.
บทความของปี 2554 - โลกหมุนรอบความเศร้า โดย ศิลา โคมฉาย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ก่อนและหลังศึกฟุตบอลยูโร
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1660 หน้า 67
ผมมีอาการแปลกๆ รู้สึกคล้ายเสียหน้าอยู่ลึกๆ เมื่อได้ยินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ยืนอยู่ข้างๆ ตรงหน้าชั้นวางหนังสือพิมพ์ในร้านสะดวกซื้อ
รู้จัก แบรนแดน ร็อดเจอร์ส
วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นโค้ชยอดฝีมือ จอมเทคนิครุ่นใหม่ของแวดวงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ น่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการทีมยิ่งใหญ่อย่างลิเวอร์พูล
เขายังรู้ละเอียดว่า โค้ชหนุ่มผู้นี้สร้างชื่อจากการคุมทีมวัตฟอร์ดและเร้ดดิ้งมาก่อน
แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเล็กๆ นอกสายตาอย่างสวอนซี
ไม่ใช่ทีมชื่อก้องโลก มูลค่าทางธุรกิจมหาศาล อยู่ในความสนใจของมหาชนผู้ชื่นชอบฟุตบอล อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บาร์เซโลนา เรอัล มาดริด บาเยิร์นมิวนิก เชลซี...
ผมรู้สึกเสียหน้า อาจเพราะมีความหยิ่งซ่อนเร้นอยู่ภายใน
ตัวเองรู้จักฟุตบอลระดับโลก หลงใหลชื่นชมและติดตามมานมนานกาเลเต็มที ควรจะรู้อะไรดีกว่าเด็กหนุ่มบ้านนอก ขับมอเตอร์ไซค์วินหากินอยู่ในซอย
น่าจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 1966 เมื่ออังกฤษครองแชมป์โลก ยังไม่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ แต่มีหนังขาว-ดำ เป็นสารคดีเรื่องยาวเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก ลงโรงฉายเก็บเงิน เหมือนกับหนังเรื่องหนึ่ง โปสเตอร์มีภาพและคำโปรยถึงนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์สุดเร้าใจ เช่น เสือดำแห่งโมซัมบิก ยูซิบิโอ ทำประกันหน้าแข้งมูลค่า 14 ล้านบาท
ปี 2509 นับเป็นเงินก้อนมหึมา จนต้องอ้าปากค้าง
ผมยังแว่วเสียงตะโกนเชียร์ทีมเกาหลีเหนือ ที่สร้างเรื่องมหัศจรรย์ ซัดประตูทีมเต็งอย่างอิตาลีในช่วงเวลาสั้นๆ ไปถึง 2 ลูก ผู้ชมพร้อมกันร้องกระหึ่มว่า เราต้องการลูกที่ 3...ประตูที่ 3...
ถัดมายังได้ติดตามชมยุคเฟื่องฟู ของสามทหารเสือจากทีมแมนฯ ยู เดนนิส ลอว์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน จอร์จ เบสต์ และค่อนข้างต่อเนื่องมาตราบปัจจุบัน
ชมเพราะสนุกตื่นเต้น และค่อยๆ เกิดความรู้สึก เห็นฟุตบอลเป็นศิลปะ อย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิล อดีตผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งของโลกว่า ฟุตบอลก็เหมือนคนตรี คือจังหวะ การเคลื่อนไหว และความสมดุล
หนุ่มนักบิดที่แสดงภูมิรู้กับเพื่อนๆ เรื่องการบริหารจัดการทีม ซื้อขายนักเตะว่า นอกจากต้องเลือกซื้อนักฟุตบอลที่เหมาะกับการใช้งาน คุณภาพคุ้มค่าตัว มีภาพลักษณ์ต่อการเป็นต้นแบบ ตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชน ยังต้องสามารถสร้างบรรยากาศความเป็นทีมหนึ่งเดียว กระหายชัยชนะ ขณะอยู่ในห้องแต่งตัว
หมออ่านหนังสือพิมพ์กีฬาฉบับที่แม่ค้ายืนยันว่าขายดีที่สุด แต่ผมอ่านบางส่วนไม่เข้าใจ
แม้จะรู้ว่าเป็นการบอกราคาต่อรอง ทั้งจากระดับโลก ทวีป ภูมิภาคท้องถิ่น ถึงภายในประเทศ
ประเภท...อุลซาน-คาชิว่า เรย์โซล...อุลซานต่อเสมอควบครึ่งลบ 92.0
บางทีเพราะแถบนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย พื้นที่รายรอบมีร้านเหล้าเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากถนน กระทั่งในซอกหลืบมุมลับเร้น บรรยากาศมักคึกคักเต็มที่ในวันที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลต่างประเทศ
เสียงเชียร์ โห่ร้อง ก้องดังจากหลายทิศทาง
มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ทำงานบริการลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา บุคลากรมหาวิทยาลัย อาจถูกบรรยากาศครอบงำ ให้กลมกลืนไปในที่สุด
หรืออาจจะเป็นแค่เรื่องปกติของคนไทยกับการพนัน อย่างที่เคยได้ยินมาว่า ชนิดกีฬาซึ่งผู้ชมนิยมติดตามการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ แบบแฟนประจำสม่ำเสมอยาวนาน
ต้องเป็นประเภทที่สามารถเล่นได้-เสีย กันได้เท่านั้น
การเล่นพนันฟุตบอลเป็นกิจกรรมปกติ ที่มีการลักลอบทำกันทั่วเป็นล่ำเป็นสัน
ว่ากันทุกชั้นชน ทุกรุ่นวัย มิว่าระดับสุดเรือนยอดไม้ หรือรากหญ้า
ผมเคยรับรู้จากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วินขนาดใหญ่ในทำเลทอง เจ้าของประมูลพื้นที่สำหรับคิวจอดรถมาจากห้างสรรพสินค้า นักบิดในสังกัดต้องจ่ายค่าจอดเดือนละพัน พร้อมค่าเสื้อวินอีกพันห้าร้อยบาท เป็นค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง
เขาว่า ถ้าใช้จ่ายปกติ ไม่เล่นก็พออยู่ได้แบบสบายๆ
ครั้นซักลึกลงไปในเรื่องเล่น เขาตอบแบบไม่ต้องคิด คือการเล่นพนันฟุตบอล
ศึกฟุตบอลยูโร 2012 เปิดฉากขึ้นแล้ว มหกรรมการแข่งกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของโลก จะดึงดูดความสนใจของผู้คนมารวมกันในสนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ข่าวสารถูกโหมประโคม ทั้งลงลึกไปเสาะหามุมเฉพาะอันแปลกแตกต่างเร้าใจมานำเสนอ
ทั้งเป็นเวลาทำการช่วงทองของประดานักพนัน
ก่อนการแข่งขันจึงมีการสำรวจวิจัย จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบในด้านธุรกิจ ในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 แล้วคาดว่า จะมีเงินสะพัดประมาณ 64,928.30 ล้านบาท ในนี้ส่วนที่เป็นเงินพนันบอล จำนวน 41,710.30 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกเมื่อสองปีก่อน ร้อยละ 12.1 ฟุตบอลยูโรคราวนี้ นักเล่นมืออาชีพจะใช้เงินเฉลี่ยต่อนัด 1,353.20 บาท โดยคาดหวังว่า จะได้รับคืนต่อนัดที่ 4,922.80 บาท
พวกเขามองเห็นสัญญาณบางด้าน การใช้เงินในการเล่นพนันมากขึ้น จะนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น
แน่นอนว่า หลังศึกฟุตบอลยูโร 2012 จะต้องมีเหตุการณ์ จี้ธนาคาร ปล้นร้านทอง พนักงานฝ่ายการเงินฉ้อโกง เด็กๆ ตีชิงวิ่งราว เพื่อใช้หนี้ จากการตามทวงหนี้อันชวนสยดสยอง
...เรื่องปกติของสังคม
++
แล้วพิษก็ออกฤทธิ์
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1659 หน้า 67
เดิมทีผมเห็นว่า ทุนนิยมนี่แหละคือตัวท้าทายสั่นคลอน คำสั่งสอนในพุทธศาสนา
เป็นความขัดแย้งทางความคิดที่เห็นชัด
ขณะฝ่ายหนึ่งให้ลด ละ เลิก ขยับคลายจากความอยากได้ใคร่มีไม่รู้จบ แต่อีกฝ่ายกระตุ้นให้กล้ากระโจนออกไปแข่งขัน ช่วงชิง กอบโกยสะสมเพื่อตนเอง
ให้มองลึกลงไปในความไม่ใช่ตัวตน โดยพร่ำบอกแต่เบื้องต้น อย่าเห็นแก่ตัว หากไม่เห็น ไม่มีตัวกูของกู ปัญหาความขัดแย้งย่อมไม่เกิด ทุกข์ในใจจักผ่อนเพลา ขณะอีกฝ่ายเรียกร้องการต้องมีตัวตนชัดเจน แตกต่าง ภาพลักษณ์โดดเด่นเป็นเสน่ห์เร้าใจ เพื่อเป็นจุดขาย
ศาสนาพร่ำสอนให้ยึดถือในคุณค่าสิ่งดีงาม ที่มีสืบเนื่องกันมา ขณะทุนทำทุกทางแม้แต่การทุ่มโฆษณานับหมื่นนับแสนล้าน เพื่อดึงดูดให้ผู้คนละทิ้งคุณค่าดั้งเดิมพวกนั้น เปลี่ยนไปเป็นผู้บริโภคที่ซื่อสัตย์ และด้วยการผลิตที่ล้นเกิน มันต้องการนักบริโภคนิยม ที่ซื้อง่าย เบื่อง่าย ไร้สติลื่นไหลไปตามกระแส
ทุนนิยม ผลิตทั้งตัวสินค้าและผู้บริโภค
แต่กรณีวัดเล่งเน่ยยี่ ทำให้ผมเห็นว่า ไม่ใช่ความคิดอันเป็นนามธรรมอีกแล้วที่ถูกท้าทาย วันนี้ฝ่ายทุนรุกคืบไปถึงรูปธรรมอันเป็นเรื่องสถานที่...ตัวอาราม
พื้นที่ชุมชนของวัด
พื้นที่ซึ่งจะถูกปรับแปลงให้เป็นสถานบันเทิงเริงรมย์ แหล่งอโคจร
เราอาจจะเคยเห็นเคยรับรู้ว่า มีวัดถูกคุกคามจากการทำเหมืองหิน การระเบิดภูเขาของโรงโม่ เศษดินหิน กระจายกระเด็นถล่มใส่วัด แต่นั่น...เป็นแค่วัดเล็กๆ ในชนบทห่างไกล ไม่สร้างความรู้สึกให้เห็นว่าเป็นการท้าทายครั้งสำคัญ เช่นกรณีวัดเล่งเน่ยยี่
วัดใจกลางเมืองหลวง ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจ
พระอารามหลวง ศูนย์กลางสำคัญของฝ่ายจีนนิกาย
วัดเก่าแก่มีประวัติยาวนานร่วมร้อยสี่สิบ-ห้าสิบปี พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าซ้ายร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีนสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2414 บนเนื้อที่ 4 ไร่ 18 ตารางวา บนถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
วัดสำคัญที่อาจต้องสงบเสงี่ยมหงอยๆ เมื่อศูนย์การค้ายืนผงาดตระหง่านค้ำ
ผมอาจไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ หากไม่ถูกกระตุ้นด้วยภาพข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนในโทรทัศน์
นักข่าวพบเห็นพฤติกรรมน่าสงสัย แล้วติดตามแกะรอยติดตามรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนของเสียซึ่งเป็นของเหลวและอาจเจือสารพิษ ทิ้งลงในทางระบายน้ำซึ่งเชื่อมไปถึงลำคลองสาธารณะ หรือในคูข้างทางที่เปลี่ยว ทำให้ดงหญ้าตายแห้งซีดเหลืองเป็นวงกว้าง ในอ่างอันเป็นบ่อดินเก่า น้ำที่เคยสะอาดใส เปลี่ยนเป็นคล้ำเข้ม
ของเสียจากนิคมอุตสาหกรรม
ของเสียที่บริษัทรับจ้างบำบัด ต้องนำไปปรับเปลี่ยนให้สะอาดปลอดภัย พอจะปล่อยทิ้งสู่ธรรมชาติ
แต่สัญชาตญาณของโลกที่มุ่งแต่กำไรสูงสุด ขับดันให้รู้จักลดต้นทุน เลิกขนไปยังแหล่งบำบัดและผ่านกระบวนการซึ่งต้องมีค่าใช้จ่าย หาที่ลับตาอาศัยความมืดลักลอบระบายทิ้ง
ไม่จำเป็นต้องคิดว่า ผลตามมาจะเป็นเช่นไร
เรื่องนี้คล้ายจะเป็นระลอกต่อเนื่องจากปัญหาบ่อขยะฉลองกรุง
บ่อกลบฝังขยะกลางชุมชน ขนาดใหญ่เนื้อที่เกือบ 300 ไร่ ที่ลาดกระบัง เคยเป็นบ่อทิ้งขยะจากโรงงานอุตสาหกรรม บางส่วนปนเปื้อนสารพิษ จึงส่งผลกระทบถึงชาวบ้านรายรอบ มีกลิ่นเหม็นรุนแรง โดยเฉพาะเวลากลางคืน และยามฝนตก พิษร้ายฟุ้งกระจายจนเกิดการล้มป่วยไปทั่ว
กระทั่งสถานีตำรวจประจำท้องถิ่นต้องปิดตัวย้ายหนี
ข้อมูลการตรวจสอบของสำนักอนามัย กทม. ตรวจวัดคุณภาพอากาศแล้วพบว่า สารไวนิลคลอไรต์ มีค่าเกินมาตรฐาน เมื่อหายใจเข้าไปจะรู้สึกติดขัดเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน สารเบนซินเกินค่ามาตรฐาน ทำให้ระคายเคืองในระบบหายใจ เกิดโรคปอดอักเสบ สารไตรคลอโรเอทธิลีน เกินค่ามาตรฐาน ทำให้ระคายเคืองในระบบหายใจ คลื่นไส้ เป็นลมหมดสติ และอาจเสียชีวิตได้หากสัมผัสสารนี้ที่มีความเข้มข้นสูง สารไดคลอโรอีเทน ซึ่งดูดซึมทางผิวหนังได้ดี หากได้รับปริมาณมากจะทำลายระบบประสาท ตับ และไต
ทั้ง 4 ตัว เป็นสารเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
ปัญหาช่างสอดรับเป็นลำดับต่อเนื่อง จากภัยพิบัติชวนสยองที่เกิดในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กระทั่งศาลปกครองจังหวัดระยองพิพากษาให้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีคำสั่งให้เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเขตควบคุมมลพิษ
ในประเทศที่พิษร้ายซ่อนเร้นไปทั่วกำลังออกฤทธิ์
ผมเชื่อว่าในยุคสมัยเช่นนี้ น้อยคนนักแม้แต่นักอุดมคติจากอดีต จักปฏิเสธต่อต้านระบบทุนนิยมอย่างที่เคยมีเพลงร้องกัน
ด้วยมันเป็นส่วนฐานของระบอบเสรีประชาธิปไตย ทั้งยังมีด้านที่เป็นคุณมหันต์
และโลกแทบทั้งมวลใช้มันขับเคลื่อนบิดๆ เบี้ยวๆ ไปด้วยกัน
แต่สำหรับประเทศที่มีพื้นการผลิตมาจากเกษตรกรรม พื้นความคิดหลักจากสองวัฒนธรรม อินเดียและจีน หล่อหลอมขึ้นเป็นแบบฉบับหลวมๆ ของตัว คงต้องการทุนนิยมที่เคร่งครัดด้วยระบบระเบียบ ข้อกฎหมาย มีเครื่องกำกับจิตสำนึกชนิดเข้มข้นพ่วงท้าย ดูเหมือนครั้งหนึ่งมันเคยถูกเรียกว่า ธรรมาภิบาล
ต้องยึดถือปฏิบัติสม่ำเสมอ อย่าได้ปล่อยให้เลือนหายไป ในภาวะวุ่นวายของการเร่งทำกำไร
++++
บทความของปีที่แล้ว 2554
โลกหมุนรอบความเศร้า
โดย ศิลา โคมฉาย คอลัมน์ แตกกอ-ต่อยอด
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 31 ฉบับที่ 1599 หน้า 64
เหมือนนับวันโลกจะมากไปด้วยเรื่องชวนให้เศร้าสลด...
จากสถานการณ์ทั่วไปในยามนี้ เมื่อเฝ้ามองรายรอบ สดับตรับฟัง คงไม่แปลกที่ความหดหู่จากสารพัดเรื่องราว จะก่อให้เกิดความรู้สึกอย่างนั้น
แต่ประสบการณ์ชีวิตก็ไม่วายชวนให้ตั้งคำถาม...มันมากขึ้นจริง? หรือเป็นปกติ เพียงแต่จิตใจเราถูกความรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า กระหน่ำเขย่าจนช้ำหมองไปเอง
หากสืบเนื่องมาแต่มหันตภัยพิบัติ ที่เคลื่อนตัวเข้ากวาดล้างทำลาย จนย่อยยับไปทีละหย่อมย่านบ้านเมือง เป็นลำดับต่อเนื่องหลากแหล่งจากทั่วโลก เกิดโศกนาฏกรรมสุดเลวร้ายกับมวลมนุษย์ เราต่างรู้ว่าธรรมชาติมีวิถีของตัวเอง ต้องปรับเปลี่ยนหนักบ้างเบาบ้าง ปลดปล่อย ขยับขยายจัดภาวะสมดุล มีข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ ได้ยินอยู่เสมอ ในแต่ละคราว อุบัติการณ์พวกนั้น มีความร้ายแรงที่สุดในรอบกี่ปี
หรือเรากำลังนำพาชีวิตเหยียบย่างเข้าถึงเขตแดนที่เรียกว่า บั้นปลาย
ความวิตกประหลาดเป็นคล้ายตะกอนขุ่นมัวเกาะติดอยู่ภายใน เมื่อความฝัน ความหวัง จินตนาการ ถูกความจริงอันโหดร้าย บี้บดเสียบิดเบี้ยวจนสูญพลัง สิ้นความสวยงาม แล้วฟื้นตัวได้ยากเย็นแสนเข็ญ
ต่างไปจากคนหนุ่มสาว...
เพราะแม้เรื่องร้ายในข่าวเล็กๆ ทั้งมิได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ ก็สามารถก่อให้เกิดแรงกระทบจนสะท้านลึก เศร้าหมอง
พ่อวัย 49 ปี สังหารลูกชายวัย 17 ปีเป็นออทิสติก แล้วฆ่าตัวตายตาม
ประสบการณ์คงมิเพียงให้ความรู้เท่า ความชำนาญ กร้านแกร่ง ในความเก่าเก๋าเกม ย่อมมีจุดถูกกัดกร่อนจนเปราะบาง ข่าวสารทำให้ผมต้องนิ่งอึ้ง การรับรู้ขับดันความคิดพรั่งพรู และถูกบีบให้จมอยู่ใต้บรรยากาศน่าหดหู่
เหมือนนับวันโลกจะมากไปด้วยเรื่องชวนให้เศร้าสลด
บางที อาจเพราะผมรู้จักออทิสติกมาไม่น้อยกว่า 20 ปี คุ้นๆ กับมันตั้งแต่การแพทย์ในประเทศยังคงงงๆ กับอาการที่เกิดกับเด็กซึ่งมีพัฒนาการผิดปกติ ไม่พูด ไม่สบตา เคลื่อนไหว ไม่รู้จักหยุดหย่อน ไม่เข้าสังคมจมอยู่ในโลกของตัเวอง...
ไม่มีคำตอบว่าเป็นโรคหรือเป็นเพียงอาการบกพร่อง ไม่อาจรู้ถึงสาเหตุ และการเยียวยา
ที่สำคัญ ไม่อาจจัดประเภทเพื่อบำบัด ถูกยัดให้ไปร่วมกับเด็กปัญญาอ่อน
ผมมีเพื่อนหลายคนที่ประสบเคราะห์กรรม ลูกมีพัฒนาการผิดปกติเป็นออทิสติก ต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างมืดมนโดยลำพัง ด้วยจิตใจเด็ดเดี่ยว ทรหดอดทนเป็นเลิศ รับภาระทั้งเลี้ยงดู เสาะแสวงหา เรียนรู้ หาแหล่งและวิธีการบำบัดรักษา กระทั่งค่อยคลี่คลาย
เด็กออทิสติก มีความเป็นอัจฉริยะบางด้าน ปัจจุบันจึงเห็นได้ชัดขึ้น อย่างเป็นข่าวครึกโครมเมื่อไม่นานมานี้ เด็กชายที่ได้รับการดูแลรักษา บำบัดอย่างถูกต้อง จากจังหวัดกาฬสินธุ์ มีไอคิวสูงเหนือเด็กปกติธรรมดา
เด็กเหล่านี้มักมีความจำเป็นเลิศ บันทึกสิ่งที่พบเห็นได้รวดเร็วฉับพลัน ลูกของเพื่อนบางคนเพียงเดินผ่านครั้งเดียว สามารถจำเลขทะเบียนรถที่จอดอยู่ข้างทางได้ทั้งหมด เปิดสมุดโทรศัพท์แล้วจำเอาพัดลมทุกชนิดที่มีจำหน่าย หรือบางคนสนใจชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัด ก็สามารถจำทุกคนได้ทั้งประเทศ
เมื่อการบำบัดรักษาทางหนึ่ง คือให้เด็กพวกนี้ได้อยู่ร่วมในสังคมทั่วไปไม่แบ่งแยก พ่อแม่จึงมักพาลูกๆ มาสู่แวดวงคบหาวิสาสะของตัว ลุงๆ อย่างรุ่นผมจึงสัมผัสกับเด็กออทิสติกบ่อยครั้ง
สัมผัสอย่างรู้ว่า ต้องมีเมตตา
พร้อมจะสนทนา เข้าร่วมการตอบและตั้งคำถาม ในประเด็นที่เขาสนใจ ซึ่งบางทียาวนานจนไม่เห็นทางจบ
แน่นอนว่า ลุงๆ อย่างพวกผมไม่อาจจำชื่อผู้ว่าราชการของไทย ได้มากและแม่นเช่นเขา ต้องตกเป็นฝ่ายถามให้เขาได้ตอบอย่างภาคภูมิ และเมื่อไม่มีทางจบ ลุงบางคนก็เล่นเล่ห์เพทุบายแบบด้านๆ
ถามชื่อผู้ว่าฯ จังหวัด บันเตียนเมียนเตรย เอาดื้อๆ
ผมซาบซึ้งดีกับพ่อแม่ที่มีลูกเป็นออทิสติก รู้ว่าต้องทุ่มเทหนักหน่วงกว่าใครเขา ใช้พลังเวลาทำมาหากินเช่นคนอื่น แล้วยังต้องดูแลปกป้องช่วยเหลือลูกซึ่งผิดปกติ มีปัญหาในการสื่อสาร ระบบคิด การสร้างความสัมพันธ์อยู่ร่วม แล้วยังต้องเคร่งเครียดกับจัดการบำบัด ซึ่งถึงที่สุดแล้ว มันจะช่วยให้เขายืนได้ด้วยตัวเองหรือไม่ ก็ยังไม่เห็นคำตอบแน่ชัด
ต้องอดทนต่อความผิดแผกที่ยังดำเนินต่อไป
อดกลั้น กล้ำกลืนต่อปฏิกิริยาจากคนรอบข้าง
พ่อแม่ซึ่งมีหัวจิตหัวใจควรต่อการกราบ
เมื่อพ่อต้องลงมือฆ่าลูกที่เป็นออทิสติก สำหรับผมที่พอมองเห็นภาพถึงที่มาและที่ไป ไม่อาจเลี่ยงพ้นจากความเศร้าซึม หดหู่และเสียใจกับความพ่ายแพ้ต่อเคราะห์กรรม ตัดใจไปเสียจากความรับผิดชอบ ความห่วงกังวลทั้งปวง
ความคิดที่พรั่งพรูภายหลังการรับข่าวสาร ล้วนเป็นคำขอพื้นๆ ดาดๆ ให้ทุกคนมีกำลังใจ อย่าได้คิดเติมความเศร้าให้โลกกันนักเลย...
_________________________________________
อย่าได้คิดเติมความเศร้าให้โลกกันนักเลย...
ภาพ-ข่าวจาก www.isnhotnews..com/tag/ผบ-ทบ/
.
Selected Messages & Good Article for People Ideas and Social Justice .. หวังความต่อเนื่องของพลังประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของปวงชนอันเป็นรากฐานอำนาจอธิปไตย เพื่อกำกับกติกาและอำนาจการเมือง-อำนาจตุลาการ ไม่ว่าต่อคนชั่ว(เพราะใคร?) และคนดี(ของใคร?) ไม่ให้อยู่เหนือนิติรัฐของประชาชน
http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย