คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม - ยูโรฟีเวอร์ โดย สมิงสามผลัด
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
คงโล่งอกโล่งใจไปตามกัน กับการถอยของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ทั้งเรื่องครม.อนุมัติพ.ร.ฎ.ปิดสภาในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
ทั้งเรื่องที่ประธานสภามีความเห็นให้เลื่อนลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ออกไปก่อน
ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อร่างพ.ร.บ. ปรองดอง
ก็ชัดเจนว่าคงต้องเลื่อนออกไปยาว
ผลที่ได้รับก็คือความวุ่นวายที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามจุดชนวนก็จะกร่อยไป
บ้านเมืองไม่ต้องสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความอลหม่าน
ในอีกด้านหนึ่ง ท่าทีเช่นนี้ก็มีปัญหาในพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน
มีส.ส.เสื้อแดงบางส่วนไม่ถูกอกถูกใจ เพราะเห็นว่าควรเดินหน้ารวดเดียวให้จบ
เพราะเป็นนโยบายที่หาเสียงไว้
แต่ส.ส.ส่วนใหญ่กลับเห็นว่าไม่ควร "หักด้ามพร้าด้วยเข่า" ไม่ควรรีบร้อนจนเกินไป
มั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้อายุยืนแน่นอน
อีกทั้งในเมื่ออีกฝ่ายตั้งป้อม จ้องเล่นงาน บิดเบือน
เพราะมีเป้าประสงค์นำไปสู่ "เงื่อนไข" เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกครั้ง
บรรยากาศตอนนี้ก็ไม่แตกต่างไปจากช่วงก่อนรัฐประหารเมื่อปี"49
ผิดกันตรงที่รัฐบาลชุดนี้มั่นคงกว่าเยอะ
จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องไปเสี่ยง ดันทุรัง ให้เข้าทางอีกฝ่าย
ดูได้จากตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เอง โดนพรรคฝ่ายค้านโจมตีมาตลอด 10 เดือน
แต่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็เอาตัวรอดมาได้
เพราะไม่ตอบโต้ ไม่ทะเลาะด้วย ใครด่าได้ก็ด่าไป
ยึดหลักก้มหน้าทำงานอย่างเดียว
แถมล่าสุดก็เดินสายทัวร์ "ปลายน้ำ กลางน้ำ ต้นน้ำ" อีกครั้ง
ตรวจงานความคืบหน้าตามแผนป้องกันน้ำท่วมที่ลุยทำกันมาตลอด 5-6 เดือน
ดูแล้วจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่าไปเล่นตามเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้าม
ที่สำคัญภาพลุยตรวจประตูระบายน้ำ ดูคันกั้นนิคมอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมอีกครั้งในปีนี้
ได้ใจพี่น้องประชาชนมากกว่าเยอะเลย
++
โดย มันฯ มือเสือ คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
การถอยของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา
ที่ยืนยันว่าในสมัยประชุมนี้จะไม่มีการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 และร่างพ.ร.บ.ปรองดอง
ถึงจะสร้างความไม่พอใจให้ส.ส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทย
แต่หลายคนมองว่าการตัด สินใจของนายสมศักดิ์คือการชักฟืนจากเตาไฟ ทั้งยังโยนแรงกดดันกลับไปยังศาลรัฐ ธรรมนูญ และพรรคประชาธิ ปัตย์อีกด้วย
เพราะจากนี้ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องถูกสังคมจับตามอง คือการวินิจฉัย 5 คำร้องคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลจะออกมาอย่างไร
เนื่องจากมีอาจารย์นิติศาสตร์หลายสถาบันและนักวิชาการกฎหมายจำนวนมาก ชี้ว่าการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกินขอบเขต ไม่ถูกต้อง ขัดกับหลักอำนาจอธิปไตยโดยสิ้นเชิง
การที่คนเสื้อแดงระบุความพยายามเตะถ่วงแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือเครื่องสะท้อนได้ดีว่า"มือที่มองไม่เห็น"ยังคงทำงาน หาทางโค่นล้มรัฐบาลอยู่ทุกเมื่อ เชื่อวัน
ที่ผ่านมาอยู่นิ่งเพราะต้องการให้รัฐบาลตายใจ
ข้อระแวงของคนเสื้อแดงเป็นความจริงหรือเพียงจินตนาการ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นสัญญาณชี้ชัด
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อรูปการณ์ออกมาเช่นนี้ทำให้หมดประเด็นโจมตีรัฐบาล การปลุกม็อบนอกสภาก็หมดเงื่อนไขตามไปด้วย
ประชาธิปัตย์เคยกล่าวหานายสมศักดิ์ เป็นเผด็จการไม่ต่างจากฮิตเลอร์ ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาเอนเอียงเข้าข้างนายใหญ่ที่ดูไบ
สารพัดสรรหาคำมาด่าทอเท่านั้นไม่พอยังแสดงอาการก้าวร้าว ฉุดกระชาก ลากเก้าอี้ ขว้างปาแฟ้มเอกสารใส่ประธานสภาอีกต่างหาก
ดังนั้น การที่นายสมศักดิ์กล้าขัดใจคนแดนไกลกับส.ส.เสื้อแดงในพรรค สั่งชะลอลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างพ.ร.บ.ปรองดอง
ก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า
ที่ผ่านมานายสมศักดิ์เป็นแค่เหยื่อของพวก"ดีแต่พูด"ว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภาเท่านั้น
++
โดย กระสา มันเสมอ คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
ระหว่างการทอดสายตา พักจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 อันตื่นเต้นและเร้าใจ
การเมืองซีกอำนาจรัฐที่มีความรับผิดชอบ จะทำการบ้านเรื่องเหล่านี้บ้างก็ไม่ผิดกติกาข้อไหน
ถ้าคุณวีรพงษ์ได้คุยกับคุณประสารนอกรอบ เห็นตรงกันว่า เครดิตประเทศตกต่ำลง ทุกขณะ ด้วยเหตุฟอกเงิน แรงงานเถื่อน ของเถื่อน ยาเสพติด ฯลฯ จนวันหนึ่ง เครดิตคนในชาติก็ไม่มีเหลือ
ยุคสมัยในความรับผิดชอบของท่านด้านเศรษฐกิจการคลัง จะขายผ้าเอาหน้ารอด หรือจะแผ้วถางหนทางให้อยู่รอด มีเกียรติในสังคมโลกตลอดไป?
ขณะเดียวกัน ผู้นำหน่วยงาน อาทิ ตำรวจและมหาดไทย และหรือหน่วยงานต่างๆ จะดำริโยกย้ายข้าราชการให้ทัน เริ่มทำงานใหม่ได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ได้ ส่วนรวมก็คงสรรเสริญ
การโยกย้ายไม่ได้แต่ละปี ติดขัดด้วยอุปสรรคปัญหาภายในต่างหากที่บ่อนเซาะประเทศชาติเช่นนี้ทุกวี่วัน
ปัญหาผลประโยชน์ขี้กะโล้โท้ของสติปัญญาสัตว์บางตัว ส่งผลทำลายระบบราชการให้เลวร้ายถึงปานนั้น ซีกอำนาจรัฐรู้อย่างนี้แล้ว ตะบันทนอะไรกันอยู่
แน่นอน หน้าที่และความรับผิดชอบในด้านภารกิจเฉพาะหน้า ภารกิจหลักต่อเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ยังดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง เป็นสงครามที่ไม่สิ้นสุด จริงๆ แล้ว เป็นโอกาสอันงามของซีกอำนาจรัฐก็เป็น ถ้าทำงานเป็นและทำงานจริง
ไม่มีโอกาสใดในซีกอำนาจรัฐที่ดีไปกว่านี้ ในขณะที่ซีกฝ่ายค้านยังผจญอยู่กับนโยบายคบเด็กสร้างบ้านหรือเล่นบทหออีแต๋วแตกกันไม่เสร็จ
เร่งทำงานให้เข้าตาประชาชนเถิด เร่งรถไฟความเร็วสูง เร่งเรื่องผังเมืองทั่วทั้งประเทศ เร่งบริหารจัดการน้ำทั้งระบบไม่ใช่ป้องกันน้ำท่วมอย่างเดียว
งานเพื่อประชาชน งานเพื่อคนในชาติ งานเพื่อประเทศชาติมีอยู่เยอะแยะตาแป๊ะไก๋ ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอำนาจก็จะมองเห็นงานอื่นๆ เป็นไปเพื่อส่วนรวมได้ทันตา
กีฬาฟุตบอลก็เหมือนกีฬาชีวิต ไม่มีใครแพ้ ใครชนะถาวร
มีแต่ความพากเพียร การฝึกฝน ตั้งมั่นในความสุจริตลงมือทำงานเป็น คือความเป็นนักกีฬา
++
โดย สับไก กระสุนธรรม คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
เหยียดสีผิวเป็นปัญหาที่ตีปี๊บอยู่ในยูโร 2012 ขณะนี้
ในวงการฟุตบอลผู้เหยียดเป็นได้ทั้งแฟนบอล หรือนักเตะด้วยกันเอง
ส่วนผู้ถูกเหยียดผิวมักเป็นนักเตะผิวดำ และชาวเอเชียก็มี
แต่ปัญหาเหยียดสีผิว หรือที่เรียกว่า เรสซิซึ่ม-racism นั้นกว้างกว่า "ผิว"
โดยหลักแล้วคำนี้หมายถึงการเหยียดเชื้อชาติ
มีต้นตอหลักๆ มาจากความภาคภูมิใจในเชื้อชาติของตนเองมากเกินไป จนคิดว่าเหนือกว่าผู้อื่น
เหนือในที่นี้มีทั้งเหนือกว่าด้านปัญญา ความเชื่อทางศาสนา เศรษฐกิจและสถานะทางสังคม
จึงกลายเป็นอคติ ที่ก่อให้เกิดการเหยียดในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ดูถูกเหยียดหยามด้วยวาจาท่าทาง เลือกปฏิบัติ ไปจนถึงทำร้ายรังแก
ในยุโรปและอเมริกา วิเคราะห์กันว่า ปัญหานี้มักเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา
ผู้ที่อยู่มาก่อน คือคนผิวขาวจึงรู้สึกว่าถูกรุกรานจากคนมาที่หลัง คือบรรดาผู้อพยพที่มีทั้งผิวดำ ผิวเหลือง และที่นับถือศาสนาแตกต่างออกไป
ส่วนในเอเชีย เคยมีการเหยียดผิวในลักษณะเชื้อชาติ อย่างกรณีญี่ปุ่นกับประเทศพิพาทอื่นๆ โดยเฉพาะจีนและเกาหลี
เป็นบาดแผลที่ตกค้างมาถึงปัจจุบัน จนเป็นปมที่ทำให้คบกันไม่สนิทใจ
สำหรับไทย มีลักษณะการเหยียดเชื้อชาติต่อคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนพยายามรณรงค์ให้สังคมลดทอนสิ่งเหล่านี้ลง
แต่ขณะเดียวกัน ยังมีการเหยียดอีกรูปแบบเกิดขึ้นมาด้วย คือการเหยียดสีกันทางการเมือง เช่น แดง เหลือง
การเหยียดแบบนี้ส่งผลไปถึงกระบวนการเรียนรู้ประชาธิปไตยโดยปริยาย
เช่น ชาวบ้านรากหญ้าที่เคลื่อนไหวทางการเมืองถูกเหยียดว่าเป็นเพียงเครื่องมือนักการเมือง
นอกจากนี้ยังมีกรณีนักการเมืองบางคนที่ล้อเลียนนักการเมืองต่างพรรค ในลักษณะเหยียดสี
อาจจะคิดว่าทำไปเพื่อตลกขำขัน แต่พฤติกรรมนี้บ่งบอกถึงอคติแบบ racism อย่างชัดเจน
++
โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันเสาร์ที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.
นอกจากสงครามปรองดองที่ฉะกันดุเดือดในสภา ถึงขั้นฉุดกระชาก-ปาแฟ้มเอกสารใส่ประธานสภา
ยังมีสงครามเฟซบุ๊กที่ซัดกันดุเดือดเช่นกัน
พรรคประชาธิปัตย์ตอบโต้ "โอ๊ค"พานทองแท้ ชินวัตร เพราะไม่พอใจที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอ โทษประชาชน
รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของลูกพรรค
"ผมอยากเห็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขอโทษต่อพี่น้องประชาชน และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แทนที่จะบอกว่าพรรคไม่ได้ทำอะไรผิด" โอ๊ค-พานทองแท้ ระบุ
นายอภิสิทธิ์ก็ตอบโต้ทันทีในเว็บของพรรคประชาธิปัตย์ว่า
"ผมไม่เคยไปเรียกร้องว่า คุณทักษิณ หรือใครต่อใคร ต้องออกมาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็แปลกใจนะครับ เพราะว่าถ้าเป็นเรื่องการทำอย่างอาทิตย์ที่แล้วนั้นต้องขอโทษ ถ้าหนักหนาสาหัสกว่านั้น ก็ต้องขอนิรโทษอย่างนั้นใช่มั้ย"
ส่วน หมอวรงค์ เดชวิกรม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ถึงกับวีนแตก โพสต์ในเฟซบุ๊กตอบโต้เช่นกัน
ระบุว่า "...โดยเฉพาะการเรียกร้องให้ท่าน อภิสิทธิ์ มาขอโทษประชาชน ความจริงสิ่งเหล่านี้ผมและเพื่อนทำกันเอง ท่านหัวหน้าไม่รู้ และผมบอกได้เลยว่า การขอโทษประชาชนไม่ใช่เรื่องยากเลย พร้อม อยู่แล้วครับ..."
โพสต์แบบนี้ก็เท่ากับยอมรับว่า "ฉุดกระชาก-ลากเก้าอี้-ปาแฟ้มเอกสาร" เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แล้วทำไมยังไม่ขอโทษประชาชนอีก
ที่สำคัญไม่ใช่เฉพาะ "โอ๊ค" พานทองแท้ เท่านั้นที่เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ขอโทษประชาชน
เพราะเอแบคโพลล์เพิ่งสำรวจความเห็นประชาชนไปหมาดๆ
ผลสำรวจก็ชัดเจนว่าประ ชาชนร้อยละ 52.4 เห็นว่าส.ส. ที่สร้างความปั่นป่วนในสภา
ควรขอโทษประชาชน
มีมากถึงร้อยละ 40.2 เห็นว่าควรลาออก
ฉะนั้น นายอภิสิทธิ์และหมอวรงค์ควรตอบสังคมด้วย
ต้องชี้แจงให้กระจ่างว่าทำไมถึงยังไม่ขอโทษประชาชนอีก
+++
โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 07:06 น.
บอลยูโร 2012 ประเดิมเตะกันไปเรียบร้อยแล้ว
โปแลนด์ เจ้าภาพร่วม ทำได้แค่เสมอกับกรีซไป 1-1
ส่วนรัสเซียถล่มเช็กไปขาดลอย 4-1
เรียกว่าคืนแรกก็ยิงกันอุตลุด 7 ประตู คอบอลชาวไทยได้ดูกันคุ้มจริงๆ ผ่านทางกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท
คนที่นอนแต่หัวค่ำ พลาดดูสดๆ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร
เพราะข่าวสดจับมือจีเอ็มเอ็มนำคลิปไฮไลต์การแข่งขันทุกคู่มาให้ชมกันทุกเช้า
ดูกันเต็มตาทุกประตูผ่านทางเว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์
คู่แรกเปิดสนามผ่านไปแล้ว
แต่มีอีกคู่ที่ดุเดือดกันตั้งแต่ยังไม่เปิดสนาม
ทรูวิชั่นส์กับจีเอ็มเอ็ม
ที่ยังต้องเจรจาแก้ปัญหาจอมืดกันอยู่
โดยมีกสทช.เป็นกรรมการ
ประเด็นก็คือทรูวิชั่นส์ต้องรับผิดชอบต่อลูกค้าที่ปล่อยให้จอช่อง 3-5-9 มืดสนิทในช่วงที่ถ่ายทอดบอลยูโร
ต้องไปเจรจาทำความตกลงกับจีเอ็มเอ็มในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ยูโร 2012
ต้องทำทุกอย่างให้ลูกค้าดูฟรีทีวีผ่านกล่องของ ทรูวิชั่นส์ให้ได้
คาดกันว่าวันอังคารนี้ปัญหาทุกอย่างคงจบด้วยดี
อีกเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นช่วงมหกรรมบอลระดับโลก ก็คือปัญหาพนันบอล
พนันบอล เป็นต้นตอนำไปสู่อาชญากรรมที่รุนแรง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.จึงกำชับตำรวจทั่วประเทศกวาดล้างจับกุมโต๊ะพนันบอลให้ สิ้นซาก
โดยเฉพาะนครบาลเปิดศูนย์ปราบปรามพนันทายผลฟุตบอลยูโร
เปิดรับแจ้งเบาะแสที่เบอร์ 0-2354-6155-7 และอีเมล์ www.metropoleuro2012@hotmail.com
นอกจากนี้ยังจัดสายตรวจตรวจเข้มย่านสถานศึกษาต่างๆ เพราะ ไม่ต้องการให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อพนันบอล
ซึ่งก็ได้ผลเยี่ยม เพราะวันแรกวันเดียวมีการจับกุมโต๊ะบอลรายใหญ่กลางกรุง
ยึดโพยของกลางได้กว่า 2 ล้านบาท
น่าเห็นใจตำรวจช่วงยูโรก็ต้องลุยปราบโต๊ะบอล กันหนัก
หลังจบยูโรก็ยังต้องทำงานหนักขึ้นอีก
ตามสกัดพวกมือปืนรับจ้าง เพราะเชื่อได้เลยว่าจะตามล้างหนี้ ตามทวงหนี้กันดุเดือดแน่ๆ
.
