http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-08-27

โยกย้ายนายทหาร ทำไมต้องถึงองคมนตรี ละเอียด เปราะบาง

.
เพิ่ม - “บิ๊กเปี๊ยก”ชน“บิ๊กโอ๋” เดิมพัน‘ปลัดกลาโหม’ เพื่อน“ตท.11”หักเหลี่ยมโหด

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

โยกย้ายนายทหาร ทำไมต้องถึงองคมนตรี ละเอียด เปราะบาง
ในมติชน ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12:15:14 น. 


การที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม จะทำหนังสือลงวันที่ 24 สิงหาคม เพื่อขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 
สามารถเข้าใจได้ 
เข้าใจได้ว่าเมื่อ ปลัดกระทรวงกลาโหม มีความเห็นต่างไปจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม การทำหนังสือขอหารือและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ดำเนินไปตามกระบวนการในระบบราชการ 
อย่างน้อย ปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ยังมีความหวังว่า นายกรัฐมนตรี จะสามารถเป็นที่พึ่งพิงได้ในท่ามกลางความขัดแย้ง
เป็นไปตามระบบ เป็นไปตามโครงสร้างของการบังคับบัญชา

แต่การที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และฝากบัญชีรายชื่อโยกย้ายและแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมไปให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นเรื่องที่ยากจะทำความเข้าใจได้อย่างปกติ ธรรมดา 
แม้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเคยเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะเคยเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่ก็เป็นอดีตไปแล้ว

มองจากมุมของสังคมไทยซึ่งยังยึดโยงอยู่กับระบบเครือข่าย ระบบอุปถัมภ์ การเคลื่อนไหวของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อาจเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา
ใครๆ ก็ทำกัน 
ในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยมีข้าราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าบ้านสี่เสา เทเวศร์ มาแล้ว 
นั่นเป็นสถานการณ์ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 
จึงมิได้เป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมายที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ จะเดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อเชื่อมประสานไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์


คำถามอยู่ที่ว่าเชื่อมประสานอย่างไร 
คำตอบ 1 เชื่อมประสานเพราะว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยเป็นผู้บังคับบัญชามาก่อนกระนั้นหรือ 
อย่างน้อย 2 ท่านนี้ก็เคยเป็น ผบ.ทบ. เคยเป็นนายกรัฐมนตรี 
อย่างน้อย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็เคยเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

แต่ที่ควรระมัดเป็นอย่างยิ่งก็คือ ตำแหน่งในปัจจุบันของทั้ง 2 คืออะไร 
องคมนตรี 
ตําแหน่งองคมนตรีทั้งของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีความละเอียดอ่อนอย่างเป็นพิเศษ 
ยิ่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยิ่งสลับซับซ้อน 
เพราะมิได้ดำรงตำแหน่งเป็นองคมนตรีอย่างธรรมดา ตรงกันข้าม ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะองคมนตรี 

รู้กันอยู่ว่าองคมนตรีอยู่เหนือการเมือง 
รู้กันอยู่ว่าองคมนตรีอยู่ในสถานะอันเป็นที่ปรึกษาให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมิอาจได้เสียในเรื่องทางการเมือง อันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ อันเป็นเรื่องของความขัดแย้งแตกแยกของบุคคลหลายๆ ฝ่าย 
แล้วไฉน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ จึงนำเอาความขัดแย้งที่ตนมีกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าไปให้องคมนตรีรับรู้ด้วย 
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของรัฐบาล
ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดนี้สามารถทำความเข้าใจกันได้บนพื้นฐานแห่งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการปกครอง ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม รวมถึงระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม 
ในอำนาจของรัฐบาล


พลันที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ขยายความขัดแย้งไปถึงระดับ "องคมนตรี"
เรื่องของความไม่ลงรอยกันระหว่างปลัดกระทรวงกลาโหมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็บานปลาย กลายเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของประโยชน์ 
สาวไส้



+++

“บิ๊กเปี๊ยก”ชน“บิ๊กโอ๋” เดิมพัน‘ปลัดกลาโหม’ เพื่อน“ตท.11”หักเหลี่ยมโหด
ในมติชน ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:32:17 น.


การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555 ในตำแหน่ง "ปลัดกระทรวงกลาโหม" คนใหม่ ส่อเค้าวุ่น !!! จนกลายเป็นความขัดแย้งภายในกระทรวงกลาโหม ระหว่าง "บิ๊กโอ๋" พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ "บิ๊กเปี๊ยก" พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม 
24 สิงหาคม "พล.อ.เสถียร" เล่นแรง ทำหนังสือขออนุญาตเข้าพบเพื่อชี้แจงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยหนังสือระบุ การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหมประจำปี 2555 เกี่ยวกับการเสนอชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
พร้อมทั้งเข้าพบ "บิ๊กแอ้ด" พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรณีดังกล่าว รวมถึงนำสำเนาบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารมอบให้ "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

เนื่องจาก "พล.อ.อ.สุกำพล" ต้องการเสนอชื่อ "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน (ตท.11) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ เพราะมองว่าเป็น ตท.11 รุ่นพี่ "ผบ. เหล่าทัพ" จึงมีความเหมาะสม ที่จะมาดำรงตำแหน่ง 
แต่ทาง "พล.อ.เสถียร" ได้เสนอชื่อ "บิ๊กกี๋" พล.อ.ชาตรี ทัตติ (ตท.14) รองปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมองว่า มีความอาวุโสมากกว่า "พล.อ.ทนงศักดิ์" และเป็นคนภายในกระทรวง...

ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลง ในวันที่ 17 สิงหาคม ที่ตรงกับวันเกิด "พล.อ.อ.สุกำพล" พอดี ที่ได้เชิญ "พล.อ.เสถียร", "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) "บิ๊กหรุ่น" พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) หารือนอกรอบในเรื่องตำแหน่ง "ปลัดกระทรวงกลาโหม" 
ผลของการหารือวันนั้นคือ "ตกลงกัน ไม่ได้" ทำให้กลายเป็นชนวนความขัดแย้ง ตามมา...

พล.อ.เสถียรยืนยันสิ่งที่ทำ "ยึดถือความถูกต้องเพื่อรักษานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเอาไว้ ไม่ให้ใครมากล่าวโจมตีได้ว่ามีการแทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องรักษาระบบ รักษากฎหมายบนพื้นฐานความถูกต้องในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ ผมยอมให้เพื่อนด่าเพราะ พล.อ.ทนงศักดิ์ ก็เป็นรุ่นเดียวกัน แต่ผมต้องยึดความถูกต้อง มิเช่นนั้นต่อไปหลักการจะเสียหาย"
"ไม่ใช่ว่าจะมาล้วงลูก ล้วงตับกันในหน่วยงาน จะเอาใครก็ได้ตามอำเภอใจมันคงไม่ใช่ ถ้ามีการโหวตกันในคณะกรรมการพิจารณานายทหารชั้นนายพลจะเอาตามรายชื่อที่เสนอไปหรือไม่ ถ้าผมแพ้โหวตก็ไม่ว่ากันถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว สิ่งที่ผมทำไป ถึงที่สุดอาจมีคำถามจากสังคมว่ายอมรับได้หรือไม่ สื่อจะวิจารณ์อย่างไร ฝ่ายค้านจะหยิบยกไปอภิปรายหรือไม่ รวมถึงลูกน้องในสำนักงานจะมองผมอย่างไร ถ้ายอมในสิ่งที่ไม่ถูกต้องคนที่เขาเสียประโยชน์จากการโยกย้ายจะไม่ฟ้องร้องผมหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งผมก็ไม่อยากไปขึ้นศาล ติดคุกหลังเกษียณเช่นกัน" 
การทำหนังสือถึงนายกฯมีเป้าหมาย เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการแทรกแซง และจุดประเด็นให้สังคมสนใจว่าการแต่งตั้งโยกย้ายมีปัญหาทั้งที่ พล.อ.เสถียร มีความชอบธรรมในการเสนอชื่อปลัดกระทรวงกลาโหม ...


ว่ากันว่างานนี้ผู้อยู่เบื้องหลัง "พล.อ.เสถียร" ปฏิบัติการดับเครื่องชน เจ้าของรหัส "สนามไชย 1" ในครั้งนี้ คือ "สมาคมแม่บ้าน" ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่หลังบ้านมีความสนิทสนมกันจนต้องช่วยกันผลักดันให้ "พล.อ.ชาตรี" ไปถึงฝั่งในปีนี้ เพราะทราบว่า "ผบ.เหล่าทัพ" แอบเทใจไปให้ "พล.อ.ทนงศักดิ์" ทำให้ต้องปฏิบัติการขั้นแตกหัก.... 
ขณะเดียวกัน บรรดา "บิ๊กกองทัพ" กำลังมองว่า "พล.อ.เสถียร" พลาดออกตัวเร็วไปก่อน 1 ก้าวหรือไม่ เพราะคณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ประชุมและเสนอชื่อ ผู้ใดอย่างเป็นทางการเลย... 
ที่สำคัญ งานนี้จะผิดกฎระเบียบราชการทหารหรือไม่ !

อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้คณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหมที่มี 7 คน คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (ถ้ามี) จะประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว ตามมาตรา 25 พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม 2551 
พี่ๆ น้องๆ น่าจะคุยกันรู้เรื่องด้วยเหตุ ด้วยผล และยุติปัญหาได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ คงต้องมีการเสนอชื่อแคนดิเดตขึ้นมา และต้องออกแรงโหวตกันตาม พ.ร.บ.กลาโหม 2551 เพื่อยุติปัญหา ตัวแปรที่สำคัญคงหนีไม่พ้น "ผบ.เหล่าทัพ" ทั้ง 4 นาย ที่จะเทใจยกมือสนับสนุนใคร?


ทว่า "พล.อ.เสถียร" ยึดกฎเกณฑ์สนับสนุนคนในก็ดีอยู่ เพียงแต่มีคนในกองทัพตั้งคำถามว่า เมื่อปีที่แล้วครั้งที่ท่านก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ "ปลัดกระทรวงกลาโหม" ท่านก็ไม่ใช่คนในกระทรวงเช่นกัน ข้ามห้วยมาเสียบ "บิ๊กอู๊ด" พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ (ตท.11) รองปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อน ตท.11 เช่นเดียวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตอนนี้  
จนคนในกองทัพเมาธ์กันว่า "เพื่อน ตท.11 หักเหลี่ยมโหด" กันเมื่อปีที่แล้ว และกำลังจะมีภาคต่อในปีนี้

บทสรุปเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร ภายในสัปดาห์นี้คงได้ทราบกัน แต่คำถามที่เกิดขึ้นในสังคมที่จะตามมา นั่นคือ กองทัพเกิดอะไรขึ้น และเมื่อเรื่องยุติ พี่น้องจะมองหน้ากันได้อย่างไร 



.