เพราะตรงกับใจสุดๆ
ส่วนร้านนวดสปานั้นคงเป็นความต้องการของสุภาพสตรีมากกว่า 

ถ้าเป็นสุภาพบุรุษแบบ "อมร" คงคิดอีกอย่างหนึ่ง
"อมร" คงคิดถึงสถานปฏิบัติธรรมมากกว่า 
เขาอยากนั่งสมาธิแบบพองหนอ...
...ยุบหนอ



ผมเคยคุยกับเจ้าของ "โชคดีติ่มซำ" 
เขาเปิดขาย 24 ชั่วโมง 
ตอนนี้ในเมืองกรุงมี 18 สาขา เปิดขาย 24 ชั่วโมง 12 สาขา 
ถ้าจำไม่ผิด ยอดขายช่วงดึกจนถึงเช้าของเขาประมาณ 30-40%

หรือ "แมคโดนัลด์" ก็เปิดขาย 24 ชั่วโมงหลายสาขา
เพราะเขารู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่ความสว่าง 
คนที่ใช้ชีวิตกลางคืนมีไม่น้อยนะครับ 
มีทั้งคนทำงาน นักเที่ยว และพนักงานตามสถานบริการ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตอนเช้าตรู่ด้วย

อย่างผม เลิกงานประมาณ 2 ทุ่มเป็นต้นไป 
ว่างตอนดึก แต่ขยับตัวไปไหนก็ปิดหมดแล้ว 
จะไปวัด พระก็จำวัดแล้ว 
จะไปห้างสรรพสินค้าก็ปิดตอน 4 ทุ่ม 
แค่ขยับตัวจากที่ทำงานไปถึงห้าง ก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว 
เข้าไปซื้อของ พนักงานก็เริ่มมองหน้า
เธออยากเก็บของ เตรียมกลับบ้านแล้ว

อยากเดินซื้อเสื้อผ้า หรือซื้อของที่อยากได้แบบสบายๆ ก็ไม่ได้
สุดท้ายก็ต้องรอวันเสาร์หรืออาทิตย์ ซึ่งคนแน่นน่าเบื่อ
เช่นเดียวกับร้านอาหาร พ้น 2 ทุ่มแล้ว หาร้านในห้องแอร์ยากมากเลย 
อยากกินร้านอร่อยๆ นั่งสบาย แต่ไม่ใช่ผับหรือร้านที่มีดนตรี
หาไม่ได้เลยครับ

"ตัดผม" ก็เหมือนกัน
เรื่องนี้โดนใจมาก 
คนขี้เกียจตัดผมอย่างกระผม อยากตัดผมหลังเลิกงาน 
ขี้เกียจไปตัดผมในห้างวันเสาร์ อาทิตย์ 
แต่หาร้านที่เปิดดึกๆ ไม่ได้เลย 
ขยับเข้าไปทีไร เจอมองหน้าแบบคล้ายๆ "ไม่รู้จักที่ต่ำ-ที่สูง" 
ไม่รู้จักเวล่ำเวลา

ดังนั้น ถ้ามีศูนย์การค้าเล็กๆ ที่กล้าสร้างความแตกต่าง 
เปิดขายตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า 
มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง ร้านอาหารดังๆ ร้านตัดผม ร้านสปา 
กลุ่มเป้าหมายคือคนทำงานดึก นักเที่ยว 
ขอให้เลือกทำเลดีๆ และตีโจทย์ให้แตก
ผมเชื่อว่า "โดน"



ธุรกิจยามค่ำคืนที่น่าสนใจมี 5 ธุรกิจ
บอกไปแล้ว 4 เหลืออีก 1 
ธุรกิจนี้รู้เลยว่าคนตอบแบบสอบถามต้องเป็น "นักเที่ยว" 
เขาบอกว่าธุรกิจที่อยากได้มากที่สุดคือ "บริการคนขับรถส่วนตัว"
นักเที่ยวกลุ่มนี้อ้างว่าเขาไม่อยากใช้บริการรถแท็กซี่เนื่องจากไม่เป็นส่วนตัว
เขาอยากให้มีบริการคนขับรถส่วนตัว 
ถ้ารู้ว่าคืนนี้เมาแน่ก็ลงชื่อใช้บริการล่วงหน้าก่อนเมา 
พอถึงเวลากลับก็มีคนขับรถแทน 
ทั้งปลอดภัย เจอด่านตรวจก็ไม่มีปัญหา

แต่ถ้าให้ทายใจ ผมว่าคนกลุ่มนี้อยากทำงานเสร็จก็ขับรถมาเที่ยวเลย
ไม่ใช่จะไปเที่ยวแล้วต้องวางแผนว่าคืนนี้จะดื่มขนาดไหน
ดื่มน้อยจึงจะเอารถส่วนตัวไป 
ถ้ารู้ว่าเมาแน่คืนนี้จะไม่เอารถไปก็ต้องวางแผนว่าหากนั่งแท็กซี่ไปเที่ยว จะจอดรถส่วนตัวไว้ที่ไหน 
หรือจะเอารถไป พอเมาก็นั่งแท็กซี่กลับ จอดรถทิ้งไว้ที่ร้าน 
ก็กลัวรถหายอีก
วุ่นวายมากเลย

ดังนั้น ถ้ามีบริการคนขับรถส่วนตัว โทร.ไปปั๊บ เขาก็ส่งคนขับมาเลย
มีระบบดีๆ ลงทะเบียนคนขับเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า 
กลุ่มนักเที่ยวกระเป๋าหนักกลุ่มนี้ยินดีซื้อบริการทันที 

ฟังแนวคิดธุรกิจแล้วน่าสนใจ แต่ผมสงสัยว่าพอขับรถไปส่งลูกค้าที่บ้านเรียบร้อยแล้ว
"คนขับรถ" จะกลับอย่างไร

จะมีเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์ตาม หรือจะทำอย่างไร
คิดไม่ออกครับ
ใครคิดออกช่วยบอกด้วย



.