http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-06-19

อีแพงฟีเวอร์ อวสานที่ยังอยู่ในใจเสมอ โดย จอห์น วิญญู

.

อีแพงฟีเวอร์ อวสานที่ยังอยู่ในใจเสมอ
โดย จอห์น วิญญู spokedark.tv www.facebook.com/spokedarktv
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1661 หน้า 79


ผมแทบไม่รู้เรื่องปรากฏการณ์ทางความบ้าคลั่งเรื่อง "ผีอีแพง" เลยครับ ได้ยินแต่ชื่อมาเข้าใจอิทธิฤทธิ์ก็ตอนที่เราตั้งชื่อเจาะข่าวตื้นตอนหนึ่งว่า "เจาะผีอีแพง" แล้วยอดวิวพุ่งพรวดๆ ขึ้นในเวลาอันรวดเร็วผิดผีนั่นแหละ---
อีแพงแผลงฤทธิ์เอากะผมอีกครั้งเมื่อคืนวันที่ละครอวสานฝนดันตกหนักตอนเลิกงานพอดี 
และการจราจรก็ปฏิบัติตัวในรูปแบบที่คาดเดาได้เป๊ะ---คือ เป็นอัมพาตเฉียบพลัน โอ้โห คุณเอ๊ย ผมว่าวันนั้นมนุษย์มนาผู้ใช้รถใช้ถนนได้แสดงตัวตนแห่งความอำมหิตจากก้นบึ้งขึ้นมากันอีกคนละหนึ่งถึงสองสเต็ป---ติดละครนะเนี่ยตัวเธอว์!

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมเลยมาตามดูในยูทูบ และตามอ่านที่หน้านิยายในหนังสือพิมพ์รายวัน 
พ่อแม่พี่น้องครับ หลังจากที่ทั้งอ่านทั้งดูอยู่หลายตอนยันตอนอวสาน ผมขอประกาศว่า ละครเรื่องบ่วงเป็นละครประเภท "Feel Good" ครับ
เป็น Feel Good สำหรับเมียหลวง


นี่ถ้าผมไม่รู้ว่าเป็นงานประพันธ์ของ จุลลดา ภักดีภูมินทร์ ล่ะก็ ผมคงคิดว่าเป็นงานประพันธ์โดยนายกสมาคมเมียหลวงแห่งประเทศไทยได้ง่ายๆ เลยครับ 
สมาคมเมียหลวงนี่มีคุณูปการต่อชายไทยมาทุกยุคทุกสมัย ถ้าพวกเรามีเมียน้อย สมาคมเมียหลวงจะบอกว่า เราโดนของ โดนทำเสน่ห์ 
ถ้าเราป่วย (อาจเป็นโกโนเรียจากการซุกซนไม่เลือก) สมาคมเมียหลวงจะบอกว่าเราโดนของ และจะพยายามหาพระมารดน้ำมนต์ให้ แล้วก็ไปปฏิบัติธรรม 
สมาคมเมียหลวงไม่ได้จบอยู่แค่ที่เมียนะครับ แม่เมียก็เป็นสมาชิกสมาคมนี้อย่างเหนียวแน่นเช่นเดียวกัน แม่เมียมีหน้าที่ปกป้องผัวของลูกสาวจากอีนังชะนีที่ร่านไม่เลิก คิดแต่จะจ้องงาบเอาผัวคนอื่นมาเป็นของตน หน้าด้านนนนนนน---

ละครเรื่องนี้เปลี่ยนการตบตีแย่งผู้ชายจากเมียหลวงกับเมียน้อย มาเป็นแม่เมียกับเมียน้อย 
ให้ตายเหอะ อ้อ ขอโทษครับ ตายจริงๆ อ่ะแหละ ขนาดตายไปแล้วเมียน้อยกับแม่ยายยังตามตบตีกันต่อไม่เลิกรา ละครเรื่องนี้ปลอบเหล่าบรรดาเมียหลวงว่า การที่มีผู้หญิงอีกคนตามราวีแย่งผัวในชีวิตนั้นเป็นเรื่องของผลกรรมแต่ชาติปางก่อน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผัวเราในชาติก่อนโดนทำเสน่ห์ยาแฝดมายังไง ชาตินี้ก็ยังคงโดนทำเสน่ห์ ตกอยู่ภายใต้อำนาจไสยศาสตร์มนตร์ดำอยู่ได้ทุกชาติๆ ไม่ได้มีความอยากเอากุดเจี๊ยวไปจิ้มชะนีนางอื่นด้วยตัวเองเป็นแน่  
โถ พ่อคุณ น่าสงสาร 
กุดเจี๊ยวไม่ผิด!!!


ส่วนคุณเมียนะครับ ละครเรื่องนี้บอกว่าควรทำตัวเป็นนางเอกไปเรื่อยๆ เป็นแม่พระผู้ให้อภัย (เพราะเค้ามะได้ตั้งใจทำชั่ว) และที่สำคัญ ต้องเข้าวัดนั่งสมาธิหัดสงบจิตสงบใจตัวเองให้มาก ทำบุญเยอะๆ มีพระอาจารย์ที่ไหนว่าศักดิ์สิทธิ์ต้องไปพบ นั่งสมาธิมากๆ จะระลึกชาติได้ เห็นว่านังเมียน้อยมันร่านเลวและทำกับนางเอกแบบนี้มาตั้งแต่ปางก่อน---  
ตลกมากเลย ยิ่งละครใกล้จบ ยิ่งเห็นพระเยอะ มีฉากในวัดก็เยอะ เดี๋ยวทำบุญ เดี๋ยวไปเยี่ยมหลวงพ่อ เดี๋ยงหลวงพ่อเหาะมา เดี๋ยวจัดปฏิบัติธรรม เรียกได้ว่า พระและวัดคือที่พึ่งอันดับหนึ่งสำหรับทุกปัญหา 
และแน่นอนครับ ในเมื่อเป็นหนัง Feel Good ก็ต้องมีฉากสนองความฝันของกลุ่มเป้าหมายแบบเต็มๆ นั่นก็คือ เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านไปหมดแล้ว (กำจัดเมียน้อยและผีร้ายที่ตามราวีสามีให้ "ไม่เป็นตัวของตัวเอง" ได้สำเร็จ) ก็ต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กผัวเมีย (ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้คุณเมียนางเอกก็มีลักษณะคล้ายแม่ชีเข้าไปมากจนคนดูแอบรู้สึกว่าคุณผัวไม่ควรขึ้นไปนั่งเสมอกัน) โดยที่กล้องเข้าใกล้หน้าพระเอกตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างได้ผ่านพ้นไปแล้ว---ตามไดอะล็อกที่ก๊อบปี้มานำเหนอดังต่อไปนี้

เมียหลวง : "ยังเจ็บไหม" รัมภาถามอาการสามีอย่างอาทร 
ผัว : "ไม่เจ็บเท่าเจ็บใจตัวเอง ทำไมผมถึงทิ้งผู้หญิงสวยแสนดีอย่างคุณได้" 
เมียหลวง : "ฉันคิดถึงคุณ" รัมภาเอื้อมมือจะแตะตัวเขา 
ผัว : "ผมสกปรก ผมอยู่กับผู้หญิงคนอื่น" 
เมียหลวง : "ไม่...ความรักไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ฉันจะไม่ให้เรื่องในอดีตมาตัดสินเราอีก ต่อไปนี้ทุกนาทีของความรักคือสิ่งมีค่า"

ผัวน้ำตาคลอ ดึงภรรยาเข้ามากอดและยกย่องเธอว่า "แม่พระของผม"
เมียหลวง : "เราไม่ได้ชนะเพราะอิทธิฤทธิ์ แต่ความรักของคุณชนะทุกอย่าง"

(เพลงซึ้งยิ่งใหญ่บรรเลงโครมขึ้น) 
เอากะเค้าดิ่ แบบนี้จะไม่ให้เรตติ้งถล่มทลาย ขับรถเหยียบกันเพราะจะรีบกลับไปดูตอนจบเรอะ?

สวยและแสนดีครับ สวยและแสนดี ท่องกันเอาไว้นะ 
เป็นชายไทยนี้แสนสบายเจงๆ พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย เกิดมากี่ชาติก็ไม่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง เบลอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพวกผู้หญิงเค้าจัดการเสร็จสรรพ ยังไงซะ ไม่เมียหลวงได้เราไป เมียน้อยก็ได้เราไป ขั้นลำบากหน่อยก็อาจต้องมีแม่ยายเข้ามาจัดแจง แต่ก็เอาเหอะ สุดท้ายเค้าก็ต่อสู้เพื่อเราทั้งนั้น 
ถ้าผมจะเชื่อเรื่องชาติภพสักหน่อย เกิดกี่ชาติก็ขอให้เกิดเป็นชายไทยละกัน


อ้อ แถมอีกนิด กับละคร Feel Good เมียหลวง มันฮามากครับพ่อแม่พี่น้อง เมียหลวงเอาจริง! สำหรับอีแพง ขนาดเป็นผีบ้าหน้าตาน่าเกลียดมาทั้งเรื่องยังไม่พอนะ พอพระเทศน์จน "คิดได้" แล้วได้ไปเกิดใหม่ ไปเกิดเป็นอะไรรู้มั้ย 
เป็นหมา! 

และการไปเกิดเป็นหมานี้ พระได้อธิบายว่า "จิตจะหลุดลอยไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น ตามสมควรแก่บุญกรรมที่ทำมา" นั่นก็คือ อีแพงก็ต้องไปเป็นหมานั่นเองเนื่องจากอีแพงได้ทำบาปรุนแรงคือฆ่าและทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่โคตรฮาเลยครับ ที่คุณแม่ยายซึ่งเป็นคนเฆี่ยนอีแพงจนตาย ไม่ปรากฏว่าไปเกิดใหม่เป็นอะไร---แต่คาดว่าคงไม่ได้เกิดเป็นหมา เพราะคนที่แกเฆี่ยนจนตายนั้นเป็นคนเลว เป็นผู้หญิงชั้นต่ำ เป็นโสเภณีที่แย่งผัวคนอื่น เรื่องของบาปกรรมมันซับซ้อนครับ

นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่านางแพงเป็นลูกนอกสมรสของท่านเจ้าคุณที่เกิดจากคนใช้ในบ้านหรือไม่ เรื่องนี้บทประพันธ์ก็หาทางออกได้แบบสีข้างถลอกทาถูๆ กันลยทีเดียว ว่าท่านเจ้าคุณเคยเอาแม่นางแพงเป็นเมียจริงๆ นั่นแหละ แต่เป็นไปไม่ได้ที่นางแพงจะเป็นลูกเจ้าคุณเพราะเจ้าคุณเป็นหมัน 
เป็นหมันเพราะตกม้า เมียเจ้าคุณมีหนังสือที่หมอเซ็นยืนยันให้เสร็จสรรพ--  
แหม---เป็นฟิล์มกะแอนนี่เลยทีเดียว อิอิอิอิ




เรื่องน่าฉงนสุดๆ จากการตามอ่านบทโทรทัศน์ในหนังสือพิมพ์รายวันก็คือการที่ได้พบว่า ในยุคสมัยนี้ ที่การเมืองร้อนแรงพรึ่บพรั่บ วาทกรรมเรื่องช่วงชั้น ระบบอุปถัมภ์ ไพร่-อำมาตย์ มันโหมกรอกหูอยู่ทั่วไป ในละครไทยช่วงไพรม์ไทม์ ยังสามารถมีไดอะนาล็อกดังต่อไปนี้ได้ 

(แม่เมียหลวงด่าเมียน้อย) 
"ฮึ! เสื้อผ้าดูก็รู้ว่าไปตัดร้านเดียวกับลูกชื่น ผมเผ้า เครื่องประดับก็เหมือนกัน เอ๊ะ เหมือนได้กลิ่นอะไร อ๋อ นึกออกแล้ว ต่อให้ดัดจริตยังไงก็ยังเหม็นสาบคนใช้..." หรือ คำพูดจำพวก "ตีเสมอ"/"เป็นแค่บ่าวใต้ถุนเรือน"/"ชาติตระกูลต่ำต้อย" และอื่นๆ 
คนติดกันงอมแงม--- 
ซึบซับเข้าสมองกันไปแบบเนียนๆ

อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเดี๋ยวละครเรื่องเดิมๆ นี้ ก็จะถูกทำซ้ำออกมาอีก เพียงแต่เปลี่ยนตัวนักแสดงเป็นดารารุ่นใหม่เหมือนที่ละครเรื่องอื่นๆ ก็ทำๆ กันจนเป็นประเพณีไปละ และแก่นของสารที่ยังคงเดิมก็จะถูกฉายซ้ำซึมซับเข้าสู่ สามัญสำนึก อย่างนุ่มนวล แนบเนียน 
ต่อไป...
รุ่นต่อรุ่น...
เย้ 



________________________________________________________________________________________



.