http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-06-15

ตัวการแห่งความเสื่อม, อ่านเกม ปชป.รุกคู่ขนาน กางกฎหมายบี้“เพื่อไทย” เดินสายนอกสภาปลุก“มวลชน”

.

ตัวการแห่งความเสื่อม
โดย นายดาต้า คอลัมน์ เมนูข้อมูล
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1661 หน้า 21


ผลสำรวจล่าสุดของสวนดุสิตโพลล์ ชี้ออกมาว่า ต้นเหตุของความวุ่นวายทางการเมืองก็คือนักการเมืองเอง สำหรับทางออกประชาชนผู้ตอบแบบสำรวจบอกชัดเจนว่าควรจะแก้ความวุ่นวายในสภาก่อนที่จะบานปลายเป็นความวุ่นวายของบ้านเมือง 
ประชาชนร้อยละ 44.24 รู้สึกเบื่อหน่ายการเมืองอย่างมาก มองว่าการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมืองเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทางการเมือง 
ร้อยละ 27.22 เรียกร้องให้นักการเมืองเป็นแบบอย่างที่ดีของการสร้างความปรองดอง ให้ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของนักการเมืองและการเมืองไทย 
คำตอบแบบนี้ไม่ว่าใครที่ยังพอมีสติที่จะสร้างปัญญาได้สักนิดก็คงจะคิดได้

ลงไปในรายละเอียดของผลสำรวจ พบว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องจากนักการเมืองแต่ละฝ่ายทั้งนอกสภาในสภา ก็ไม่มีอะไรที่เกินกว่าปุถุชนจะคิดได้  
ในคำถาม "รัฐบาลควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ความวุ่นวายทางการเมือง ณ วันนี้บานปลาย" ประชาชนร้อยละ 40.29 บอกว่าต้องใช้เหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ใช้การเจรจาเพื่อทำความเข้าใจ หาข้อตกลงซึ่งเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ไม่หักหาญใช้เสียงข้างมากโดยไร้เหตุผล

สำหรับ "ฝ่ายค้าน" ประชาชนร้อยละ 53.06 ขอให้รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน หันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอม ไม่ใช้อารมณ์หรือความรุนแรงซึ่งจะนำสู่เหตุการณ์ที่วุ่นวายหรือบานปลายยิ่งขึ้นไปอีก และไม่ค้านทุกเรื่อง

เช่นเดียวกับ "ม็อบเสื้อเหลือง" และ "ม็อบเสื้อแดง" ประชาชนร้อยละ 56.49 และร้อยละ 50.72 ไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรง การยั่วยุต่างๆ ที่สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายอื่น


สรุปรวมความ ประชาชนไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายใช้ความรุนแรง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการความสงบ  
แต่ทั้งที่ความต้องการของประชาชนดังกล่าวเป็นเรื่องพื้นฐานมาก 
หากมีจิตสำนึกสักนิด นักการเมืองทุกฝ่ายจะต้องรู้ว่า หากต้องการช่วยกันสร้างศรัทธาให้ประชาธิปไตยซึ่งเป็นระบบการเมืองที่ต่างประกาศเชิดชู ควรจะต้องทำตามที่ประชาชนเรียกร้อง 
ทว่า ที่เห็นและเป็นไป กลับไม่เป็นเช่นนั้น

การไม่ประนีประนอมเกิดขึ้นในทุกเรื่องระหว่างนักการเมืองสองฝ่าย ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่แทบไม่มีใครคิดถึงหลักการที่ควรจะเป็น ต่างฝ่ายต่างใช้อคติสร้างหลักการของฝ่ายตัวขึ้นมาอธิบาย และใช้สื่อเลือกข้างที่ต่างสร้างขึ้นมาขยายแนวร่วมทางความคิดกันให้เกิดความแตกแยกกันหนักขึ้น 
ถึงวันนี้ ประะเทศไทยเราดูเหมือนจะไร้หลักการที่จะยอมรับร่วมกันได้ 
ทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็กมีหลักการเฉพาะฝ่ายเฉพาะพวกขึ้นมาหักล้างกัน โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนเห็นดีเห็นงามไปตามฝ่ายของตนแบบไม่ต้องคิด



ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ขอให้นักการเมืองมีสติ กลับมาสู่พื้นฐานการอยู่ร่วมกันคือรู้สึกประนีประนอม  
นักการเมืองไทยกลับดำรงอยู่ด้วยการต่อเติมอคติ รักพวกตัวเอง เกลียดชังฝ่ายตรงกันข้ามอย่างงมงาย 
ประชาธิปไตยไทยจึงเสื่อมทรุดลงไปทุกวัน
อย่างน่าเศร้าใจ




++

อ่านเกม ปชป. รุกคู่ขนาน กางกฎหมายบี้ "เพื่อไทย" เดินสายนอกสภาปลุก "มวลชน"
คอลัมน์ ในประเทศ ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1661 หน้า 11


เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของสมาชิกพรรประชาธิปัตย์ ในการประชุมสภาวันที่ 12 มิถุนายน 2555 นอกจากจะเป็นการ "ข่ม" สร้างความฮึกเหิมเหนือพรรคเพื่อไทยที่กำลังเล่นบท "ถอย" แบบไม่ค่อยเป็นขบวนแล้ว 
ยังแสดงออกถึงความสะใจเมื่อที่ประชุมสภา มีเสียงสนับสนุนเพียง 318 เสียง ซึ่งไม่เพียงพอและทำให้ญัตติคัดค้านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญตกไป

เป็นคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งตรงมายังรัฐสภา เพื่อขอให้ชะลอการลงมติในวาระ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และเป็นคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์ขานรับ เรียกร้องให้รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และประธานรัฐสภา ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ในสายตานักวิเคราะห์การเมืองอาจมองว่า เป็นการตัดสินใจ "ถอย" เพื่อถอดชนวนร้อน ตลอดจนลดเงื่อนไขทางการเมืองที่ พรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนแนวร่วม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังอาศัยจุดเปราะบางดังกล่าวเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก 
แต่หากมองในอีกด้านหนึ่ง อาจประเมินได้ว่า นี่คือก้าวสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า บทบาทของพวกเขาเริ่มตีตื้น และควานหา "ชัยชนะ" จนเจอบ้างแล้วเหมือนกัน 
และยังกลายเป็น 2 ยุทธศาสตร์คู่ขนานที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังเลือกเดินหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง



ประการที่หนึ่ง คือใช้ความชำนาญจากการเปิดเกมในสภา ตลอดจนประเด็นทางกฎหมาย โจมตีใส่รัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนว่า ขอให้ชะลอการลงมติในวาระ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 
ประการที่สอง การเดินเกมนอกสภาควบคู่กันไป โดยประสานทั้งกลยุทธ์ในการจัดเวทีปราศัยตามจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และการขยายผล ขยายการรับรู้ด้วย "สื่อ" สำคัญนั่นคือ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องบลูสกาย ซึ่งรายการ "สายล่อฟ้า" และอีกหลาวช่วงรายการกำลังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเมืองแก่พรรคประชาธิปัตย์

ส่ง "สาร" นำประเด็นที่โจมตีรัฐบาล กระจายออกไปสร้างกระแสความคึกคักให้กับทั้งผู้ที่นิยมชมชอบพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว และกลุ่มที่เริ่มไม่พอใจรัฐบาลเพื่อไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ยุทธศาสตร์ประการที่หนึ่งนั้น พรรคประชาธิปัตย์มีภาพที่ปรากฏชัดตั้งแต่การเดินหน้าคัดค้าน พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งนอกจากจะงัดเอาความช่ำชองในการเดินเกมสภาด้วยข้อกฎหมาย ข้อบังคับการประชุม ฯลฯ แล้ว ยังสร้างสีสันและมิติใหม่ในการแสดงออกกลางสภา จนเกิดปรากฏการณ์ "ถล่มประธานสภา" "กระชากเก้าอี้" ไปจนถึงกรณี "ปาแฟ้ม" 
ที่สำคัญ ขุนพลประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น "ถาวร เสนเนียม", "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ไปจนถึง "องอาจ คล้ามไพบูลย์" ก็ตบเท้าออกมาให้ทัศนะเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการจัดเรียงวาระการประชุมสภา, ประเด็นที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงการตีความคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญ  
ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านก็ออกมายืนยันตลอดว่า กระบวนการทางสภา เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเข้ามาร่วมรับรู้ และรับผิดชอบ

แม้ในท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยเลือกที่จะเล่นเกมถอย ปิดสมัยการประชุมสภา แขวนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 และ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ รอให้เปิดสมัยประชุมหน้า ในวันที่ 1 สิงหาคม 
แต่ดูเหมือนความคึกคักในการเดิมเกมของพรรคประชาธิปัตย์โดยอิงอยู่กับข้อกฎหมายก็ยังดำรงอยู่ต่อไป


เช่นเดียวกับอีกด้านหนึ่ง การขับเคลื่อนขยายความคิด สร้างฐานการรับรู้นอกสภา ก็กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
10 มิถุนายน 2555 "เวทีสานเสวนาผ่าความจริง หยุดกฎหมาย ล้างผิดคนโกง" ณ วงเวียนใหญ่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จัดกิจกรรมต่อเนื่อง นับจากเปิดเวทีปราศรัยที่ลานคนเมืองมาแล้ว กลายเป็นอีก 1 ยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนว่า ปชป. เลือกเดินคู่ขนานไปกับเกมในสภาอย่างเข้มข้น

ลีลาการปราศรัยของขุนศึกฝีปากกล้าจากพรรคการเมืองเก่าแก่ยังเรียกเสียงปรบมือจากมวลชนที่เข้ามาร่วมฟังอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่หมัดหนัก ปากคม ถล่มรัฐบาลได้น้ำได้เนื้อ สอดรับกับการปราศรัยแบบเปิดหน้าชกของ หัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมถึงอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค   
เวทีสานเสวนาฯ ในรูปแบบดังกล่าวจะตระเวนเข้าไปสู่พื้นที่ต่างๆ โดยวันที่ 15 มิถุนายน 2555 จะบุกถิ่นมีนบุรี และเตรียมที่จะขยายออกไปสู่ภาคต่างๆ 
แม้โดยขนาดของเวที จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมอาจเทียบไม่ได้กับการเคลื่อนเกมนอกสภาของ "คนเสื้อแดง" แต่ต้องไม่มองข้ามว่า นี่คือกลยุทธ์ตั้งต้นของการขยายบทบาทความนิยม เพิ่มแนวร่วมนอกสภา 
ในโมเดลที่ทั้ง "พันธมิตรฯ-เสื้อเหลือง" และ "นปช.เสื้อแดง" เคยทำสำเร็จมาแล้ว



ในขณะเดียวกับวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเครื่องมือสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพอย่าง โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "บลูสกาย" ที่นอกจากจะมีรายการเรียกเรตติ้งอย่าง "สายล่อฟ้า" แล้ว ยังสามารถถ่ายทอดสดแบบเต็มที่กับเวทีอภิปรายนอกสภาตามจุดต่างๆ ของพรรค ส่งข้อมูล เรียกความคึกคักจากบรรดาผู้สนับสนุน 
ที่สำคัญสร้างกระแสตื่นตัวภายในพรรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 
ด้วยความสด และลีลาการปราศรัยที่สนุก เหนือชั้นกว่าเวทีของพันธมิตรฯ หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ประกอบกับมีตัวนำสารส่งกระจายผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมออกไปยังแฟนคลับทั่วประเทศ นี่จึงเป็นจังหวะก้าวที่น่าจับตาของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง

การเดินเกมคู่ขนาน ทั้งเกมในสภา บนความชำนาญในการพลิกใช้ช่องทางต่างๆ ทางกฎหมาย และการขยายผลผ่านเวทีปราศรัย ขยายฐานมวลชน ขับเคลื่อนพลังสนับสนุนนอกสภา จะเป็นปัจจัยให้พรรคประชาธิปัตย์เปิดเกมรุกทางการเมืองได้อย่างแหลมคมมากขึ้น 
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และแนวร่วม "คนเสื้อแดง" ก็อาจต้องหันมาจับตา เตรียมหาวิธีรับมือกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างจริงจังมากขึ้น
ชนิดที่ไม่อาจประมาท หรือมองข้ามความพยายามของประชาธิปัตย์ ในเกมนี้ด้วยเช่นเดียวกัน



_____________________________________________________________________________

ขำ ขำ จาก www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12256608/I12256608.html



และ ขำ ขำ

คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16-06-55_all
www.youtube.com/watch?v=NgBJR-rltkM


จาก ช่อง 3 และ
ที่มา www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340091606&grpid=01&catid=&subcatid=
คลิปฮา !! อภิสิทธิ์ VS ยิ่งลักษณ์ (ชีวิตก็มีอะไรแปลกๆ)
www.youtube.com/watch?v=RLICoQvuvaY

.